จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 515 รูปทั้งสี่
“น่าโมโหนัก” หัวหน้าผู้ชราของหน่วยทหารรักษาการณ์เมื่อได้ยินคําเล่าจากคน หนุ่มชื่อหวางเมิ่งหู่ก็โมโหทันที คนอื่นๆ เมื่อได้ยินก็โมโหเดือดดาลเช่นกัน คนในยุทธจักรร้อยกว่าคนนั่นอุตส่าห์รวมตัวด้วยกันในแดนเซียน ฉินหลิ่ง มีพลังในการปกป้องตัวเอง แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ให้ความ ร่วมมือกันเป็นอย่างดี ในโลกแดนเซียนก็ได้รับผลเก็บเกี่ยว โชคไม่เลว เลย แต่ตอนสิบกว่าวันก่อนแดนเซียนจะปิดตัว ระหว่างการเดินทางได้ เจอคนตะวันออกกลางกลุ่มหนึ่งกําลังถูกสัตว์ร้ายโจมตี บาดเจ็บล้มตาย สาหัส จึงลงมือช่วยด้วยใจผดุงธรรม หลังจากนั้นก็ดูแลคนตะวันออกกลางกลุ่มนี้เป็นอย่างดี และคนตะวันออกกลางพวกนี้ก็ซาบซึ้งในบุญคุณเป็นอย่างมาก
“พวกมันไม่ได้เข้ามาในแดนเซียนจากทางเขาฉินหลิ่ง แต่เข้ามา จากหลุมสวรรค์ในเขตภูเขาทางเหนือของอิรัก ตอนแรกเริ่มก็บอกว่า เป็นทหารของรัฐบาลหลงเข้ามา…” หวางเมิ่งหู่พูดแล้วก็โมโหกัดฟัน กรอด
แต่ใครจะไปรู้ว่าในตอนที่หมอกเริ่มปรากฏ แดนเซียนจะปิดตัวลง คนตะวันออกกลางพวกนี้ก็พลันลงมือทําแผนชั่ว ใช้พิษชนิดหนึ่งแอบ วางยา ถึงแม้ภายหลังคนในยุทธจักรบางคนจะรู้ตัวแต่ก็สายไปเสียแล้ว สูญเสียพลังต้านทานส่วนใหญ่ไป
อีกทั้งในกลุ่มคนตะวันออกกลางพวกนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งพลัง แข็งแกร่งมาก นับเป็นพวกผู้แข็งแกร่งสุดยอด สุดท้ายหนึ่งร้อยกว่าคน นี้มีเพียงหวางเมิ่งหู่คนเดียวเท่านั้นที่เดินออกมาได้ คนอื่นๆ ต่างถูกทํา ร้ายสังหารสิ้น อีกทั้งผลเก็บเกี่ยวที่ได้ในแดนเซียนเขาฉินหลิ่งก็ถูกคน ตะวันออกกลางพวกนี้ยึดครองไปหมด
“พี่จางเฉิน พี่หลิวเหล่ย และพวกผู้ฝึกไร้สังกัดอาวุโสชิงเฟิงล้วน ตายหมดแล้ว” หวางเมิ่งหู่เอ่ยประโยคสุดท้ายออกมา ดวงตาแดงก�า “แค้นนี้ไม่ชําระ ไม่ขอเป็นคน”
คนรอบๆ ได้ฟังก็ต่างเคืองแค้นต่อความอยุติธรรม
การเดินทางเขาฉินหลิ่งครั้งนี้ เพราะมีเคล็ดวิชาที่หลี่มู่ถ่ายทอดให้ คนทั้งหลายล้วนได้ผลเก็บเกี่ยวมหาศาล พลังพุ่งเพิ่ม อีกทั้งยังไม่มี เหตุการณ์สมาชิกลดลงอะไร แต่เดิมคนพันกว่าคนในนี้ล้วนเป็นบุคคล เยี่ยมยอดและผู้ที่มีพื้นฐานโลกวิถียุทธ์ในอนาคตของจีน เป็นทรัพยากร ก้อนโตที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งที่สุด
ครั้งนี้สูญเสียไปทีเดียวหนึ่งในสิบ พูดได้ว่าสูญเสียสาหัส
“เรื่องนี้จะต้องวางแผนในระยะยาว…เขตตะวันออกกลางตอนนี้ สถานการณ์ซับซ้อนเป็นอย่างมาก จากการที่กองกําลังทหารอากาศ ถอยออกจากเวทีโลก การโจมตีทางอากาศของประเทศใหญ่ต่างๆ ไร้ซึ่ง พลังสยบ กองกําลังภาคพื้นไม่พอ ทําได้แค่ป้องกัน ทําให้พวกกลุ่ม ผู้ก่อการร้ายเคลื่อนไหวสูงขึ้น โดยเฉพาะจากกองกําลังผู้มีพลังพิเศษใน กลุ่มผู้ก่อการร้ายบางคนเพิ่มขึ้น ในเขตพื้นที่แถบนี้อยู่ในอันตรายที่ สูญเสียการควบคุม”
หัวหน้าผู้ชราขมวดคิ้ว
จะล้างแค้น ไม่ง่ายเลย
พลังของฝ่ายทหารยากที่จะแฝงเข้าไป
หากสํานักในยุทธจักรธรรมดาเข้าไป คนไม่มักคุ้น พื้นที่ไม่คุ้นเคย เกรงว่ายากจะปกป้องตัวเอง โดยเฉพาะ สํานักและผู้แข็งแกร่งมากมาย
ในประเทศ แต่ไหนแต่ไรมาก็ล้วนยึดติดกับอัตตา ไม่ไวต่อสถานการณ์ นานาชาติ เสียเปรียบง่าย
ยกตัวอย่างเช่นคนร้อยกว่าคนที่ถูกสังหารในแดนเซียนเขาฉินหลิ่ง ครั้งนี้ อันที่จริงหากเข้าใจสถานการณ์หรือเรื่องราวรอบโลกบ้าง บางทีก็ อาจจะวิเคราะห์ได้ว่าคนพวกนี้คือพวกผู้ก่อการร้ายชื่อเสียงฉาวโฉ่ หาก จําได้ก่อน ทําการป้องกัน จะสูญเสียสาหัสเพียงนั้นเชียวหรือ?
ยุทธจักรเผชิญหน้าต่อการเปลี่ยนแปลง แต่บนพื้นฐานที่คนใน ยุทธจักรพลังเพิ่มขึ้นนั้นก็จะต้องยกระดับวิสัยทัศน์ ผสานไปในคลื่นลูก ใหญ่ของโลก การก้าวออกไปยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดอย่างลู่เฮ่าหรานเจ้าสํานักเทวินทร์ หากไม่มีคน คอยรับและร่วมมือ มุ่งหน้าไปยังเขตพื้นที่ตะวันออกกลาง น่ากลัวว่าคง จะล้างแค้นตามปรารถนาไม่สําเร็จ เผลอๆ จะมีภัยถึงแก่ชีวิตเอาด้วย
ในเมื่อพื้นที่แทบนั้นตอนนี้คนดีคนชั่วปะปน เหมือนทะเลทราย อสุรภูมิ
คิดถึงตรงนี้ คนทั้งหลายก็ค่อนข้างหมดกําลังใจ
การเดินทางไปแดนเซียนเขาฉินหลิ่งครั้งนี้ แต่เดิมทุกคนล้วนได้รับ ผลเก็บเกี่ยว พลังเพิ่มขึ้นไม่น้อย แต่ตอนนี้ในใจกลับคับแค้นอัดอั้น
“ไม่ว่าจะอย่างไร แค้นนี้ต้องชําระ”
“ใช่แล้ว ยุทธจักรจีนจะไม่ทน”
“พวกเราสร้างกลุ่มกล้าตายขึ้น บุกเข้าไปในตะวันออกกลาง ต่อให้ ต้องแหลกเป็นผุยผง ก็จะต้องล้างแค้นให้พี่น้องที่ตายไปแล้วให้จงได้”
ยอดฝีมือในยุทธจักรคนอ่อนวัยบุ่มบ่าม เลือดร้อนพุ่งพล่าน ความ โกรธแค้นยากจะเก็บ ตัดสินใจมุ่งหน้าไปตะวันออกกลางเพื่อล้างแค้น อย่างนักรบเดนตาย
“ผมไปเองก็แล้วกัน” หลี่มู่ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดเอ่ยขึ้น
สายตาของทุกคนมองไปทางเขา
“มีเรื่องที่จะต้องไปจัดการที่ตะวันออกกลางพอดี ถือโอกาสไปเลย ทีเดียว คนของเราจะถูกฆ่าไปเปล่าๆ ไม่ได้ ของของพวกเราก็จะถูก พวกเศษสวะกลุ่มนี้ยึดครองไปไม่ได้ ผมเคยบอกเศษเดนในกลุ่มคนพวก นี้ไปแล้วว่า ผู้รุกรานประเทศจีนถึงแม้จะอยู่ไกลสุดหล้าฟ้าเขียวก็จะ ตามฆ่าให้จงได้ ประโยคนี้ไม่ใช่แค่พูดไปอย่างนั้นเท่านั้น”
น�าเสียงของหลี่มู่ราบเรียบ ไม่ได้อารมณ์ร้อนบ้าเลือดแบบนั้น
แต่ทุกคนต่างรู้สึกว่าในกายเหมือนมีพลังทะลักล้นบางอย่างกําลัง ไหลวน
มีแค่หลี่มู่สมญาเทพสังหารเท่านั้นถึงจะมีพลังพูดคําพูดแบบนี้ได้
“คุณยินดีที่จะเดินทางไปกับผมเพื่อชี้ตัวฆาตกรไหม?” หลี่มู่มอง ไปทางหวางเมิ่งหู่
หวางเมิ่งหู่หัวเราะร่าพลางเอ่ย “ยินดีเป็นม้าใช้รับใช้เทพสังหาร ”
ในสายตาของพวกคนหนุ่มสาวอย่างลู่ซวิ่น เซียวตง ลู่เยี่ยนเอ๋อร์ที่ มองมาทางหลี่มู่เต็มไปด้วยความเคารพบูชาอันบ้าคลั่งร้อนแรง
จากสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆ ในช่วงนี้ กระแสยุทธจักรในประเทศได้รับ อิทธิพลจากการลงมือของหลี่มู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจอมยุทธ์หนุ่ม สาวยิ่งมองหลี่มู่เป็นบุคคลต้นแบบของตัวเอง
ลูกผู้ชายเป็นเช่นนี้นี่เอง
แบกกระบี่ท่องไปในใต้หล้า สะบัดดาบไปทั่วทุกทิศ มีบุญคุณตอบ แทนบุญคุณ มีแค้นก็ชําระ
ขอถามใต้หล้ามีใครกล้าต้านทาน?
“ต้องรายงานฝ่ายทหารหรือไม่ จะได้เตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อม จัดเตรียมคนมารับและก็ล่าม…” หัวหน้าผู้ชราผมขาว ท่าทางแข็งแรง กระปรี้กระเปร่า เขาคือผู้บุกเบิกการทหารสายเหยี่ยวในประเทศ ชื่นชม ต่อการลงมือทําเรื่องราวของหลี่มู่เป็นอย่างมาก
หลี่มู่ตอบ “ไม่ต้องครับ” พูดแล้ว พลังกลุ่มหนึ่งก็ทะลักออกมาหอบม้วนหวางเมิ่งหู่ ดาบบิน เหินขึ้นฟ้าแปลงเป็นลําแสงสีเงิน พุ่งไปทางตะวันตกอย่างรวดเร็ว คนทั้งหลายเงยหน้ามองไปสุดสายตา ในใจสั่นสะท้าน ข่าวรายงานไปยังผู้นําระดับสูงของประเทศและฝ่ายทหารอย่าง รวดเร็ว
……
หลี่มู่สําแดงวิชาดาบสุดกําลัง ไม่ถึงหนึ่งวันก็มาถึงเขตประเทศอิรัก
‘ชาร์จแบต’ ที่แดนเซียนเขาฉินหลิ่งเรียบร้อย อีกทั้งพลังยังเพิ่มขึ้น ไปอีกขั้น หลี่มู่เปลี่ยนมาบินในท้องฟ้าด้วยความเร็วเต็มอัตรากําลัง หนึ่ง วันก็บินข้ามระยะได้สองล้านกว่ากิโลเมตร ในสถานการณ์ปกติก็มาก พอที่จะบินรอบโลกได้ห้าสิบรอบแล้ว
ก้มมองข้างล่าง ลมทะเลทรายพัดตลบ ทะเลทรายกว้างไกล
อีกทั้ง เหมือนว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของฟ้า ดิน พื้นที่บริเวณนี้แห้งแล้งกว่าเมื่อก่อน สถานการณ์วุ่นวาย ทุกที่ล้วนมี ร่องรอยของการปะทะกันของอาวุธ เมืองมากมายในวันวานกลายเป็น พื้นที่รกร้างราวซากโบราณสถาน
ผืนดินแห่งนี้เหมือนจะกลายเป็นพื้นที่ที่สูญเสียกฎระเบียบ กลายเป็นสวนสนุกของพวกโจรผู้ร้ายและฆาตกร
อีกทั้งหลี่มู่ยังสัมผัสได้อีกว่า ในฟ้าดินผืนนี้มีพลังชั่วร้ายแปลก ประหลาดมากอย่างหนึ่งไหลเวียน
พื้นที่ของอิรักไม่นับว่ากว้างใหญ่ หลี่มู่แผ่ขอบเขตจิตดาบออกไป ไม่นานก็หาที่ที่รวมไว้ซึ่งพวกบ้าน่ากลัวเอาไว้ เขาก้มมองข้างล่าง พลาง พาตัวหวางเมิ่งหู่ลอยต�าลงในเมืองแห่งหนึ่งในทะเลทราย
เหตุการณ์ทั้งหมดไม่มีใครสัมผัสได้เลย
เมืองแห่งนี้น่าจะเป็นฐานที่มั่นของพวกผู้ก่อการร้าย ประชาชน ธรรมดาในเมืองน้อยมาก ส่วนมากล้วนเป็นผู้ก่อการร้ายที่สวมชุดยาว แบบเฉพาะทางแถบอาหรับ คลุมผ้าคลุมยาว มือถืออาวุธต่างๆ
สิ่งที่ทําให้หลี่มู่แปลกใจคือ เขาได้เห็นคนอเมริกา ยุโรปสวมชุด ทหารรับจ้าง กลิ่นอายกําเริบอวดดี
ส่วนในของเมืองดูวุ่นวายมาก ให้ความรู้สึกเหมือนกับรังผึ้งที่ไม่ เป็นระเบียบ
สิ่งก่อสร้างเป็นรูปแบบตามแบบฉบับอย่างตะวันออกกลาง วัสดุใช้ ดินและหินเป็นหลัก มองรูปแบบเมืองดั้งเดิมไม่ออกแล้ว ห้องและบ้าน
ส่วนมากผ่านการปรับแก้ ใช้เป็นวัตถุประสงค์ทางการทหารเป็นหลัก สร้างเป็นเหมือนป้อมปราการทหาร เป็นชั้นๆ ทับซ้อน ถนนในเมืองตั้ง ด่านเอาไว้มากมาย และยังมีป้อมปราการต่างๆ อาวุธทําลายล้างรุนแรง ต่างๆ มีให้เห็นอยู่ในทุกที่
หวางเมิ่งหู่ตามติดอยู่ข้างกายหลี่มู่ เริ่มกลัวขึ้นมาหน่อยๆ
แต่ภายหลัง เขากลับค้นพบอย่างตกใจว่า ถึงพวกเขาจะเดินอาดๆ เข้าไป พวกผู้ก่อการร้ายพวกนี้ก็เหมือนมองไม่เห็นพวกเขาอย่างนั้น เขาถึงได้รู้ว่า ตัวเองและหลี่มู่สองคนน่าจะอยู่ในสภาวะล่องหน จึงค่อย โล่งใจ
“ผู้อาวุโส พวกเราจะไปหาคนพวกนั้นได้อย่างไร” หวางเมิ่งหู่กด เสียงต�าถาม
หลี่มู่ตอบด้วยน�าเสียงปกติ “คุณบอกว่าผู้แข็งแกร่งชั้นยอดผู้หญิง คนนั้น ในพื้นที่แห่งนี้น่าจะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งไร้ชื่อเสียง ลองหาก่อนว่ามี เบาะแสอะไรไหม หากไม่มีล่ะก็ เช่นนั้นก็ลองไปหาที่ที่ผมรู้ที่หนึ่งดู”
อันที่จริงมาตะวันออกกลางครั้งนี้นอกจากจะมาล้างแค้นให้กับ เพื่อนร่วมชาติแล้ว หลี่มู่ยังจะไปตามหาฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายใต้ ดินนั่น ตามหาผู้นําไม้เท้าดําที่เกือบตายคนนั้นจากข้อมูลที่ได้จาก
ความจําของ ‘อูฐทราย’ และ ‘ดาบโค้ง’ ไอ้บ้าผู้ก่อการร้ายผู้แข็งแกร่ง ชั้นยอดสองคนนี้
สืบไปตามเถาแตงเพื่อหาผู้ฝึกฝนสายมารจากนอกพิภพที่ซ่อนอยู่ ในตะวันออกกลาง
เพียงแต่สิ่งที่หลี่มู่คิดไม่ถึงก็คือ ในฟ้าดินของพื้นที่แห่งนี้กลับตลบ อวลไปด้วยกลิ่นอายพลังมารชั่วร้ายที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ นี่ไม่ปกติมากๆ เอาเสียเลย
จะเกี่ยวกับผู้ฝึกฝนสายมารนั่นหรือไม่?
ตลอดทางที่ผ่านมาหลี่มู่ก็สังเกตอย่างละเอียด
พลังมารสามารถส่งผลกระทบต่อความคิดจิตใจของคนได้ ทําให้ คนโหดเหี้ยมอํามหิต และกลิ่นอายมารบนร่างของพวกผู้ก่อการร้ายเห็น ได้ชัดว่าเข้มข้นกว่าคนทั่วไป กลับเป็นทหารรับจ้างยุโรป อเมริกาที่แทบ จะไม่ได้รับผลกระทบจากพลังมารร้าย บนร่างไม่มีกลิ่นอายประเภทนี้
หลี่มู่พาหวางเมิ่งหู่มาถึงยังหน่วยบัญชาการกลางเมือง แล้วเดิน อาดๆ เข้าไป
มองจากข้างนอก หน่วยบัญชาการนี่เหมือนป้อมปราการดิน แต่ เมื่อเข้าไปข้างในก็เหมือนกับห้องทดลองวิทยาศาสตร์ที่สมัยใหม่เป็น
อย่างอย่างมาก แสงไฟสว่าง อาวุธทางการทหารต่างๆ วางเรียงเป็น ระเบียบ แสงไฟสีต่างๆ ส่องกะพริบบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และหน้าจอ โปรเจคเตอร์ ทั่วทุกมุมของทั้งเมืองล้วนมีกล้องวงจรปิด ไร้ซึ่งมุมอับ
“เอ๋? เป็นผู้หญิงคนนั้น” หวางเมิ่งหู่ชี้ไปทางรูปหนึ่งในบรรดารูป ทั้งสี่ที่แขวนสูงอยู่บนกําแพงเหมือนค้นพบอะไรบางอย่างพลางเอ่ย
รูปทั้งสี่นี้ใส่กรอบอย่างดี ทําอย่างปราณีต ตําแหน่งที่แขวนก็เห็น เด่นชัด แค่มองก็รู้แล้วว่านี่เป็นเหล่าผู้นําของพวกผู้ก่อการร้าย
ผู้หญิงที่หวางเมิ่งหู่ชี้อายุน้อยมาก ท่าทางไม่เกินสามสิบ เอกลักษณ์สาวงามตามแบบฉบับชาวตะวันออกกลาง ดวงตาโตสี น�าตาลเฮเซลนัท จมูกโด่ง ใบหน้าเรียว ผมยาวหยิกโค้งเป็นลอนสี น�าตาลเฮเซลนัทเต็มไปด้วยความงดงามอย่างต่างแดน เพียงแต่แววตา กลับมีแววเหี้ยมโหดเหมือนเหยี่ยวเหมือนหมาป่า ประหนึ่งว่าพร้อมจะ สังหารคนดื่มเลือดได้อยู่ทุกเวลา
………………………………………