จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 556 ล้างสํานัก
หลี่มู่โรยตัวลงต�าบนเรือเหาะพรรคกระบี่ทะเลประจิม แต่ไม่มีใคร
กล้าขัดขวาง
เขายกมือตวัดแสงดาบฟันตะขอเหล็กขาด ร่างของโอวหยางฮ่
วนอวี่ร่วงลงมา เขายกมืออุ้มเอาไว้ จากนั้นก็เอาหัวลงมาจาก
เสากระโดงเรือ แล้วต่อเข้ากับร่าง
“เอ๋?”
จู่ๆ เขาพลันสัมผัสได้ถึงคลื่นจิตวิญญาณแปลกประหลาดอย่างยิ่ง
กลุ่มหนึ่ง แผ่ออกมาจากร่างโอวหยางฮ่วนอวี่ ไม่ใช่พลังของผู้มีชีวิต แต่
เป็นคล้ายคลื่นแปลกประหลาดของวิญญาณชนิดหนึ่ง
ไม่จริงน่า หรือว่า…
หลี่มู่ลิงโลดทันที
เขาสําแดงวิชา ‘เรียกวิญญาณ’ ที่ซินแสเฒ่าถ่ายทอด ก็ได้รับการ
ตอบสนองแผ่วๆ แผ่มาจากในร่างของโอวหยางฮ่วนอวี่จริงๆ ประเดี๋ยว
เลือนรางประเดี๋ยวปรากฎ แต่ก็สามารถยืนยันได้ว่าไม่ได้คิดไปเองมีหวัง!
เขาลิงโลด
หรือจะเป็นเพราะผู้แข็งแกร่งทะลวงสวรรค์วิญญาณน่าอัศจรรย์
เป็นอย่างมาก สามารถรักษาสามจิตเจ็ดวิญญาณเอาไว้ไม่ให้สลายไป
หลังจากตายไปแล้วได้นานขนาดนี้?
ในอดีตตอนที่อยู่ที่แผ่นดินใหญ่เสินโจว หลี่มู่เคยใช้วิชาเรียก
วิญญาณลองช่วยคู่สามีภรรยาหนิงจิ้งกลับมา แต่ก็ไม่สําเร็จ ตอนนั้น
พวกเขาเพิ่งจะตายไปแค่หนึ่งชั่วยามเท่านั้นเอง
“ฆ่ามัน ล้างแค้นให้เจ้าสํานัก”
“อย่าให้มันหนีไปได้”
“ฆ่า!”
ผู้แข็งแกร่งยอดฝีมือสํานักกระบี่ทะเลประจิมบนเรือเหาะ ในเสี้ยว
ขณะนี้ถึงจะได้สติกลับมา คนส่วนใหญ่กลัวตาย แต่ในสํานักขนาดใหญ่
นี้ก็ยังมีทหารที่จงรักภักดีบางคน โดยเฉพาะบุตรหญิงชายของถานหรูซ
วง ต่างตาแดง ชักกระบี่ออกจากฝักพุ่งตรงมา
ประกายเย็นเยือกฉายวาบขึ้นในดวงตาของหลี่มู่“ตายให้หมด!”
จิตดาบฟ้าประทานไร้รูปร่างหมุนวน
แสงดาบทางหนึ่งกะพริบผ่าน
ท่ามกลางอากาศไอร้อนไหลวน ความรู้สึกเหมือนไอร้อนยามฤดู
ร้อน ร่างของยอดฝีมือสํานักกระบี่ทะเลประจิมหลายสิบร่างถูกแสงดาบ
นี้หอบม้วน ตอนแรกยังไม่รู้สึกอะไร ร่างกายแม้แต่รอยแผลสักรอยก็ยัง
ไม่มี ในระหว่างที่รู้สึกแปลกใจนั้นเอง จู่ๆ พลังแปลกประหลาดก็ปะทุใน
ร่างของพวกเขา เหมือนกับกระดาษแผ่นบางที่ถูกเปลวไฟลามเลีย
กลายเป็นเศษเถ้าในชั่วพริบตา สลายไปในท้องฟ้าไม่เหลือแม้แต่
กระดูก!
แสงดาบอีกทางหนึ่งส่องกะพริบ
ท่ามกลางอากาศ ความเย็นยะเยือกระเบิดออก มีเกล็ดหิมะ
ละเอียดโปรยปรายอยู่รางๆ แล้วก็มีผู้แข็งแกร่งสํานักกระบี่อีกหลายสิบ
คนไม่ทันรู้สึกอะไร ในยามกําลังรู้สึกแปลกประหลาด จู่ๆ พลังที่เย็นยะ
เยือกเป็นอย่างยิ่งก็ปะทุในร่างของพวกเขา ถูกแช่แช็งกลายเป็นตุ๊กตา
หิมะ สายลมเหมันต์เพียงพัดก็กลายเป็นหิมะแต่ละเกล็ดๆ ร่วงลงไป ไม่
มีกลิ่นคาวเลือดเลยแม้แต่น้อย
“นี่คือวิชาดาบอะไร?”“วิชาเซียนนอกพิภพอย่างนั้นหรือ?”
ผู้แข็งแกร่งสํานักกระบี่ทะเลประจิมตื่นตระหนก
แปลกประหลาดเกินไปแล้ว
วิชาดาบชนิดนี้เกินกว่าขอบเขตวิถียุทธ์โลกดาวทุรกันดารไปแล้ว
แตกต่างไปจากคุณสมบัติวิชาต่อสู้ธาตุไฟและเหมันต์แบบปกติ ไม่มี
เปลวไฟหอบม้วนทั่วฟ้า หรือหิมะโปรยปราย แต่ความแข็งแกร่งของ
พลัง ความอัศจรรย์ของวิชาสังหารกลับป้องกันอย่างไรก็ป้องกันไม่ได้
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
แสงดาบแปลกประหลาดหมุนวน
ภาพน่ากลัวแต่ละฉากๆ เริ่มปรากฏขึ้นบนเรือเหาะ
เงาร่างของผู้แข็งแกร่งสํานักกระบี่ทะเลประจิมถูกฟันไม่ขาดสาย
จากนั้นก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย จิตดาบปะทุในร่างของพวกเขา บางคน
กลายเป็นเศษเถ้า บางคนกลายเป็นเกล็ดหิมะ บางคนกลายเป็นหยาด
ฝน บางคนกลายเป็นสายลม…
แสงดาบพัดกวาด ไม่มีใครต้านทานได้
นี่ไม่ใช่พลังของขอบเขตปราณดาบแล้วนี่คือจิตสูงสุดวิถีดาบ
เป็นความเข้าใจและการประยุกต์ขั้นแรกของวิถีกระบี่ลํานําจอม
ยุทธ์พเนจร
เพียงแค่เสี้ยวความคิดของหลี่มู่ ท่ามกลางอากาศแสงดาบก็เกิดขึ้น
เอง จากตะวันตกไปตะวันออก จากทิศใต้ไปทิศเหนือ เสริมสร้างและดับ
ขยี้ซึ่งกันและกัน พัดกวาดกรีดเฉือน ไร้ซึ่งร่องรอย พุ่งราวสายฟ้า พาด
ผ่านเหมือนลําแสงไปบนเรือเหาะลํานี้
“หนี!”
“ไม่นะ หนีเร็ว”
“อ๊าก…”
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องหวาดกลัวเป็นระลอกๆ จิตต่อสู้ของผู้
แข็งแกร่งยอดฝีมือสํานักกระบี่ทะเลประจิมพังทลาย บางคนกลัวจน
ขวัญหาย ไม่อาจลงมือได้ไปตั้งนานแล้ว ส่วนคนที่เมื่อครู่ยังคิดจะแก้
แค้นให้ถานหรูซวงก็ไร้ซึ่งจิตต่อสู้ ต่างเริ่มหลบหนี
ต้นไม้ล้มวานรลี้หนีหาย
แต่ จะหนีรอดไปได้อย่างไร?“วันนี้ข้าจะล้างสํานักกระบี่ทะเลประจิม ใช้ชีวิตชั่วช้าของพวกเจ้า
มาสังเวยดวงวิญญาณของท่านลุงโอวหยาง”
หลี่มู่ตัดสินใจสังหาร
จะไม่มีทางปล่อยลูกศิษย์สํานักกระบี่ทะเลประจิมคนใดให้รอดไป
ได้แน่นอน
ฝ่ายธรรมะที่ว่าเช่นนี้คือเนื้อร้าย ควรจะกําจัดเสียตั้งนานแล้ว
แสงดาบไหลวน
เงาร่างแต่ละร่างๆ หนีไปจากเรือเหาะ แต่ในตอนที่อยู่กลางท้องฟ้า
แอบคิดว่าโชคดี จู่ๆ เปลวไฟก็ทะลักล้นออกมาจากร่าง ไอเหมันต์ปะทุ
จากในร่างของพวกเขา กลายเป็นเศษเถ้า หิมะ หยาดฝน โปรยปราย
ท่ามกลางนภา!
“ไม่ ข้าไม่อยากตาย”
“อ๊าก ข้าเจ็บใจยิ่งนัก”
“นี่คือวิชาดาบอะไร?”
เสียงร้องคร�าครวญก่อนตายแต่ละเสียงๆ เงียบลงอย่างรวดเร็วไฟ หิมะ สายฟ้า ฝน และลมในท้องฟ้าต่างผันเปลี่ยนอย่างบ้าคลั่ง
ผู้แข็งแกร่ง ลูกศิษย์ และคนในสํานักกระบี่ทะเลประจิมกลายเป็นพลัง
ธรรมชาติในฟ้าดินดั้งเดิมบริสุทธิ์ กลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง
ไม่ถึงสิบอึดใจ คนของสํานักกระบี่ทะเลประจิมทั้งเรือเหาะก็
หายไปจนหมดสิ้น ไม่เหลือซึ่งร่องรอยใดๆ เหมือนว่ากลายเป็นเรือผีว่าง
เปล่าลําหนึ่ง
ยอดฝีมือสํานักกระบี่ทะเลประจิมที่มาภูเขาสู่ครั้งนี้ดับดิ้นจนหมด
สิ้น
นับจากนี้สํานักกระบี่สํานักใหญ่ในเขตทะเลประจิมโลกดาว
ทุรกันดารลบชื่อออกจากเก้าสํานักไปโดยสิ้นเชิง คนที่เหลือเหล่านั้นก็
ไม่อาจมีกําลังค�ายันชื่อเสียงในอดีตได้อย่างแน่นอน
แสงดาบส่องประกายทั่วฟ้า พร่างพรายเจิดจ้า ไหลเข้าไปในร่าง
ของหลี่มู่ทั้งหมด
เขามองไปรอบๆ สายตากวาดมองไป เรือเหาะของแปดสํานักต่าง
ถอยหลังไป ผู้แข็งแกร่งบนนั้นประหนึ่งเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ขาด
อากาศหายใจเป็นระลอกๆ ไม่ใช่แค่ไม่กล้าสบตากับหลี่มู่เท่านั้น กระทั่ง
ว่าไม่กล้าปรากฏตัวในสายตาของเขาเลยด้วยซ�าจิตสังหารในใจของหลี่มู่ทะลัก คิดอยากจะสังหารล้างบาง กําจัด
คนของเก้าสํานักให้สิ้นซาก
แต่ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาเสียก่อน เขาจึงไม่ได้ลงมือต่อ
แบกร่างของโอวหยางฮ่วนอวี่ หลี่มู่ตาฉายประกายวาบ แววตา
ประดุจดาบ จิตสังหารน่าหวาดหวั่นเดินไปยังกระสวยแสงเทพทีละ
ก้าวๆ กลางอากาศอย่างรวดเร็ว
“ท่านพ่อ…” ‘คุณชายหยก’ โอวหยางอวี้พุ่งมา อุ้มร่างของโอวห
ยางฮ่วนอวี่เอาไว้ ร้องไห้ออกมาเสียงดังแทบจะเป็นลมล้มลงไป ผู้
อาวุโส ลูกศิษย์ คนในสํานักคนอื่นๆ ที่อยู่อีกด้านหนึ่งต่างล้อมกันมา
ก่อนจะคุกเข่าลงไป
โอวหยางอวี้มองหลี่มู่พลางเอ่ย “ขอบคุณศิษย์พี่ต้วนสุ่ยหลิวที่พา
ร่างของท่านพ่อกลับมา ให้ท่านผู้ชราได้ทําพิธีฝังไปสู่สุขคติ ก่อนท่าน
พ่อจะรบตายจากไปได้สั่งเอาไว้ สายศาลาเหนือฟ้าของพวกเรา
สนับสนุนศิษย์พี่ต้วนสุ่ยหลิวเป็นเจ้าลัทธิภูเขาสู่เต็มกําลัง ขอสาบานต่อ
ฟ้าว่าจะไม่คิดทรยศเป็นอันขาด!”
วันนั้น โอวหยางฮ่วนอวี่ไม่เสียดายที่จะใช้วิธีลอบโจมตีหยุดยั้งเจ้า
สํานักชําระดาบเยี่ยเฮิ่น เปลี่ยนเป็นตนเองออกไปสู้ เผชิญหน้ากับความ
ตายอย่างกล้าหาญ แต่เขาอย่างไรเสียก็เป็นเจ้าสํานัก ดังนั้น ก่อนที่จะออกไปสู้ จึงเรียกโอวหยางอวี้และผู้นําระดับสูงคนสําคัญมา เตรียมการ
สําหรับเรื่องราวภายหลัง
เรื่องสําคัญเรื่องหนึ่งในนั้นคือ หลังจากหลี่มู่ออกจากสระบัวมรกต
ออกมาแล้ว ศาลาเหนือฟ้าจะต้องสนับสนุนหลี่มู่ให้เป็นเจ้าลัทธิภูเขาสู่
คนใหม่อย่างเต็มที่
เรื่องนี้เหล่าเจ้าสํานักต่างหารือกันก่อนแล้วตอนอยู่ที่ตําหนักเซียน
โบยบินตอนนั้น และก็ได้มติในขั้นต้น โอวหยางฮ่วนอวี่เอ่ยถึงอีกครั้ง
เพื่อป้องกันหลังจากเขาตายไปแล้วศาลาเหนือฟ้าจะวุ่นวาย ทําให้ภูเขา
สู่แตกกันอีกครั้ง
ในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมหนึ่งในภูเขาสู่สายแยกทั้งเจ็ด โอวหยางฮ่
วนอวี่ผงาดอยู่ในโลกดาวทุรกันดารหลายร้อยปี เห็นปัญหาจากการที่
ภูเขาสู่แตกกันมากับตา ดังนั้นจึงจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้เรียบร้อย
ก่อนล่วงหน้า จากนั้นก็ออกไปเผชิญหน้ากับความตายอย่างกล้าหาญ
เป็นคนที่ยอดเยี่ยมนัก
อาจารย์สุ่ยเยวี่ยเอ่ย “ข้าสํานักเงาจันทร์ก็เต็มใจยกผู้สืบทอดฝืน
ชะตาต้วนสุ่ยหลิวเป็นเจ้าลัทธิภูเขาสู่เช่นกัน”
หัวหน้าเขาราชันมังกรน้อย หนวดเคราสีม่วงเอ่ยเสียงดัง “บิดา
ของข้าก่อนจะออกไปรบก็ได้พูดเอาไว้ เขาราชันมังกรเต็มใจยอมรับ ยกศิษย์พี่ต้วนสุ่ยหลิวเป็นเจ้าลัทธิภูเขาสู่คนใหม่ ตอนนี้ถึงแม้บิดาข้าจะ
สลบไสลไม่ได้สติ แต่คําของเขาก็ยังคงเป็นคําบัญชาต่อพวกเราเขา
ราชันมังกรทั้งระดับบนและล่าง!”
ผู้อาวุโสหญิงของสํานักชําระดาบคนหนึ่งเอ่ย “เมื่อวานนี้ก่อนท่าน
ย่าจะออกสู้ก็พูดไว้เช่นกัน…”
ผู้สืบทอดเขาหลี่ หลี่เนี่ยนห่าวเอ่ย “สายแยกเขาหลี่เต็มใจยกศิษย์
พี่ต้วนสุ่ยหลิวเป็นเจ้าลัทธิ”
อีกคนหนึ่งคือผู้สืบทอดเซียนถังเป็นจอมยุทธ์กระบี่หญิงองอาจ
สง่างาม พลังขั้นมหาเทวะ ทั้งวันมีกระบี่เป็นสหาย เงียบงันพูดน้อย
ดังนั้นภายนอกแล้วดูไร้ตัวตน แต่ตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นเช่นกัน “เซียนถังก็
เช่นกัน”
ลัทธิภูเขาสู่นับจากเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน หลังจากศึกธรรมะและ
อธรรมที่ประหนึ่งล้างโลกครั้งนั้น หลี่ไป๋ เจ้าลัทธิผู้ก่อตั้งหายตัวไป
ภายในลัทธิแตกคอ สายแยกทั้งเจ็ดสู้กันเอง ตําแหน่งเจ้าลัทธิช่วงชิงกัน
เกือบร้อยปี สู้ภายในไม่หยุด เสียหายแสนสาหัส
ไม่มีเสี้ยวขณะใดเหมือนกับตอนนี้ที่ความคิดเห็นของแต่ละสาย
แยกพ้องต้องกัน สามัคคีร่วมใจ ยินดียกให้คนคนเดียวกันเป็นเจ้าลัทธิ
ภูเขาสู่บนกระสวยแสงเทพ สายตาที่เต็มไปด้วยความหวังและยอมรับ
มองมายังหลี่มู่
หลี่มู่ลังเล ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ย “ได้”
เขาตัดสินใจแบกรับภาระนี้ เป็นเจ้าลัทธิภูเขาสู่
ไม่ว่าจะเป็นโลกหรือโลกดาวทุรกันดาร ภูเขาสู่คํานี้ล้วนมี
ความหมายงดงามน่าอัศจรรย์ และสําหรับหลี่มู่ในตอนนี้ เมื่อได้ยิน
เรื่องราวและการตัดสินใจของหัวหน้าเขาราชันมังกร ผู้รับใช้ดาบอู๋หมิง
โอวหยางฮ่วนอวี่และเยี่ยเฮิ่นแล้ว คําๆ นี้ยิ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติ
และความรับผิดชอบ
ในอดีต ที่แผ่นดินใหญ่เสินโจว หลี่มู่ปฏิเสธคําร้องของอวี๋ฮว่าหลง
รัชทายาทแห่งต้าเยวี่ย หลังจากนั้นราชวงศ์ต้าเยวี่ยถูกทําลาย อวี๋ฮว่า
หลงรบตาย แทบจะวิญญาณแตกดับ หลี่มู่เร่งเดินทางไกลมาช่วยเหลือ
หลังจากเรื่องราวจบลง ก็ติดค้างลึกอยู่ในใจ เสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้ ฉากนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง หลี่มู่ตัดสินใจไม่หลีกหนีภาระอีก
ต่อไป แต่จะก้าวไปบนตําแหน่งนั้น ค�ายันฟ้าที่ใกล้จะถล่มลงมาให้
กลับไปเหล่าผู้แข็งแกร่งยอดฝีมือสายแยกต่างๆ ภูเขาสู่เมื่อเห็นหลี่มู่พยัก
หน้า ในดวงตาก็ฉายประกาย โห่ร้องยินดีเสียงต�า ขณะเดียวกัน จิตต่อสู้
อันร้อนแรงก็ลุกโหมในกายเขาอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนี้เอง——
“ศึกวันนี้จบลงแล้ว ลัทธิมารเยี่ยเฮิ่นและคุณชายกระบี่เพลงพิณ
แพ้สองยก ต้วนสุ่ยหลิวชนะหนึ่งยก…” เสียงหนึ่งดังมาจากทางเก้า
สํานัก ผู้ที่เอ่ยคือเจ้าสํานักกระบี่ค�าฟ้าหลี่มู่จื่อ เขาเอ่ยเสียงดัง “ยัง
เหลืออีกสามยก วันพรุ่งนี้สู้อีกครั้ง”
พูดจบ ก็ไม่รอฝั่ งภูเขาสู่จะมีปฏิกิริยาอย่างไร เรือเหาะของเก้า
สํานักถอยอย่างกับคลื่น ไปจากเวทีประลองลอยฟ้าเหมือนหลบหนี
“ไร้ยางอาย”
“การลงมือของกระบี่เพลงพิณไฉนจึงนับเป็นหนึ่งยก?”
“นางทําไปเพื่อช่วยท่านย่าเยี่ย”
คนของภูเขาสู่คั่งแค้นเป็นอย่างยิ่ง
เก้าสํานักช่างชั่วช้าจริงๆ แบบนี้ก็นับเป็นหนึ่งยกหรืออย่างไร?เช่นนั้นแล้ว ศึกประลองสิบยก ภูเขาสู่ชนะสาม แพ้สี่ ยังเหลืออีก
สามยก เก้าสํานักได้เปรียบไปแล้วอย่างแน่นอน สถานการณ์ไม่เป็น
ผลดีต่อภูเขาสู่เลย
หลี่มู่เอ่ย “ไม่เป็นไร สามยกที่เหลือชนะให้หมดก็ได้แล้ว พวกเรา
กลับไปก่อน จะช้าไม่ได้ รักษาอาการบาดเจ็บของท่านย่าเยี่ยสําคัญ อีก
ทั้งเจ้าสํานักโอวหยางบางทีอาจจะยังเหลือทางรอด”
“อะไรนะ?”
“จริงหรือ?”
คนทั้งหลายทั้งตะลึงทั้งยินดี
“ศิษย์พี่ต้วน ไม่ เจ้าลัทธิต้วน ท่านพ่อของข้ายังมีทางรอดหรือ?”
‘คุณชายหยก’ โอวหยางอวี้ได้ยินดังนั้น ก็เหมือนนักเดินทางที่สิ้นหวัง
อยู่กลางทะเลทราย พลันเห็นแหล่งน�าอย่างนั้น เขามองหลี่มู่อย่าง
ตื่นเต้น รอคอยคําตอบ กลัวว่าจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน
หลี่มู่พยักหน้า ‘ข้ามีความมั่นใจห้าส่วน แต่ต้องรีบกลับไป อาศัย
สายแร่ขุนเขา สายธาร วางค่ายกลดึงจิตรวมวิญญาณ’
นี่ก็คือเหตุผลที่เขาไม่ฆ่าล้างบาง ปล่อยให้เก้าสํานักจากไป
ฆ่าคน จะฆ่าเมื่อใดก็ได้แต่ช่วยคนจะพลาดโอกาสไม่ได้
รอให้ช่วยคนเรียบร้อยก่อน ถึงตอนนั้นค่อยชักดาบล้างแค้น
เก้าสํานัก รวมถึงผู้ฝึกฝนนอกพิภพที่ว่าเบื้องหลังพวกนั้นใครก็หนี
ไม่รอดทั้งนั้น
ศึกสามยกที่เหลือจะเป็นแค่การประลองง่ายๆ ได้อย่างไรกัน?
หลี่มู่จะให้โลกดาวทุรกันดารและเขตดาราเทพวีรชนได้รู้ ประกาย
ดาบล้างเทพสังหารเซียนกลุ่มนั้น กลับมาอีกครั้งแล้ว
…………………………………………