จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 250 ไปเลย
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำเอาสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์แตกตื่นกันทั้งสำนัก
ไม่นานนัก พวกเฮ่ออวิ๋นเสียงสิบกว่าคนก็ถูกศิษย์ของสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ที่ได้ยินข่าวล้อมเอาไว้อย่างโกรธแค้น
“คนอวดดีจากไหนกัน ยังไม่รีบวางป้ายสำนักของเราลงอีก”
“ทำลายประตูสำนักของพวกเรา วันนี้พวกเจ้าไม่ว่าใครก็ไปไม่ได้ทั้งนั้น”
บัณฑิตและสำนักบัณฑิตรุ่งเรืองก็รุ่งเรืองด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน ครั้นเห็นภาพประตูใหญ่ของสำนักถูกทำลาย ป้ายสำนักร้อยปีถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าเช่นนี้ ลูกศิษย์สำนักเสียงวิหคสวรรค์ต่างโกรธแค้น ล้อมพวกเฮ่ออวิ๋นเสียงเอาไว้แน่น
“เป็นคนของสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์” มีคนพบว่าในบรรดาคนข้างหลังเฮ่ออวิ๋นเสียง มีศิษย์สำนักเขาเหมันต์อยู่หลายคน
การค้นพบนี้ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับทุกคน
สำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์และสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์ชิงดีชิงเด่นกันมาตลอด ไม่ว่าจะด้านรับสมัครศิษย์ ประลองยุทธ์ วิชา ชื่อเสียง เรื่องต่างๆ นานา ต่างตั้งตัวเป็นศัตรูซึ่งกันและกัน กลิ่นอายการต่อสู้เข้มข้น แต่ที่ผ่านมาไม่ว่าจะสู้กันดุเดือดเพียงใดล้วนอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้มาโดยตลอด ไม่มีการทำลายป้ายของอีกฝ่ายเหมือนเบื้องหน้าตอนนี้
เฮ่ออวิ๋นเสียงเหยียบป้ายร้อยปีของสำนักเสียงวิหคสวรรค์ รอยยิ้มบนใบหน้าท้าทายและดูถูก
เผชิญหน้ากับสมาชิกเสียงวิหคสวรรค์ที่กรุ่นโกรธเช่นนี้ เขาไม่แน่นิ่งดุจขุนเขา มองลูกศิษย์เหล่านั้นเหมือนมดปลวก
ในอดีต บางทีเขาอาจจะพอๆ กับลูกศิษย์เหล่านั้น
แต่ตอนนี้ เขาเป็นมังกรที่เหาะเหินอยู่บนสวรรค์ ส่วนบัณฑิตพวกนี้ก็แค่สุนัขจรจัดที่คลานหาอาหารอยู่กับพื้น อยู่คนละโลกกันแล้ว
“อัดมัน”
“ซัดให้มารดามันจำมันไม่ได้”
ศิษย์สำนักเสียงวิหคสวรรค์อารมณ์ร้อน บางคนถลกแขนเสื้อเดินประชิดเข้าไป ถึงอย่างไรสำนักบัณฑิตถ่ายทอดวิชาความรู้ แต่ก็ถ่ายทอดวรยุทธ์ด้วยเช่นกัน เหล่าลูกศิษย์ล้วนอยู่ในวัยฉกรรจ์ เลือดร้อน ใครจะไปทนไหว?
เฮ่ออวิ๋นเสียงส่ายหน้า หัวเราะเสียงเย็น ก่อนปล่อยกำลังภายในในกายออกมาเล็กน้อย
แรงกดดันไร้รูปร่างแผ่ปกคลุมมา
ลูกศิษย์อายุน้อยที่ล้อมเข้ามารู้สึกว่าบนร่างเหมือนมีภูเขาหนักกดทับมาทันที ได้ยินเสียงดังกร๊อบๆ กระดูกขาแหลกละเอียด พวกเขาคลานไปกับพื้น ดิ้นรนไม่ได้
ลูกศิษย์คนอื่นหน้าซีดขาว รู้สึกแค่พลังมหาศาลปะทะมาหา มีความรู้สึกว่าหายใจไม่ออก แม้แต่จะพูดก็ยังพูดไม่ได้
“ให้คนที่มีอำนาจแท้จริงออกมา พวกเจ้าเศษสวะไม่คู่ควรพูดกับศิษย์พี่เฮ่อของพวกข้า” ศิษย์หญิงสำนักเขาเหมันต์ที่ติดตามอยู่ข้างหลังเฮ่ออวิ๋นเสียงหัวเราะเยาะ เสียดสีเสียงดังอย่างไม่พลาดโอกาส
ลูกศิษย์สำนักเสียงวิหคสวรรค์อัดอั้นคับแค้นใจ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีใครทำอะไรได้แม้แต่น้อย
“เจ้าสำนักมาแล้ว”
ไม่รู้ว่าใครแหกปากขึ้นมา
กลุ่มคนโหวกเหวกโวยวาย
เจ้าสำนักสำนักเสียงวิหคสวรรค์พาอาจารย์หลายสิบคนและศิษย์ชั้นปีสูงๆ บางคนตามมาอย่างรีบร้อน
มุมปากเฮ่ออวิ๋นเสียงยกยิ้ม
ในที่สุดหัวหน้าก็ออกมาแล้ว
“สำนักบัณฑิตเขาเหมันต์? เจ้าคือเฮ่ออวิ๋นเสียง?” เจ้าสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ที่ท่าทางเหมือนลุงแก่ๆ หรี่ตาลง เขาจำคนที่เป็นหัวหน้าได้ อีกฝ่ายคือหนึ่งในอัจฉริยะที่สุดของสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์เมื่อหลายปีก่อนนั่นเอง แต่ว่าหลังจบการศึกษาไปก็ไม่เห็นร่องรอยใดๆ มาสามสี่ปีแล้ว วันนี้กลับมาปรากฏตัวขึ้นด้วยท่าทางแบบนี้
“หึๆ เจ้าสำนักชวี ไม่ได้พบกันนาน สบายดีหรือไม่ ท่านดูแล้วแก่ลงไปเยอะเลยนะ” เฮ่ออวิ๋นเสียงหัวเราะเสียงเรียบ ในน้ำเสียงมีร่องรอยเหยียดหยามและความหยิ่งยโส
“เจ้าสำนัก เสียเวลาพูดอะไรกับเจ้านี่ ข้าจะซัดมันให้ตาย…” ข้างกายเจ้าสำนักชวี อาจารย์ที่อายุน้อยที่สุดทั้งยังอารมณ์ฉุนเฉียวที่สุดในกลุ่มอาจารย์ของสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์อดรนทนไม่ไหว ทำท่าจะลงมือแล้ว
เจ้าสำนักชวียกมือขึ้นห้าม จากนั้นมองไปยังเฮ่ออวิ๋นเสียง ถามเสียงเย็นว่า “เฮ่ออวิ๋นเสียง การต่อสู้ระหว่างสำนัก ล้วนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยการแข่งขันวิชาและประลองยุทธ์มาตลอด วันนี้เจ้าทำลายป้ายสำนักจะกลายเป็นความแค้นฝังลึก เจ้าคิดดีแล้วหรือ?”
“ฮ่าๆ แค้นเป็นตาย?” เฮ่ออวิ๋นเสียงหัวเราะเสียงเย็น “เจ้าสำนักชวี ท่านจะมองสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ของพวกท่านสูงเกินไปกระมัง วันนี้ข้ามาก็เพื่อบอกท่าน นับจากวันนี้เป็นต้นไป ในเมืองฉางอันมีสำนักบัณฑิตเพียงแค่แห่งเดียว นั่นก็คือสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์ พวกท่านสำนักเสียงวิหคสวรรค์มีเพียงแค่สองทางเลือก หนึ่ง เข้ารวมกับสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์ มาเป็นสาขาย่อยของสำนักข้า สอง ปิดสำนักเสียที่นี่ตอนนี้”
“อะไรนะ?”
“กำแหงนัก”
“จะรังแกกันเกินไปแล้ว”
“เจ้าคิดว่าตัวเองใคร?”
ได้ยินดังนั้น ลูกศิษย์ของสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ที่อยู่รอบๆ แต่ละคนโมโหจนกัดฟันกรอด
ในกลุ่มคน เหลยอินอินกับเหล่าสหายน้อยของนางก็อยู่ในนั้นด้วย
เหลยอินอินโมโหจนหน้าแดงก่ำ
“กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว เจ้าเป็นใครกัน? ออกไปฝึกฝนข้างนอกไม่กี่ปี นกกระจอกบินจับไม้กิ่งสูง คิดว่าตัวเองเป็นหงส์ขึ้นมาจริงๆ แล้วหรืออย่างไร? ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาเสียบ้าง… ” เหลยอินอินตัวเล็ก กลุ่มคนจึงบดบังสายตาของนางหมด นางจึงทำได้แค่โดดเหยงๆ โผล่หัวก่นด่า
นางไม่โมโหไม่ได้
จะปิดสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ สำหรับเหลยอินอินแล้ว นี่ราวกับแค้นสังหารบิดา
นางมีชาติกำเนิดจากชุมชนแออัดในเมืองฉางอัน สภาพครอบครัวไม่อาจใช้คำว่ายากจนมาบรรยายได้ มีชีวิตดิ้นรนอยู่บนเส้นความตาย บิดามารดาให้กำเนิดลูกชายหญิงแปดคน สามคนตายแต่เด็ก สองคนหิวตาย คนหนึ่งป่วยตาย สุดท้ายเหลือแค่นางกับพี่ชายคนโต เมื่อนางอายุเจ็ดขวบ บิดาก็ป่วยตาย ทั้งครอบครัวเหลือเพียงนางกับพี่ชายและมารดาผู้ชราอาศัยอยู่ร่วมกัน สองปีต่อมามารดาป่วยหนัก ไม่มีเงินรักษา เหลยอินอินอาบน้ำสระผมในธารเล็กๆ หลังเพิงจนสะอาดสะอ้าน จากนั้นก็ปักหญ้าเป็นสัญลักษณ์ จะขายตัวเป็นทาสหาเงินมารักษามารดา…
ตอนนี้คิดถึงชีวิตในช่วงนั้น เหลยอินอินยังรู้สึกกลัวอยู่ลึกๆ
ดีที่เจ้าสำนักชวีแห่งสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ผ่านตลาดนัด เห็นนางน่าสงสาร หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่แค่รับนางเข้าสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์โดยไม่ต้องเสียเงิน แต่ยังส่งหมอของสำนักไปรักษามารดาของนางด้วย
หลังจากนั้นเหลยอินอินอยู่ในสำนักก็เผยพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์อันไม่ธรรมดาออกมา พลังฝึกรุดหน้า ทำงานเสริมอุดหนุนครอบครัว ชีวิตของตระกูลเหลยถึงได้ค่อยๆ ดีขึ้น
วันนี้ พี่ใหญ่แต่งงาน มารดาผู้ชราแข็งแรงดี
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเจ้าสำนักชวีแห่งสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์มอบให้มา
สำหรับเหลยอินอิน เจ้าสำนักชวีเปรียบดั่งบิดา สำนักบัณฑิตเหมือนบ้าน
ตอนนี้มีคนมาพังบ้าน ทั้งยังปรามาสบิดาตน เหลยอินอินจะไม่โมโหได้อย่างไร?
ภายใต้ความคับแค้นใจ ความคิดสู้สุดชีวิตผุดขึ้นมาแล้ว
และลูกศิษย์ที่มีความคิดเดียวกับนางในสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ก็มีมากมาย
สำนักบัณฑิตทั้งสองในเมืองฉางอัน หากบอกว่าสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์เดินสายคหบดีชนชั้นสูง ลูกศิษย์ที่รับล้วนแต่เป็นพวกมีอำนาจ เช่นนั้นสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ก็ตรงกันข้าม หยั่งรากลึกในตระกูลยากจน ลูกศิษย์ทั้งหมดโดยพื้นฐานแล้วล้วนมาจากคนยากจน แต่ว่าหลายปีมานี้ก็อยู่ในฐานะเท่าเทียมกัน ประจันหน้ากับสำนักบัณฑิตเขาเหมันต์มาได้ตลอด จึงเห็นได้ถึงความสามารถของสำนักบัณฑิตแห่งนี้
……
วู้ม วู้ม วู้ม
กระบี่เหยี่ยวถลาลมสั่นไหว ลอยอยู่กลางอากาศ
เมื่อหลี่มู่ร่างไหววูบก็กระโดดขึ้นมาบนตัวกระบี่
‘ฮ่าๆ กระบี่เหินหาวโบยบิน
ความฝันของผู้ชายเลยทีเดียว’
หลี่มู่เข้าถึงทักษะการรักษาสมดุลของร่างกายเมื่อยืนอยู่บนกระบี่ได้อย่างรวดเร็ว
“เจ๋งกว่าแลมโบกินี่ เฟอร์รารี่อะไรพวกนั้นตั้งเยอะ ฮ่าๆ…” หลี่มู่ดีใจมาก กระบี่เหินหาวโบยบินไม่ใช่วิชาต่อสู้ที่กำลังรบแข็งแกร่งอะไร แต่เป็นเพียงการควบคุมสภาวะจิตใจอย่างหนึ่ง ดังนั้นหลังจากหลี่มู่ฝึกฝนของวันนี้เสร็จก็หาเวลามาทดลองดู
หลังจากควบคุมสมดุลของกระบี่ในสภาวะนิ่งได้ ต่อมาก็เป็นการควบคุมสภาวะยามโบยบินแล้ว
ไปเลย!
ฟิ้ว!
กระบี่บินออกไปแล้ว
หลี่มู่ร่วงลงมา
“อะไรกัน? เหมือนว่าจะมีตรงไหนไม่ถูกต้อง”
หลี่มู่ร่วงลงมาคลุกฝุ่น
ลองใหม่อีกครั้ง
ไปเลย!
ตุบ
เขาร่วงลงมาอีกแล้ว
ลองใหม่…
หลังจากล้มเหลวไปหลายสิบรอบ หลี่มู่เชื่อว่านอกจากวิธีไม่ถูกแล้ว บางทีกระบี่เหยี่ยวถลาลมอาจจะไม่ค่อยเหมาะเอามาเป็นกระบี่โบยบินสักเท่าไหร่ กระบี่เซียนในตำนานเหินหาวโบยบินไปในสวรรค์ ข้ามทะเลทั้งสี่ อาศัยกระบี่บินสุดยอดอาวุธ และกระบี่บินวิเศษระดับอาวุธเต๋าต่างๆ
เขาคิดๆ แล้วก็กลับมาในห้องลับ และเริ่มทรมานกับกระบี่เหยี่ยวถลาลม
ก่อนอื่นลบค่ายกลดาราวิชาเวทง่ายๆ ในกระบี่เหยี่ยวถลาลมไปให้หมด จากนั้นก็เริ่มใช้พลังจิตวิญญาณสลักค่ายกลวิชาเต๋าบางอย่างที่เขารู้ลงไป
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม
กระบี่เหยี่ยวถลาลมเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นกระบี่ยาวมีสายลมสีดำหมุนวน ปากเหยี่ยวและปีกเหยี่ยวที่เป็นสัญลักษณ์หายไป รูปลักษณ์ด้านนอกดูแล้วเรียบง่ายโบราณมาก
หลี่มู่มาข้างนอก แล้วลองอีกครั้งหนึ่ง
จากการถ่ายกำลังภายใน กระบี่ยาวส่งประกายแสงสีดำ เงาเลือนรางสีดำโปร่งแสงชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นตามตัวกระบี่ มองเผินๆ เหมือนกระบี่จะขยายใหญ่มาอีกประมาณสามสี่เท่า หลี่มู่กระโดดขึ้นไปบนตัวกระบี่ เหยียบไปบนเงาเลือนราง รู้สึกทันทีว่าสภาวะของกระบี่เรียวมั่นคงกว่าก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่า
ไปเลย
หลี่มู่ขับเคลื่อนกระบี่ยาว
คราวนี้เขาและกระบี่ยาวกลายเป็นลำแสงสายหนึ่งหายไปจากที่เดิม กลายเป็นจุดดำเล็กๆ บนท้องฟ้าไปด้วยกัน
หลังจากนั้นหลายอึดใจ
ฟิ้ว!
เสียงแหวกอากาศถึงจะดังขึ้น
วิชากระบี่เหินหาวที่หลี่มู่ศึกษาค้นคว้าเองแค่เปิดตัวก็ทะลุกำแพงเสียง
เร็วยิ่งกว่าเสียง!
……
“ฮ่าๆ อ่อนแอเหลือเกิน ท่าทางสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์คงไม่มีใครแล้วจริงๆ”
เฮ่ออวิ๋นเสียงค่อยๆ เก็บมือกลับ ส่ายหัวเบาๆ อย่างดูถูก
ตรงข้าม เจ้าสำนักเสียงวิหคสวรรค์เลือดไหลมุมปาก แขนซ้ายหักเป็นมุมเก้าสิบองศาอย่างน่าตกใจ กระดูกขาวแทงทะลุเนื้อออกมา หน้าขาวซีด ทางข้างหลังเขา พวกเหลยอินอินพยุงอาจารย์หนุ่มอารมณ์ฉุนเฉียวที่สุดคนนั้นซึ่งบาดเจ็บสาหัสหมดสติออกไป รอบๆ ยังมีอาจารย์และศิษย์ของสำนักนอนกองระเกะระกะอีกสิบกว่าคน ทั้งหมดเป็นยอดฝีมือที่เยี่ยมยอดของสำนักในตอนนี้ แต่ก็ล้วนบาดเจ็บสาหัส พ่ายแพ้ยับเยินโดยไม่มีข้อยกเว้น
คนที่ลงมือแน่นอนว่าเป็นเฮ่ออวิ๋นเสียง
หลังจากเข้าร่วมกับสำนักดับนิวรณ์ เขาก็ฝึกฝนเคล็ดวิชาลับของสำนักดับนิวรณ์ พลังก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งฟ้าประทานขั้นต้นแล้ว ฝีมือมากพอที่จะเก็บกวาดสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ได้ทั้งสำนัก
พลังของเจ้าสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ก็แค่ขั้นปรมาจารย์เท่านั้น จะเป็นคู่มือของเฮ่ออวิ๋นเสียงไปได้อย่างไร?
ลำดับเหตุการณ์การต่อสู้ทั้งหมดแค่ไม่ถึงหนึ่งถ้วยชาเท่านั้น คนของสำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ก็พ่ายแพ้ยับเยิน คนที่ลงมือแต่ละคนแทบจะบาดเจ็บสาหัสทั้งนั้น
“ผู้เฒ่าชวี เวลาผ่านไป เมืองฉางอันตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เจ้าก็ดูทิศทางลมหน่อย ไยต้องฝังกระดูกของเจ้าเอาไว้ที่นี่ด้วย?” เฮ่ออวิ๋นเสียงแค่นเสียงเย็นราวผู้ชนะ
เจ้าสำนักชวีไม่พูดอะไร กำลังฝืนกระตุ้นกำลังภายในรักษาอาการบาดเจ็บ
เหลยอินอินในที่สุดก็ทนไม่ไหว ตวาดเสียงดังว่า “สำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราลูกศิษย์ล้วนยากจน ต่อให้พวกเราสู้จนตายอยู่ที่นี่ก็ไม่มีทางศิโรราบต่อเจ้าเด็ดขาด…เจ้าฝันไปเถอะ”
……………