จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 325 สิ่งมีชีวิตนอกพิภพ
“เจ้าเป็นใคร?”
อูลาปู้ตัวร้องลั่นอย่างหวาดกลัวและเสียสติราวกับถูกสุนัขป่าวิ่งไล่
เขาก้าวถอยอย่างบ้าคลั่งจะหลบหนี แสดงวิชาป้องกันตัวสารพัดชนิดออกมา อักขระดวงดาวสีเขียวที่เหมือนลูกแสงหลายลูกลอยขึ้น ก่อนรวมกันเป็นโล่แสงปกคลุมเขาเอาไว้ด้านใน
เวลาเดียวกัน ที่ข้อมือขวาของเขา กำไลสีดำวงหนึ่งเปล่งแสงประหลาดระยิบระยับ จากนั้นอ่อนตัวลง เปลี่ยนมาแข็ง และยืดออก…แทบจะในชั่วพริบตาก็เป็นดั่งงูยักษ์สีดำพันล้อมรอบ และยิ่งดูคล้ายกับเถาวัลย์เลื้อยพันอย่างบ้าคลั่ง ถักทอรวมกันจนเหมือนรังไหมขนาดยักษ์ ปกป้องร่างของเขาเอาไว้ด้านใน
กำไลนี้ ที่แท้ก็คือใยแมงมุมสีดำ
ใยแห่งเทพแมงมุม
ครั้งนี้เพื่อให้งานสำเร็จ วิหารเทพแมงมุมลงทุนลงแรงไปมาก ใยแมงมุมส่วนนี้เรียกว่า ‘เทพแมงมุมประทานสุข’ เป็นหนึ่งในสิ่งของศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหารเทพแมงมุม มาจากนอกพิภพ มีลักษณะความเป็นเทพแฝงไว้ มีพลานุภาพที่อธิบายได้ยากอยู่
นี่เป็นหนึ่งในสมบัติรักษาชีวิตของอูลาปู้ตัวเช่นกัน
ฟิ้ว
พริบตาที่ปราณดาบแหวกอากาศ โล่เป็นเส้นๆ ข้างตัวอูลาปู้ตัวก็ถูกผ่าออกดุจมีดร้อนผ่าเนย
เสียงผัวะดังขึ้น
เยื่อแสงทั้งหมดแตกสลายหายไปราวกับภาพมายา โล่แสงจำนวนนับไม่ถ้วนถูกแสงดาบสีฟ้าฟันขาดหมดในพริบตา
ในชั่วขณะที่อูลาปู้ตัวยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ดาบบินที่เย็นเยือกฟันฉับก็ลงไปบนรังไหมใยแมงมุมดำ เสียงเหมือนเหล็กกระทบกันดังขึ้น ประกายไฟสาดกระเซ็น ดาบบินสีฟ้าถูกสั่นกระแทกจนกระเด็นออกไป สั่นไหวไม่หยุดอยู่กลางอากาศ
และจิตเยือกแข็งบนตัวดาบกลับตลบกระจายกลางฟ้า เสียงจับตัวเป็นน้ำแข็งอันชัดเจนดังขึ้นมา น้ำค้างแข็งสีฟ้า จับตัวแข็งด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แช่เข็งทั้งรังไหมเอาไว้
“กลับมา”
หลี่มู่โบกมือ
ฟิ้ว
ดาบบินบินกลับมาอีกครั้งอย่างชาญฉลาดดุจนกบิน และหยุดลงที่ข้างหูเขา
บนใบหน้าหลี่มู่ปรากฏความแปลกใจ
ใยแมงมุมนั่นต้านทานดาบนี้ได้หรือ?
หลังจากที่เขานึกนิมิตปราณแท้ธาตุทั้งห้าได้ ปราณแท้ห้าธาตุในร่างพัฒนาขึ้นไม่หยุดหย่อน ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นเหนือมนุษย์อย่างแท้จริง แต่ปราณแท้ก็เปลี่ยนเป็นปราณแท้ฟ้าประทานหมดแล้ว เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ทั้งยังอุดเสริมชดเชยรากฐานที่ไม่มั่นคงและส่วนที่ขาดหายของพลังฝึกเพราะพลังรุดหน้ารวดเร็วเกินไป
จากที่ได้พูดคุยเรื่องหลักการกับยอดยุทธ์อย่างกัวอวี่ชิงและชิวอิ่น จิตใจของตนเองค่อยๆ เต็มเปี่ยมขึ้นทุกวัน ยกระดับขึ้นอย่างมหาศาล กล่าวได้ว่าหลี่มู่ตอนนี้อยู่ในสภาวะสูงสุดของการสั่งสมพลังแล้ว
หากก้าวไปอีกก้าว ก็จะเป็นการยกระดับเชิงคุณภาพ
สามารถพูดได้อย่างไม่เกินจริงว่า การตกตะกอนของทุกคนที่อยู่ก่อนขั้นเหนือมนุษย์บนโลกใบนี้ ไม่มีใครเทียบเท่าหลี่มู่เลย
ภายใต้การผลักดันจากปราณแท้ห้าธาตุในสภาวะสูงสุดเช่นนี้ หลี่มู่ยกระดับวิชาดาบเหินหาวไปถึงขั้นที่น่ากลัว แก่นแท้ของท่าคุมกระบี่กับสัมผัสจิตดุจธนูผสานรวมกัน พลานุภาพเพิ่มขึ้นพุ่งพรวด ต่ำกว่าก้าวที่สามขั้นเหนือมนุษย์ลงไปจะไม่สามารถรับดาบนี้ได้
อูลาปู้ตัวเป็นเพียงขั้นเหนือมนุษย์ก้าวที่หนึ่งเท่านั้น แต่กลับต้านทานดาบนี้ไว้ได้
หลี่มู่ตระหนักได้ทันทีว่าปัญหาอยู่ที่ใยแมงมุมสีดำนั่น
ใยแมงมุมคือของวิเศษ
พริบตาต่อมา รังไหมยักษ์สีดำจู่ๆ ก็ระเบิดออก
ปราณดาบน้ำค้างแข็งพังทลาย ใยแมงมุมแน่นขนัดแต่ละชั้นๆ ขาดสะบั้น ก่อนตีเกลียวมาทางหลี่มู่เสมือนใบไม้ดำพุ่งโจมตี ร่างอ้วนเหมือนหมูของอูลาปู้ตัวกระโดดออกมาท่ามกลางใยแมงมุมที่พุ่งกระจาย ถอยฉากไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวาดกลัวดุจสุนัขเร่ร่อน
ป้องกันเพียงครั้งเดียว ก็ใช้ความศักดิ์สิทธิ์ในใยแมงมุมไปแทบหมดเกลี้ยง จิตเยือกแข็งสูงสุดนั้นราวกับแช่แข็งได้กระทั่งพลังของจิตวิญญาณ มีเพียงอูลาปู้ตัวเท่านั้นที่ได้ยินเสียงโกรธแค้นตกใจของเทพแมงมุมลอยออกมาจากด้านใน นี่ทำให้เขาตระหนักได้ว่า หากยังถูกเด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้ฟันเข้ามาอีก ตนได้ถูกสังหารกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งเช่นเดียวกับองครักษ์แมงมุมมารแน่
น่ากลัวเกินไปแล้ว
อูลาปู้ตัวไม่มีเวลาไปคิดว่าเหตุใดเด็กหนุ่มที่เห็นชัดว่าปราณแท้อยู่เพียงขั้นฟ้าประทานสมบูรณ์จึงใช้ดาบบินที่มีพลานุภาพขนาดนี้ได้…สายตาเย็นเยือกเหมือนจ้องมองมดตัวหนึ่งที่หลี่มู่ส่งมาทำเอาเขาหวาดกลัวขวัญหาย
หนี
นี่เป็นความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของเขาเวลานี้
ใยแมงมุมในมือของเขาหดสั้นลงคลับคล้ายเหี่ยวเฉา จนเหลือเพียงท่อนเดียว ยามกำเอาไว้เหมือนถือแส้ยาวอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“เจ้าเป็นใครมาจากที่ใด? ถึงกล้ามาก้าวก่ายกิจของวิหารเทพแมงมุมข้า? เจ้าก็มาเพราะเด็กน้อยคนนี้หรือ? ร่างสมบูรณ์แบบร่างนี้พวกข้าเป็นคนพบก่อน วิหารเทพแมงมุมไม่มีทางรามือแน่ ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ อย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า”
เขาหลบหนีพลางตะโกนด้วยความโกรธอย่างใจดีสู้เสือ
ตอนนี้เอง เขายกมือขึ้น ใยแมงมุมม้วนออกดุจงูเหลือมพิษสีดำ จากนั้นเสียบทะลุร่างองครักษ์จากที่ราบทุ่งหญ้าอีกสิบนายที่อูลาปู้ตัวพามาด้วยทันใด อักขระเต๋าพิลึกสีดำที่ผิวนอกเริ่มไหลวน ดูดเอาเลือดสดของร่างองครักษ์ขั้นปรมาจารย์ทั้งสิบจนแห้งกรัง
ใยแมงมุมที่ดูดเลือดเสร็จปรากฏสีเลือดแปลกประหลาด ฟื้นคืนพลังกลับมา พันรัดร่างอูลาปู้ตัวไว้แล้วทะยานไปในอากาศ
“หนีไม่รอดหรอก…เอาเจ้ามาลองดาบเสียเลย”
หลี่มู่ขยับความคิด ดาบบินยี่สิบสี่เล่มปรากฏขึ้นข้างกาย
ฟิ้วๆๆๆๆๆ!
ดาบบินถูกยิงออก พุ่งเข้าโจมตีประหนึ่งพายุฝนโหมกระหน่ำ อัดแน่นจนเต็มราวกับพายุหมุนลูกหนึ่ง
ทองไม้น้ำไฟดิน พลังทั้งห้าธาตุตรงออกไปพร้อมกัน
พลังที่สร้างและข่มซึ่งกันและกัน เดิมทีควรขับไล่กันเองถึงจะถูก แต่ส่วนที่อยู่บนดาบบินกลับเข้ากันได้อย่างไม่มีที่เปรียบ นอกจากดาบบินพลังธาตุทองที่มีเพียงสี่เล่มแล้ว ดาบบินอีกสี่ธาตุที่เหลือล้วนมีห้าเล่ม แบ่งออกเป็นห้าทิศทาง ตีวงโค้งอย่างแคล่วคล่องงดงาม พุ่งออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียง
ท้ายสุด แสงดาบห้าสีซึ่งมาทีหลังแต่ถึงก่อนก็ไล่ตามอูลาปู้ตัวที่หนีไปได้ไม่ถึงสามสิบจั้งทัน แสงดาบหนาวเหน็บอัดแน่นฟันอูลาปู้ตัวที่ลอยอยู่ในพริบตาดั่งทะลวงผาทะยานฟ้า
“อ๊าๆๆ…ไม่ เทพแมงมุมผู้ยิ่งใหญ่ เทพแมงมุมช่วยข้าด้วย”
เขาเบิกตามองร่างของตนถูกแสงดาบแทงทะลุทีละแผล ไม่มีทางให้ต่อต้านได้เลย ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดด้วยซ้ำ ทำได้เพียงร้องตะโกนอย่างตกใจกลัวลนลาน เงาดำแห่งความตายบีบคอหอยของเขาไว้ดุจเงื้อมมือปีศาจร้าย
ทว่า หลังจากใยแมงมุมนั้นฝืนต้านทานอยู่พักหนึ่ง ไม่ว่าลวดลายเต๋าจะส่องแสงอย่างไรก็ไม่อาจต้านทานได้อีก ถูกดาบบินธาตุทองที่ส่องประกายสีทองจางๆ แฉลบผ่าน ตัดขาดเป็นสองท่อน
ในบรรดาธาตุทั้งห้า พลังธาตุทองแข็งแกร่งคมกริบที่สุด ไม่มีความแข็งแกร่งใดที่ทำลายไม่ได้
และในกลุ่มดาบจากดาบบินห้าธาตุของหลี่มู่ แน่นอนว่ากลุ่มดาบบินธาตุทองคมกริบที่สุด พลังการตัดแข็งแกร่งที่สุด จึงตัดใยแมงมุมขาดได้
ตอนนี้เอง เสียงแหวกอากาศของกลุ่มดาบบินเพิ่งจะดังกระหึ่ม
ท้องฟ้ายามค่ำคืนของด่านเมืองมังกรถูกดาบบินห้าธาตุฟันจนขาดแหว่ง เห็นเป็นแนวแยกยี่สิบสี่เส้นกลางอากาศ ภาพเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ตระการตา คงอยู่นานไม่จางหายไป
“อ๊าก…ไม่ เป็นไปได้อย่างไร?”
ร่างของอูลาปู้ตัวค้างแข็งกลางฟ้า พลังชีวิตในร่างกายไหลออกไปราวเม็ดทรายในนาฬิกาทราย จะจับก็จับไม่อยู่ นี่คือรสชาติแห่งความตาย เป็นรสชาติเดียวกับความตายของผู้บริสุทธิ์ที่ถูกสังหารจากการก่อกบฏของเขาในด่านเมืองมังกรคืนนี้ไม่มีผิดเพี้ยน
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและไม่อยากเชื่อ
ใยแมงมุมดำที่วิหารเทพแมงมุมมอบให้ถูกตัดขาด ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีของบางอย่างพังทลายลงในใจ
นั่นคือเทพแมงมุมประทานสุขที่ไม่มีอะไรทำไม่ได้เชียวนะ
พลังห้าธาตุในร่างกายระเบิดปะทุ รูใสๆ หลายรูปรากฏขึ้นบนร่างเขา เป็นรอยบาดที่ถูกดาบบินฟันทะลวง ทั้งหมดยี่สิบสี่แผล กลุ่มดาบบินความเร็วเหนือเสียงฟันร่างเขาไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้บาดแผลเพิ่งปรากฏ จะเห็นได้ว่าดาบนั้นเร็วถึงขนาดไหน?
ตูม!
ปราณดาบระเบิด อูลาปู้ตัวสลายกลายเป็นฝุ่นไปกลางอากาศทันที
ส่วนใยแมงมุมสองส่วนนั้นก็ราวกับหางจิ้งจก บิดตัวดิ้นไปมาอยู่กลางฟ้า คล้ายกับว่าจะมุดเข้าไปในความว่างเปล่าอย่างไรอย่างนั้น
พลังจิตวิญญาณของหลี่มู่ขยายออกไป ความว่างเปล่าผืนนั้นพลันจับตัวเป็นแอ่ง ใยแมงมุมที่ถูกตัดเป็นสองท่อนนั้นได้รับบาดเจ็บ อ่อนแอเต็มที่แล้ว ด้วยเหตุนี้แม้ว่าจะดิ้นรนสักเพียงไหนก็ไม่อาจล่องหนหนีได้อีก และถูกพลังจิตวิญญาณของหลี่มู่ม้วนกลับมา
ใยแมงมุมถูกจับไว้ในฝ่ามือหลี่มู่ ยังคงดิ้นรนไม่หยุด
เขารู้สึกว่ามีกลิ่นอายพลังแปลกพิลึกชนิดหนึ่งไหลวนอยู่ภายในใยแมงมุมนี้
“เอ๋?”
หลี่มู่รู้สึกได้ ด้านในใยแมงมุมคล้ายมีร่างสิ่งมีชีวิตร่างหนึ่งอยู่
คลื่นพลังที่เป็นของสิ่งมีชีวิตมีสติปัญญา
เมื่อมองอย่างละเอียด ผิวนอกของใยแมงมุมยังมีลายอักขระสีแดงเข้มแปลกประหลาดเป็นชั้นๆ ส่องแสงระยิบระยับไม่หยุด หดเข้าพองออก เดี๋ยวเลือนเดี๋ยวปรากฏ ทุกครั้งที่พองตัวออก กลิ่นอายชีวิตที่ชั่วร้ายพิสดารนั้นก็จะชัดเจนยิ่งขึ้น
‘นี่มันลวดลายเต๋า!’
เมื่อหลี่มู่มองไป ในใจตกตะลึงอย่างมาก
นี่ไม่ใช่ค่ายกลดาราของจอมเวทบนโลกใบนี้ แต่เป็นลวดลายเต๋าในวิชาเต๋าที่แท้จริง
ใยแมงมุมไม่ใช่ของที่อยู่บนโลกใบนี้
เช่นนี้ก็น่าสนใจขึ้นมาแล้ว
มาจากนอกพิภพหรือ?
ถ้าเช่นนั้น กลิ่นอายชีวิตด้านในนี้ก็ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย?
สิ่งมีชีวิตนอกพิภพ?
ตัวเป็นๆ ด้วย?
หลี่มู่เกิดความสนใจอย่างใหญ่หลวงขึ้นทันใด
แต่ขณะที่หลี่มู่ใช้พลังจิตวิญญาณหยั่งเชิงนั้น ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นฉับพลัน
ใยแมงมุมทั้งสองส่วนพลันต่อสู้ดิ้นรนต่างจากก่อนหน้านี้ เสียงคำรามด้วยความโกรธอันมืดทึมน่ากลัวดังลอดออกมาจากใยแมงมุม ระลอกคลื่นกระเพื่อมกลางอากาศ ภาพมายาของแมงมุมมารยักษ์ขนาดสามจั้งตัวหนึ่งปรากฏขึ้นมา หน้าตาดุร้าย ราวกับกำลังเลือกคนแล้วจะกัดกลืนลงไป คลื่นพลังน่ากลัวปานจะบดขยี้ด่านเมืองมังกรทั้งหมด ด้านในเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสิ้นหวัง ความหวาดกลัว การสังหาร กลิ่นคาวเลือด ความบ้าคลั่ง ความตาย ความชั่วร้าย และความมืดมิด
ผู้คนในเรือนตกตะลึงในทันที
ปีศาจด้านในจะออกมาแล้วหรือ?
หลี่มู่เข้าปกป้องไช่ไช่กับแม่เฒ่าไช่
พริบตาต่อมา ใยแมงมุมทั้งสองส่วนปริแตก ลวดลายเต๋าด้านในทลายลง สุดท้ายเปลี่ยนเป็นไอหมอกชั่วร้ายสีดำ สลายหายไปกลางอากาศ คลื่นพลังที่น่ากลัวขีดสุดในตอนแรกและภาพแมงมุมยักษ์น่าพรั่นพรึงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน
หลี่มู่กับกัวอวี่ชิงมองหน้ากัน รู้สึกตกใจอยู่พอควร
จุดที่กัวอวี่ชิงตกใจก็คือ ข้างในไอหมอกชั่วร้ายสีดำนี้ เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายขุมหนึ่งที่เหมือนเคยรู้จัก นั่นคือพลังในตำนานที่เล่าต่อๆ กันมา พลังที่ไม่ควรจะเป็นของโลกใบนี้
ส่วนสิ่งที่หลี่มู่ตกใจคือ ใยแมงมุมนี้เหมือนกับสิ่งที่ยังมีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น เขาพอเดาออกว่าใยแมงมุมนี้จะต้องมาจากร่างของปีศาจยักษ์ที่น่ากลัวสุดขีดตัวหนึ่งภายในดาราสมุทรแน่นอน ทว่าพอเป็นเช่นนี้ ร่างสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านในใยแมงมุมก็คล้ายจะตายไปแล้วน่ะสิ?
………………………………