จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 343 ไร้เทียมทาน
หมาป่าและเป้ยมีชีวิตอยู่ร่วมกัน
เรื่องนี้หลี่มู่ก็รู้เช่นกัน
เพราะบนโลกมนุษย์มีสำนวนที่พูดกันว่า…เอ่อ สมคบคิดแผนชั่ว ถึงแม้จะไม่ใช่คำที่ดีอะไร แต่ก็พูดถึงความสัมพันธ์ของหมาป่ากับเป้ย อีกทั้งพัฒนาออกมาอีกหลายคำจากความสัมพันธ์นั้น เช่นอเนจอนาถสิ้นสภาพ ตกอับ หวาดหวั่นวิตก จนตรอกสิ้นหนทาง ตกระกำลำบาก…มารดามันสิ ไม่ใช่คำที่ดีอะไรทั้งนั้นเลย
หลี่มู่สบถด่าในใจ ไม่ได้พูดออกมา
ก่อนหน้านี้ประมาณสามสี่อึดใจ ตอนที่เห็นสีหน้าของกัวอวี่ชิงเปลี่ยนไป แล้วก้าวข้ามทะลุมิติหายไปจากประตูที่อยู่ปลายทาง เขาก็รู้ทันทีว่าเจียงชิวไป๋น่าจะเจอกับอันตราย ดังนั้นพี่ใหญ่ถึงได้ร้อนรนถึงขนาดนั้น ตลอดทางที่ผ่านมาแค่เดาหลี่มู่ก็เดาได้แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่ใหญ่กับเจียงชิวไป๋ไม่ใช่ละครน้ำเน่าอย่างศึกชิงอำนาจภายในสำนักแบบนั้นแน่ สองคนนี้…อืม รักใคร่กัน
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เมื่อเขาบังคับดาบตามมา ได้เห็นวังสวรรค์เก้าชั้นฟ้าและภาพข้างล่างวัง ก็ยังคงรู้สึกตื่นตะลึง
ที่แท้เจียงชิวไป๋เป็นปีศาจ อีกทั้งยังเป็นเป้ยที่แต่ไหนแต่ไรชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่บนโลกอีกด้วย
เช่นนั้นก็มีคำถามแล้ว
หมาป่าและเป้ย ในเมื่อเจียงชิวไป๋ที่เป็นศิษย์น้องเป็นเป้ยแล้วละก็ เช่นนั้นหมาป่าอยู่ที่ไหน?
สายตาของหลี่มู่หยุดอยู่ที่กัวอวี่ชิงซึ่งอุ้มร่างของเป้ยขนทองตัวนั้นไว้ในอ้อมแขน
เขาเดาอะไรออกแล้ว
แสงดาบส่องกะพริบ วาดออกเป็นเส้นโค้ง
หลี่มู่ ชิวอิ่น และเทพธิดาสงครามลงมาบนพื้นข้างกายกัวอวี่ชิง
“ศิษย์พี่ ท่าน…กลับมาที่ราบทุ่งหญ้าแล้ว หึๆ…” เสียงมนุษย์ที่เป้ยเปล่งออกมาอ่อนแรงเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ปิดความได้ใจและยินดีเล็กๆ นั่นไม่ได้
เป้าหมายของเขา ในที่สุดก็เป็นจริงแล้ว
กุญแจสุสานราชาเซียนอะไรนั่นเป็นข้ออ้างเท่านั้น เขาแค่อยากให้ศิษย์พี่กลับมาที่ราบทุ่งหญ้าได้อีกครั้ง
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้าจะส่งเจ้าเข้าไปในฟ้านิจนิรันดร์ น้ำพุราตรีกระจ่างรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าได้” กัวอวี่ชิงอุ้มเขาเอาไว้ สีหน้าร้อนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เป้ยตอบ “สายไปแล้ว…ท่านเคยสาบานเอาไว้ว่าหากย่างก้าวเข้าสู่ที่ราบทุ่งหญ้าอีก ก็ให้วิญญาณถูกกัดกิน กระดูกแหลกลาญ วรยุทธ์สลายสิ้น วิญญาณเผาไหม้ ไม่อาจพลิกชะตาชีวิตได้ตลอดกาล ข้า…ข้ารับมันไว้แทนท่านแล้ว…พวกเราเดิม…เดิมก็คือร่างเดียวกัน ผลกรรมจากการผิดคำสาบานสนองบนร่างของข้า ศิษย์พี่…ท่านกลับมายังท้องทุ่งหญ้าได้ตามแต่ที่ใจต้องการแล้ว”
หลี่มู่อึ้งตะลึง
พี่ใหญ่เคยสาบานเช่นนี้ด้วยหรือ?
เช่นนั้นครั้งนี้ยืนกรานจะมาที่ราบทุ่งหญ้าเป็นเพื่อนเขาให้ได้ นั่นไม่ใช่…หลี่มู่ซาบซึ้งจนยากจะหาคำบรรยาย
อะไรคือพี่น้อง?
นี่แหละคือพี่น้อง
ชิวอิ่นและเทพธิดาสงครามที่อยู่ข้างๆ ก็ตกใจมากเช่นกัน
เบื้องหลังยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย
ในตอนนี้เอง…
ตูม!
ท่ามกลางเสียงดังแกรกๆ ในที่สุดหมาป่ายักษ์ชั่วร้ายสีดำตัวนั้นก็พุ่งชนกำแพงแสงร้าวแตกราวกระจกจนได้ ปีศาจร้ายที่มาจากนอกพิภพหลุดพ้นจากพันธนาการแล้ว
“โฮก——!”
มันเงยหน้าคำรามเสียงลากยาว ทั่วร่างพันล้อมด้วยละอองหมอกราวเลือดสีดำ กลิ่นอายชั่วร้ายเหี้ยมโหดแผ่กระจายไปรอบด้าน ยามมันก้าวข้ามท้องฟ้า ก็ทิ้งรอยราวแอ่งเลือดที่นานกว่าจะสลายไปเอาไว้ ในดวงตาแดงก่ำฉายประกายชั่วร้าย จับจ้องพวกหลี่มู่เขม็ง
“เป็นอาหารของข้าไปทั้งหมดเสียเถอะ”
มันอ้าปากมหึมาเข้ากัดกิน
พลังที่น่าสะพรึงกลัวของปีศาจร้ายนอกพิภพบดขยี้มาดุจขุนเขาถล่มทลาย คลื่นคลั่งถาโถม ตอนนั้นหลี่มู่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนทารกที่เพิ่งหัดคลาน เมื่อเผชิญหน้ากับน้ำป่าที่ไหลบ่าเช่นนี้ เขาขัดขืนไม่ได้เลย พลังเช่นนี้น่าครั่นคร้ามเหลือเกิน เทพธิดาสงครามและชิวอิ่นก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน ไม่อาจต้านทานขัดขืนได้
กัวอวี่ชิงพลันเงยหน้าขึ้น
ความโกรธแค้นในดวงตาพุ่งออกมาดั่งกระบี่เทวะเบิกผืนฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
พันธนาการบางอย่างในร่างของเขาถูกทำลายในพริบตา อักขระทองหลายสิบสายพวยพุ่งออกมา ขาดสะบั้นอยู่กลางท้องฟ้า จากนั้นพลังที่แข็งแกร่งจนไม่น่าเชื่อก็เริ่มตื่นขึ้นภายในกายของเขา ขนหมาป่าขาวละเอียดเป็นชั้นๆ เริ่มงอกออกมาตามแขน คอ และใบหน้าอย่างรวดเร็ว กัวอวี่ชิงอ้าปากแยกเขี้ยวขาวาววับ ส่งเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของราชาหมาป่าขาว เผชิญหน้ากับหมาป่ายักษ์สีดำที่ชั่วร้ายตัวนี้
รัศมีอำนาจทั้งหมดของหมาป่ายักษ์ตัวนั้นพังทลายในพริบตา
แปลงเป็นสัตว์?
หลี่มู่ตะลึงงัน
เขารู้ว่ากัวอวี่ชิงแข็งแกร่งมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งจนถึงระดับนี้
เหมือนว่าพลังของเขาก่อนหน้านี้ถูกสะกดและจำกัดไว้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ เขาปลดผนึกพลังสะกดบางอย่างออกแล้ว…ในชั่วขณะนี้ ร่างของกัวอวี่ชิงท่วมท้นไปด้วยกลิ่นอายราวกับมหาสมุทรกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต กำลังรบเกินกว่าที่เก้ายอดคนแสดงออกมาก่อนหน้านี้เสียอีก
นี่ถึงจะเป็นพลังที่แท้จริงของพี่ใหญ่อย่างนั้นหรือ?
เวลานี้หลี่มู่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้เกาะขาใหญ่ๆ เอาไว้ข้างหนึ่งแล้ว
ส่วนหมาป่าดำชั่วร้ายตัวนั้น ในเสี้ยวขณะนี้ก็เห็นได้ชัดว่ามันสัมผัสถึงพลังคุกคามและแรงกดดันได้เช่นกัน
มันค่อนข้างลังเล หยุดฝีเท้าที่จะก้าวไปข้างหน้า ก้มหัวต่ำลงกลางอากาศ ขาหน้าย่อลงเล็กน้อย ทำท่าเหมือนระวังป้องกัน ขนราวหนามเหล็กสีแดงดำตั้งชันขึ้นมา ละอองหมอกชั่วร้ายสีแดงหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง คล้ายจะแปลงเป็นลูกไฟปีศาจ ดวงตาแดงก่ำจ้องกัวอวี่ชิงเขม็ง
“ตาย” กัวอวี่ชิงลงมือทันที
เขายกมือขึ้น พลิกมือคว้า พลังกฎเกณฑ์ที่ไร้รูปร่างหมุนโคจร
แสงทองทั้งหมดที่พุ่งออกมาจากประตูวังสวรรค์เก้าชั้นฟ้าถูกเขาคว้าเอาไว้แบบนี้ จากนั้นแสงทองที่เสมือนน้ำป่าไหลหลากก็รวมตัวเป็นดาบโค้งประหลาดเล่มยักษ์เล่มหนึ่งฟาดฟันออกไป อากาศและเมฆแยกจากกันออกราวคลื่น ม้วนถาโถมไปทั้งสองฝั่ง คมดาบชี้ไปยังหมาป่ายักษ์สีดำชั่วร้ายตัวนั้น
หมาป่ายักษ์คำรามอย่างโกรธแค้น ส่งแสงสีดำทำลายล้างออกมาปะทะกับคมดาบ
ตูม!
คลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวจนยากบรรยายแผ่ลามมา
แสงดำทำลายล้างโดนทำลาย ส่วนประกายดาบสีทองพลังไม่ลดลงเลย แสงดาบเพียงกะพริบ ก็ฟันร่างของหมาป่ายักษ์ชั่วร้ายสีดำขาดเป็นสองท่อน
“กรรร…โฮก!” หมาป่ายักษ์สีดำส่งเสียงร้องเจ็บปวดและโกรธแค้น ละอองหมอกสีเลือดหมุนวน ร่างที่ขาดเป็นสองท่อนฟื้นคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้งในชั่วพริบตา แต่ขนาดตัวเหมือนจะเล็กกว่าเดิมเล็กน้อย มันจ้องกัวอวี่ชิงด้วยความโกรธแค้นเป็นหนักหนา พลางเอ่ยปากพูดเป็นครั้งแรก “สิ่งมีชีวิตในโลกชั้นต่ำไร้ค่า นี่ไม่ใช่พลังที่เจ้าควรจะมี”
กัวอวี่ชิงตอบ “นี่ก็ไม่ใช่ที่ที่เจ้าควรจะมา”
เขายื่นมือออกไปอีกครั้ง แขนข้างหนึ่งพลิกคว้าไปข้างหลัง คว้าแสงทองนับไม่ถ้วนจากประตูวังสวรรค์ชั้นฟ้าที่เปิดออกไว้ ครั้งนี้ไม่แปรสภาพเป็นดาบโค้ง แต่คล้ายเป็นแหฟ้าตาข่ายสวรรค์ที่แผ่ปกคลุมไปทั่วเหวี่ยงออกไปทันใด จับหมาป่ายักษ์ชั่วร้ายที่ตั้งท่าเตรียมตัวจะหลบหลีกเอาไว้ข้างใน
“เจ้าคนชั้นต่ำ…ทำไมเจ้า…มีพลังเช่นนี้…” หมาป่ายักษ์สีดำดิ้นรนอย่างเดือดดาล ปะทุพลังที่น่ากลัวและประหลาดออกมา คิดอยากจะสลัดให้พ้น
แต่ตาข่ายทองหดเล็กลงตลอด กำลังบีบรัดมัน เส้นตาข่ายสีทองทุกเส้นล้วนมีพลังดั่งเทพ ฝังติดเข้าไปในเนื้อหนังของหมาป่ายักษ์ชั่วร้าย มีเสียงเหมือนเหล็กแดงร้อนนาบเนื้อ ควันดำเป็นกลุ่มๆ ลอยกรุ่นขึ้น หมาป่ายักษ์ส่งเสียงร้องครวญน่าสังเวช ดิ้นรนไม่หยุด ใช้เขี้ยวใช้กรงเล็บฉีกทึ้งตาข่าย แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นไปได้
“พลังเช่นนี้ เอามาใช้เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจใจคิดชั่วไม่ยอมแพ้แบบพวกเจ้านี่แหละ”
เสียงของกัวอวี่ชิงแฝงไว้ด้วยพลังเทพเทวะบางอย่าง เขาหุบปลายนิ้วทั้งห้าเหนี่ยวรั้งพลังไร้รูปร่าง รัดตาข่ายแสงทองเอาไว้แน่นทันที เส้นแสงสีทองเฉือนเข้าไปในร่างของหมาป่ายักษ์สีดำราวกับดาบเหล็ก จากนั้นระเบิดออกทันที แล่เนื้อของมันเป็นเศษชิ้นเนื้อ แยกออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“อ๊ากกก ข้าจะกลับมาอีก…โลกใบนี้เปลี่ยนไปแล้ว พลังจากนอกพิภพเข้ามาได้แล้ว…ข้าจะต้องกลับมาอีกอย่างแน่นอน!”
ละอองหมอกสีดำเป็นกลุ่มๆ สลายไป แต่เสียงสุดท้ายของหมาป่ายักษ์ชั่วร้ายยังสะท้อนอยู่ในท้องฟ้า
มารดามันสิ คิดว่าตัวเองเป็นฮุยไท่หลางที่แพ้แต่ก็ฆ่าไม่ตายตลอดกาลหรืออย่างไรกัน?
หลี่มู่เอ่ยอย่างดูถูกดูแคลนในใจ
กลางท้องฟ้า แสงสีดำแดงส่องกะพริบ
รูปปั้นหมาป่าดำแดงขนาดเท่าฝ่ามือร่วงลงมา
“เอ๋?” หลี่มู่เห็นรูปปั้นนี้ก็นึกอะไรขึ้นได้ มือตวัดคว้าดึงมันมาจากกลางอากาศ
เขานึกได้ว่า ก่อนหน้านี้เหมือนตัวเองจะได้รูปปั้นที่ทำจากวัสดุประเภทนี้มา ตอนนั้นแค่รู้สึกว่ามันแปลกประหลาดชั่วร้าย แต่น่าสนใจ จึงไม่ได้คิดเชื่อมโยงอะไร ตอนนี้เห็นท่าแล้ว…หรือว่าสิ่งนี้จะเป็นกุญแจเรียกปีศาจร้ายนอกพิภพหรือสิ่งเอาไว้บอกพิกัดอะไรประเภทนี้?
“น้องสาม ของสิ่งนี้คือสิ่งชั่วร้ายแห่งยุคสมัย หากถูกมันล่อลวงเข้าจะตกสู่นรกนิรันดร์ได้โดยง่าย และจะกลายเป็นร่างไร้จิตวิญญาณ” กัวอวี่ชิงเก็บตาข่ายสีทอง เพียงพลิกมือ ตาข่ายก็กลายเป็นแสงทองกลับเข้าไปในประตูวังสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอีกครั้ง เสมือนว่าทุกอย่างนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เขามองหลี่มู่อย่างเป็นห่วงพลางกำชับเหมือนมารดาแก่ๆ
หลี่มู่พูดอย่างมั่นใจเต็มร้อย “ฮ่าๆ พี่ใหญ่วางใจเถิด สิ่งที่ของประเภทนี้กลัวที่สุดก็คือข้า”
วิชาก่อนกำเนิดที่เขาฝึกฝน พลังจิตวิญญาณบริสุทธิ์เป็นที่สุด และเป็นวิชาชั้นสูงสุดในห้วงดาราสมุทร กิเลสต่างๆ หากไม่ได้เกิดจากจิตใจหรือนิสัยของหลี่มู่ เพียงแค่ถูกพลังจิตวิญญาณของวิชานี้กวาดผ่านไป ก็จะกลายเป็นเถ้าธุลีในทันที จะมาล่อลวงหลี่มู่ได้อย่างไร นี่คือจุดที่หลี่มู่มั่นใจ
ตอนนี้เอง ร่างวิญญาณของกู้ป้านเซิงที่แปลงเป็นกระบี่จิตวิญญาณสีดำขาวก็หนีไปเงียบๆ ตามเส้นทางตอนมา
“จะหนีไปไหน?” ดวงตาของกัวอวี่ชิงกวาดมอง พลังกดดันไร้สิ้นสุดแผ่ออกไป
กระบี่จิตวิญญาณดำขาวลอยกลับมาอย่างว่าง่าย
กัวอวี่ชิงกำด้ามกระบี่ไว้ แสงสีทองพันล้อมที่ตัวกระบี่ ก่อนประทับลวดลายที่ตาเนื้อแทบจะมองไม่เห็นลงไป สามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อมีลายประทับสีทองเกิดขึ้น กลิ่นอายของกระบี่จิตวิญญาณขาวดำเล่มนี้ก็สงบลง ไม่ท่วมท้นด้วยพลังจิตกระบี่ที่น่ากลัวจนหมาป่ายักษ์ชั่วร้ายยังค่อนข้างหวาดระแวงเหมือนก่อนหน้านี้อีก
“พวกเจ้าใครจะเอา?” กัวอวี่ชิงบอกต่อไป “กระบี่นี้เทียบได้กับอาวุธเต๋าชั้นยอด”
หลี่มู่ส่ายหน้า บอกว่า “ข้าใช้ดาบ”
ชิวอิ่นก็ยิ้มๆ เช่นกัน ก่อนจะเอ่ย “ข้าก็เหมือนกัน”
กัวอวี่ชิงก็ไม่เกรงใจน้องร่วมสาบานทั้งสองอีกต่อไป มอบกระบี่เล่มนี้ให้กับเทพธิดาสงคราม ถือว่าเป็นการชดเชยให้เหล่าพี่น้องในตอนนั้นแล้วกัน
ยามนี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้นอีกครั้ง
ประตูบานใหญ่ที่อยู่ตรงกลางสุดของสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเริ่มเปิดอย่างช้าๆ
“ได้เวลาแล้ว พวกเจ้าตามข้าเข้าไปในฟ้านิจนิรันดร์เร็วเข้า…โอกาสหาได้ยาก” กัวอวี่ชิงเปลี่ยนสีหน้า อุ้มเจียงชิวไป๋เอาไว้ ก่อนจะก้าวเท้ายาวเข้าไปในประตู
ก่อนหน้านี้เขาใช้เคล็ดวิชาลับสะกดพลังชีวิตของเจียงชิวไป๋เอาไว้แล้ว ตอนนี้ต้องรีบมุ่งหน้าไปยังน้ำพุราตรีกระจ่างในฟ้านิจนิรันดร์ บางทีอาจจะช่วยชีวิตกลับมาได้ มิฉะนั้นเกรงว่าอีกไม่นาน เจียงชิวไป๋จะไม่ได้ผุดได้เกิดไปตลอดกาลจริงๆ