จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 467 จิตสูงสุดวิถีดาบ
หลี่มู่สัมผัสได้ว่า เจียงชิงหรวนคนนี้เห็นได้ชัดว่าพลังไม่สูง แต่กลับ ยังท้าทายด้วยน�าเสียงชั่วร้ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เห็นได้ว่าไม่กลัว เขา หรือจะมีที่พึ่งอะไร?
นี่ทําให้ในใจของหลี่มู่ระวังขึ้นเล็กน้อย
แต่ไม่ว่าจะมีที่พึ่งอะไร ซัดมันก่อนค่อยว่ากัน
“ข้าไม่ชอบน�าเสียงที่เจ้าพูดกับข้าเอามากๆ เลย” หลี่มู่ไม่พูดมาก ความกับเขา ลงมือฟันดาบหนึ่งไปยังเจียงชิงหรวนทันที “เจ้าอาจจะมีที่ พึ่ง เช่นนั้นก็มีดีอะไรก็แสดงออกมา ดูสิว่าที่พึ่งของเจ้าจะใช้ได้หรือไม่”
แสงดาบวาวปลาบ
เจียงชิงหรวนอยู่กับที่ไม่ขยับ ระลอกคลื่นวงรีแผ่ระลอกอยู่ ข้างหน้า ต้านทานดาบทางนี้เอาไว้
“พลังกดดันของจักรพรรดิเซียนหมิงกวงก่อนหน้านี้ข้ายังต้านทาน ได้ สาอะไรกับเจ้า…”
พูดยังไม่ทันจบ เขาก็หน้าเปลี่ยนสี แสงสะเทือนมหาศาลถาโถมมา คําพูดที่เหลือยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกโจมตีจนถอยหลังไปสี่ห้าก้าว หายใจ ไม่ออก หน้าขาวซีด
“เจ้าอาจจะลืมอะไรไปอย่างหนึ่ง” หลี่มู่มองเขาเหมือนมองคนโง่ ยิ้มเอ่ยขึ้น “จักรพรรดิเซียนหมิงกวงที่เจ้าว่าถูกข้าอัดเละไปแล้วก่อน หน้านี้ สิ่งที่ต้านทานมันได้ ไม่แน่ว่าจะต้านทานข้าได้”
หลี่มู่ยกมือ แสงดาบวาววับฟันออกไปอีกทางหนึ่ง
เจียงชิงหรวนหน้าเปลี่ยนสี หยิบเขี้ยวสัตว์สีขาววาววับอันนั้นมาไว้ ในมือ
เห็นเพียงเขาปากท่องขมุบขมิบ ในเขียวสัตว์นั่นก็มีประกายแสงสี ขาวประหนึ่งคมอาวุธทะลักออกมา ก่อเป็นวงแสงประหนึ่งเกราะ กระดูก บิดมิติอากาศและเส้นแสง ครอบเจียงชิงหรวนเอาไว้ข้างใน
ครืน ตูม!
แสงดาบของหลี่มู่ฟาดลงไปยังวงแสงสีขาว สะเทือนจนเจียงชิงหร วนถอยหลังไปติดๆ กลิ่นอายสั่นคลอน แต่ไม่อาจโจมตีทะลวงมันได้
เจียงชิงหรวนสงบใจ กําลังจะพูดอะไร
หลี่มู่กลับไม่พูดอะไร ฟันออกไปติดๆ อีกหลายสิบดาบ
แสงดาบประดุจหิมะถล่ม เป็นกลุ่มเป็นสาย แสงวาววับพันล้อม
ในกระบวนดาบมีวิชาดาบมารที่หลี่มู่เพิ่งเรียนจากตอนที่สู้กับ ‘ดาบมาร’ จ่างซุนฉางคง เขาใช้เจียงชิงหรวนเป็นคู่ฝึกดาบ ไม่สนว่าจะ ฆ่าอีกฝ่ายได้หรือไม่ ฟาดลงไปไม่ยั้งอย่างดุดันทีละดาบๆ โจมตีไปยังวง แสงสีขาวที่เขี้ยวสัตว์นั่นเปล่งแสงออกมา
ทีแรกเจียงชิงหรวนยังมีใบหน้าเสียดสี เอ่ยปากเยาะหยันหลี่มู่ฝัน โง่ๆ อภินิหารเขี้ยวสัตว์สีขาวไม่ใช่สิ่งที่หลี่มู่จะคาดถึง ไม่สามารถโจมตี ทะลวงได้เลย
แต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
เพราะครอบแสงเขี้ยวสัตว์สีขาวถึงแม้จะปกป้องเขาไว้ได้ ไม่ถูก แสงดาบของหลี่มู่ฟัน แต่พลังที่แฝงอยู่ในทุกดาบของหลี่มู่ช่างแข็งแกร่ง เหลือคณา พลังสะท้อนมหาศาลทําให้เขาค่อยๆ รู้สึกแขนขาชา การ โจมตีทุกครั้งมีความรู้สึกเหมือนหัวใจใกล้จะสะเทือนหลุดออกมาข้าง นอก
เจียงชิงหรวนหน้ามืดตาลายเป็นระลอกๆ “ไม่ได้การ หากเป็นแบบนี้ต่อไปข้าจะโดนสะเทือนตายทั้งเป็น” เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่มู่จะมีวิชาเช่นนี้
อันที่จริง นี่หลักๆ แล้วเพราะหลี่มู่ตอนนี้มีพลังวิถียุทธ์ร่างแยกของ วัวดําหล่อเลี้ยงอยู่ พลังอยู่ในสภาวะปะทุอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่จักรพรรดิ เซียนหมิงกวงยังโดนอัดเละ ดังนั้นพลังสะท้อนถึงได้น่ากลัวขนาดนี้
อีกทั้งเจียงชิงหรวนก็แค่พลังฝึกตนขั้นเทวะเท่านั้น ในห้วงดารา สมุทรยังนับไม่ได้แม้แต่ขั้นแมลง เทียบกันแล้วพลังต�าเป็นอย่างมาก ไม่ อาจสําแดงพลังของเขี้ยวสัตว์สีขาว ถึงได้แม้มีของวิเศษแต่กลับสภาพ สะบักสะบอมเช่นนี้
กระบวนท่าดาบของหลี่มู่ดาบหนึ่งกระชั้นกว่าอีกดาบหนึ่ง ดาบ หนึ่งเร็วกว่าอีกดาบหนึ่ง ดาบหนึ่งรุนแรงกว่าอีกดาบหนึ่ง ฟันลงมาไม่ ขาดสาย ประหนึ่งพายุกระหน�า ท่วมจมครอบแสงเขี้ยวสัตว์
ความรู้สึกสะใจอย่างไม่เคยมีมาก่อนไหลเวียนอยู่ในกายหลี่มู่
มีพลังของวัวดําหล่อเลี้ยง หลี่มู่ตอนนี้อยู่ในระดับขั้นพลังที่ปกติไม่ กล้าฝันและไปไม่ถึง สภาวะเช่นนี้ช่วยให้เขาใช้มุมมองอย่างมองจากที่ สูงลงมาประเมินวิชาดาบของตน ผสานวิถีดาบของเดิมกับกระบวนท่า ดาบมารเข้าเอาไว้ด้วยกันโดยไม่รู้ตัว
ดาบยาวในมือหลี่มู่ค่อยๆ ฟันออกไป มีความรู้สึกอย่างได้ดั่งใจ
เขากําลังทะลวงขั้น
ครืนนนน!
เสียงเลื่อนลั่นต่อเนื่องประหนึ่งตีเหล็กดังก้องไปทั่วที่รกร้าง
เจียงชิงหรวนเหมือนแมลงวันตัวหนึ่งที่หลบอยู่ในขวด ขวด สั่นสะเทือนไม่หยุด เขาก็ถูกเขย่ากระเด็นกระดอนไปในขวด หน้ามืด ตาลาย ปากจมูกถูกสะเทือนจนเลือดไหล
จู่ๆ หลี่มู่ก็เก็บดาบหยุดลง
กระบวนท่าดาบทั่วท้องฟ้าหายไป
หลี่มู่กอดดาบไว้แนบอก
ร่างของเขาประหนึ่งต้นไม้ใหญ่กลางพายุคลั่งที่จู่ๆ พลันหยุดลง ทั่วร่างของเขาเสื้อผ้าไม่ขยับแม้แต่ชิ้นเดียว
จากขยับเคลื่อนไหวจนถึงหยุดนิ่ง การเปลี่ยนแปลงเพียงเสี้ยว พริบตากะทันหันยิ่งนัก
เจียงชิงหรวนหอบหนัก ในใจลิงโลด
หรือพลังวัวดําในกายหลี่มู่ในที่สุดก็สลายไปหมดแล้ว?
แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆ หลี่มู่กลับยกมือขึ้นแล้วฟาดลงไปดาบหนึ่ง
ดาบนี้ไม่เร็ว ต่อให้เป็นคนธรรมดาก็สามารถมองได้อย่างชัดเจน แต่เจียงชิงหรวนกลับตาลายขึ้นทันใด รู้สึกเหมือนตัวอยู่ในกองซากศพ ทะเลเลือดนรกอสุรภูมิอันน่ากลัว ตกใจกลัวร้องลั่น…
จิตสูงสุดวิถีดาบ!
นี่คือจิตสูงสุดวิถีดาบขั้นมหามรรคาแท้จริงที่มากพอจะทําให้ผู้ ฝึกฝนห้วงดาราสมุทรหวาดกลัวและอิจฉาได้
ดาบเดียวทะเลเลือดสุดลูกหูลูกตา
ตูม!
แคร่ก
รอยแตกเส้นหนึ่งปรากฏขึ้นบนวงแสงเขี้ยวสัตว์สีขาว เหมือน เปลือกไข่ที่เกิดรอยร้าวอย่างนั้น
“แย่แล้ว…” เจียงชิงหรวนตื่นตกใจใหญ่
แต่ว่า หลังจากหลี่มู่ฟันดาบหนึ่งออกไปแล้วก็เก็บดาบและหยุดนิ่ง กอดดาบไว้กับอกอีกครั้ง เสมือนต้นไม้ใหญ่ยืนตระหง่านกลางหน้าผา สูง นิ่งไม่ไหวติง สีหน้านิ่งสงบเหมือนจิตใจล่องลอย เห็นได้ชัดว่ากําลัง ขบคิดอะไรอยู่
ยังไม่ทันให้เจียงชิงหรวนตั้งตัว หลี่มู่ก็ฟาดดาบที่สองมา
ดาบหนึ่งฟันออกมา เจียงชิงหรวนสัมผัสกับความรู้สึกเหมือนอยู่ใน กองซากศพทะเลเลือดอีกครั้ง
เทียบกับจิตดาบของดาบแรก ภาพนี้ยิ่งเสมือนจริงมากขึ้น
เจียงชิงหรวนสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ารอบกายล้วนเป็นเลือดและ ศพ เลือดไหลนองรวมกันราวมหาสมุทร ทุกที่ล้วนตลบอวลไปด้วยจิต สังหารอันยากบรรยาย เสมือนจริงเป็นอย่างยิ่ง ประหนึ่งเข็มเทพทิ่ม แทงผิวของเขาอย่างเจ็บปวด
ทั้งๆ ที่เขารู้ว่านี่เป็นภาพทิวทัศน์ที่จิตดาบของหลี่มู่ฟันออกมา แต่ กลับยังคงยากจะควบคุมความหวาดกลัวของตัวเอง มีความรู้สึกตื่น ตะลึงและหายใจไม่ออกเหมือนตกอยู่ในนรก
พลังของดาบที่สองยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
แคร่ก แคร่ก
ครอบแสงเขี้ยวสัตว์สีขาวแตกเป็นทาง เป็นชั้นๆ ร้าวเป็นรอยถี่ยิบ เหมือนใยแมงมุม จิตดาบที่น่ากลัวนั่นลอดผ่านรอยร้าวพวกนี้ ทําให้ เจียงชิงหรวนเจ็บปวดอย่างมหาศาลเสมือนผิวถูกกรีดเฉือน
หลังจากหลี่มู่ฟันดาบนี้ออกไปแล้ว ก็เก็บดาบหยุุดลงอีกครั้งจริงๆ ด้วย
ดวงตาทั้งสองของเขาว่างเปล่าไม่จับจุด เหมือนเหม่อลอย
“แย่แล้ว เขาบรรลุเต๋าแล้ว กําลังบรรลุจิตสูงสุดวิถีดาบ หากปล่อย เขาไปแบบนี้เรื่อยๆ ข้าแย่แน่…” เจียงชิงหรวนลนลานขึ้นมาจริงๆ
และตอนนี้เอง ดาบที่สามของหลี่มู่ก็ฟันมา
ดาบนี้ยิ่งช้ายิ่งกว่าเดิม
คมดาบแหวกอากาศ เหมือนฉีกภาพภาพหนึ่ง ดาบเดียวผ่าโลก แบ่งเป็นสองส่วน เปิดปราการสกัดกั้นพาเจียงชิงหรวนลงไปยังนรก อย่างแท้จริง ท่ามกลางกองซากศพทะเลเลือดมีกลีบดอกไม้สีชมพู งดงามโปรยปรายเป็นกลีบๆ
“จิตดาบเหมือนจริงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว…”
เจียงชิงหรวนสะกดความหวาดกลัวในใจของตนสุดกําลัง
เขี้ยวสัตว์สีขาวลอยเอ่อด้วยแสงสีขาวปกป้องเขาเอาไว้
ในใจของเขารู้ดี หากไม่มีเขี้ยวสัตว์นี้ เกรงว่าไม่ต้องรอให้แสงดาบ ฟันมาที่ตนเข้าจริงๆ ก็คงถูกจิตสังหารในภาพจิตดาบสับละเอียด จิต สูงสุดวิถีดาบของหลี่มู่ถึงระดับขั้นที่น่ากลัวสุดขีดแล้ว
นักโทษผู้ผิดบาปคนนี้ร้ายกาจสุดฤทธิ์จริงๆ
กร๊อบ!
จากดาบที่สาม เสียงแตกร้าวสุดท้ายดังขึ้น วงแสงสีขาวแหลก ละเอียดโดยสมบูรณ์ แตกร่วงลงมาเป็นชิ้นๆ เหมือนเปลือกไข่
“อั้ก!”
เลือดของเจียงชิงหรวนพ่นไปบนเขี้ยวสัตว์สีขาว ลําแสงอักขระ หมุนวนแปลกประหลาดบนนั้นที่ไหลวนออกมาหุ้มเขาเอาไว้ ส่งเขาห่าง ออกไปสามสิบจั้งทันที หลุดพ้นจากจิตสังหารอันถึงแก่ชีวิตจากดาบที่ สามนี้ของหลี่มู่
“หลี่มู่ นี่เป็นเจ้าที่บังคับข้า”
ใบหน้าของเขาฉายแววเหี้ยมโหด คํารามเอ่ยขึ้น “แต่เดิมข้าไม่คิด จะใช้วิธีนี้ แต่ว่า…ตอนนี้ดูแล้วต้องใช้ไพ่ตายใบนี้ล่วงหน้าเสียแล้ว”
เจียงชิงหรวนยกเขี้ยวสัตว์สีขาวขึ้นสูง
ประกายแสงสีขาวจางๆ ทางหนึ่งพุ่งออกมาจากเขี้ยวสัตว์ ยิงไปยัง หลี่มู่
หลี่มู่ตวัดดาบป้องกันตามสัญชาตญาณ
แต่ที่น่าแปลกคือ ประกายแสงสีขาวนี้มองเห็น แต่สัมผัสไม่ได้ คล้ายไร้ตัวตนประหนึ่งเส้นแสง ไม่ว่าจะเป็นจิตดาบ พลังวิญญาณ หรือ ปราณแท้ก็ไม่อาจสกัดได้ เพียงชั่วพริบตาก็ยิงมายังบริเวณคอของหลี่มู่
จากนั้นความรู้สึกแปลกๆ เหมือนถูกรัดคอก็เกิดขึ้นทันที
หลี่มู่ยังไม่ทันตั้งตัวกลับมาก็พลันรู้สึกถึงพลังแปลกประหลาดมาก กลุ่มหนึ่ง ไหลวนออกมาจากวัตถุหนึ่งใต้ลําคอ จากนั้นก็ลอยอวลทั่วร่าง อย่างรวดเร็ว ต่อมาพลังวิถียุทธ์ร่างแยกวัวดําในกายเขาก็ไหลออกไป อย่างรวดเร็ว เหมือนเทน�าเปล่าชามหนึ่งลงในทะเลทราย เพียงเสี้ยว พริบตาก็หายไปไร้ร่องรอย
เรื่องแปลกประหลาดไม่ใช่เพียงเท่านี้แค่นั้น
ไม่ใช่แค่พลังวิถียุทธ์ร่างแยกวัวดําที่หล่อเลี้ยงร่างกายเท่านั้น แม้แต่ปราณแท้จักรพรรดิเขียว จักรพรรดิแดงและจักรพรรดิเหลืองที่ห ลี่มู่ฝึกฝนออกมาเองทั้งสามธาตุก็เสมือนวัวโคลนจมสู่ทะเล หายไปไร้ ร่องรอยในชั่วพริบตา
พลังปราณแท้ทั้งหมดในกายหลี่มู่หายไปหมด
เขาก้มหน้าอย่างตกใจ
กลับเป็นวัตถุชิ้นหนึ่งส่องประกายแสงสีเหลืองจางๆ กะพริบ อักขระลึกลับน่าพิศวงที่แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่งอยู่ที่หน้าอก เป็น มันที่สะกดพลังปราณแท้ทั้งหมดในกายของเขา
หลี่มู่ขมวดคิ้ว หันไปมองยังหวางซืออวี่โดยสัญชาตญาณแวบหนึ่ง
หวางซืออวี่หน้าซีดขาวทันที
เป็นไปได้อย่างไร?
นางยากจะเชื่อ
เพราะของชิ้นนี้คือยันต์คุ้มครองที่นางสวมให้กับหลี่มู่ด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้เข้ามาในสุสานเทพ เป็นยันต์คุ้มครองที่ปาเสียน อ๋องบิดาบุญธรรมของนางขอมาจากเชื้อพระวงศ์ซ่งเหนือ
แต่ทําไมเขี้ยวสัตว์สีขาวของชวีอ๋องแห่งฉู่ใต้เจียงชิงหรวนถึง กระตุ้นยันต์คุ้มครองนี้ได้?
“ให้เจ้าสวมยันต์นี่ข้าต้องใช้เวลาไปมากจริงๆ แต่เดิม ยันต์นี้ต้อง รอให้เจ้าเติบโตอีกนิด เพื่อจะค่อยใช้ในตอนช่วงเวลาที่สําคัญกว่านี้
อย่างไรเสียข้าก็ชมชอบเจ้ามาก คิดจะลงทุนกับเจ้าไม่อยากฆ่าไก่เอาไข่ วันนี้ยังไม่อยากฆ่าเจ้า”
เจียงชิงหรวนหอบเล็กน้อย ร่ายคาถาเหนี่ยวนํา ‘ยันต์คุ้มครอง’ นี่ เห็นได้ชัดว่าผลาญพลังจิตวิญญาณของเขาไปไม่น้อย
ทว่า นี่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการฉายรอยยิ้มจอมปลอมแบบนั้นบน ใบหน้าเขาใหม่อีกครั้ง
“แต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะทําลายได้แม้แต่ ‘ครอบกระดูกขาว’ บีบ ให้ข้าใช้วิชานี้” สีหน้าของเขาสงบนิ่งลงอีกครั้ง ไม่ปกปิดรอยดูถูกและ เสียดสีของตนเลยแม้แต่น้อย พลางยิ้มพูดขึ้น “ในเมื่อเจ้าร้ายกาจถึง ขนาดนี้ เช่นนั้นข้าก็ได้แต่เคารพศักยภาพและพรสวรรค์ของเจ้า กระตุ้น ‘ยันต์ผนึกพลัง’ ออกมาล่วงหน้าเพื่อกําจัดเจ้า หึๆ ไม่มีพลังวิถี ยุทธ์ร่างแยกวัวดํา แม้แต่ปราณแท้ที่ตัวเองฝึกฝนอย่างยากลําบาก ภายในหนึ่งชั่วยามนี้ก็ไม่อาจโคจรได้ รอความตายอยู่ต่อหน้า รู้สึกสิ้น หวังมากใช่หรือไม่? ความรู้สึกที่ชัยชนะประหนึ่งเทพนิยายรออยู่ ตรงหน้ากลับล้มเหลวไม่เป็นท่าในช่วงเวลาสุดท้ายแบบนี้ รับไม่ได้ใช่ หรือไม่”
…………………………………………………