จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 504 ดูฉันประทับมาร
แน่นอนว่าคนที่บุกเข้ามาคือหลี่มู่และซูชั่ว
เห็นทหารรักษาการณ์ที่ตายอย่างอนาถในห้อง ความตื่นตกใจและ ความโกรธแค้นในใจของซูชั่วก็ยากจะบรรยาย
ฆ่าทหารชาวจีนในเขตประเทศจีน ผู้ก่อการร้ายพวกนี้เสียสติคุ้ม คลั่งจนถึงขั้นนี้แล้ว มันช่างสมควรฆ่าให้ตายเป็นพันเป็นหมื่นครั้งเสีย จริง
หลี่มู่ประคองทหารหนุ่มที่สลบไปเอาไว้ทันที
พลังจักรพรรดิเขียวแห่งบูรพาถ่ายทอดเข้าไปในร่างของทหาร หนุ่ม เริ่มรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา ไม่นานก็เห็น กล้ามเนื้อและ กระดูกที่ถูกฉีกทึ้งของทหารหนุ่มงอกออกมาด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วย ตาเปล่า เลือดและเนื้อหนังคืบคลานไปบนกระดูกขาว เกิดเป็นเนื้อและ ผิวใหม่
ไม่ถึงสิบอึดใจ บาดแผลส่วนใหญ่บนร่างของทหารหนุ่มก็ฟื้ นฟูโดย สมบูรณ์
ฉากนี้ทําเอาอาหรู่ฟูที่อยู่อีกด้านหนึ่งตื่นตะลึงเป็นที่สุด
นี่มันวิชาอะไรกัน?
วิชาแพทย์?
หรือเป็นพลังพิเศษ?
น่ากลัวจนถึงขั้นนี้ แม้แต่คนที่สองขาก้าวเข้าไปในอ้อมอกเทพแห่ง ความตายแล้วยังช่วยกลับมาได้?
“ย้าก ฉันคือทหารรักษาการณ์…ทหารรักษาการณ์ของประเทศจีน …” ทหารหนุ่มที่เพิ่งฟื้ นขึ้นมาลืมตา คํารามลั่นขึ้นมาทันที ดิ้นรนตั้งท่า ต่อสู้
“ทหาร ใจเย็น ใจเย็น” ซูชั่วรีบประคองเขาเอาไว้ เอ่ยเสียง อ่อนโยน “ปลอดภัยแล้ว ทหารปลอดภัยแล้ว ฉันคือพันตรีซูชั่วกองพล พิเศษหน่วยอวกาศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน รับคําสั่งให้มารับพวก คุณ…”
ทหารหนุ่มตื่นตัวขึ้นมาทันที
ในสมองของเขามีภาพนับไม่ถ้วนฉายขึ้น พลันนึกขึ้นได้ว่าตัวเอง ก่อนหน้านี้เหมือนจะเห็นสหายร่วมรบเข้ามา ร้อนใจขึ้นมาอีกครั้ง ร้อง ลั่น “รีบไป รีบไป…ศัตรูไม่ใช่คน เป็นปีศาจร้าย รีบหนี ผมคุ้มกันเอง…”
ฝ่ามืออบอุ่นฝ่ามือหนึ่งแตะมาที่ไหล่ของเขา เสียงที่ไม่เคยคุ้นแต่ก็ อบอุ่นดังขึ้นบอกว่า “ขอโทษที ผมมาช้าไป วางใจเถอะ ตอนนี้คุณ ปลอดภัยแล้ว ดูผมประทับมาร แก้แค้นให้เหล่าพี่น้อง”
นายทหารหนุ่มหันกลับมามองอย่างเหม่อลอย
เขาเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ที่อายุพอๆ กับเขา คิ้วกระบี่เข้มดกดํา ใน ดวงตาที่ทําให้จิตใจสงบและเชื่อมันฉายประกายราวดวงดาว
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ สงบลง
สายตาเหลือบไปเห็นซูชั่วที่พยุงตน เห็นอินทรธนูบนไหล่ของอีก ฝ่าย ก็เหยียดตัวตรงไปตามสัญชาติญาณ ทําความเคารพเอ่ยเสียงดัง “ทหารรักษาการณ์ระดับล่าง ป้อมปราการที่ 9527 เซียวตง ขอแสดง ความเคารพ สวัสดีครับ”
ซูชั่วทําความเคารพกลับ
ทหารหนุ่มพลันอึ้งตะลึง
เขาตั้งสติกลับมา มองมือของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็ มองร่างกายของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะลูบคลําใบหน้าของตน “ผม… หายแล้ว? นี่…ผม?” เขารู้สึกยากจะเชื่อ ร่างกายของที่ที่แถบจะถูก
เหยี่ยวตัวนั้นฉีกทึ้งจนแหลกเละกลับฟื้ นสภาพโดยสมบูรณ์…นี่มันเรื่อง อะไรกัน? การเปลี่ยนแปลงและเหตุการณ์ผลิกผันอันคาดไม่ถึงเป็นชุด การ เปลี่ยนแปลงของสภาวะจิตใจอย่างรวดเร็วทําให้เขาตกสู่ความตะลึงงัน หลี่มู่ถอนหายใจ ตบไหล่ของเขาเบาๆ สําหรับทหารหนุ่มที่ดื้อดึงคนนี้ ในใจของหลี่มู่เต็มไปด้วยความรู้สึก นับถือจากใจจริง กระทั่งว่านับถือมากยิ่งกว่าผู้แข็งแกร่งที่ชื่อเสียง สะท้านฟ้าในแผ่นดินใหญ่เสินโจวพวกนั้นด้วยซ�า หลายครั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับความตายและความหวาดกลัว การ ตัดสินใจที่จะรักษาเขตแดนเอาไว้ของบุคคลตัวเล็กๆ กระทั่งว่า ประทับใจคนยิ่งกว่าวีรบุรษพวกนั้นเสียอีก นี่ถึงจะเป็นวีรบุรุษที่แท้จริง หลี่มู่ถามตัวเอง หากตนไม่มีพลังอย่างในตอนนี้ เผชิญหน้ากับการ ทรมานโหดเหี้ยมจาก ‘อูฐทราย’ อาหรู่ฟู ต่อให้ถูกทรมานตายก็จะไม่มี วันร้องอ้อนวอน ไม่ยอมแพ้ เหมือนกับนายทหารหนุ่มเซียวตงหรือไม่? น่ากลัวว่าเพื่อที่จะได้ตายอย่างสบายก็คงจะยอมก้มหัวกระมัง “สหาย ดูผมแก้แค้นให้พวกคุณ”
หลี่มู่พูดแล้วก็กระดิกนิ้วไปยังอาหรู่ฟูที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตร
เสี้ยวขณะนี้ ‘อูฐทราย’ อาหรู่ฟูพลันพบว่า พลังกดดันน่า หวาดกลัวประหนึ่งน�าป่าสะสมรอทะลักแบบนั้นบนร่างของตนจู่ๆ พลัน หายไป เขากลับมาขยับได้อีกครั้งแล้ว
เขาพลิกมือยื่นไปข้างหลังโดยแทบจะไม่ต้องคิด ในมือก็มี ‘เดส เสิร์ท อีเกิ้ล’ สีขาวสองกระบอกฉบับที่เพิ่มความแข็งแกร่งทําขึ้นเป็น พิเศษ ไกปืนลั่น เสียงปังๆ สะเทือนเลื่อนลั่นก็ดังขึ้น งูเพลิงสองสายพุ่ง ออกมาจากปากกระบอกปืน
ผู้แข็งแกร่งบนโลก โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งนอกประเทศ นอกจาก จะฝึกฝนร่างกายวิชาสังหาร ก็ไม่มีทางทิ้งการใช้อาวุธ โดยเฉพาะผู้ แข็งแกร่งที่มีชาติกําเนิดอย่างอาหรู่ฟูเช่นนี้ ความชํานาญต่ออาวุธของ เขาทักษะแทบจะเข้าถึงขอบเขตบรรลุสูงสุดแล้ว
ยิงปืนในระยะใกล้เช่นนี้ ความแม่นยําในการยิงปืนของเขา ราวใช้ เครื่องยิงเลเซอร์วัด
อาหรู่ฟูยิงออกไปยี่สิบเอ็ดนัดทันที หนึ่งในนั้นมีเพียงนัดเดียวที่ยิง ไปยังหลี่มู่ อีกยี่สิบนัดที่เหลือต่างยิงไปยังคนที่เขาคิดว่าอ่อนแออย่างซู ชั่วและนายทหารน้อยเซียวตง คิดจะทําลายสมาธิหลี่มู่
นี่คือสิ่งที่สะท้อนออกมาให้เห็นในชั่วเสี้ยวพริบตาของสติปัญญา และการต่อสู้ของเขาหลายปีนี้
ทว่า สําหรับหลี่มู่ นี่เหมือนกับเด็กยิงปืนฉีดน�า ไม่มีความยากอะไร ร่างของเขาขยับเล็กน้อย ก็เห็นในห้องมีหลี่มู่ยี่สิบเอ็ดคนปรากฏตัวขึ้น ยื่นนิ้วดีดไปยังกระสุนที่พุ่งมาในเวลาเดียวกัน
กระสุนปืนยี่สิบเอ็ดนัดกระเด็นออกไปทั้งหมด
“อะไร?”
อาหรู่ฟูม่านตาหดเล็กทันที
เขามองเห็นอะไรน่ะ?
นี่ไม่ใช่พลังที่มนุษย์ควรจะมี
ต่อให้เป็นลัทธิผู้ก่อการร้ายที่บ้าคลั่งแค่ไหน ในใจของเขาก็เกิด ความหวาดกลัวอันยากจะควบคุมทันที ทั้งยังเกิดความคิดที่จะถอย
สําหรับเรื่องนี้ซูชั่วชินชาไม่รู้สึกแปลกอะไรเสียแล้ว แต่นายทหาร หนุ่มเซียวตงตาเบิกกว้าง ไม่อาจะเข้าใจภาพเบื้องหน้าที่ตนเห็นได้เลย และก็ตื่นเต้นจนตัวสั่นเช่นกัน เพราะเห็นโอกาสที่จะได้แก้แค้นให้ บรรดาสหายร่วมรบ
“มีฝีมืออะไรอีกก็ใช้ออกมาให้หมด ไม่อย่างนั้น ทีหลังจะไม่มี โอกาสแล้ว” หลี่มู่มองอาหรู่ฟูเหมือนมองเนื้อบนเขียง
เขามีใจจะแก้แค้นให้เหล่าทหารรักษาการณ์ ให้เซียวตงได้เห็นกับ ตา ได้ระบายความโกรธและเคียดแค้นในใจ ขณะเดียวกันก็เพื่อดู เส้นทางการพัฒนาของวิถียุทธและเอกลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งบนโลก จากนอกประเทศ ดังนั้นจึงไม่ได้ฆ่าผู้ก่อการร้ายผู้แข็งแกร่งชั้นสุดยอด คนนี้ลงทันที
“ไป๋อิ๋น ฉีกทึ้งมัน”
อาหรู่ฟูคํารามเสียงต�าทุ้มด้วยภาษาตะวันออกกลาง
นับจากที่หลี่มู่ทั้งสองคนเข้ามาในห้อง เหยี่ยวตาสีทองขนขาวราว ก้อนหิมะก็อยู่เงียบๆ บนหลังคามาโดยตลอด จากนิ่งสงบมาเคลื่อนไหว รวดเร็วปานสายอัสนีสีเงิน กรงเล็บแหลมจงอยปากคม มาพร้อมพลัง มหาศาล โจมตีไปยังหลี่มู่
“ระวัง…” ทหารน้อยเซียวตงอดร้องเตือนขึ้นไม่ได้ หลี่มู่ไม่ขยับแม้แต่น้อย แค่มองไปเท่านั้น จิตสังหารในดวงตาไหลวนประดุจวัตถุจริง “แกว๊ก!”
เหยี่ยวตาสีทองพลันส่งเสียงร้องอย่างหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
เหมือนว่าเสี้ยววินาทีนั้นเจอกับศัตรูที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลก ขยับปีกคิดจะบินกลับไป แต่กลับตกใจจนตัวกระตุกเกร็ง กระแทกลง กับพื้นดังบึ้ก ร้องครวญครางดิ้นรน
“อะไร? คนจีน ฉันจําแกเอาไว้แล้ว…ครั้งหน้า ฉันฆ่าแกแน่”
อาหรู่ฟูเห็นเหตุการณ์ ในใจตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง เขารู้ว่าเจอ กับศัตรูที่น่ากลัวเข้าแล้ว เขาทิ้งแผนที่จะต่อสู้ทุกอย่าง ร่างส่งเสียง ดังบึ้ม ที่ตรงนั้นระเบิดออก แล้วกลายเป็นกลุ่มสายดําดินจากไป
“เอ๋?”
หลี่มู่ตกใจ
ผู้ก่อการร้ายตะวันออกกลางคนนี้สําแดงวิชาดําดินแบบนี้ได้ด้วย?
ดูแล้วเหมือนจะเป็นวิชาดําดินในวิชาธาตุทั้งห้า
แต่ชนกลุ่มน้อยล้าหลัง ไร้อารยธรรมเช่นนี้กลับควบคุมวิชาดําดินที่ ถือเป็นวิชาของนักฝึกฝนคนจีนได้ นี่มันเรื่องอะไรกัน
แน่นอน อาหรู่ฟูคิดจะหนีนั่นฝันไปชัดๆ
สําแดงวิชาดําดินต่อหน้าหลี่มู่ที่ฝึกฝนวิชาคัมภีร์ห้าจักรพรรดิ อมตะนั่นเป็นการควงขวานหน้าบ้านหลู่ปันรําเพลงดาบต่อหน้ากวนอู ชัดๆ หลี่มู่ใจเพียงขยับ พลังจักรพรรดิดินแห่งศูนย์กลางก็ไหลวน ออกมาสกัดกั้นผืนดินรอบๆ เอาไว้
“อ๊าก…”
เสียงร้องหนึ่งดังขึ้น ก็เห็นร่างที่สลายไปแล้วของอาหรู่ฟูปรากฏขึ้น อีกครั้งกลางอากาศ ก่อนจะร่วงลงมา
หลี่มู่ไม่ให้โอกาสเขาอีกต่อไป ยื่นมืออกมา พลังมหาศาลกลุ่มหนึ่ง กลางอากาศดูดเขามา ฝ่ามือจับหัวของอาหรู่ฟู
“แก…แกเป็นใครกันแน่?”
เทพสังหารที่ชื่อเสียงสะท้านไปทั่วตะวันออกกลางคิดอยากดิ้นรน แต่กลับยากที่จะขยับฝ่ามือของหลี่มู่ได้
เขาคิดหัวแทบแตกก็คิดไม่ออกว่าทําไมในประเทศจีนถึงได้มียอด ฝีมือประดุจเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้วย และก่อนหน้าที่ตนลงมือก็ไม่ได้ข่าว อะไรแม้แต่น้อย นี่ก็คือพลังแฝงที่ที่คนจีนมักจะพูดบ่อยๆ รึ?
หลี่มู่ไม่ตอบ กระตุ้นเคล็ดวิชาลับ พลังจิตวิญญาณ โจมตีเข้าไปใน สมองของอาหรู่ฟู อ่านความทรงจําของเขา ค้นหาข้อมูลและความลับที่ เกี่ยวกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย
หลังจากเห็นภาพในป้อมปรากการแล้ว หลี่มู่ก็ตัดสินใจ จะไม่ ปล่อยเศษสวะพวกนี้ไปเด็ดขาด จะต้องสังหารจนไปถึงรังของพวกมัน ฆ่าพวกเศษเดนไม่คู่ควรจะเรียกว่าเป็นคนพวกนี้ให้สิ้นซาก ไม่ละเว้น แม้แต่คนเดียว ทําลายไม่ให้เหลือ
“อ๊าก แก…” อาหรู่ฟูดิ้นรน พอจะรู้เลาๆ แล้ว
ก็เห็นภาพแต่ละฉากๆ เหมือนฉายภาพเงา พุ่งออกมาออกมาจาก หัวของเขา ดูแล้วทั้งแปลกประหลาดทั้งน่ากลัว เนื้อหาในภาพเป็น ความทรงจําและเรื่องราวต่างๆ ที่เขากระทําตั้งแต่เด็กจนโต
ซูชั่วที่อยู่ข้างๆ หลังจากอึ้งตะลึงไปเล็กน้อยก็พลันเข้าใจ
ใบหน้าของเธอฉายรอยตื่นเต้น
ดีเหลือเกิน หากสามารถขุดความลับที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม ผู้ก่อการร้ายจากความทรงจําของอาหรู่ฟูได้ เช่นนั้นสําหรับการต่อต้าน กลุ่มก่อการร้ายของจีน เป็นข่าวดีสุดยอดแน่นอน
ส่วนทหารน้อยเซียวตงกลับยังค่อนข้างงงัน แต่ก็สามารถเดาได้ว่า นี่เป็นเรื่องที่ดี
หลังจากนั้นชั่วครู่ หลี่มู่ก็คลายมือ
ตุบ!
อาหรู่ฟูตัวอ่อนยวบไปบนพื้น มุมปากฟูมด้วยฟองน�าลาย จ้องหลี่มู่ เขม็ง “แก…แกเป็นปีศาจ แกมันไม่ใช่คน แก…”
“เทียบกับเรื่องที่พวกแกทํา ฉันถือว่าเป็นคนที่มีเมตตาที่สุดใน โลก”
หลี่มู่ก้มลงมองปีศาจตะวันออกกลาง ความผิดชั่วช้าในความทรง จําของอีกฝ่ายมากมายมหาศาล หลี่มู่แค่เลือกข้อมูลที่เกี่ยวกับ ผู้ก่อการร้ายมาบางส่วน ก็ทําให้เขาต้องตะลึงว่าบนโลกมีกลุ่มและ บุคคลที่บ้าคลั่งชั่วร้ายถึงขนาดนี้ด้วย
“เทพแท้จริงผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีทางปล่อยแกไปแน่” ความคุ้มคลั่งและ เคียดแค้นฉายอยู่เต็มใบหน้าของอาหรู่ฟู แววตาที่จ้องหลี่มู่เหี้ยมโหดชั่ว ร้ายประหนึ่งงูพิษ ประดุจแมงป่อง
หลี่มู่ตอบด้วยสีหน้าสบายๆ “วางใจเถอะ ฉันก็ไม่มีทางปลอยเทพ แท้จริงของพวกแกไปเหมือนกัน”
อาหรู่ฟูได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา เหมือนหมาบ้า
ในตาของเขาเต็มไปด้วยรอยดูถูกและเหยียดหยาม “ฮ่าๆ ไอ้คนจีน โง่ แกไม่เข้าใจเลย แล้วก็ไม่มีทางได้รู้ด้วยว่าเทพแท้จริงมีพลังที่ แข็งแกร่งและน่ากลัวขนาดไหน นั่นเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ ที่มาจากนอกโลก สามารถก้าวข้ามไปในจักรวาลได้ เป็นผู้ที่ทําได้ทุก อย่างอย่างแท้จริง ฮ่าๆ แกอาศัยอะไรมาเทียบกับเทพแท้จริง?”
หลี่มู่ตอบ “ก็อาศัยที่ฉันมาจากนอกโลก และก็เคยก้าวข้ามไปใน จักรวาลน่ะสิ”
“อะไรนะ?” รอยยิ้มของอาหรู่ฟูแข็งค้างไปในทันใด จ้องหลี่มู่อย่าง ตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก “แก…แกบอกว่า…เป็นไปไม่ได้ แกจะมาเยือนได้ อย่างไร เทพแท้จริงยัง…แกหลอกฉัน?”
ตอนนี้ จู่ๆ เขาก็พลันคํารามขึ้นมา ในดวงตาทั้งสองมีหมอกสีดํา สองกลุ่มไหลวนออกมาลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็น กระจกสีดําบานหนึ่ง ข้างในมีแสงหรี่ส่องกะพริบจากนั้นก็เหมือนวีดีโอ คอล ที่ฝั่ งตรงข้ามมีเงาคนปรากฏขึ้