จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 518 วิธีการโค่นล้ม
หลี่มู่ยืนอยู่บนท้องฟ้าด้านนอกนครเมืองแบกแดด
“น่าสนใจดีนี่”
เขามองลงมายังแบกแดดฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้าย พบว่าการจัด วางเมืองนี้ถูกแก้ไขใหม่แล้ว เป็นการแก้ไขอย่างจงใจของมนุษย์ ลักษณะเหมือนกับฮวงจุ้ย ที่กําลังกระตุ้นให้พลังวิญญาณฟ้าดินและ ปราณชีพจรแผ่นดินมารวมตัวกันอย่างผิดปกติ
เวลาเดียวกัน มีปราณปีศาจที่คนธรรมดาไม่สามารถสัมผัสได้ถึง ครอบคลุมเมืองแห่งนี้อยู่ หากตั้งสมาธิมองไปจะเห็นว่าการหมุนเป็น เกลียววนเวียนของปราณปีศาจนี้ ราวกับมังกรสีดําที่รุกล�าเข้ามาอยู่บน ฟากฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
ปราณปีศาจสีดําตัดขาดเมืองเมืองนี้ออกมา ด้วยพลังการมอง ของหลี่มู่ ก็ยังไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ที่เป็นรูปธรรมด้านล่างนั้น ได้
“เห็นได้ชัดว่ามีการวางค่ายกลสํานักชั่วร้ายเอาไว้ ดูท่าผู้บําเพ็ญ สํานักชั่วร้ายคนนั้นจะต้องหลบซ่อนอยู่ในเมืองนี้แน่”
หลี่มู่ร่ายในใจ ทําการวางค่ายกลสกัดกั้นเอาไว้ล้อมรอบเมือง แบกแดด เพื่อป้องกันไม่ให้คนหนีหลังจากเกิดศึกใหญ่ขึ้น
จากนั้นเขาได้บุกลงไปอย่างไม่เกรงกลัวใคร จิตดาบไหลเวียน ตัด เอาปราณปีศาจออกตรงๆ ร่างทั้งร่างประดุจดาวตก เขตแดนจิตดาบ ราวกับกระแสน�าคลุมทับลงไป ตรวจสอบทุกอย่างที่อยู่เบื้องล่าง
ตูม!
เขาร่อนลงไปยังลานกว้างแห่งหนึ่งในเมืองอย่างโจ่งแจ้ง
พื้นดินสั่นสะเทือน
พื้นผิวใต้ฝ่าเท้าแตกออกเป็นรอยแยกลามออกไปเหมือนกับใยแมง มุม
หลังจากที่พวกผู้ก่อการร้ายรอบๆ ตกตะลึง เมื่อได้สติกลับมาก็รีบ เปิดฉากยิงสนั่น
ชิ้งๆๆ
ดาบถลาลมระเบิดปราณดาบออก
เพียงพริบตาคนมากมายก็เหมือนกับเปลือกข้าวสาลีใต้คมดาบ อันรวดเร็ว ทยอยร่วงระเนระนาด
เลือดสดซ่านกระเซ็น
“ออกมาเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ในนี้”
เสียงของหลี่มู่ประดุจอัสนีสวรรค์ สั่นสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า แบกแดด
ภาษาที่เขาพูดคือภาษาจีน
ปังๆๆ
เสียงกวาดของปืนกลหนักดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ไฟแลบนับไม่ ถ้วนปะทุขึ้นรอบทิศ กระสุนที่พลังทําลายล้างน่ากลัวแต่ละนัดพุ่งตรง เข้าหาหลี่มู่ราวกับลมฝนพายุคลั่ง
ขณะเดียวกัน ยังมีปืนยิงจรวด อาวุธจากเลเซอร์ความร้อนนําทาง ต่างๆ ล้วนเล็งมาที่หลี่มู่และเปิดฉากถล่มในทันที
พลานุภาพของยุทโธปกรณ์การทหารในอารยธรรมทาง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีบนดาวโลก ได้แสดงแสนยานุภาพออกมาใน พริบตาเดียว
ในฐานะที่เป็นรังขององค์กรผู้ก่อการร้ายที่ใหญ่ที่สุดในดินแดน ตะวันออกกลาง ยุทโธปกรณ์ทางการทหารและพละกําลัง อาวุธความ ร้อนระดับสูง ไม่ได้ด้อยไปกว่าฐานที่มั่นทางการทหารของประเทศ
มหาอํานาจใดๆ เลย ผู้ก่อการร้ยที่ถืออาวุธเหล่านี้ก็ล้วนผ่านการฝึกฝน อย่างดี พลังการสู้รบแข็งแกร่ง และยิ่งมีพลังด้านศาสนามาผลักดัน จน พวกเขากลายเป็นทหารรบที่บ้าคลั่ง ไม่กลัวกระทั่งความตาย พลังการ รบของพวกเขายังแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าหน่วยรบพิเศษทางการทหารเสีย อีก
พูดได้ว่า เมื่อรู้ถึงฉากหลังที่หลี่มู่ไล่สังหารมาตลอดถทาง สํานัก เทพที่แท้จริงทั้งหมดได้ตัดสินใจที่จะสู้จนตัวตายที่เมืองแบกแดดนี้ ดังนั้นที่นี่จึงมีการรวมตัวของพลังการสู้รบที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศาสนา เทพที่แท้จริง
แต่ทว่า คนที่พวกเขาเจอคือหลี่มู่
ชายหนุ่มในชุดนักกีฬาสีขาว เหมือนมาเดินเล่นในคฤหาสน์อย่างไร อย่างนั้น เดินอยู่ท่ามกลางห่ากระสุนราวกับว่าเป็นคนที่ไม่มีตัวตนอยู่ จริง หัวกระสุนหรือจรวดขีปนาวุธเหล่านั้นพุ่งผ่านทะลุตัวของเขาไป ประดุจยิงเข้ากับอากาศธาตุ
และแสงดาบถลาลมที่ไหลเวียนอยู่ ก็ไม่มีวินาทีใดที่จะไม่เข้าตัด สะบั้นเอาชีวิต
“ไม่ออกมาหรือ? เช่นนั้นสังหารสาวกของเจ้าให้ตายทั้งหมดก่อน แล้วค่อยค้นรังของเจ้าก็แล้วกัน”
ในใจหลี่มู่ไม่ได้รีบร้อนเลยแม้เพียงน้อย
แสงดาบไหลเวียน ทุกที่ที่พุ่งผ่านจะมีผู้ก่อการร้ายล้มลง
เขาสุ่มดึงเอาคนที่น่าจะดูเหมือนหัวหน้าเข้ามาคนหนึ่ง อ่านเอา ความทรงจํา และรู้ได้ทันทีถึงข่าวสารที่ตนเองต้ต้องการ หมุนตัวเดิน ตรงไปยังฐานฝึก
อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดของผู้ก่อการร้ายที่กระหน�าเข้ามาราว กระแสน�าขึ้นหมายจะสังหารหลี่มู่ให้ตาย แต่ท้ายสุดก็ล้มเหลว
ความแตกต่างในนี้ ไม่ได้อยู่ที่การชดเชยอาวุธเทคโนโลยีและ จํานวนคนเข้ามา
เครื่องโดรนหลายลําบินเลียดต�าอยู่ด้านล่าง
ภาพการต่อสู้ถูกถ่ายทอดมายังฐานฝึก และส่งต่อถ่ายทอดสดไปยัง อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
“เขามาแล้ว”
มอแรนเปลี่ยนเป็นชุดเกราะเบาสีฟ้าทั้งตัวแล้ว ยิ่งขับเด่นเรือนร่าง อันงดงามมากขึ้น บุคลิกองอาจของสาวงามอันดับหนึ่งแห่งตะวันออก กลาง ทําเอาคนมากมายตกตะลึงในความงดงามนั้น
“เริ่มการถ่ายทอดสด ข้าจะทําให้ทั้งโลกได้รู้ ว่าเทพสังหาร ตะวันออกจะต้องดับสูญลงในแบกแดดวันนี้” นางมั่นใจเต็มร้อย
ทุกมุมเมืองของแบกแดด ล้วนติดตั้งอุปกรณ์จับภาพซ่อนเอาไว้ หมดแล้ว เวลาเดียวกันทั้งทั้งฐานฝึก ก็ติดตั้งการบันทึกภาพดาวเทียมไว้ ก่อนหน้าแล้ว ดาวเทียมดวงหนึ่งก็ได้อยู่กําหนดตําแหน่งอยู่บนอวกาศ แล้วเช่นกัน หลังจากนี้ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในฐานฝึกจะถูกถ่ายทอด ออกทั่วโลกพร้อมกัน
“การปกป้องเกียรติแห่งเทพที่แท้จริง จะเกิดขึ้นบัดนี้แล้ว”
นางยืนอยู่ที่ประตูใหญ่ฐานฝึก ในมือกําธงของศาสนาเอาไว้ พลัง เต็มเปี่ ยม
เพียงไม่นาน จากเสียงกรีดร้องตะโกนสังหารที่ดังเข้ามา แสงดาบ ของดาบถลาลมปรากฏขึ้นในระยะสายตา จากนั้นร่างของหลี่มู่ที่เหยียบ บนพื้นเลือดและความผิดบาปได้เดินเข้ามาทีละก้าว แต่ละก้าวได้ข้าม ผ่านระยะทางนับร้อยเมตร เข้ามาจนถึงด้านนอกของฐานฝึก
“มอแรน?”
พริบตาที่หลี่มู่มองเห็นหญิงสาวสวยชาวตะวันออกกลางที่มือกําธง ของศาสนาอยู่ ก็รู้ถึงตัวตนฐานะของอีกฝ่าย
ฟิ้ วๆๆ
ดาบถลาลมหนึ่งร้อยแปดเล่มพุ่งตรงเข้าหมายสังหารมอแรนราว กับลําแสง
“ไม่คุยกันก่อนหรือ?” เกราะโบราณบนตัวมอแรน ปล่อยแสง ประหลาดออกมาปกป้องนาง เวลาเดียวกันนางได้หยิบสิ่งหนึ่งออกมา เอ่ยขึ้นว่า “หรือว่าเจ้าไม่อยากจะพบกับเจ้าของของชิ้นนี้แล้ว?”
ดาบถลาลมแสงสีเงินหยุดกึกลงกะทันหัน ลอยอยู่ด้านหน้าปลาย จมูกของมอแรน
หลี่มู่ขมวดคิ้ว
ในมือของอีกฝ่ายถือตราหยกชิ้นหนึ่งอยู่ เขารู้จักมัน เป็นหนึ่งใน สมบัติที่หวางซืออวี่เตรียมเอาไว้ที่แผ่นดินใหญ่เสินโจวเพื่อมอบให้บิดา มารดาตน ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในประเทศ หลี่มู่ได้นําหยกชิ้นนี้มอบให้กับ สามีภรรยาหวางเจิ้นและไป๋หรูแล้ว ทําไมจึงมาปรากฏอยู่ในมือของ พวกผู้ก่อการร้ายกัน?
หรือว่าสามีภรรยาหวางเจิ้นถูกจับตัวมาที่นี่? เป็นไปไม่ได้น่า ตนเองมาถึงตะวันออกกลางได้ไม่นานเองนี่นา?
ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้ ไม่มีทางจะไหวตัวทันจนไปจับตัวสามีภรรยา หวางเจิ้นมาแน่
“เจ้าไปเอาของสิ่งนี้มาได้อย่างไร?” หลี่มู่ถามขึ้น
ในดวงตามอแรนเปล่งประกายอวดดีขึ้น เอ่ยว่า “ไม่ใช่คนอื่นส่งมา ให้ข้าแน่นอน เทพสังหารหลี่ ข้าเรียกเจาอย่างนี้ได้สินะ ถามอีกหนึ่งครั้ง เจ้าไม่อยากจะพบกับเจ้าของของหยกชิ้นนี้หรือ?”
ความอึมครึมบนใบหน้าหลี่มู่สลายหายไปทันที หัวเราะเอ่ยขึ้น “ไม่ ว่าเจ้าจะมีลูกไม้อะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าวิชาเต๋าแห่งทางช้างเผือก ทั้งหมด ก็เป็นแค่การเสกสรรปั้ นแต่งทั้งนั้น…ได้ พาขาไปเจอกับเจ้าของตรา หยกชิ้นนี้หน่อย”
เสียงยังไม่ทันขาด
แสงดาบสีเงินเต็มท้องฟ้า พริบตาได้รวมกันจนกลายเป็นลูกกลอน สีเงินขนาดเท่ากําปั้ นกลับมาอยู่ในมือหลี่มู่ ไหลวนเวียนอยู่ในมือของห ลี่มู่ราวกับดวงจันทร์อาทิตย์ดาราก็มิปาน แสงล�าค่าแสนยั่วยวน
ในดวงตาของมอแรนเปล่งประกายละโมบขึ้น นางคิดว่า วิชาดาบสังหารของหลี่มู่ล้วนมาจากลูกกลอนดาบนั่น “เชิญ”
มอแรนที่ถือธงศาสนาอยู่ นําทางหลี่มู่ตรงเข้าไปยังส่วนลึกของฐาน ฝึก
ครู่ต่อมา ส่วนกลางของฐานฝึก บนลานฝึนแห่งหนึ่งนางได้หยุด ฝีเท้าตนเองลงแล้วปรบมือ จากนั้นได้มียอดฝีมือผู้ก่อการร้ายในชุด เกราะโบราณสองคน คุมตัวสามีภรรยาหวางเจิ้นออกมาหยุดยืนที่ข้าง กายมอแรน
ทั้งสองคนโดนปิดปากเอาไว้ จ้องมองหลี่มู่ส่งเสียงอู้อี้ สีหน้าร้อน รนและดิ้นรนราวกับเป็นความหมายให้หลี่มู่หนีออกไป
“เทพสังหารหลี่ น่าจะรู้จักกับคนเหล่านี้ใช่ไหม?” มอแรนเอ่ยขึ้น
หลี่มู่มองดูครู่หนึ่ง ลูบๆ คางเอ่ยตอบว่า “พวกเจ้าไปจับพวกเขามา ได้อย่างไรกัน? นับจากเวลาแล้วไม่น่าจะทันนี่นา”
มอแรนหัวเราะร่าขึ้น เอ่ยต่อว่า “แน่นอนว่าเป็นคนจีนของพวกเจ้า นั่นล่ะ ที่ส่งตัวพวกเขามาที่นี่…เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ? พอเจ้าออกเดิน ไปข้างหน้า ด้านหลังก็มีเพื่อนร่วมชาติแอบทํากับเจ้าเช่นนี้ รู้สึกผิดหวัง บ้างไหม?”
“เรื่องเช่นนี้จะทําให้ข้าผิดหวังงั้นหรือ?” หลี่มู่สะบัดมือ แสงดาบ สองสายพุ่งเข้าบั่นศีรษะ ‘หวางเจิ้น’ ‘ไป๋หรู’ ที่อยู่ตรงหน้าทันที เอ่ยต่อ ว่า “ใช้ลูกไม้น่าขันนี่มาคุกคามข้า แม้ข้าจะยินยอมปกป้องเพื่อสนิท
มิตรสหายข้างกาย อาจจะดูเหมือนเป็นพวกที่มีนิสัยอ่อนแอ แต่ข้าก็ ไม่ได้โง่นะ พวกเจ้าเขลาเกินไปแล้ว”
เมื่อเห็นศพทั้งสองล้มลงบนพื้น ปราณหมอกสีดําไหลเวียน รูปร่าง ใบหน้าก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นศพของคนจากตะวันออก กลางสองศพแทน ตายไปอย่างไม่อาจจะตายได้อีก
มอแรนตกตะลึง “เจ้า…เจ้ามองออกได้อย่างไร?”
“ยังมีลูกไม้อะไรอีก?” หลี่มู่ขี้เกียจที่จะอธิบาย
อาจจะเป็นเพราะในสายตาคนอื่น วิชาเต๋าภาพมายาของศาสนา ชั่วร้ายนี้มันสุดยอดเอามากๆ ไม่มีจุดบกพร่องใดๆ เลย แต่เมื่อมาอยู่ต่อ หน้าหลี่มู่ที่มีวิชาเนตรสวรรค์อยู่ มันก็เหมือนกับวิชาแต่งหน้าบ้านนอก คุณภาพชั้นเลวนั่นล่ะ เขาแค่มองแวบเดียวก็รู้ถึงตัวตนจริงๆ แล้ว
สิ่งเดียวที่ทําให้เขาเกินคาดก็คือ ตราหยกชิ้นนั้นมันคือของจริง ไม่ใช่สิ่งที่ทําปลอมขึ้น
ผู้ก่อการร้ายเหล่านี้คิดจะใช้ประโยชน์จากตราหยก มาทําให้หลี่มู่ เชื่อว่าเป็น ‘หวางเจิ้น’ ‘ไป๋หรู’ ตัวจริง นี่ถือเป็นวิธีที่ใช้ได้ หลี่มู่ยิ่งเชื่อถึง ข้อมูลบางส่วนที่มอแรนเพิ่งพูดออกมาเมื่อครู่ น่ากลัวว่าในประเทศจะมี พวกทรยศปรากฏขึ้นจริงๆ มิหนําซ�ายังเป็นพวกที่มีฐานะตัวตนสูงอีก ด้วย
นี่ก็สามารถอธิบายได้ว่าทําไมในมือของ ‘อูฐทราย’ จึงมีแฟลช ไดรฟ์ที่มีข้อมูลความลับบอกถึงแผนที่ฐานยิงดาวเทียมจิ่วเฉวียนและ ฐานที่ตั้งได้
จนกระทั่งหลี่มู่ออกมา หนอนบ่อนไส้คนนั้นก็ยังหาตัวไม่เจอ
ดูท่าความสัมพันธ์ของหนอนบ่อนไส้นี้กับพวกกลุ่มผู้ก่อการร้าย จะดูลึกซึ้งเสียยิ่งกว่าสิ่งที่ซูชั่วจินตนาการเอาไว้ตอนแรกเสียอีก
มอแรนแยกเขี้ยวเอ่ยขึ้น “เทพสังหารหลี่มีวิธีบางอย่างจริงๆ ใน เมื่อถูกเจ้ามองออกแล้ว ก็ให้เจ้าได้เห็นของจริงก็แล้วกัน…เด็กๆ พาเข้า มา”
ระหว่างที่พูด ได้มีชาวจีนหกคนถูกพาตัวเข้ามา
“ท่านเทพหลี่”
“ผู้อาวุโส…”
คนเหล่านี้เมื่อเห็นหลี่มู่ ล้วนส่งเสียงตกใจ ฮึกเหิมและตื่นเต้น ออกมา
หลี่มู่รู้สึกเกินคาด
เขามองออก พวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือบู๊ลิ้มในประเทศที่ตายไปใน แดนเซียนฉินหลิ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าจะยังมีชีวิตกันอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังถูก พาตัวมายังแบกแดด หลี่มู่ใช้เนตรสวรรค์กวาดดู ทั้งหกคนนี้ล้วนเป็น ตัวตนจริง ไม่ใช่คนที่ใช้วิชาภาพมายาแปลงกายมา
ดูท่าตอนนั้นที่หวางเมิ่งหู่กําลังตื่นตกใจโมโหเดือดดาล คงจะไม่ได้ เห็นชั้นตอนแผนการร้ายนั่นทั้งหมด ในกลุ่มคนจากบู๊ลิ้มร้อยกว่าคนนั่น ไม่ได้ถูกสังหารตายทั้งหมดในแดนเซียน แต่มีบางส่วนที่ถูกจับเป็น ออกมายังแบกแดด
นี่ถือว่าเป็นข่าวดี
ถึงอย่างไรเพื่อนร่วมชาติก็ยังคงมีชีวิต
“พวกเจ้าสามารถนําตัวคนที่เข้าไปจากทางเข้าฉินหลิ่ง ออกมายัง ทางออกอื่นได้ด้วยหรือ?”
หลี่มู่มองไปยังมอแรนด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
เพราะการเข้าไปในแดนเซียนฉินหลิ่งจะต้องอาศัยหมอกมิติ และ ตอนที่ออกมาก็จะต้องอาศัยหมอกมิติเช่นกัน ในนั้นมีการโคจรของ กฎเกณฑ์ฟ้าดินอยู่ เข้าไปทางไหนก็ต้องออกจากทางนั้น ทางเข้าและ ทางออกล้วนต้องมาจากสถานที่เดียวกัน
ทว่าตอนนี้ พวกของมอแรน กลับนําตัวยอดฝีมือบู๊ลิ้มในประเทศที่ เข้าไปด้วยทางเข้าที่ต้นกําเนิดแม่น�าเจียหลินเขาฉินหลิ่ง ออกมาจาก ทางออกของอีรักได้ นั่นหมายความว่า พวกผู้ก่อการร้ายเหล่านี้มีวิธีการ บางอย่างที่ทําให้หลี่มู่ประหลาดใจได้นั่นเอง
และวิธีการเช่นนี้ ถือว่ามีความหมายในการโค่นล้มต่อการค้นหา และครอบครองแดนเซียนที่จะเปิดขึ้นคราวหลังอย่างไม่ต้องสงสัย
………………………………