จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 522 มหาขุมทรัพย์
มังกรแห่งบาปสีนิลมาถึงโลกใบนี้ได้สี่ปีแล้ว
เขาผ่านเข้ามาทางกระแสวนมิติในแดนเซียนเข้ามายังแดนเซียน
และมาต่อยังโลกมนุษย์
ส่วนที่สามารถมาเยือนโลกมนุษย์ได้สําเร็จ ก็เพราะกายเนื้อ
ธรรมชาติอันแข็งแกร่งของเขา ขณะที่ข้ามผ่านแดนเซียนได้ใช้ร่างกาย
อันแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวต่อต้านกับพลังทัณฑ์สวรรค์เข้ามายังดาว
โลกได้
แต่ว่าเพราะได้เผชิญเข้ากับทัณฑ์สวรรค์ ดังนั้นพลังทั้งร่างของเขา
จึงถูกบั่นทอนลงไปอย่างรุนแรง ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนต้องซ่อน
ตัวอย่างเสียมิได้เพื่อพักฟื้ นพลังปราณ และเนื่องจากพลังวิญญาณของ
ดาวโลกเบาบางเกินไป ความเร็วในการฟื้ นฟูจึงช้ามาก ทําให้ต้องคอย
มอมเมามนุษย์บางส่วน ใช้งานผู้ก่อการร้ายให้สังหารชีวิต ก่อสงคราม
ขึ้น จากนั้นจึงดูดกลืนเอาเลือดและความเคียดแค้นมาฟื้ นฟูร่างของ
ตนเอง
และนี่เป็นสาเหตุที่ทําให้หลี่มู่มองเห็นปราณปีศาจครอบคลุมพื้นที่
แห่งนี้ไว้เมื่อก่อนหน้ามังกรแห่งบาปตนนี้ ชัดเจนว่ารู้เรื่องราวของกรงขังนักโทษผู้ผิด
บาป แต่กลับยังพยายามเข้ามาเยือนยังดาวโลกที่พลังวิญญาณแห้ง
ขอดอย่างไม่สนอะไร นี่ทําให้หลี่มู่ไม่เข้าใจ
ทว่าลี่มู่ก็ยังรุ้สึกใจหายในภายหลัง
พลังที่แท้จริงของมังกรแห่งบาปตนนี้อยู่ในระดับสูงสุดของขั้น
นักรบ และอีกก้าวเดียวก็จะเข้าสู่ขั้นขุนพลแล้ว เป็นขั้นผู้แข็งแกร่งที่
แกร่งที่สุดเท่าที่หลี่มู่เคยเผชิญหน้ามา…แน่นอนว่ายกเว้นจากสัตว์
ประหลาดจักรพรรดิเซียนหมิงกวง หากไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บของ
มังกรแห่งบาปสีนิลนี้ยังไม่ฟื้ นคืน น่ากลัวว่าหลี่มู่ครั้งนี้คงจะต้องหนี
อย่างเตลิดเปิดเปิงเป็นแน่
แต่ว่าหลังจากสังหารมังกรแห่งบาปไปแล้ว ก็ได้อะไรมามากมาย
บนตัวของมังกรแห่งบาปตนนี้มีสมบัติอยู่เยอะมาก
เพียงแค่ผลึกเซียนไร้สีก็มีกว่าสองหมื่นก้อนแล้ว ใครทางช้างเผือก
ถือว่าเป็นสมบัติก้อนมหาศาลเลยทีเดียว
นอกเหนือจากนี้ ในแหวนของมังกรแห่งบาปยังมีอาวุธชุดเกราะอีก
มากมาย เกราะโบราณที่ ‘กล้วยไม้สีนิลแห่งตะวันออกกลาง’ สวมใส่
ก่อนหน้าก็คือหนึ่งในนั้น แน่นอนว่าเป็นเพียงเกราะระดับชั้นล่างสุด
มังกรแห่งบาปตนนี้เป็นพวกคิดอย่างถี่ถ้วน ต่อให้เป็นสาวกของตนเองก็ไม่คิดที่จะเผยความลับออกมามากนัก และไม่คิดที่จะฝากฝังทรัพย์
สมบัติใดๆ หลายปีมานี้ได้สถาปนาศาสนาเทพที่แท้จริงขึ้น มีสาวกนับ
ล้าน แต่ก็เป็นเพียงแค่เครื่องมือใช้ประโยชน์ของเขาเท่านั้น
แน่นอน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่หลี่มู่ให้ความสําคัญ
สิ่งที่หลี่มู่สนใจก็คือวิชาการบําเพ็ญบางส่วนของมังกรแห่งบาป ใน
นั้นมีพูดถึงแนวคิดหลังจากไปถึงขั้นสะพานเป็นตาย จะก้าวข้ามสู่ขั้น
ขุนพลได้อย่างไรด้วย สําหรับหลี่มู่นี่เป็นทางชี้สว่างขนาดมโหฬารอย่าง
ไม่ต้องสงสัย ยิ่งไปกว่นั้น บนตัวของมังกรแห่งบาปยังมีบันทึกลับเล่ม
หนึ่ง ด้านในจดบันทึกประสบการณ์สําคัญๆ ของเขา ที่สําคัญที่สุดก็คือ
ในนั้นมีการบันทึกแดนเซียนที่เขาเคยผ่านมาแล้วรวมไปถึงสิ่งที่ได้รับมา
อีกด้วย และยังมีการอนุมานบางส่วน เกี่ยวกับจะใช้ทรัพยากรในแดน
เซียนให้เป็นประโยชน์อย่างไร รวมไปถึงวิธีการทะลุย้อนกลับไปใน
กระแสวนมิติเพื่อกลับไปยังทางช้างเผือกอีกด้วย
นี่ถือเป็นมังกรแห่งบาปที่ชื่นชอบการจดบันทึกตนหนึ่งเลยทีเดียว
ความเคยชินที่ดี
มิน่าที่ก่อนหน้า เหล่าผู้ก่อการร้ายอย่างพวก ‘กล้วยไม้สีดําแห่ง
ทะเลทราย’ มอแรนถึงได้สามารถฝืนกฎเกณฑ์ของแดนเซียน แล้ว
จับกุมผู้รอดชีวิตชาวจีนทั้งหกคนอย่างพวกลั่วเสวียนซินออกมาจากแดนเซียนฉินหลิ่งมายังแบกแดดได้ นี่ล้วนเป็นประโยชน์จากวิธีที่มังกร
แห่งบาปวิจัยออกมา
หลี่มู่เก็บรักษาบันทึกลับเล่มนี้อย่างดี
เขาจะค่อยๆ ศึกษา
ส่วนทรัพย์และสมบัติอื่นๆ แน่นอนว่าเขาก็เก็บมาด้วย
ในตอนนี้ ทั่วทั้งแบกแดดได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว
เมืองนี้เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้าได้กลายเป็นรังหลักของศาสนาเทพที่
แท้จริงไปแล้ว จากการดําเนินการต่างๆ ภายในหนึ่งปีของพวกมอแรน
ทั้งบนและล่างทั้งหมดล้วนเป็นผู้ก่อการร้าย ทหารรับจ้างที่สังหารคนได้
อย่างเย็นชา และพวกองค์กรผู้ก่อการร้ายอื่นที่มาร่วมมือกับศาสนาเทพ
ที่แท้จริง รวมไปถึงองค์กรและขั้วอํานาจบางส่วนที่มาร่วมมือกับกลุ่ม
ผู้ก่อการร้าย ในนี้ไม่มีพวกชาวบ้านผู้บริสุทธิ์อยู่เลย ในเมืองทั้งหมดมี
การบาดเจ็บล้มตายอย่างหนัก แต่กลับไม่มีใครที่จะเห็นใจ
หลี่มู่เหยียบอยู่บนซากปรักหักพังจนมาถึงลานกว้างฐานฝึก
พวกของลั่วเสวียนซินชาวจีนบู๊ลิ้มทั้งหกคน ตอนนี้ล้วนท้องไส้กิ่ว
จิตใจหมดอาลัยตายอยาก แต่เมื่อท้ายสุดหลี่มู่ปรากฏตัวขึ้นก็ล้วนถอน
หายใจโล่งอกกันออกมา“ผู้อาวุโส ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“มังกรสีนิลตนนั้นตายแล้วหรือ?”
“ผู้อาวุโสต้องการการรักษาหรือไม่?”
หลายคนขึ้นมาด้านหน้า ล้วนเหงื่อออกฝ่ามือกันหมด โดยเฉพาะ
เมื่อตอนที่เห็นพลังและอภินิหารถล่มฟ้าทลายดินของมังกรแห่งบาปนั้น
ทําเอาพวกเขาสั่นสะเทือน นั่นไม่ใช่เขตแดนที่พลังของมนุษย์จะ
จินตนาการไปถึงเลย ในใจพวกเขาที่ภาคภูมิใจในพลังเทพบู๊ลิ้ม แต่พอ
มาอยู่ต่อหน้าพลังและอภินิหารเช่นนี้ กลับกลายเป็นแค่เศษเดนไป
“ไม่เป็นไร คิดหาวิธีติดต่อไปยังในประเทศก่อน แจ้งข่าวสาร
ออกไป”
หลี่มู่ปลดค่ายกลที่คุ้มครองพวกเขาอยู่ออก
คนทั้งหมดกุลีกุจอกันขึ้นมา
เด็กสาวสวยที่ชื่อลั่วเสวียนซินคนนั้น หลังจากที่ถูกเจ้าชายสโค
เกอร์เผ่าโลหิตใช้งาน ได้กลายเป็นครึ่งเผ่าโลหิตไปแล้ว แต่เนื่องจาก
การที่เจ้าชายสโตเกอร์ถูกหลี่มู่สังหาร ลั่วเสวียนซินอาการไม่กําเริบขึ้น
อีก ดูแล้วก็เหมือนกับมนุษย์ธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น อาจจะเป็นเพราะ
เจ้าชายเป็นรุ่นหลังของผีดูดเลือด สามารถหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บจากแสงอาทิตย์ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะเหตุผลบางอย่าง ลั่วเสวียนซิ
นจึงไม่กลัวแสงอาทิตย์
หลังจากหลี่มู่ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าพลังของปราณโลหิต
เผ่าโลหิตในร่างกายนาง ได้แพร่กระจายออกไปยังทุกส่วนของร่างกาย
กระทั่งเข้าไปผสมอยู่กับวิญญาณแล้ว หากคิดจะช่วยนางโดยการขจัด
พลังปราณโลหิตนี้ออก มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
เผ่าผีดูดเลือด น่ากลัวว่าที่มาน่าจะไม่ธรรมดานา ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่
อยู่บนโลกนี้เป็นแน่
“ผู้อาวุโส ข้าไม่สามารถกลับไปเป็นมนุษย์แท้ๆ ได้อีกแล้วใช่
หรือไม่?” ลั่วเสวียนซินเห็นสีหน้าของหลี่มู่ ในใจก็ดําดิ่ง เอ่ยต่อว่า
“ตอนนั้น ข้าอยู่ในอาการไม่ได้สติ และไม่รู้ว่าถูกเจ้าผีดูดเลือดนั่นกัด
เข้าให้แล้ว จนกระทั่งถูกกระตุ้นปราณโลหิตในร่างกายถึงจะตระหนัก
ขึ้นมาได้ แต่มันก็ไม่ทันที่จะเตือนท่านอาวุโสเสียแล้ว…
เด็กสาวรู้สึกเสียใจและละอายต่อเรื่องที่ตนเองตกอยู่ในสภาวะ
สูญเสียการควบคุม ถูกเจ้าชายสโตเกอร์ควบคุมให้เข้าลอบโจมตีหลี่มู่
ด้วย ‘กริชเทวทูต’ เป็นอย่างมาก
หลี่มู่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร การลอบโจมตีระดับนั้น
สําหรับข้าแล้วไม่ใช่อะไรที่น่าเป็นห่วงเลย”เขาหยิบ ‘กริชเทวทูต’ ออกมา เปลวไฟจักรพรรดิหล่อหลอมเอา
วิญญาณอาฆาตที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้จนหายไปอย่างหมดจด จากนั้น
หยิบยื่นอาวุธชิ้นนี้ไปให้กับลั่วเสวียนซิน เอ่ยว่า “อาวุธชิ้นนี้ เหมาะกับ
เจ้ามาก”
ลั่วเสวียนซินรับเอา ‘กริชเทวทูต’ มาด้วยสีหน้าลังเล เอ่ยขึ้นว่า
“ท่านอาวุโส ข้ากลายเป็นสัตว์ประหลาดตนหนึ่งไปแล้ว กลัวว่าจะไม่
สามารถควบคุมตนเองจนไปทําเรื่องเลวร้ายอีก…ท่านอาวุโสเพราะ
อะไรจึงไม่สังหารข้าเสีย ขจัดมารปกป้องมรรคา ข้าตอนนี้เป็นสัตว์
ประหลาดที่ชั่วร้ายไปแล้ว” ในใจนางยังคงไม่สามารถยอมรับความจริง
ที่ตนเองกลายเป็นผีดูดเลือดตนหนึ่งไปได้
“ฮ่าๆ นี่มันยุคไหนกันแล้ว เจ้าที่เป็นเด็กสาววัยรุ่นยังจะมาทําตัว
โบร�าโบราณอีก จําเอาไว้ จะดีเลวไม่ได้อยู่ที่ชะตากรรม จิตใจและ
สติปัญญาของเจ้าไม่ได้โดนผลกระทบอะไรจากปราณโลหิตนั่น ขอ
เพียงแค่ในใจรู้ว่าอะไรผิดถูก ทําเรื่องที่มีคุณธรรม เจ้าก็จะกลายเป็น
นักรบบนวิถีที่ถูกต้องแล้ว” ในมือของหลี่มู่ปรากฏไข่มุกโลหิตลอย
ขึ้นมาหยดหนึ่ง เอ่ยว่า “เลือดหยดนี้ แฝงไว้ด้วยพลังปราณโลหิตอันไม่
จํากัด เป็นสิ่งที่ข้ากลั่นออกมาจากในร่างของเจ้าชายสโตเกอร์ บริสุทธิ์
ถึงที่สุด สามารถช่วยเพิ่มพลังให้เจ้าได้”เขายกมือขึ้น กรอกเลือดหยดนั้นเข้าไปในร่างกายของลั่วเสวียน
ซิน
ลั่วเสวียนซินที่ยังตกตะลึงสงบไม่ลง หลี่มู่ได้เอ่ยต่อมาอีก “จากที่
ข้าสังเกต เผ่าโลหิตไม่ใช่สัตว์ประหลาด เป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นชนเผ่าที่
มีสติปัญญาเผ่าหนึ่งจากอวกาศทางช้างเผือก เรื่องครั้งนี้ ไม่แน่ว่า
อาจจะเป็นโอกาสครั้งหนึ่งของเจ้า วันนี้ข้าจะช่วยเป็นแรงเคียงบ่าเจ้า
สอนวิชาเจ้าสักหนึ่งชุด สามารถช่วยให้เจ้าสูบเอาพลังจากเลือดหยดนี้
ได้ และสามารถฝึกบําเพ็ญปราณโลหิตในร่างกายได้ด้วย”
วิชาชุดนี้ ก็คือสิ่งที่ได้มาจาก ‘บุตรศักดิ์สิทธิ์ทะเลโลหิต’ นั่นเอง
ทะเลโลหิตเป็นสํานักใหญ่จากเขตดาราเทพวีรชน วิชาบําเพ็ย
คล้ายคลึงกับเผ่าโลหิต หลี่มู่ก่อนหน้านี้ก็เคยอ่านผ่านๆ อยู่
เมื่อได้ยินหลี่มู่ที่เป็นเหมือนกับคนที่ตนชื่นชมดุจเทพเจ้าในดวงใจ
เอ่ยมาเช่นนี้ ลั่วเสวียนซินจึงได้สงบใจลงได้บ้าง
สิ่งที่นางกลัวที่สุดไม่ใช่ความตาย แต่เป็นการเปลี่ยนไปเป็นสัตว์
ประหลาด ไม่สามารถได้รับการยอมรับจากสังคมมนุษย์
หลังจากที่ถ่ายทอดวิชาทะเลโลหิตจาก ‘คัมภีร์ทะเลโลหิตฉือหาง
ตู้’ ให้แก่ลั่วเสวียนซินแล้ว หลี่มู่จึงเริ่มเก็บกวาดพื้นที่การสู้รบฐานใต้ดินศาสนาเทพที่แท้จริงที่กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว
ส่วนหนึ่งที่เผยให้เห็นออกมาจากรอยแยก เป็นเพียงแค่ส่วนยอดของ
ปลายน�าแข็งเท่านั้น หลังจากเข้าไปตามรอยแยก ด้านในมีพื้นที่ที่
แตกต่างกัน การทดลองโดยใช้คนเป็นๆ อย่างไร้ซึ่งจริยธรรม ลาน
ทดสอบอาวุธ ลานออกแบบเกราะ ห้องทรมาน ห้องพิชัยสงคราม ห้อง
วางแผน…
นอกจากสิ่งเหล่านี้ ยังมีมิติเก็บสมบัติขนาดใหญ่อยู่อีก
โกดังขนาดใหญ่มากมายที่อยู่ส่วนลึกสุดของฐานใต้ดิน ถึงจะเป็น
ทรัพย์สมบัติที่ศาสนาเทพที่แท้จริงสะสมมาเป็นระยะเวลาหลายปี
ในโกดังเหล่านี้ มีทองคํา ดอลล่าสหรัฐมากมาย และยังมี
ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุดของยุค วัตถุระเบิดนิวเคลียร์ต่างๆ
ที่สําคัญยิ่งกว่าก็คือ ยังมีวัตถุดิบการบําเพ็ญมากมายที่แย่งชิงมา
จากแดนเซียน เพราะว่าความสัมพันธ์ของมังกรแห่งบาปสีนิล ศาสนา
เทพที่แท้จริงจึงได้รับพวกยาสมุนไพร ผลต่างๆ มามากมาย พูดได้ว่ามี
ทุกอย่างที่เป็นของยุคสมัย ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพวกแร่ที่แฝงไปด้วยพลัง
วิญญาณฟ้าดินอีกหลายชนิด สามารถนํามาใช้กับการบําเพ็ญได้ พอมา
กองรวมกันก็กลายเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ เลยทีเดียวแม้ว่าหลี่มู่จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ แต่หลังจากที่เห็นทรัพย์
สมบัติกองพะเนินนี้ก็ยังอดตกตะลึงไม่ได้
“ถึงแม้จะเป็นแค่สมบัติธรรมดาไม่มีประโยชน์กับฉัน แต่สําหรับ
ประเทศชาติ สําหรับบู๊ลิ้มของจีนแล้วกลับเป็นสิ่งที่สําคัญอย่างมาก
สามารถยกระดับพลังของประเทศขึ้นได้ ชุบเลี้ยงยอดฝีมือระดับสูง
ออกมาได้”
หลี่มู่ไม่ลังเล ใช้ตราหยกเก็บของเม็ดหนึ่ง กวาดเอาสมบัติทั้งหมด
เข้าไปจนเกลี้ยง
จนกระทั่งหลี่มู่กวาดทั่วทั้งฐานใต้ดินและออกมาแล้ว พวกของลั่ว
เสวียนซินได้เดินเข้ามาหาพร้อมเอ่ยขึ้นอย่างยินดี “ท่านอาวุโส ติดต่อ
กับทางประเทศได้แล้ว ข้อมูลของทางนี้ก็ส่งไปแล้วเช่นกัน”
หลี่มู่พยักหน้า “ดีมาก”
เขานิ่งสงบ แต่กลับไม่รู้ว่าที่ฐานยิงดาวเทียมจิ่วเฉวียน คนมากมาย
ล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งจบแทบจะควบคุมตนเองไม่ได้
หลี่มู่เก็บเอาศพของมังกรแห่งบาปสีนิลกลับมาด้วย
ถึงอย่างไรก็เป็นเผ่ามังกร ทั่วทั้งตัวล้วนคือสมบัติ เก็บเอาไว้ให้ชิง
เฟิงค่อยๆ ค้นคว้ามาใช้งานก็แล้วกันเขตแดนจิตดาบของหลี่มู่กางออกมา ตรวจสอบและค้นหาทั่วทั้ง
แบกแดดอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ผู้ก่อการร้ายบางส่วนหลุดรอดออกไป
เพียงไม่นาน ก็ได้พบกับปลาที่ลอดหลุดจากแหจริงๆ….ชายสวม
ชุดคลุมดําถือไม้เท้าที่เคยปรากฏตัวขึ้นในกระจกสีดําของ ‘อูฐทราย’
เมื่อครั้งนั้นยังไม่ตาย กําลังรวมตัวเข้ากับน�ามันดิบในบ่อน�ามันหนึ่ง
ภายในเมือง ดูแล้วเขาก็น่าจะเป็น ‘น�ามันดิบ’ หนึ่งในสี่ยอดผู้แข็งแกร่ง
ผู้ก่อการร้ายนั่นเอง
แสงดาบสายหนึ่งแฉลบผ่าน จัดการสังหารคนผู้นี้ทันที
และใช้เวลาไปอีกระยะหนึ่ง เหล่าผู้ก่อการร้ายที่รอดชีวิตอยู่ในกรุง
แบกแดด ทั้งหมดได้ถูกหลี่มู่สังหารจนเรียบอย่างไม่มีการออมมือ
ไม่เพียงเท่านี้ หลี่มู่ยังไม่คิดที่จะกลับประเทศจีน
เขาจะเปิดฉากไล่ล้างสังหารเหล่าผู้ก่อการร้ายในแผ่นดิน
ตะวันออกกลางนี่ให้เรียบสะอาดเอี่ยม
ล้านชีวิตที่ชั่วร้าย เซ่นสังเวยแด่วิญญาณชาวจีน
ประโยคนี้ไม่ใช่เพียงแค่พูดลอยๆ เท่านั้น