จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 124 ปีศาจเจ้าเล่ห์[รีไรท์]
บทที่ 124 ปีศาจเจ้าเล่ห์[รีไรท์]
สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์สูง 3 เมตรยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของทุกคน แม้ว่าร่างนั้นจะถูกเงาบดบังเอาไว้แต่ทุกคนก็รู้สึกได้เลยว่า ‘คน’ คนนั้นกำลังมองพวกเขาอยู่ อากาศอันมืดมนและกลิ่นเหม็นเน่ากระจายไปทั่วพื้นที่ในทันที
ในเวลานี้มีเสียงของอากาศบิดเบี้ยวคล้ายจะแตก จงเหยียนและปรมาจารย์ที่เหลืออีกสองคน รวมถึงเฉินยวี่ถิง มาถึง ณ ลานต่อสู้แห่งนี้ด้วย
จงเหยียนและคนอื่น ๆ ก้าวไปข้างหน้าโค้งคำนับร่างยักษ์นั้น เธอพูดออกมา “ท่านผู้เฒ่าราชาปีศาจ ข้าจงเหยียนหนึ่งในผู้อาวุโส น้อมรับบัญชา”
“ข้าถูกรบกวนถึงบ้านของข้าเองแบบนี้เพราะพวกแกมันไร้ความสามารถ” เสียงที่เหมือนกับเหล็กเสียดสีกันดังขึ้น ร่างยักษ์สามารถพูดคุยตอบโต้ได้เหมือนมนุษย์!
แต่อย่างไรก็ตามคนที่สูงกว่า 3 เมตร นี้ภายในจิตใจของเขานั้นเป็นดั่งปีศาจร้าย
จงเหยียนและคนอื่น ๆ ตัวสั่นด้วยความตกใจและก้มลงกับพื้น “ข้าขออ้อนวอนต่อท่านผู้เฒ่าราชาปีศาจ สิ่งที่สำนักราชาปีศาจเจอในวันนี้เหมือนกับภัยพิบัติ” เธอชี้ไปที่ฉู่ชวิ๋นและพูดอย่างร้ายกาจ “เหล่าแสงยานุศิษย์ของพวกเราถูกฆ่าฟันราวกับผักปลา ขั้นปรมาจารย์กว่า 5 ใน 8 คนของเราถูกสังหาร แม้แต่ท่านผู้อาวุโสฉินจื้อผู้ที่รับผิดชอบเรื่องการดูแลและหาเครื่องสังเวยให้กับท่านก็ต้องมาจบชีวิตลง การตายของพวกเราไม่มีค่าอะไรเลย พวกเราไม่อาจต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย หนทางสุดท้ายของเขาคือปลุกท่านขึ้นมา”
เมื่อผู้เฒ่าราชาปีศาจได้ยินแบบนั้น ร่างที่อยู่ในเงามืดก็แสดงความโศกเศร้าออกมา มีเสียงครวญครางดังออกมาแว่ว ๆ
“แก เข้ามาฆ่าลูกสมุนของข้าทำไม?” ผู้เฒ่าราชาปีศาจที่อยู่ในเงามืดก็กวาดสายตาสีเหลืองเหมือนกับหลอดไฟมายังฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นเพ่งสายตา เขาไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา มุมปากของเขายกขึ้นอย่างไม่แยแสและพูดขึ้นมาว่า “ฉันมาลงทัณฑ์พวกแก และช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ จากพวกหุ่นเชิดไร้ค่าของแก!”
“คี้ ๆๆ …..!”
ผู้เฒ่าราชาปีศาจหัวเราะแปลก ๆ ออกมา
แต่แล้วในเวลาต่อมา ลมปราณสีดำสองสายก็พุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นเหมือนงูหวังที่จะโจมตี!
ตู้ม!
ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้นและสะบัดเส้นไหมวิญญาณออกไปเหมือนกับโซ่ ปัดป้องพลังงานสีดำนั้นทิ้งไป
ฮึ่ม!
ลมปราณสีดำนั้นลอยอยู่รอบ ๆ ตัวของผู้เฒ่าราชาปีศาจ เสียงร้องที่เหมือนกับเสียงหอนของหมาป่าดังจนแสบแก้วหู มังกรเขียวและคนอื่น ๆ ยังคงรับมือกับเสียงนี้ได้ แต่ทหารและเด็ก ๆ ต่างแสดงสีหน้าเจ็บปวดให้เห็นอย่างชัดเจน
“ดี….แกฆ่าคนของสำนักข้า ทำลายสิ่งที่ข้าบุกเบิกมาตั้งแต่ช้านาน ระวังชีวิตขอแกเอาไว้ให้ดี ข้าจะดูดโลหิตของเจ้าไม่ให้เหลือแม้แต่หยดเดียว ให้มาเป็นวิญญาณสังเวยให้กับข้าและผู้บริสุทธิ์ของสำนักราชาปีศาจแห่งนี้!!”
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเปล่งแสงออกมา แสงนั้นเย็นเหมือนกับน้ำแข็ง ก่อนที่จะพูดว่า “บริสุทธิ์? สังเวยวิญญาณ? คนอย่างพวกแกมีสิทธิ์ที่จะถูกเรียกแบบนั้นด้วยหรือไง?”
“มังกรเขียว ฉันจะลงมือแล้ว นายพาเด็ก ๆ ฝ่าออกไปเลย”
เสียงของฉู่ชวิ๋นดังก้องอยู่ในหัวของมังกรเขียว เขาตกใจจนแทบจะกระโดดเหยง ยังดีที่เขาเองก็เป็นถึงขั้นปรมาจารย์เช่นกัน เขาพยักหน้าโดยยากจะสังเกต
“เข้ามาเลย!”
เสียงตะโกนของฉู่ชวิ๋นที่ดังราวสายฟ้าทำให้จงเหยียนและคนอื่น ๆ รู้สึกเวียนหัว ซึ่งจังหวะนั้นเองเขาก็บุกเข้ามาแล้ว!
“จะมากเกินไปแล้ว!”
ผู้เฒ่าราชาปีศาจโมโหมาก ลมปราณสีดำมากมายบินออกมาจากร่างของเขาเหมือนงูพุ่งขึ้นไปบนฟ้าและเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นทันที ต้นไม้และใบหญ้าที่ถูกเงาทมิฬนี้วิ่งผ่าน ทิ้งไว้แค่รอยของเหลวสีเหลืองกัดกร่อนพื้นดินและส่งกลิ่นเหม็นฉุน
ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นเย็นชาทันที ลมปราณนั้นต้องเต็มไปด้วยพิษชนิดรุนแรงแน่นอน
ตู้ม!
การต่อยอย่างต่อเนื่องหลายครั้งได้ทำให้ลมปราณงูดำสั่นสะเทือน
ตอนนี้มังกรเขียวนำทางให้คนอื่น ๆ หลบหนีออกไป
“อย่าคิดที่จะหนีไปไหน!” ผู้เฒ่าราชาปีศาจคำรามออกมา ลมปราณสีดำของเขากลายเป็นมือขนาดยักษ์ที่ปกคลุมท้องฟ้า พุ่งเข้าไปหามังกรเขียวและคนอื่น ๆ!
“วิญญาณเดรัจฉานอย่างแกยังกล้าที่จะแข็งกร้าวอีกนะ!”
เมื่อฉู่ชวิ๋นพูดจบ พลังลมปราณก็สั่นสะท้านไปทั่ว ร่างของฉู่ชวิ๋นทั้งร่างก็เปล่งแสงออกมา เส้นไหมเข้ามาพันมือของเขาเอาไว้แน่นเหมือนกับสนับมือ
กลางอากาศเริ่มปั่นป่วน อากาศบิดเบี้ยวและมีนิ้วมือขนาดใหญ่ยาว 10 เมตรปรากฏขึ้น พลังลมปราณของเขาพลุ่งพล่านออกมา
“วิชาดัชนีสังหาร – กระบวนท่าหนึ่งดัชนีสังหารสรรพสิ่ง”
นิ้วขนาดใหญ่ยักษ์ตกลงมาจากท้องฟ้า สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
ตู้ม!
ลมปราณสีดำของผู้เฒ่าราชาปีศาจระเบิดพร้อมส่งเสียงแสบหูและโลกก็สั่นสะเทือน ทำให้มังกรเขียวและคนอื่น ๆ หน้าซีด ทหารและเด็กต่างก็ไอออกมาเป็นเลือด
“ราชาปีศาจ แกควรยอมแพ้ได้แล้ว! “
ฉู่ชวิ๋นโกรธมาก ลมปราณไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง ผิวหนังเปล่งประกาย กระดูกอ่อนนุ่มราวกับเส้นไหม หัวใจเต้นดังราวกับกลองชุด หมัดที่กำไว้แน่นซัดออกไปยังราชาปีศาจไม่หยุด
“ฆ่าพวกมันให้หมด!” ผู้เฒ่าราชาปีศาจออกคำสั่งพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น
“เข้ามา!”
ฉู่ชวิ๋นพุ่งเข้าใส่อย่างไม่เกรงกลัว หมัดของเขาเปล่งประกายพร้อมกับเสียงฉีกขาดของอากาศ
ผู้เฒ่าราชาปีศาจไม่ได้ตื่นตัวอะไรกับการโจมตีเลยแม้แต่น้อย แขนสีดำสนิทของผู้เฒ่าราชาปีศาจนั้นใหญ่กว่าแขนของคนทั่วไปถึง 2 เท่า เมื่อหมัดของฉู่ชวิ๋นปะทะกับร่างของผู้เฒ่าราชาปีศาจ ร่างสูงใหญ่นั้นก็กลายเป็นลมปราณแยกตัวออกไปปกคลุมร่างของฉู่ชวิ๋น
แกร๊ง!
แต่ไม่ใช่ว่าฉู่ชวิ๋นจะโจมตีไม่โดนซะทีเดียว เสียงโลหะปะทะกันดังจนแสบแก้วหู พลังลมปราณของทั้งสองกระจายออกไปทำลายภูเขาได้ทั้งลูก เวทีการต่อสู้ของพวกเขาจากป่ารกร้างแทบจะกลายเป็นพื้นที่โล่ง ต้นไม้รอบ ๆ โดนเคราะห์ร้ายถล่มไปตาม ๆ กัน
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นยังคงเรืองรอง ภายในลมปราณเขาไล่บี้ราชาปีศาจอย่างสุดความสามารถ ทุกย่างก้าวของทั้งสองถึงกับทำให้พื้นดินแยกออกจากกัน!
ตู้ม…!!
เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ฉู่ชวิ๋นปล่อยหมัดออกไปนับร้อย หมัดที่รุนแรงและน่ากลัวยังคงแผ่กระจายออกไปราวกับใบมีดที่แหลมคมและก้อนหินและต้นไม้โดยรอบทั้งหมดถูกทำลาย
…..
….
จงเหยียนและคนอื่น ๆ ของสำนักราชาปีศาจก็ได้รับคำสั่งให้จัดการกับมังกรเขียวและพรรคพวก
ฉั่วะ!
ทหารคนหนึ่งที่วิ่งช้าถูกคมดาบแทงทะลุอก จนเด็กที่เขาอุ้มเอาไว้ก็ตายไปด้วย
ตู้ม!
ทหารผู้เคราะห์ร้ายอีกคนถูกไล่ตามทัน โดนฝ่ามือเข้าไปทำลายอวัยวะภายในจนแหลกหมด
ทหารธรรมดา ๆ ไม่สามารถต่อสู้กับจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ได้เลย พวกเขาเหมือนลูกแกะที่ถูกเชือด
ไม่นานนักทหารหลายสิบคนก็ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก
ตู้ม!
ทหารคนหนึ่งยิงปืนใส่จงเหยียน เธอใช้มีดสั้นสีเงินอย่างช่ำชอง มือไม้ไม่สั่นไหว สังหารเหยื่ออย่างเลือดเย็น ทันทีที่ได้ยินเสียงปืน มีดของเธอก็สามารถผ่ากระสุนที่พุ่งเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
“รีบเอาตัวคนเจ็บออกไป ฉันจะรับมือต่อเอง!”
ดวงตาของมังกรเขียวเป็นสีแดงก่ำ เขาต้องการที่จะซัดหน้ายัยผู้หญิงคนนี้ให้ลงไปนอนกองพื้นให้ได้
ทั้งสองต่างเป็นขั้นปรมาจารย์ระดับ 1 พลังในการต่อสู้ของมังกรเขียวนั้นมากกว่าจงเหยียนเห็น ๆ แต่มังกรเขียวก็ต้องคอยดูแลเหล่าผู้รอดชีวิตไปด้วยในเวลาเดียวกัน ทำให้เขาเสียสมาธิ
และก็ยังมีปรมาจารย์ที่เหลืออีกสองคนคอยไล่ฆ่าทั้งทหารและเด็ก ๆ ที่กำลังหนีตายอยู่อีกด้วย
นักรบเสือคำรามพร้อมกับตะปบจอมยุทธ์คนหนึ่งตายไป เขาเป็นเพียงขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 9 มันเป็นเรื่องยากมากที่จะฆ่าขั้นปรมาจารย์ได้ แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างหนักแต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่งในพริบตา
“ใครกล้ามาต่อกรกับฉันกัน!?” จอมยุทธ์ที่ยังเหลือรอดพูดขึ้นมาอย่างหยิ่งผยอง
“ฉันไง!” ลิงทองคำกับโดดลงมาจากที่สูงพร้อมกับตะโกนออกมา กรงเล็บของลิงสามารถปลิดชีพจอมยุทธ์ที่ไม่ระวังตัวได้อย่างง่ายดาย
ตู้ม!
ลิงทองคำนั้นอยู่ในขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 8 ด้วยซ้ำไป แต่จอมยุทธ์คนนั้นก็ถูกทำร้ายจนอาเจียนเป็นเลือดด้วยการขยับเพียงครั้งเดียวของลิงทองคำ
….
ฉู่ชวิ๋นและผู้เฒ่าราชาปีศาจยังคงปะทะกันอยู่ ด้วยทุกหนทางที่เขาจะสามารถหลอกล่ออีกฝ่ายได้ พวกเขาพยายามชิงที่สูงสลับกันไปสลับกันมา ขณะที่ฉู่ชวิ๋น กำลังเป็นฝ่ายถอย เขาก็รีบกำหมัดชี้ขึ้นฟ้าและแล้วนิ้วมือก็ร่วงลงมาจากฟ้า
“วิชาเซียน — สองนิ้วสยบภูผาธารา!”
ตู้ม!
มีเสียงคำรามกึกก้องทั่วท้องฟ้า นิ้วปริศนาขนาดใหญ่เท่ากับเสาหินขนาดยักษ์ตกลงมาตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นดิน ด้วยแรงกดดันของฉู่ชวิ๋นทำให้ผู้เฒ่าราชาปีศาจได้แต่ต้องตั้งรับกับการโจมตีที่มีพลังทำลายล้างสูงขนาดนี้เอาไว้ให้ได้
ผู้เฒ่าราชาปีศาจส่งเสียงไม่พอใจออกมา ลมปราณสีดำกลุ่มใหญ่ยักษ์ก่อตัวขึ้น เป็นรูปร่างคล้ายมือสีดำขนาดใหญ่ คอยรับนิ้วที่เหมือนกับเสาหินอันนั้นเอาไว้
ฉู่ชวิ๋นรีบหันไปดูการเปลี่ยนแปลงของฝ่ายตรงข้ามทันทีก่อนที่จะเรียกเส้นไหมวิญญาณกลับมาอย่างเงียบ ๆ
จอมยุทธ์คนหนึ่งที่กำลังสู้กับลิงทองคำหัวเราะอย่างเย่อหยิ่งและพูดออกมาว่า “ไหนใครอยากลองดีอีก?”
ชายร่างอ้วนตัวใหญ่กำลังจะพูดขึ้นมา แต่อะไรบางอย่างทำให้เขาหยุดพูด พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง
จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์รู้สึกผิดคาดไปชั่วขณะ ความรู้สึกอันตรายกัดกินหัวใจของเขาทันที เขารู้สึกเหมือนมีอะไรตรึงคอกับขาของเขาเอาไว้แน่น ก่อนที่มันจะยกเขาขึ้นไปบนฟ้า
“ชะ…ช่วยด้วย!” ชายคนนั้นร้องอย่างโหยหวน
ฉั่วะ!!
ทันทีที่สิ้นเสียง ทั้งหัว แขน ขา ลำตัวของจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์คนนี้ก็ถูกแยกออกจากกันและตกลงมาจากฟ้า
“หาเรื่องตาย”
ผู้เฒ่าราชาปีศาจที่รับมือกับเสาหินยักษ์อย่างง่าย ๆ ก็คำรามออกมาเมื่อเห็นจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ที่เป็นลูกน้องเขาถูกแยกร่างเป็นส่วน ๆ ก่อนที่เขาจะสลายร่างกลับกลายเป็นลมปราณพร้อมกับแยกตัวออกไป
ฉู่ชวิ๋นเคลื่อนไหวทันที พื้นฐานการฝึกฝนของผู้เฒ่าราชาปีศาจสูงเกินไป ฉู่ชวิ๋นพยายามจะยกแขนขวาขึ้นเพื่อยับยั้งการโจมตีนั้นแต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว
ตู้ม!
ร่างของฉู่ชวิ๋นลอยออกไปกระแทกกับสันเขาด้านหลังทันที หินที่ชนกับร่างของฉู่ชวิ๋นแตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย
“ผู้อาวุโส…!” กระต่ายหยกตะโกนขึ้นอย่างตกใจ
มังกรเขียวและคนอื่น ๆ ก็ตกใจมากเช่นกัน ผู้ไร้เทียมทานระดับฉู่ชวิ๋นยังกระเด็นไปไกล ผู้เฒ่าราชาปีศาจนี่แข็งแกร่งเกินไป
“วันนี้ใครก็อย่าหวังจะได้หนีไปไหนทั้งนั้น อาหารอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว!” ผู้เฒ่าราชาปีศาจคำรามขึ้น เด็ก ๆ พวกนั้นเป็นอาหารชั้นดีของเขา
ตู้ม!
หุบเขาที่อยู่ห่างออกไประเบิดทันที ลำแสงกระบี่พุ่งออกมาสว่างไสวไปทั่วหุบเขาและอากาศถูกจุดไฟด้วยเสียงระเบิด และตรงไปที่ผู้เฒ่าราชาปีศาจ
แกร๊ง!
เสียงโลหะแตกร้าว ผู้เฒ่าราชาปีศาจกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เพราะถูกตัดนิ้วออกไปด้วยลำแสงกระบี่ เมื่อนิ้วที่กระเด็นตกถึงพื้น พื้นบริเวณนั้นก็เหี่ยวเฉาลงไปในทันที พืชที่อยู่ตรงนั้นแห้งตายไปซะดื้อ ๆ
“แก!”
ฉู่ชวิ๋นคำรามออกมา เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา ดวงตานั้นยังคงเยือกเย็นไม่เปลี่ยนแปลงพุ่งเข้ามาพร้อมกับกระบี่ไม้ในมือ
ฮึ่ม!
ลมปราณอันสง่างามถูกถ่ายเทไปยังกระบี่ไม้และเปล่งแสงสีทองออกมาทันที แม้แต่ฉู่ชวิ๋นเองร่างกายก็ถูกชุบด้วยทอง หน้าตาเคร่งขรึมราวกับเทพสงครามทองคำ
พรึบ!
ฉู่ชวิ๋นก้าวผ่านระยะห่างระหว่างเขากับผู้เฒ่าราชาปีศาจภายในพริบตา กวัดแกว่งกระบี่ไปมาจนเกิดลำแสงกระบี่มากมายเรียงตัวกันเป็นแนวนอนและแนวตั้ง ส่องแสงสีทองแพรวพราวเฉือนเข้าหาผู้เฒ่าราชาปีศาจ
“ไอ้ตุ๊กตาไร้ค่า ฉันจะดูดเลือดของแกให้ไม่เหลือแม้แต่กระดูกเลย!”
ผู้เฒ่าราชาปีศาจโกรธและเกลียดลำแสงสีทองนี้มาก พลังธาตุแสงสว่างเป็นปรปักษ์กับพลังแห่งความมืดของเขา นั่นทำให้เขาเสียเปรียบในการต่อสู้อย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานกระดูกสีดำก็ลอยออกมาจากลมปราณสีดำ ผู้เฒ่าราชาปีศาจคำรามพร้อมด้วยกลิ่นอายที่น่ากลัว ลำแสงกระบี่เหล่านี้มีพลังมากจนมีรอยดาบมากกว่าหนึ่งโหลบนร่างกายของเขา
ฉู่ชวิ๋นเคลื่อนไหวกระบี่ไม้ที่เป็นอาวุธอมตะ พลังของกระบี่ที่กระตุ้นโดยลมปราณนั้นเพียงพอที่จะทำให้ทองคำ หินและเหล็กถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย แต่มันสามารถฟันผู้เฒ่าราชาปีศาจและตัดกระดูกออกได้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น นั่นแสดงว่าพื้นฐานการฝึกฝนและร่างกายของเขาน่ากลัวมาก
ในเวลาเดียวกัน มังกรเขียวและคนอื่น ๆ ก็หาโอกาสที่จะฝ่าวงล้อมออกไปได้ แม้ว่าจะยังมีปรมาจารย์อีกสองคนไล่ตามมา แต่มังกรเขียวรับมือกับจงเหยียนได้ และอีกคนก็ถูกนักรบเสือกับคนอื่น ๆ หยุดไว้ ทหารที่เหลืออยู่ก็พาคนเจ็บและเด็ก ๆ หนีออกไปทางช่องแคบบนยอดเขาแห่งนี้
ตู้ม!
ตอนนี้ร่างของนักรบเสือนั้นเต็มไปด้วยเลือด และตกลงจากที่สูง จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์นั้นแตกต่างออกไปจากจอมยุทธ์ธรรมดา ๆ มากนัก
จอมยุทธ์คนนี้กำลังเดือด เขาถูกคนที่พลังต่ำต้อยเช่นนี้ยื้อไว้งั้นเหรอ? ตอนนี้เขากำลังเดินเข้ามาใกล้ นักรบเสือที่หมดแรงต่อสู้อีกต่อไปก็กำลังจะถูกสังหาร
“เจ้าเสือ….” มังกรเขียวพยายามเข้าไปช่วยแต่ถูกจงเหยียนขัดขวางเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้กระต่ายหยกที่อยู่ใกล้กับนักรบเสือมากที่สุดกำลังเผชิญหน้ากับขั้นปรมาจารย์โดยถือสร้อยข้อมือหยกไว้ในมือ
“รีบถอยไป เร็ว!” มังกรเขียวตะโกนอย่างร้อนรน
กระต่ายหยกเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มจักรราศีแล้วก็ว่าได้
“ถ…ถอยไป” นักรบเสือที่กำลังนอนหมดแรงก็ร้องออกมา
ดวงตาของกระต่ายหยกเปล่งประกายราวกับอัญมณี เธอแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา จิตใจที่บริสุทธิ์และอ่อนโยนของเธอทนดูพวกทหารและเด็ก ๆ ล้มตายไปมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว
“ไปเลย!”
กำไลหยกพุ่งเข้าไปหาจอมยุทธ์คนนั้นทันที
ขั้นปรมาจารย์ที่เห็นการโจมตีนั้นพุ่งเข้าหาตนก็หัวเราะอย่างดูถูก เขาตั้งท่าพร้อมที่จะต่อยกำไลนั้นให้แหลกสลาย แต่ก่อนที่จะได้ทำแบบนั้น กำไลก็สูญเสียแรงทั้งหมดแล้วตกลงไปเสียก่อน นั่นทำให้เขาหัวเราะหนักขึ้นไปอีก
ตู้ม!
ทันทีที่กำไลนั้นตกถึงพื้นดิน แสงสีขาวก็ระเบิดออกมาทันทีพร้อมกับสร้างกรอบใสโปร่งแสงเอาไว้
นั่นทำให้จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์คนนี้กระเด็นออกไปกระแทกกับกำแพง เขาตกตะลึงพร้อมกับกระอักเลือดออกมาไม่หยุด
มังกรเขียวเองก็ตกใจ นั่นมันอะไรกัน?
สีหน้าของนักรบเสือเองก็เต็มไปด้วยคำว่า เหลือเชื่อ
เครื่องประดับเล็ก ๆ แบบนั้น ทำให้จอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์พลาดท่าได้ยังไง?
เมื่อกระต่ายน้อยเห็นผลลัพธ์ของพลัง ดวงตาของเธอก็โตและเปล่งประกาย
ฮึ่ม!
ขั้นปรมาจารย์ที่ได้สติก็ลุกขึ้นมาโจมตีค่ายกลนี่ทันที
ทันใดนั้นดวงตาของจอมยุทธ์นั้นขยายกว้าง ปากของเขากำลังพึมพำเหมือนร่ายอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะสำเร็จเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ใกล้เข้ามา เมื่อหันไปกลับก็…
ฉั่วะ!
เลือดพุ่งออกมาจากหัวไหล่ของเขาทำให้เขาต้องส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
อึก…!
หลังจากนั้น ไม่ว่าเขาจะพยายามดิ้นรนอย่างไรก็ยังมีเลือดระเบิดออกจากตัวเขาเรื่อย ๆ จนจอมยุทธ์คนนั้นถูกย้อมเป็นมนุษย์เลือด ต้นขาก็ถูกพลังลึกลับทะลวง
“ช่วย….ด้ว…ย…” สภาพของชายคนนี้ดูไม่ได้แม้แต่น้อย เขาร้องออกมาก่อนที่จะสิ้นเสียงไป
พลังที่มองไม่เห็นนี้ ทำให้แผลเหวอะหวะจำนวนมากเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ จอมยุทธ์คนนั้นกลายเป็นร่างไร้วิญญาณในที่สุด
ศพร่างหนึ่งนอนอยู่บนพื้น ตายจนไม่รู้จะตายยังไงแล้ว!