จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 128 ฟื้นคืนจากความตาย![รีไรท์]
บทที่ 128 ฟื้นคืนจากความตาย![รีไรท์]
ฉู่ชวิ๋นออกมาจากโลกเล็ก ๆ ของจักรพรรดิอ๋าวฮวง ตอนนี้เขาอยู่ที่ยอดเขาหลงจี๋ ซึ่งอยู่ห่างจากปักกิ่ง 200 กิโลเมตร
ภูเขาหลงจี๋สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร ทอดตัวยาวออกไปเหมือนกับหลังของมังกร แต่จากมุมมองของฉู่ชวิ๋น เขาก็คิดว่าแม้มันจะเป็นหลังของมังกรจริง ๆ มันก็คงไม่ใช่หลังของจักรพรรดิอ๋าวฮวงหรอกใช่ไหม? ยิ่งมองก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก
ฉู่ชวิ๋นปรับความคิดตัวเองใหม่ โค้งคำนับไปยังยอดเขาหลงจี๋จากระยะไกลหันหน้าไปทางซ้ายและก้าวออกไปห่างออกไปหลาย 10 เมตรกลายเป็นสายธารแห่งแสงพุ่งตรงไปยังปักกิ่ง
…
ในแถบชานเมืองปักกิ่ง ที่สวนหน้าบ้านที่พึ่งสร้างใหม่ของหลงอ๋าว ทั้งลำธารเล็ก ๆ สะพาน ดอกไม้ ทัศนียภาพที่ได้รับการตกแต่งใหม่นั้นดูงดงามมาก แต่ตอนนี้มันออกไปแนวฤดูใบไม้ร่วงเล็กน้อย
“ท่านอาจารย์ มีคนอยากจะพบครับ เห็นว่าจะคุยเรื่องฉู่ชวิ๋น” มังกรเขียวเขามาแจ้งด้วยความเคารพ ขณะที่มองชายแก่กำลังตัดแต่งดอกไม้
แกร๊ก!
กิ่งดอกไม้ที่เพิ่งแตกหน่อถูกตัดออก มันเป็นพันธุ์ที่หายากมากโดยจะผลิในฤดูใบไม้ร่วงและบานในฤดูหนาวเท่านั้น
หลงอ๋าววางกรรไกรตัดกิ่งไม้ลง ในมือหยิบผ้าขนหนูสีขาวเช็ดฝ่ามือแล้วพูดเสียงเบา “ไม่ได้ออกไปข้างนอกนานแล้ว มังกรเขียวพาฉันไปเดินเล่นเพื่อชื่นชมสีสันในฤดูใบไม้ร่วงของเมืองกู่เจียงหน่อยสิ ใบเมเปิ้ลพวกนั้นจะสวยกว่าภูเขาปักกิ่งเฟิงหลินไหม?”
มังกรเขียวแปลกใจและคำนับอาจารย์หนึ่งครั้ง “ผมก็ว่าแบบนั้นครับ”
เขาเข้าใจว่าครั้งนี้อาจารย์ของเขาคิดจะฆ่าคนแล้วจริง ๆ ฉู่ชวิ๋นเพิ่งจะย้อมหุบเขาเฟิงหลินด้วยเลือด ตอนนี้กลับมีคนจะลงมือกับคนรอบตัวเขา ทำให้อาจารย์เขาโมโหขึ้นมาแล้ว
“ใครกัน?!”
จู่ ๆ หลงอ๋าวก็ตวาดอย่างโกรธกริ้วและมองขึ้นไปบนหลังคา
เขาเห็นร่างสีขาวยืนอยู่บนหลังคาแล้วมองลงมา ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวไม่สามารถมองเห็นลักษณะของเขาได้ เขาสวมชุดเคลือบสีขาวแบบโบราณมี ผมเป็นประกาย ไม่มีลมพัดผ่านแต่เส้นผมกลับพลิ้วไหว
หลงอ๋าวปล่อยเสียงเย็นเยียบและสะบัดนิ้ว
แสงสีเขียวพวยพุ่งผ่านอากาศ ใบไม้เหล่านั้นเมื่ออยู่ในมือของหลงอ๋าวแล้วน่ากลัวยิ่งกว่ากระสุนเสียอีก บอกได้เลยว่าใบไม้ดอกหญ้าล้วนฆ่าคนได้เมื่ออยู่ในมือของเขา
ตู้ม!
อีกฝ่ายเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วราวกับหมอกควัน โดยที่ยังไม่มีใครเห็นหน้า จุดที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านั้นจึงถูกใบไม้ปักราวกับเป้าของลูกดอก
“แกเป็นใครกันแน่!” ร่างของหลงอ๋าวเต็มไปด้วยความสยดสยองและอากาศที่อัดแน่นไปทั่วร่างของเขาก็ระเบิด
แต่ร่างลึกลับนั้นไม่ตอบอะไรกลับมา เขากวักมือยั่วยุอีกฝ่าย
“แกรนหาที่ตายอย่างนั้นหรือ?!” หลงอ๋าวโกรธอย่างมาก เขากระทืบพื้นเศษดินกระจายขึ้นมา ร่างของเขาลอยสูงขึ้นราวกับเหยี่ยวจ้องจะตะครุบเหยื่อ เงาสีขาวของลมปราณพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา
ฮึบ!
ร่างไร้นามนั้นเอี้ยวตัวหลบอย่างฉับไว พื้นที่ใต้เท้าของอีกฝ่ายระเบิดออกด้วยฝ่ามือของหลงอ๋าว
หลงอ๋าวขมวดคิ้วเป็นปมและจะใช้หมัดอีกข้างซัดอีกฝ่ายให้น็อคในหมัดเดียว
ร่างไร้นามนั้นยกแขนขึ้น อากาศหมุนรอบตัวเขา ปรากฏมังกรขึ้นมาและตบฝ่ามือที่ตีเขาด้วยฝ่ามือเดียว จากนั้นก็บีบหมัดเพื่อฆ่าหลงอ๋าว
หลงอ๋าวสบถออกมาเพราะกำลังของเขาด้อยกว่าอีกฝ่าย
ตู้ม!
เมื่อฝ่ามือปะทะกัน พลังงานมากมายก็กระจายออก ทำให้หลังคาที่พวกเขายืนอยู่ระเบิดออกมา หินและไม้กระจายไปทั่ว
“จะเป็นกระต่ายหรือโจร ก็รีบเปิดเผยหน้าของแกมาได้แล้ว!” หลงอ๋าวโกรธมากสวนหลังบ้านที่ถูกฉู่ชวิ๋นพังไปพึ่งจะได้รับการบูรณะจนเสร็จเพียงไม่กี่วันก็มีใครที่ไหนไม่รู้ปรากฏตัวขึ้น คาดว่าลานที่ซ่อมแซมแล้วจะต้องพังพินาศอีกครั้งเขาเห็นลานนี้แล้วฮวงจุ้ยดีทำไมถึงถูกปล้นอย่างต่อเนื่อง
แต่อีกฝ่ายก็ไม่พูดอะไรออกมาพร้อมกับปล่อยกำปั้นออกไป
หลงอ๋าวโกรธมาก บุคคลผู้นี้หยิ่งผยองเกินไปและลมปราณก็ทั่วสง่างามและน่ากลัวดั่งพายุเฮอริเคนที่แขวนอยู่ทั่วร่างกายของเขา และมือสีขาวขนาดยักษ์ที่มาจากลมปราณ
ปัง!
หมัดอันแข็งแกร่งของเขาสั่นอย่างรุนแรง
ตู้ม
เสียงเหมือนกับสายฟ้าฟาดก็ดังขึ้นเต็มหูทั้งสองข้างของเขา
ตู้ม!
บ้านที่ชำรุดทรุดโทรมตั้งแต่แรกก็พังทลายในทันที ฝุ่นฟุ้งขึ้นไปจนในที่สุดก็มองอะไรไม่เห็น
“แกนี่มัน! รนหาที่จริง ๆ!” หลงอ๋าวโกรธจริง ๆ แล้ว
เงาสีขาวบินกลับหัวและร่อนลงบนสะพานเบา ๆ ผนึกด้วยมือเดียวและทันใดนั้นก็ยิงออกมา
เสียงวิหคเพลิงร้องดังขึ้นทำให้มังกรเขียวเวียนหัว สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขาเหมือนกับบรรยากาศของดวงดาว
หลังจากที่ชายชุดขาวไร้นามนั้นใช้ท่า วิหคเพลิงยาว 10 เมตรก็บินขึ้นมาจากฟากฟ้า น้ำในสระนั้นระเหยแห้งไปในทันที ปลาคราฟที่พึ่งซื้อมาของหลงอ๋าวกลายเป็นปลาย่างไปแล้ว ทั้งต้นไม้ ใบหญ้ากลายเป็นขี้เถ้าภายในเพียงเสี้ยววินาที
ดวงตาของหลงอ๋าวดูเคร่งขรึมและยื่นมือออกไปทันที อากาศเกิดการบิดเบี้ยวเกิดฟ้าร้องและระเบิดขึ้น รอยมือสายฟ้าขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตรปรากฏขึ้นและพุ่งไปทางวิหคเพลิง
เสียงคำรามยังคงดังก้องและอากาศรอบ ๆ ยังคงบีบตัว พื้นดินสั่นสะเทือนเหมือนเกิดแผ่นดินไหว
มังกรเขียวกลัวมากเมื่อเห็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองกำลังสู้กัน พลังในการต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้ต่างไปจากตอนที่ฉู่ชวิ๋นปะทะกับผู้เฒ่าราชาปีศาจเลยสักนิด
แต่ในเวลานี้ วิหคเพลิงที่อาบด้วยไฟบนท้องฟ้ากลางอากาศและมีพลังในการเผาผลาญโลกก็ดับวูบลงและหายไปราวกับดอกไม้ไฟ
ไม่มีใครคิดว่าจะเห็นจุดจบแบบนี้
หลงอ๋าวดวงตาเบิกกว้าง ไม่น่าจะมีอะไรที่สามารถหยุดหายนะครั้งนี้ได้แล้วแท้ ๆ
ตู้ม!
พื้นดินแตกกระจายออกพร้อมกับควันที่เหมือนกับรูปเห็ด แรงระเบิดกระจายตัวทำลายสะพานหินของหลงอ๋าวและศาลาที่พึงจะซ่อมเสร็จ สรุปแล้วทุกสิ่งที่หลงอ๋าวพึ่งจะทำมาพังเละไม่เหลือชิ้นดี
เมื่อฝุ่นจางหายไปจนหมด สวนหน้าบ้านก็กลายเป็นเศษซากอารยธรรม อีกครั้ง
ดวงตาของหลงอ๋าวแดงก่ำ มือของเขาสั่นจนควบคุมไม่ได้ จมูกก็ขาวเพราะฝุ่นก่อนที่ตัวเองจะกระอักเลือดออกมา ทุกอย่างที่สร้างมาตลอด 3 เดือนพังไม่เหลืออะไรแม้แต่อย่างเดียว
“หน้าไม่อาย! แกทำอะไรลงไปรู้ตัวไหม!?” หลงอ๋าวหันไปมองมังกรเขียวด้วยความโกรธ ที่พาชายปริศนาคนนี้เข้ามา
มังกรเขียวที่กำลังมึนงงก็ถูกอาจารย์ของตัวเองต่อยเข้าไปหนึ่งที แต่ชายไร้นามคนนี้ก็ช่วยเอาไว้เห็นได้ทันไม่งั้นมังกรเขียวคงหลับยาวไปแล้ว
“จะตะคอกทำบ้าอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะผม ลูกศิษย์ของนายคนนี้ถูกอาจารย์บ้า ๆ บอ ๆ อย่างคุณตีตายไปแล้ว” ชายไร้นามพูดขึ้นพร้อมกับแหย่หลงอ๋าว
ตอนนี้ชายแก่ที่ชื่อหลงอ๋าวรู้สึกร้อนจนทำตัวไม่ถูกแล้ว สิ่งที่เขาทำนั้นอันตรายมาก ถ้าไม่มีใครมาช่วยมังกรเขียวไว้ สถานการณ์ตอนนี้คงแย่อย่างแน่นอน
“นายก็มีพื้นฐานดีนะ เปลี่ยนมาอยู่กับฉันแทนไหม? ลองเก็บไปคิดดู” ชายไร้นามพูดกับมังกรเขียว
ความโกรธของหลงอ๋าวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ไอ้หน้าด้านนั้นมันกล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าเขาคนนี้เชียวงั้นเหรอ?
“ขอบคุณผู้อาวุโส” มังกรเขียวส่ายหน้าเป็นการบอกว่าเขาจะไม่ทรยศหลงอ๋าว
“เป็นอาจารย์ที่แย่มากหน้ามืดตามัวอะไรขนาดนี้…” เขาตำหนิหลงอ๋าวอีกครั้ง
หลงอ๋าวปากกระตุกทันที ดวงตาของเขาหรี่เล็กลงและเคราของเขาโค้งงอด้วยความโกรธ…เดี๋ยวก่อนนะ การแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นตกใจและความสงสัยก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ทำไมคำเหล่านี้มันจึงคุ้นเคยจัง?
มังกรเขียวเองรู้สึกแปลก ๆ กับน้ำเสียงและคำพูดของชายคนนี้ มันฟังดูคุ้นเคยยังไงชอบกล
“แกเป็นใครกันแน่?” หลงอ๋าวถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นนิดหน่อย เขาไม่แน่ใจในข้อสงสัยของตัวเองนัก
“ฮ่าฮ่า ผมขอดูหน่อยซิว่าที่นี่ยังมียาวิเศษอะไรเหลืออยู่..” ผู้มาเยือนเอ่ยขึ้นและหัวเราะ
หลงอ๋าวดวงตาเบิกกว้างทันทีที่ได้ยิน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
มังกรเขียวไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เหมือนกับมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นบนโลกยังไรยังนั้น
“ไอ้เด็กบ้า เป็นแกจริง ๆ เหรอ!?” หลงอ๋าวตื่นเต้นมาก
หมอกสีขาวที่ปกคลุมใบหน้าของเขาสลายไปเผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลา ฉู่ชวิ๋น จะเป็นใครได้อีก?
เมื่อหลงอ๋าวเห็นว่าเป็นฉู่ชวิ๋น เขาก็ตกใจอีกครั้ง
“ผู้อาวุโส!” มังกรเขียวพูดออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว เขากำลังแยกแยะอยู่ว่านนี้เป็นความจริงหรือความฝัน ฉู่ชวิ๋นที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอย่างนั้นเหรอ?
หลงอ๋าวเดินเข้าไปมองฉู่ชวิ๋นใกล้ ๆ ด้วยความใจเย็น สีหน้าตื่นเต้นของเขาสงบลง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกโมโหตหงิด ๆ จึงคว้าคอเสื้อของฉู่ชวิ๋นและตะโกนออกไป “ไอ้หนุ่ม ยังไงเจ้าก็ไม่ควรจะมาทำลายสวนของข้าแบบนี้! นี้ก็ครั้งที่สองแล้วนะ!”
เมื่อหันกลับมาคิดเรื่องนี้ เขาก็เริ่มโกรธขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้เด็กคนนี้เล่นพังสวนของเขามาแล้วสองครั้งจะไม่ให้โกรธได้ไง
ฉู่ชวิ๋นแบบมือราวกับเป็นเด็กไร้เดียงสา “รอบนี้คุณพังมันเองล้วน ๆ เลยนะ ผมไม่เกี่ยว”
หลงอ๋าวกัดฟันแน่นทันที พร้อมกับควันที่ออกมาจากหู แกล้งทำตัวเป็นผีไม่พอ ยังจะมาพังสวนเขาอีก “ข้าว่าแกนี่มันไม่ใช่แค่แกว่งเท้าหาเสี้ยนธรรมดานะ ถ้าไม่ใช่เพราะแกล้งปลอมตัวมา ข้าจะทำลายสวนตัวเองได้ยังไง ยังไงก็เถอะ แกต้องชดใช้มาเลยนะ!”
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะ “โอเค ๆ ได้ ๆ ปล่อยผมก่อน ปกเสื้อฉันผมยับหมดแล้ว!”
“ขนาดปู่ข้ายังไม่กล้าใส่ชุดแบบนี้เลยนะ? อะไรทำให้เอ็งกล้าใส่อะไรแบบนี้ฮะ? ชุดสะเหล่อชิบ” หลงอ๋าวพูดออกมา
ฉู่ชวิ๋นมองมาด้วยความสงสัย “คุณบอกว่าคนที่เลือกชุดนี้ให้ผมบ้าเหรอ?”
“พูดอะไรของเอ็ง ชุดเหมือนกับคนเป็นโรคประสาทขนาดนั้น คนธรรมดาเขาไม่กล้าใส่หรอก!”
*อธิบายพระเอกใส่ชุดจีนโบราณลายมังกรทองอยู่
การแสดงออกของฉู่ชวิ๋นแปลกขึ้นเรื่อย ๆ เขาตบไหล่หลงอ๋าวและพูดว่า “คุณรู้ไหมล่ะว่าใครเป็นคนเลือกชุดนี้ให้ผม?”
“ใคร?”
“เขาเรียกตัวเองว่าจักรพรรดิอ๋าวฮวง คุณน่าจะรู้จักเขานะ!” ฉู่ชวิ๋นมองหน้าหลงอ๋าวตรง ๆ
“จักรพรรดิอ๋าวฮวงสินะ แค่ชื่อก็ปัญญาอ่อน…..”
เสียงของหลงอ๋าวหยุดลงทันที รูม่านตาของเขาขยายใหญ่ขึ้น มือของเขาสั่นและเขาดึงเคราออกสองสามเส้น ใบหน้าของเขาสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดและตกตะลึง
“คุณคิดว่าไง คนที่ชื่อว่าจักรพรรดิอ๋าวฮวงนั้นบ้ามากสินะ?” ฉู่ชวิ๋นถาม
หลงอ๋าวตัวสั่นปากสั่น ใบหน้าของชายแก่ตอนนี้สื่อออกมาว่าอยากจะร้องไห้
ตอนนี้เขาคงนึกออกแล้วว่าจักรพรรดิอ๋าวฮวงคือใคร เขาต้องบ้าแน่ ๆ ที่พูดแบบนั้น หลงอ๋าวอยากจะเป็นลมลืมไปเลยมีอะไรน่ากลัวกว่านี้อีกไหม?
“ชะ…ชื่อนี้เป็นชื่อที่มีเกียรติมาก เป็นชื่อของคนที่อยู่บนโลกนี้มานานมากแล้ว เขาบรรลุขั้นสูงสุดของพลังและไม่มีใครสามารถควบคุมเขาได้…” หลงอ๋าวย่อตัวลงอย่างภาคภูมิใจและกล่าวด้วยความจริงใจจนเกือบจะคุกเข่าลงเพื่อบูชาชื่อนี้
มังกรเขียวรู้สึกแปลกมาก อะไรที่ทำให้อาจารย์ของเขาเป็นแบบนี้ ชื่อฟังดูโอ่อ่ามาก แต่ยังไม่เพียงพอต่อการบูชาใช่ไหม?
หลงอ๋าวมองไปที่มังกรเขียวอย่างสูญเสีย เขาไม่ได้โกรธแต่โบกมือเรียก ตบมังกรเขียวให้คุกเข่าลงและพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “ไอ้ท่าทางแบบนี้มันอะไรฮะ? ชื่อนี้มันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามมากรู้ไหม? หาที่เปรียบที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว”
มังกรเขียวยิ่งรู้สึกงุนงง แต่อาจารย์พูดถูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นมือของหลงอ๋าวยกขึ้นอีกครั้ง เขาจึงพยักหน้าอย่างรีบร้อน
เป็นเรื่องยากที่ฉู่ชวิ๋นจะเฝ้าดูหลงอ๋าวที่อ่อนแอและดูตื่นเต้นด้วยความสุข?
“ท่านบรรพบุรุษ ชุดที่ท่านให้มานั้นงามมาก ใบหน้าที่เต่งตึงของฉู่ชวิ๋นทำให้ชุดช่างสง่างามเหมือนเกิน…”
เมื่อเห็นหลงอ๋าวหดคอและประจบ ฉู่ชวิ๋นก็ดูแปลก ๆ และหลงอ๋าวเรียกว่าท่านบรรพบุรุษจริง ๆ ความรู้สึกนี้…มันค่อนข้างดีแฮะ
“โอเค ไม่ต้องแกล้งทำอะไรแล้ว จักรพรรดิอ๋าวฮวงไม่ได้ยินสิ่งที่คุณพูดหรอกและผมก็ไม่ไปฟ้องด้วย” ฉู่ชวิ๋นพูดพร้อมรอยยิ้ม หลงอ๋าวต้องไปที่เมืองกู่เจียงเพื่อช่วยเขา ดังนั้นเขาจึงรู้สึกประทับใจหลงอ๋าว
หลงอ๋าวพูดอย่างจริงจังกับฉู่ชวิ๋นว่า คนที่ไม่ควรหยอกล้อดูถูกมากที่สุดในโลกก็คือจักรพรรดิอ๋าวฮวง ไม่งั้นอาจจะโดนลงโทษด้วยแส้สายฟ้าก็ได้ แน่นอนว่าถ้าเขาบอกเรื่องนี้กับฉู่ชวิ๋นก่อนที่จะไปพบจักรพรรดิอ๋าวฮวงคงจะดีกว่านี้
หลงอ๋าวบอกกับฉู่ชวิ๋นว่าเขาเป็นเหมือนกับศิษย์และหลานของจักรพรรดิอ๋าวฮวง จักรพรรดิอ๋าวฮวงมีศิษย์และหลานหลายคน ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ติดตามของเขาและบางคนก็แข็งแกร่งจนเป็นกำลังหลักของประเทศไปแล้ว
ฉู่ชวิ๋นแอบตกใจ กลับกลายเป็นว่าเขาประเมินจอมยุทธ์บนโลกนี้ต่ำไป