จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 160 สู้ตายถวายหัว[รีไรท์]
บทที่ 160 สู้ตายถวายหัว[รีไรท์]
“พวกเราถอย!”
ผู้อาวุโสของหุบเขาราชาพิษที่เหลืออยู่หันหลังกลับและวิ่งหนีไป
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเยาะ อยากจะหนีใช่ไหม?
กลุ่มผู้อาวุโสวิ่งหนีเหมือนมดแตกรัง แต่แล้วก็เกิดคลื่นพลังที่มีความเร็วมากกว่าคลื่นเสียงพุ่งออกไป เล่นงานเข้าใส่กลุ่มคนที่วิ่งหนีไป
ตู้ม!
เกิดการระเบิดวาบ หยดเลือดโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า พลังลมปราณพุ่งทะลุหน้าอกของบรรดาผู้อาวุโสเหมือนเป็นสิ่งโปร่งแสง
ในขณะนี้ ผู้อาวุโสที่เป็นสมาชิกระดับต้น ๆ ของสำนัก กลับถูกฆ่าด้วยการลงมือเพียงแค่ครั้งเดียว
ผู้อาวุโสที่วิ่งหนีไปรั้งท้ายที่สุด ถูกหมัดของฉู่ชวิ๋นซัดกระเด็นไปลอยแซงหน้าทุกคนไกลกว่าสิบเมตร แต่โชคไม่ดีที่เมื่อร่างของเขาหล่นลงมากระแทกพื้น วิญญาณของผู้อาวุโสก็หลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว
นั่นส่งผลให้ผู้อาวุโสคนอื่นๆ กลัวจนแทบขาดใจตาย ทุกคนรีบวิ่งหนีไปเหมือนติดปีกบิน และนึกสาปแช่งพ่อแม่ของตนเองที่เกิดมามีแค่สองขาเท่านั้น
ฉู่ชวิ๋นยกกำปั้นขึ้นอีกครั้งและลมปราณสีขาวก็พุ่งวาบออกไป
พลั่ก!
ผู้อาวุโสแขนขาหักเรียงรายกันไปทีละคน ส่วนใครที่ถูกลมปราณสีขาวกระแทกเข้าใส่ลำตัวอย่างจัง ลำตัวก็จะระเบิดออกทันที
ฉู่ชวิ๋นมีสีหน้าที่เยือกเย็น ไม่มีความเมตตาปรานีในแววตาของเขา ตราบใดที่ฝ่ายหนึ่งเป็นคนชั่วช้า เขาก็จะไม่มีความเมตตาเด็ดขาด
ทุกครั้งที่เขาปล่อยพลังออกไป มวลอากาศจะสั่นสะเทือนและระเบิดตัวออก
พลังฝ่ามือของฉู่ชวิ๋นสะเทือนแผ่นฟ้า สะท้านแผ่นดินอย่างแท้จริง!
ไม่ว่าเขาลงมือครั้งใด ก็รู้สึกเหมือนกับว่าฟ้าจะถล่ม แผ่นดินจะทลาย
ตู้ม!
เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วหุบเขา ก้อนหินถล่มลงมา ทุกสิ่งทุกอย่างไหวโอนเอน
ผู้อาวุโสที่พากันหลบหนีได้แต่เงยหน้ามองฝ่ามือขนาดใหญ่ ที่ประทับลงมาจากท้องฟ้า ทุกคนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตื่นกลัว ฟังดูน่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง
ฝ่ามือขนาดใหญ่ฟาดลงไปบนพื้นดิน ทำให้แผ่นดินแตกแยกออกจากกัน และเกิดม่านหมอกรูปเห็ดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
บนพื้นดินเกิดเป็นรอยแตกแยกยาวกว่า 10 เมตร หลุมนี้มีความกว้างกว่า 3 เมตรและลึกกว่า 1 เมตร เมื่อมองลงไปจากด้านบน ก็จะพบรูปทรงของรอยมือคนขนาดยักษ์
หลังจากนั้นอีกพักใหญ่ ทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบสงบ และหมอกควันก็จางหายไป
เมื่อฉู่ชวิ๋นสำรวจดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาก็พบว่าในขณะนี้มีแต่กองเลือดและศพคนเกลื่อนกลาดไปหมด ศพของผู้อาวุโสจากหุบเขาราชาพิษ นอนเรียงรายอยู่บนทางที่จะเข้าสู่สำนักของพวกเขาเอง
ส่วนคนอื่น ๆ นั้นร่างระเบิดเละไปหมด
พวกเขาเป็นผู้อาวุโสระดับสูงก็จริง แต่ไม่มีใครต้านทานพลังฝีมือของฉู่ชวิ๋นได้เลย
ฉู่ชวิ๋นลงมือด้วยความเยือกเย็นจนทุกคนต้องขนลุก ตอนนี้คนที่รอดชีวิตอยู่ถึงอยากหนีอย่างไร ก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้แล้ว
อันที่จริง ทุกคนเข้าใจดีว่าการหลบหนีเป็นไปไม่ได้ ฉู่ชวิ๋นมีความเร็วมากเกินไป
ฉู่ชวิ๋นดีดตัวแค่เพียงครั้งเดียว ก็กระโดดได้ไกลหลายสิบเมตร เขาลอยไปดักหน้าพวกผู้อาวุโสของหุบเขาราชาพิษ และต่อยหมัดสังหารด้วยความอำมหิต
ผู้อาวุโสที่ยังรอดชีวิตอยู่ แทบจะหัวใจวายตายแล้ว
“เรามาร่วมแรงร่วมใจกันเถอะ ไม่งั้นคงไม่มีใครรอดแน่” ผู้อาวุโสคนหนึ่งคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด
บรรดาผู้อาวุโสหันมามองตากัน และพยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย
“ฆ่ามัน!”
ทุกคนที่ยังรอดชีวิตอยู่ พร้อมใจกันพุ่งตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น
ไม่มีใครอยากรอคอยความตาย
คนที่มีฝีมือต่ำที่สุดในผู้อาวุโสกลุ่มนี้ นับเป็นปรมาจารย์ระดับที่ 3 ทุกคนต่างก็ไม่อยากตายเหมือนลูกไก่ในกำมือของฉู่ชวิ๋น
ผู้อาวุโสจ้องมองฉู่ชวิ๋นเป็นตาเดียวกันเขาโคจรพลังลมปราณออกมาห่อหุ้มร่างกายเอาไว้ ในขณะที่พุ่งเข้าไปเงื้อกำปั้นใส่ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยและกล่าวออกมาเบาๆ
“เพื่ออะไรกัน?”
ตู้ม!
สองกำปั้นปะทะกัน เลือดสาดกระจายในอากาศ ผู้อาวุโสส่งเสียงร้องโหยหวน ลมหายใจขาดหาย มือของเขาถูกกำปั้นของฉู่ชวิ๋นต่อยจนแหลกละเอียด และในที่สุดแล้ว กระดูกแขนของเขาก็หักไปทั้งหมด สุดท้ายศีรษะก็ระเบิดออกเหมือนกับแตงโมแตก
ด้วยหมัดเดียว!
ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ชะลอฝีเท้าลง ในดวงตาปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
แบบนี้จะสู้ได้ยังไง? นั่นมันผู้อาวุโสระดับต้นๆ ของสำนักเลยนะ เขาไม่เคยพ่ายแพ้ต่อผู้ใด แต่ตอนนี้กลับไม่หายใจเสียแล้ว ฉู่ชวิ๋นน่ากลัวมากเกินไปจริงๆ
“สู้แล้วตาย ก็ยังดีกว่าตายโดยไม่ได้สู้”
คนของหุบเขาราชาพิษไม่ใช่คนขี้ขลาด
“ฉู่ชวิ๋น ฉันจะตัดหัวแก”
นี่ก็คือผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งที่เหลืออยู่ ลมหายใจของเขายังคงแข็งแรง ร่างกายมีพลังลมปราณห่อหุ้ม กำปั้นของเขาต่อยออกมา พลังลมปราณพุ่งออกมาด้วย และเป้าหมายของเขาก็อยู่ที่ฉู่ชวิ๋น
ผู้อาวุโสคนนี้ทุ่มเทกำลังภายในที่มีอยู่ทั้งหมด หมายสังหารฝ่ายตรงข้ามให้ได้
พลังลมปราณของเขาก่อให้เกิดเสียงแหวกอากาศดังหวีดหวิว ดังกึกก้องกังวานไปทั่วหุบเขา พร้อมกับเกิดแรงสั่นสะเทือนในเวลาเดียวกัน
ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้น และลมปราณสีขาวก็พุ่งออกมาจากกำปั้นของเขา
ตู้ม!
คลื่นพลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกันกลางอากาศ ทำให้มวลอากาศสั่นไหว หุบเขาสั่นสะเทือน ก้อนหินถล่มลงมาตามไหล่เขาตลอดเวลา
ฉู่ชวิ๋นยังคงมีสีหน้าที่เรียบเฉยเหมือนเดิม
ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสกลับมีใบหน้าซีดขาว กระอักเลือดออกมาจากปากคำใหญ่
ไม่ว่าจะเป็นพลังลมปราณหรือกำลังภายใน ต่างก็ยึดติดอยู่กับการหายใจทั้งสิ้น
ผู้อาวุโสยกมือปาดเลือดออกจากริมฝีปาก ดวงตายังคงจ้องมองที่ฉู่ชวิ๋นในขณะที่พูดว่า
“จอมมารฉู่ชวิ๋น ฝีมือของแกมันสมกับคำเล่าลือจริงๆ ถ้าวันนี้ฉันต้องตายเพราะแก ฉันก็ไม่เสียดายชีวิตแล้ว”
“แกก็มีฝีมือไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนี่” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ถ้าผู้อาวุโสคนนี้รู้ว่านี่คือครั้งแรกที่ฉู่ชวิ๋นกล่าวชื่นชมคนอื่น เขาจะรู้สึกอย่างไรกันนะ?
ผู้อาวุโสระเบิดเสียงหัวเราะ และคำรามออกมา
“เงาดาบเพลิงโลกันตร์!”
ผู้อาวุโสทำมือเป็นรูปดาบและตวัดตัดลงไปที่ฉู่ชวิ๋น เหมือนกับว่ามือของเขาเป็นดาบที่มีความยาวประมาณ 3 ฟุต
พลัน ปรากฏเงาดาบที่ยาวประมาณ 5 เมตรขึ้นจริง ๆ คมของมันพุ่งลงมาเข้าหาร่างของฉู่ชวิ๋น ความเร็วของมันเหมือนกับสายฟ้าฟาด ปั่นป่วนมวลอากาศให้สั่นสะเทือน และเนื่องจากมีความเร็วที่มากเกินไป เงาดาบจึงสร้างแรงเสียดสีกับอากาศปะทุเป็นเปลวไฟ มองไปแล้วจึงเหมือนกับเป็นดาบไฟเล่มหนึ่ง
ฉู่ชวิ๋นกะพริบตาด้วยความสงสัย นี่คือครั้งแรกที่เขาพบเจอเคล็ดวิชาอย่างนี้ หลังจากได้กลับมาสู่โลกมนุษย์
ฉู่ชวิ๋นไม่ได้ต้านทาน แต่กระโดดหลบ
เงาดาบจึงฟันลงไปที่ภูเขาหิน ซึ่งอยู่ห่างจากด้านหลังชายหนุ่มไปสิบเมตร
โครม!
ก้อนหินขนาดใหญ่แตกกระจัดกระจาย เศษฝุ่นลอยฟุ้งในอากาศ
ฉู่ชวิ๋นหรี่ตามองด้วยความประหลาดใจ
เขาพบว่าบริเวณที่เงาดาบฟันลงไป ปรากฏหลุมลึกที่มีขนาดกว้าง 3 เมตรและลึกกว่า 2 เมตรขึ้นมาหลุมหนึ่ง
ชายหนุ่มหันขวับมองกลับไปที่ผู้อาวุโส และเห็นว่าสีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความเศร้า ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจะเสียดายมากที่ดาบนี้ฟันไม่โดน
ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ความจริงแล้ว เงาดาบเพลิงโลกันตร์เป็นวิชาที่น่ากลัวมาก ต้องใช้กำลังภายในระดับสูง และการจะควบคุมพลังได้ ก็ต้องมีทักษะที่หาได้ยากยิ่ง
นี่คือฝีมือที่สามารถพบได้จากผู้อาวุโสของหุบเขาราชาพิษ แม้แต่เพื่อนร่วมสำนักด้วยกัน ก็มีสีหน้าที่ไม่อยากเชื่อเช่นกัน
“เงาดาบเพลิงโลกันตร์เป็นเคล็ดวิชาที่ตกทอดกันมาของตระกูลฉันเอง” ผู้อาวุโสพูดด้วยความขมขื่น
ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ มีสีหน้าตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ขาดวิชาเฉพาะตัว บางคนถึงจะเป็นขั้นปรมาจารย์ระดับ 7 หรือระดับ 8 ก็ยังไม่มีวิชาส่วนตัวด้วยซ้ำ พวกเขาใช้เพียงกำลังภายในในการต่อสู้ เมื่อได้เห็นความน่ากลัวของวิชาเงาดาบเพลิงโลกันตร์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกคนจะให้ความสนใจอย่างนี้
“แต่โชคร้ายที่เมื่อเอามาใช้กับแก ผลลัพธ์ที่ได้…” ผู้อาวุโสทำหน้าเศร้า “ฉันเอาชนะแกไม่ได้จริง ๆ”
การใช้วิชาเงาดาบเพลิงโลกันตร์ จำเป็นต้องทุ่มเทกำลังภายในทั้งหมดที่มีอยู่ ดังนั้นกำลังภายในที่เหลืออยู่ในร่างกายของผู้อาวุโสตอนนี้ จึงว่างเปล่าไปแล้ว
“ตายซะเถอะ!”
กลุ่มผู้อาวุโสที่เหลืออยู่เลิกซ่อนตัวอีกต่อไป ถ้าไม่รีบลงมือตอนนี้ พวกเขาก็คงได้แต่รอคอยความตายแล้ว
ผู้อาวุโสที่เป็นขั้นปรมาจารย์ระดับ 4 พุ่งตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยพลังลมปราณ พลัน เขาก็ยิงพลังออกมาเหมือนกับลูกธนู พุ่งตรงใส่หน้าผากของฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วขึ้นสูง เอียงศีรษะหลบไปเล็กน้อย
พลังฝ่ามือของฝ่ายตรงข้ามยิงเข้าใส่ก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างจากเขาไปไม่กี่เมตร และก้อนหินก้อนใหญ่นั้นก็แตกกระจายไปทันที
ฉู่ชวิ๋นกำมือเป็นหมัดและโต้ตอบกลับไป
ตู้ม!
ร่างของผู้อาวุโสคนนั้นขาดครึ่งท่อน เสียชีวิตไปทันที
ในเวลาเดียวกันนี้ ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งได้ฉวยโอกาสลอบเข้ามาด้านหลังฉู่ชวิ๋น และตวัดเท้าเตะใส่ชายหนุ่มพร้อมกับคำรามว่า
“ตายซะ!”
ฉู่ชวิ๋นเดือดดาลขึ้นมาแล้ว เขาหันขวับและปล่อยหมัดออกไป
กร๊อบ!
เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้น เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ขาของผู้อาวุโสคนนั้นที่ปะทะเข้ากับหมัดของฉู่ชวิ๋น เปลี่ยนสภาพกลายเป็นละอองเลือดในอากาศ
ฉู่ชวิ๋นขยับนิ้วมืออย่างรวดเร็ว เส้นไหมสีขาวลอยออกมารัดพันลำคอของผู้อาวุโสคนนั้น เสียงกรีดร้องโหยหวนของผู้อาวุโสจึงขาดหายไปกลางอากาศ
หลังจากนั้น ฉู่ชวิ๋นก็กำจัดทุกคนที่ขวางหน้าด้วยความดุดัน เขาปล่อยลมปราณสีขาวออกไปทุกทิศทุกทาง
ฟู่!
ละอองเลือดในอากาศสะท้อนประกายกับแสงแดด ร่างของผู้อาวุโสคนแล้วคนเล่าล้มลงไปกองกับพื้น บนหน้าอกปรากฏรูโบ๋อย่างน่าหวาดกลัว หัวใจของพวกเขาถูกลมปราณกระแทกจนสลายหายไป
บัดนี้ ผู้อาวุโสทุกคนของหุบเขาราชาพิษ ได้เสียชีวิตไปหมดสิ้นแล้ว!