จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 161 ตะขาบยักษ์[รีไรท์]
บทที่ 161 ตะขาบยักษ์[รีไรท์]
โครม! เกิดเสียงดังโครมดังขึ้นทั่วหุบเขา
ฉู่ชวิ๋นหันไปมองก็พบว่า ต้นไม้ล้มเป็นแนวราบจนเหมือนไทรันโนซอรัสที่กำลังอาละวาดทำลายป่าไม้จนหมด
แต่ด้วยความที่ต้นไม้หนาแน่นเต็มไปหมด ฉู่ชวิ๋นจึงมองไม่เห็นว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่ ชายหนุ่มจึงใช้จิตวิญญาณสำรวจจนเขาเห็นภาพที่สะท้อนกลับมา ฉู่ชวิ๋นมีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่ามันเป็นตัวอะไร
ท่ามกลางกลุ่มต้นไม้ที่หนาแน่น ภาพที่ฉู่ชวิ๋นเห็นก็คือตะขาบยักษ์ตัวหนึ่งกำลังวิ่งตรงมาที่เขา
ตะขาบยักษ์ตัวนี้มีความกว้างกว่าหนึ่งเมตรและมีความยาวกว่า 10 เมตร ลำตัวของมันเป็นสีดำแดง ขาหลายร้อยข้างมีความคมราวกับมีดดาบ ไม่ว่ามันวิ่งผ่านไปที่ไหน ต้นไม้ใบหญ้าก็จะถูกตัดออกไปจนไม่เหลือสิ้น
ฟู่!
ตะขาบยักษ์วิ่งใส่เขาพร้อมกับพ่นน้ำกรดสีเขียวออกมาราวกับธนูอันคมกริบ
ลูกศิษย์ของหุบเขาราชาพิษที่ขวางทางอยู่ รีบกระโดดหนีไปทันที น้ำกรดสีเขียวพุ่งไปถูกต้นไม้ขนาดใหญ่สองคนโอบ และในวินาทีนั้นเอง รูโหว่ขนาดเท่ากำปั้นก็ปรากฏขึ้นบนต้นไม้ น้ำกรดสีเขียวพุ่งทะลุต้นไม้หลายต้นเมื่อน้ำกรดสัมผัสโดนพื้นดิน พื้นดินก็ถูกกัดกร่อนจนเป็นรูขนาดใหญ่
ฉู่ชวิ๋นเลิกคิ้วขึ้นสูง พลังอานุภาพของน้ำกรดสีเขียวนี้น่าทึ่งมาก ไม่นานก็มีหนึ่งคน หนึ่งสัตว์ร้าย พุ่งตรงเข้ามาหาฉู่ชวิ๋นด้วยความเร็วสูงสุด เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวอยู่ห่างจากฉู่ชวิ๋นไม่เกินยี่สิบถึงสามสิบเมตร
เมื่อคนของหุบเขาราชาพิษเห็นดังนั้นก็ตะโกนออกมาทันทีว่า “ฉู่ชวิ๋น เตรียมตัวตายซะเถอะ!”
ฉู่ชวิ๋นทราบว่าคนที่ปรากฏตัว พร้อมตะขาบยักษ์นี้ก็คือราชาพิษ ในขณะนั้นเอง ตะขาบยักษ์กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา ราชาพิษดีดตัวพุ่งเข้าวใส่ฉู่ชวิ๋น ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเยาะและสะบัดมือหนึ่งครั้ง
พรึบ!
มวลอากาศสั่นสะเทือน ฝ่ามือขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นกลางท้องฟ้าและฟาดลงมาอย่างน่าหวาดกลัว ไม่มีใครคิดเลยว่า ราชาพิษที่กำลังพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นเห็นแบบนี้ก็พลันกระโดดลงไปข้างทาง ความเร็วของเขาไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่า เขาสามารถหลบฝ่ามือกําสลดวิญญาณสลายได้ อย่างไม่มีปัญหา ในขณะนั้นเอง ผู้ที่ต้องรับพลังฝ่ามือของฉู่ชวิ๋นลงไปเต็ม ๆ กลับเป็นตะขาบยักษ์
ฉู่ชวิ๋นสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เขาดีดตัวครั้งหนึ่ง ก็ถอยไปไกลกว่าสิบเมตร น้ำกรดสีเขียวพุ่งตรงไปยังจุดที่เขายืนอยู่เมื่อกี้ มันกัดกร่อนพื้นดินจนเป็นรูขนาดใหญ่ อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นน้ำกรด
ไม่ตายงั้นเหรอ?
ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจไม่น้อยเมื่อพบว่า ตะขาบยักษ์ มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่เขาคิดเอาไว้
“ฉู่ชวิ๋น แกกำลังเจอกับราชาสัตว์ร้าย อย่าหวังเลยว่า แกจะรอดชีวิตไปได้ ฉันจะเอาชีวิตของแกมาสังเวยให้กับชีวิตผู้อาวุโสของพวกเรา” ราชาพิษส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น เสียงของเขาก้องกังวานไปทั่วหุบเขา แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อพูดจบ เขาก็กระโดดหนีไปยังทางออกของสำนักตัวเองทันที
ลูกศิษย์หลายร้อยคนของหุบเขาราชาพิษ ได้แต่ยืนนิ่งด้วยความหมดหวัง ราชาพิษทอดทิ้งพวกเขาและหลบหนีไปเพียงลำพัง
“แกอยากจะหนีใช่ไหม?”
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเปล่งประกายเย็นชาขึ้นมาแล้ว! กระบี่ไม้ปรากฏอยู่ในมือของเขา ลำแสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากกระบี่ไม้ในมือ เขาตวัดกระบี่หนึ่งครั้งประกายแสงของกระบี่ก็พุ่งออกไปด้วยความดุดัน
ราชาพิษที่กำลังหลบหนีเอาตัวรอด รีบกระโดดหลบเข้าข้างทางโดยสัญชาตญาณ แต่ก็ยังช้าเกินไป แขนข้างหนึ่งถูกตัดขาดและสลายหายไปกลายเป็นละอองเลือด เสียงร้องโหยหวนของราชาพิษ ดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา ราชาพิษรีบตะเกียกตะกายหนีออกไปจากหุบเขาด้วยความตื่นกลัว
ฉู่ชวิ๋นยกกระบี่ขึ้นมาอีกครั้งหลายจะตามไปสังหารราชาพิษ แต่ในเวลาเดียวกันนี้เอง ประกายที่เย็นเยียบสายหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่เขา ชายหนุ่มตวัดกระบี่วูบหนึ่งขึ้นมาป้องกัน
ชิ้ง!
ดาบที่พุ่งใส่เขาแตกหักทันที จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ดาบมันคือ ขาตะขาบข้างหนึ่งนั่นเอง!
ฉู่ชวิ๋นดีดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ กวาดตามองไปทั่วหุบเขา เขาสาบานว่า จะต้องฆ่าราชาพิษให้จงได้!!!
ด้วยความเร็วของชายหนุ่ม เขาสามารถไล่ตามราชาพิษได้อย่างไม่ยากเย็นถึงแม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นปรมาจารย์ระดับเจ็ด แต่ก็ยังมีความเร็วที่อ่อนด้อยกว่าฉู่ชวิ๋นอยู่หลายช่วงตัว
“อ๊าก…”
ฉู่ชวิ๋นพุ่งไปไกลหลายร้อยเมตร ก็พลันได้ยินเสียงคนจำนวนมากกรีดออกมาอย่างโหยหวนจากด้านหลัง ชายหนุ่มหยุดชะงักแล้วหันกลับไปมอง จึงได้พบว่าตะขาบยักษ์ที่ถูกเขาตัดขาทิ้งไปข้างหนึ่ง เริ่มเกิดอาการบ้าคลั่ง แต่มันไม่ได้ไล่ตามเขาอีกต่อไปแล้ว มันหันกลับไประบายความโกรธแค้นใส่กลุ่มลูกศิษย์ของหุบเขาราชาพิษที่มีอยู่หลายร้อยคน มันกัดหนึ่งครั้ง ต้องมีคนตายหนึ่งคน พิษของมันสามารถฆ่าคนได้อีกสิบคน ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบคนพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ใช่ศัตรูของเขา ความผิดเดียวที่คนพวกนี้มีก็คือการเป็นลูกศิษย์ของหุบเขาราชาพิษ
ชายหนุ่มทนไม่ได้ที่ต้องเห็นคนหลายร้อยคนตายต่อหน้าต่อตา
ขวับ!
เขาตวัดกระบี่ออกไปในแนวขวาง กลายเป็นลำแสงสีทองคำพุ่งตัดเข้ากลางลำตัวของตะขาบยักษ์
ฉู่ชวิ๋นตัดสินใจเลิกไล่ล่าราชาพิษแล้วหันมาช่วยชีวิตคนหลายร้อยคนแทน
ชิ้ง! ชิ้ง!
เกิดประกายไฟสาดกระเด็น ขาทุกข้างของตะขาบยักษ์เป็นเสมือนกับมีดดาบ แต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังกระบี่ที่เต็มไปด้วยลมปราณของฉู่ชวิ๋นได้เลย ประกายกระบี่ของเขาตัดขาตะขาบยักษ์ไปสิบกว่าข้าง
แต่ถึงอย่างนั้น ตะขาบยักษ์ตัวนี้มีขาอยู่หลายร้อยข้างการที่ถูกตัดไปสิบกว่าข้าง จึงไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บอะไรมากนัก มีแต่จะทำให้มันโกรธแค้นมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ตะขาบยักษ์ยกลำตัวขึ้นมา ดวงตาสีดำขนาดใหญ่ของมัน จ้องมองที่ฉู่ชวิ๋นด้วยแววตาน่าขนลุก
ฟู่!
น้ำกรดสีเขียวถูกพ่นเข้าใส่ใบหน้าของฉู่ชวิ๋น
ในเวลาเดียวกันนี้เอง ขาหลายร้อยข้างของตะขาบยักษ์ ก็ขยับด้วยความรวดเร็ว มันพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด ฉู่ชวิ๋นแอบชื่นชมอยู่ในใจว่า มันฉลาดมาก! มันรู้ว่าควรจะเบี่ยงเบนความสนใจของศัตรูได้อย่างไร
ฉู่ชวิ๋นม้วนกายหลบน้ำกรด ลดกระบี่ไม้ในมือลง พลันเส้นไหมสีขาวหลายพันเส้น ก็ปรากฏขึ้นรอบกายเขา ก่อนที่มันจะถักทอรวมกันกลายเป็นแส้เส้นหนึ่ง แส้ไหมสีขาวตวัดออกไป
ขวับ!
ฟาดลงไปกลางแผ่นหลังของตะขาบยักษ์ เลือดสีเขียวสาดกระจายไปในอากาศ ตะขาบยักษ์ชะงักลงไปเล็กน้อย แล้วมันก็ส่งเสียงขู่ร้องด้วยความโกรธแค้น
ขวับ!
คมมีดจำนวนมากพุ่งเข้ามาหาฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นตกตะลึงไปไม่น้อย คมมีดเหล่านี้ ก็คือขาตะขาบที่ถูกยิงออกมาถือเป็นกลยุทธ์การโจมตีที่น่าสนใจมาก แส้ไหมขาวตวัดวนเป็นวงกลม ปัดป้องคมมีดเหล่านั้นกระเด็นไป
ฟ่อ!
ตะขาบยักษ์ยกหัวขึ้นสูงและพุ่งตัวเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น ด้วยลำตัวที่ยาวมากกว่าสิบเมตร มันจึงล้อมฉู่ชวิ๋นเอาไว้อยู่ตรงกลางและจะใช้ขาของมัน เป็นใบมีดทิ่มแทงเขา
แต่ในทันใดนั้นเอง แส้ไหมขาวก็แตกตัวออก กลายเป็นเส้นไหมจำนวนนับไม่ถ้วนลอยวนอยู่ในอากาศและพุ่งไปพันขาของตะขาบยักษ์เอาไว้
หลังจากนั้น ประกายไฟก็สาดกระจายไปทั่ว ตะขาบยักษ์ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ขาหลายร้อยข้างของมันถูกตัดขาดในพริบตาเดียว ฉู่ชวิ๋นกำมือเป็นหมัด โคจรพลังให้ห่อหุ้มกำปั้นเอาไว้ เมื่อโคจรพลังได้เต็มที่ เขาก็โจมตีใส่ตะขาบยักษ์ทันที
เคล้ง!
เกิดเสียงเนื้อเหล็กปะทะกับเนื้อเหล็กอีกฝ่าย ผิวของตะขาบยักษ์มีความแข็งแกร่งเหมือนกับเหล็กกล้า แต่เจ้าตะขาบยักษ์ก็ไม่อาจต้านทานพลังของฉู่ชวิ๋นได้
เมื่อชายหนุ่มต่อยหมัดออกไปอีกครั้ง ลำตัวของตะขาบยักษ์ก็ถูกกระแทกเข้าเต็มแรง
ฉู่ชวิ๋นมีพลังที่สามารถฆ่าตะขาบยักษ์ได้อย่างแน่นอน ตะขาบยักษ์รู้แล้วว่า ฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งมากเกินไป มันอ้าปากออกและพ่นละอองสีเขียวปกคลุมแผ่นฟ้าและพื้นดิน
ความน่ากลัวของละอองสีเขียวก็คือ ไม่ว่ามันลอยผ่านไปตรงจุดไหน ต้นไม้ใบหญ้าก็จะเหี่ยวเฉาและตายลงไปในทันที
ในเวลาเดียวกันนี้ ตะขาบยักษ์ก็ใช้ขาทุกข้างที่เหลืออยู่ติดตัว วิ่งหนีไปด้วยความรวดเร็ว ถึงแม้ว่าขาทุกข้างของฝั่งหนึ่ง จะถูกตัดทิ้งไปเกือบทั้งหมด แต่ความเร็วของมัน ก็ไม่ได้ลดลงเลย เพียงพริบตาเดียว เจ้าตะขาบยักษ์ก็หายเข้าไปในป่าลึกแล้ว
ฉู่ชวิ๋นวนมือเป็นวงกลมและโคจรพลังอีกครั้ง
วูบ!
สายลมแรงพัดต้นไม้ใบหญ้าเอนลู่ไปตามแรงลม เกิดพายุหมุนลอยลงมาจากท้องฟ้า ปัดเป่าละอองสีเขียวกระจายหายไปในพริบตา
ไม่กี่วินาทีต่อมา ไม่มีละอองสีเขียวอยู่อีกแล้ว
ฉู่ชวิ๋นได้แต่หัวเราะออกมาเบาแล้วเขาก็เห็นควันลอยขึ้นมาในที่ไกลตา ต้นไม้ถูกโค่นล้ม ตะขาบยักษ์หนีหายเข้าไปในกลางป่าเขาเรียบร้อยแล้ว
นับว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดจริง ๆ! ฉู่ชวิ๋นถอนหายใจออกมา ความจริงแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากเหมือนกัน ถ้าจะให้เขาสังหารตะขาบยักษ์ที่ตัวใหญ่เท่านี้ แม้ว่ามันจะมีพิษร้ายแรง แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามันจะเป็นฝ่ายทำร้ายใครก่อน แล้วมันก็ตัวใหญ่มาก แสดงให้เห็นว่า มันคงมีชีวิตอยู่มานานหลายร้อยปีแล้วให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปก็ดีแล้วละ!
เมื่อหันมองกลับไปข้างหลัง ฉู่ชวิ๋นก็เห็นลูกศิษย์ของหุบเขาราชาพิษหลายร้อยคน ยืนทำตัวไม่ถูก คนกลุ่มนั้นจ้องมองฉู่ชวิ๋นด้วยแววตาสับสน ในตอนนี้ราชาพิษผู้เป็นเจ้าสำนักทิ้งพวกเขาไป เพื่อเอาตัวรอดเพียงคนเดียวและกลายเป็นจอมมารอย่างฉู่ชวิ๋นที่มาช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้แทน
“ไปซะ!” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ กลุ่มคนหลายร้อยคนถึงกับตกตะลึง จากนั้นก็มีเสียง ‘ฮูเล่!’ ดังขึ้น พวกเขาก้มลงคุกเข่าคำนับศีรษะให้กับฉู่ชวิ๋น ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและเดินออกจากหุบเขาแห่งนี้ไป ไม่แน่ว่าหลังจากนี้ ภาพลักษณ์ของฉู่ชวิ๋นในหัวใจของพวกเขาคงไม่ใช่จอมมารร้ายอีกต่อไป แต่ได้เปลี่ยนใหม่กลายเป็นเทพเจ้าฉู่ชวิ๋น!