จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 215 ความเปลี่ยนแปลงของโลก[รีไรท์]
บทที่ 215 ความเปลี่ยนแปลงของโลก[รีไรท์]
มีสัตว์ร้ายจำนวนมากมายถูกพบทั่วโลก
สัตว์ประหลาดเหล่านั้น อย่างเช่นช้างเผือกและวัวยักษ์ ต่างก็มีขนาดร่างกายใหญ่โตสูงมากกว่าหลายสิบเมตรเทียบเท่ากับภูเขาลูกหนึ่งเลยทีเดียว
นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์ป่าและต้นไม้ที่มนุษย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อน อย่างเช่น ต้นไม้ที่สูงทะลุก้อนเมฆ มีใบใหญ่โตเท่ากับบ้านหลังหนึ่ง และสัตว์ป่าที่มีหัวเป็นสิงโต แต่มีตัวเป็นเสือโคร่ง ลักษณะคล้ายกับตัวไลเกอร์ในตำนาน
สวรรค์กับโลกมนุษย์บรรจบกัน ทำให้จอมยุทธ์จำนวนมาก สามารถบรรลุพลังขั้นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
แม้แต่คนธรรมดา ก็มีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทุกคนต่างก็ตระหนักดีว่า โลกใบนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว
ตอนแรก สัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็หากินอยู่ตามภูเขาและป่าลึก หรืออยู่บริเวณชานเมืองบ้างเล็กน้อย แต่พวกมันก็เริ่มทำร้ายคนอย่างช้า ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์เหล่านี้ยังมีสติปัญญาที่ฉลาดเฉลียว
รัฐบาลทั่วโลกต่างก็ปวดหัว สัตว์ประหลาดเหล่านี้มีความดุร้ายเกินไป แถมพวกมันยังฉลาดเกินไป ยากต่อการรับมือ
มีรายงานว่า สัตว์ร้ายเหล่านี้ทำร้ายผู้คนไปทั่วประเทศจีน
มีคลิปวิดีโอของสัตว์ร้ายนานาชนิดทำร้ายผู้คนถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตจำนวนนับไม่ถ้วน
เสือดาวขนาดตัวยาวมากกว่าสามเมตร มีผิวหนังเป็นประกายสีเงินเรืองรอง มันวิ่งไวปานสายลม กรงเล็บคมจนสามารถเจาะทะลุแผ่นเหล็ก มันบุกเข้ามาในหมู่บ้านและฆ่าผู้คนอย่างบ้าเลือด มีคนถูกมันฆ่าตายไปไม่ต่ำกว่าสองร้อยคนแล้ว
แล้วก็ยังมีงูเหลือมที่มีขนาดลำตัวเท่ากับถังน้ำใบหนึ่ง เกล็ดบนตัวของมันแข็งอย่างกับหิน พวกมันกระจายตัวอยู่ทุกหนทุกแห่ง บุกเข้าไปในหมู่บ้านคน บ้านเรือนที่ก่อสร้างด้วยก้อนอิฐ ต้องพังทลายลงด้วยฝีมือของ
งูเหลือมยักษ์เหล่านี้ แค่หางของมันที่สะบัดไปมาก็ฆ่าชาวบ้านไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน
นอกจากนี้ ยังมีเหยี่ยวหิมะที่ออกบินหากินในพื้นที่ต่ำ มันบินโฉบไปมาเหมือนกับเครื่องบินรบ เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งถูกนกมรณะเหล่านี้ เข้าโจมตีจนมีสภาพน่าอนาถใจเป็นอย่างยิ่ง
ประชาชนดำรงชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ตามสวน ไร่นา ถูกทิ้งร้าง โรงงานอุตสาหกรรมปิดตัวลง และผู้คนหลายพันคนก็อพยพหนีไป
แต่เมื่อชีวิตดำเนินมาถึงจุดหนึ่ง ความยากจนและความหิวโหย ก็ทำให้ผู้คนหลงเดินทางผิดได้อย่างง่ายดาย
เกิดการปล้น การฆาตกรรม และอาชญากรรมทุกชนิดขึ้นในทุก ๆ วัน ดูเหมือนว่าโลกทั้งใบจะตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าเป็นรัฐบาลของประเทศไหน ต่างก็วิตกกังวลสุดขีดจนต้องส่งกองทหารเข้าไปประจำการตามหัวเมืองใหญ่ ๆ
เริ่มมีกลุ่มจอมยุทธ์รวมตัวกันและออกไล่ล่าสัตว์ร้ายเหล่านี้เป็นทีม
สัตว์ร้ายเหล่านี้มีความฉลาดเฉลียวและมีความแข็งแกร่งไม่น้อย เมื่อเกิดการปะทะอย่างซึ่งหน้า ก็ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก
เรื่องนี้สร้างความโกรธแค้นให้ผู้คนในวงการยุทธภพเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาเริ่มต้นออกไล่ล่าสัตว์ร้ายเหล่านี้ ด้วยความบ้าระห่ำมากกว่าเดิม
แต่ที่สำคัญก็คือ สัตว์ร้ายเหล่านี้ถือเป็นของมีค่า ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหรือเลือด ต่างก็มีสารอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อได้รับประทานเข้าไปแล้ว ก็จะส่งผลดีต่อการฝึกวิชา
ในเว็บบอร์ดชุมนุมชาวยุทธ์ ก็เกิดความคึกคักมากขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า สัตว์ร้ายเหล่านั้น ก็กลายเป็นเหยื่อของเหล่าจอมยุทธ์
ไม่ว่าจะเป็นหมาป่าสีน้ำเงินที่มีขนาดตัวยาวหลายเมตร หมูป่าที่มีขนาดเท่ากับรถหุ้มเกราะ รวมถึงสัตว์อีกหลายชนิดที่ถูกเข้าใจว่า สูญพันธุ์ไปนานแล้วต่างก็ถูกฆ่าตายไปเป็นจำนวนไม่น้อย
ณ บริเวณชายป่าโบราณแห่งหนึ่ง
ทีมล่าสัตว์ซึ่งประกอบไปด้วยจอมยุทธ์จำนวนหลายสิบคน กำลังรวมตัวกันเพื่อรออะไรบางอย่าง
หัวหน้าทีมล่าสัตว์ทีมนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอก็คือโฉมงามอย่างยัยตัวร้าย เธอยังคงสวมใส่ชุดหนังอยู่เช่นเดิม แต่ใบหน้าของเธอไม่ได้แต่งหน้าจัดเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ตอนนี้เธอดูเป็นผู้หญิงธรรมดามากขึ้น
ในฐานะผู้สืบทอดสำนักภูผาทมิฬ ทุกคนต่างก็เคยดูถูกว่า เธอคงเป็นเพียงแค่เด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่ง แต่แล้วยัยตัวร้ายก็สามารถเลื่อนระดับพลังขึ้นมาเทียบเท่ากับปรมาจารย์ระดับสาม ถือว่าเธอมีฝีมือที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
พวกเขามารวมตัวกันที่นี่ เพื่อออกล่าเสือขาวตัวหนึ่ง จากข้อมูลของชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนี้
เสือขาวตัวนี้ฆ่าคนไปเกือบร้อยคนแล้ว
ดวงตะวันกำลังจะตกดิน สายลมพัดแผ่วเบา ในทันใดนั้นเอง กลิ่นสาบเสือก็ลอยตามลมมาเตะจมูกทุกคน
“ทุกคนเตรียมตัว” ยัยตัวร้ายออกคำสั่ง นอกจากผู้อาวุโสเล่ยที่ติดตามเธอมาอย่างยาวนานแล้ว คนอื่นที่อยู่ในทีมล่าสัตว์ ก็เป็นแค่ผู้ที่มาเข้าร่วมชั่วคราวเท่านั้น ทุกคนรีบโคจรพลังลมปราณทันที
ยัยตัวร้ายโดดขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง และกวาดตามองทั่วบริเวณ ดวงตาของเธอหรี่ลงไปเล็กน้อย
ในป่าที่อาบไล้ไปด้วยแสงอาทิตย์ ซึ่งกำลังจะตกดิน เสือขาวที่มีความสูงราวสามเมตรและมีความยาวของลำตัวประมาณห้าถึงหกเมตรตัวหนึ่ง ก็ค่อย ๆ เดินออกมา
ยัยตัวร้ายส่งสัญญาณมือ คนอื่นจึงได้รู้ว่า เธอพบเป้าหมายแล้ว จึงเตรียมพร้อมลงมือทันที
ครืน!
ในป่าทึบ ต้นไม้ล้มระเนระนาด ใบไม้ปลิวกระจาย
เสือขาวยักษ์ปรากฏตัวขึ้นในสายตาของทุกคน ไม่ว่าเป็นใครต่างก็หดคอโดยไม่รู้ตัว เสือขาวตัวนี้มีความดุร้ายเป็นที่สุด ดวงตาของมันสุกใสเหมือนกับกระดิ่งทองแดงและมีสีแดงเหมือนกับสีเลือด ปากของมันเต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมที่เหมือนกับมีดโกนที่มีความยาวสิบเซนติเมตร ถ้าใครลองโดนกัดเข้าไปล่ะก็ร่างกายคงขาดเป็นชิ้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
โฮก!
เสือขาวส่งเสียงร้องคำรามก้องป่าโบราณ ร่างกายของมันเปล่งแสงสว่างไสวโดดเด่นสะดุดตาเป็นอย่างยิ่ง มันระมัดระวังตัวเป็นที่สุด ยืนนิ่งอยู่บริเวณชายป่าส่งเสียงคำรามและจ้องมองมายังตำแหน่งที่ทีมล่าสัตว์ซ่อนตัวอยู่เป็นเวลานาน
ถึงแม้ว่าทีมล่าสัตว์เพิ่งจะรวมตัวกันได้ไม่นาน แต่ข้อดีก็คือระดับฝีมือของทุกคนไม่ได้ต่ำต้อย แม้แต่ผู้ที่มีฝีมืออ่อนด้อยที่สุดในทีม ก็ยังเป็นจอมยุทธ์ขั้นปรมาจารย์ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะต่อกรได้โดยง่าย
เจ้าเสือขาวยักษ์ใหญ่ตรวจไม่พบความอันตราย มันจึงเดินเข้ามาอย่างสบายใจ กรงเล็บแต่ละข้างมีขนาดเท่ากับชามข้าว เวลามันก้าวเดินแต่ละที พื้นดินก็สั่นสะเทือน เจ้าเสือร้ายเข้ามาใกล้จุดที่ทีมล่าสัตว์กำลังซ่อนตัวอยู่ทุกทีแล้ว
“ฆ่ามัน!” ยัยตัวร้ายส่งเสียงตะโกนออกคำสั่ง พร้อมกันนั้นตัวเธอเองก็กระโดดลงจากต้นไม้ หญิงสาวโคจรพลังลมปราณลงไปที่เท้า และหมายจะเหยียบย่ำลงไปที่กลางแผ่นหลังของเสือยักษ์ให้เต็มแรง
เสือขาวตัวนั้นตกใจไม่น้อยกับการปรากฏตัวของยัยตัวร้าย แต่มันมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วมาก พริบตาต่อมามันก็กระโดดไปไกลสิบกว่าเมตรแล้ว
โครม!
พื้นดินยุบตัวลงไป ยัยตัวร้ายตกใจไม่น้อย เสือขาวมีปฏิกิริยาตอบรับที่รวดเร็วมาก จนสามารถหลบหนีไปได้ทัน เท้าของเธอจึงกระแทกลงไปบนพื้นเต็มแรง เกิดเป็นหลุมกว้างขนาดใหญ่
พรึบ!
ร่างของมนุษย์หลายคนปรากฏตัวขึ้น จัดค่ายกลล้อมรอบพยัคฆ์ร้ายไว้อยู่ตรงกลาง
ดวงตาของเจ้าเสือเป็นสีแดงก่ำ มันหมุนตัวมองกลุ่มคนที่ยืนล้อมรอบ และส่งเสียงคำรามออกมาน่าสะเทือนขวัญ
โฮก!
เสียงคำรามของเจ้าเสือร้ายดังกังวานเหมือนกับเสียงฟ้าร้อง ทำให้ทุกคนที่ได้ยินถึงกับขนลุกซู่
“ทุกคนถอยไป”
ผู้อาวุโสเล่ยเป็นคนคำรามประโยคนี้ออกมา สิบปีที่แล้วเขาเป็นปรมาจารย์ระดับหก ในตอนนี้ฝีมือของเขาเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นปรมาจารย์ระดับแปดแล้ว
หลังจากที่เจ้าเสือร้ายคำราม มันก็พุ่งเข้าไปหาจอมยุทธ์ที่มีฝีมืออ่อนด้อยที่สุดในกลุ่ม
จอมยุทธ์หนุ่มผู้นั้นใบหน้าเปลี่ยนสี กระทืบเท้าลงบนพื้นและดีดตัวขึ้นไปกลางอากาศ แต่เสือขาวลงมือด้วยความรวดเร็วมากเกินไป กรงเล็บของมันจึงตะปบเข้ากับร่างของจอมยุทธ์ผู้นั้นในอากาศ
ขวับ!
เลือดสาดกระจาย จอมยุทธ์หนุ่มส่งเสียงร้องโหยหวน กรงเล็บของเจ้าเสือร้ายตวัดตัดขาของเขาขาดต่อหน้าต่อตาทุกคน
หลังจากนั้นมันก็อ้าปากกินขาที่ขาดเข้าไปเคี้ยวกรุบ ๆ อย่างเอร็ดอร่อย ทุกคนตัวสั่นเทาด้วยความไม่รู้ตัว นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว
“เจ้าสัตว์นรก!”
ผู้อาวุโสเล่ยกำลังโกรธแค้น ยกมือขึ้นมาซัดพลังลมปราณใส่เจ้าเสือขาวทันที
พลั่ก!
เจ้าเสือร้ายถูกพลังกระแทกกลิ้งกระเด็นออกไป
โฮก!
มันส่งเสียงคำรามในขณะที่ม้วนตัวลุกขึ้นมา และหันมาจ้องมองผู้อาวุโสเล่ยด้วยดวงตาแดงฉาน
ทุกคนถึงกับตกตะลึงไปแล้ว พลังลมปราณของปรมาจารย์ระดับแปด สามารถทำลายได้แม้แต่ศิลาทองคำ ทว่าสำหรับเจ้าเสือยักษ์ตัวนี้ แม้แต่ขนสักเส้นก็ไม่หลุดออกมาด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่เลือดสักหยดก็ไม่มีให้เห็น ผู้อาวุโสเล่ยมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาแล้ว และเตรียมการตั้งรับอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
โฮก!
เจ้าเสือขาวคำราม กระโดดเข้ามาหาผู้อาวุโสเล่ย
“พวกเราลงมือพร้อมกัน” ยัยตัวร้ายร้องตะโกนเสียงดัง ในขณะที่กระโดดเข้าไปพร้อมกับโคจรพลังลมปราณและประกบฝ่ามือเข้าด้วยกัน
คนอื่น ๆ ก็ไม่รอช้า แต่ละคนชักดาบขนาดใหญ่ออกมา กระโดดเข้าหาเจ้าเสือร้ายด้วยความอำมหิต
ผู้อาวุโสเล่ยโคจรพลังลมปราณเต็มสูบ ก่อนที่จะตวัดดาบในมือตัดอากาศออกไป
ขวับ!
มวลอากาศปั่นป่วน ประกายดาบสว่างวาบ เสือขาวยักษ์ดีดตัวขึ้นกลางอากาศ พยายามจะหลบหนีรัศมีดาบที่พุ่งเข้ามา
ขวับ!
เลือดสาดกระจาย คมดาบฟันถูกหน้าผากเสือร้าย เกิดเป็นรอยแผลขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้ว
เจ้าเสือยักษ์กลิ้งกระเด็นไปบนพื้นดิน มันส่งเสียงคำรามจนสั่นสะเทือนไปทั้งป่า หมายความว่า ในขณะนี้มันกำลังเดือดดาลอย่างที่สุด
ในเวลาเดียวกันนี้เอง คนอื่น ๆ ก็เข้าโจมตีเจ้าเสือร้ายพร้อมกัน ร่างกายขนาดใหญ่ของมันกลายเป็นที่รับคมดาบ เสือขาวยักษ์ร้องคำรามและสะบัดหางด้วยความเกรี้ยวกราด บางคนที่หลบหางของมันไม่ทัน ก็ถูกกระแทกเข้าไปจนกระอักเลือดและร่างก็ลอยกระเด็นไปไกล ดาบขนาดใหญ่ร่วงหล่นออกไปจากมือ
ยัยตัวร้ายเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจน เธอมีใบหน้าซีดขาวเล็กน้อย เสือร้ายตัวนี้น่ากลัวกว่าที่เธอคิดเอาไว้
เสือขาวยักษ์คำรามด้วยความโกรธแค้นสุดขีด มีเลือดไหลออกมาจากลำตัว ขนสีขาวบนตัวของมันถูกย้อมกลายเป็นสีแดงเลือด
ทันใดนั้น มันก็กระโจนเข้าใส่จอมยุทธ์ที่เป็นปรมาจารย์ระดับสองคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสท่านนี้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกหางฟาดใส่อยู่ก่อนแล้ว เขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวด้วยซ้ำ แต่ใครจะไปคิดเลยว่า เจ้าเสือร้ายกลับเปลี่ยนจุดหมายกลางคัน มันหันกลับไปอีกทางและตวัดกรงเล็บด้วยความดุร้าย
ขวับ!
เลือดพุ่งกระฉูดสูงมากกว่าหนึ่งเมตร
ปรมาจารย์ระดับสามคนหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ก็ถูกหางเสือฟาดจนได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้เขาถึงกับหัวขาด เพราะถูกกรงเล็บเสือตะปบเข้าอย่างจัง เหตุการณ์นองเลือดที่น่าสะเทือนขวัญนี้ ทำให้ทุกคนได้ แต่ยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง
เสือขาวยักษ์กระโดดไปไกลหลายเมตร และหยุดลงตรงหน้าศีรษะของจอมยุทธ์ที่ถูกกรงเล็บของมันตัดขาดกระเด็นไป
โผละ!
กรงเล็บที่มีขนาดเท่ากับชามข้าวตะปบลงไปบนหัวของจอมยุทธ์ผู้นั้น เลือดสีแดงและมันสมองสีขาวสาดกระจาย หัวของจอมยุทธ์ ผู้ถึงฆาตถูกบดขยี้ไม่เหลือชิ้นดี
เจ้าเสือร้ายตกอยู่ในภาวะบ้าเลือดเต็มที่ มันกระโดดเข้าไปหาปรมาจารย์ระดับสามอีกคน ซึ่งถือดาบขนาดใหญ่อยู่ในมือตอนนี้เขาเป็นเป้าหมายรายต่อไปของมัน มันอ้าปากกว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวเสือขนาดใหญ่น่าหวาดกลัว
“ตายซะเถอะ!”
ผู้อาวุโสเล่ยกำลังโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้พวกเขาเหลือคนคอยต่อสู้แค่เพียงสองคนเท่านั้น อีกสองคนตายไปแล้วและอีกหลายคนก็ได้รับบาดเจ็บ
เขากำดาบในมือแนบแน่นและตวัดดาบออกไป
ขวับ!
ตัวดาบเป็นประกายสว่างจ้า
เจ้าเสือร้ายที่กำลังจะกระโจนเข้าใส่ผู้อาวุโสคนนั้น จู่ ๆ หน้าท้องของมันก็แหวกออก เลือดสีแดงสาดกระจายในอากาศ ในขณะที่ร่างของมันลอยกระเด็นออกไป
เสือขาวยักษ์กลิ้งไปหลายตลบ มันพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนอีกหลายรอบ แต่ก็ต้องล้มกลับลงไปทุกรอบ บริเวณช่วงท้องของมันเป็นแผลเหวอะหวะจากประกายดาบเมื่อสักครู่นี้ ลำไส้ไหลทะลักออกมากองอยู่บนพื้นดิน เช่นเดียวกับหัวขนาดใหญ่ของเจ้าเสือร้ายที่ถูกตัดขาดและกลิ้งกระเด็นไปไกล เลือดไหลทะลักออกมาจากลำคอของมันเหมือนกับท่อน้ำแตก
“แย่แล้ว เสียของหมด!”
บรรดาจอมยุทธ์ที่ยังเหลือเรี่ยวแรงอยู่ เห็นดังนั้นก็รีบรวบรวมกำลังวิ่งมาดื่มเลือดเสือทันที เลือดของเสือยักษ์ถือว่าเป็นของดี มีคุณค่าต่อร่างกายมากมาย จะปล่อยให้สูญเปล่าไปไม่ได้
“ขอบคุณมากเลยท่าน” ปรมาจารย์ที่เกือบตายหันมาขอบคุณผู้อาวุโสเล่ย และชื่นชมในฝีมือดาบของเขา
“ท่านผู้อาวุโส เพลงดาบของคุณยอดเยี่ยมจริง ๆ แม้แต่เสือร้ายอย่างนี้ก็ถูกจัดการได้ในกระบวนท่าเดียว พวกเรารอดตายกันมาได้เป็น เพราะคุณแท้ ๆ ต่อให้พวกเราที่เหลือร่วมมือกันเท่าไหร่ ก็คงฆ่ามันไม่ได้หรอก” จอมยุทธ์ที่มีพลังปรมาจารย์ระดับหนึ่ง พูดออกมาหลังจากที่ปาดเลือดเสือออกไปจากริมฝีปาก
คนอื่น ๆ ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เจ้าเสือร้ายตัวนี้ มีความแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเขาคาดคิดเอาไว้ พลังของมันเทียบเท่ากับปรมาจารย์ระดับแปด ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผู้อาวุโสเล่ยมีเพลงดาบกล้าแข็ง ในวันนี้คงไม่มีใครทราบว่า จะต้องมีคนตายเพราะเสือขาวตัวนี้อีกสักกี่คน
“พวกคุณทุกคนต่างก็เป็นคนมีฝีมือ ถ้าวันนั้นพวกคุณได้ไปอยู่ที่นั่นด้วย ก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้เพลงดาบนี้เหมือนกัน” ผู้อาวุโสเล่ยพูดพร้อมกับนึกถึงอดีตที่ยาวนาน
ตลอดสิบปีที่ผ่านมานี้ จอมยุทธ์ทุกคนมีฝีมือเก่งกล้ามากขึ้น และแทบไม่มีใครจำได้แล้วว่าเมื่อสิบปีก่อนเกิดอะไรขึ้นบ้างในยุทธภพ
“เพลงดาบนี้มีอยู่ด้วยกัน สิบแปดกระบวนท่า ฉันเรียนรู้มาได้แค่ สี่กระบวนท่าเท่านั้น แต่มันก็เป็นกระบวนท่าที่ฉันจะใช้ไปตลอดชีวิต” ผู้อาวุโสเล่ยถอนหายใจออกมายาวแรง
“ผู้อาวุโส แล้วเจ้าของเพลงดาบที่ถ่ายทอดให้กับคุณละ ช่วยบอกพวกเราหน่อยเถอะว่าเขาผู้นั้นคือใครกัน ?” ใครคนหนึ่งถามขึ้นมา
สีหน้าของยัยตัวร้ายแปลกประหลาดไปเล็กน้อย เธอหันกลับมาและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เพลงดาบนี้สลักอยู่บนยอดเขาเฉียนหลง แต่น่าเสียดายที่ภูเขาเฉียนหลงถูกปิด และไม่มีใครเข้าไปในนั้นได้หลายปีแล้ว”
“พวกคุณกำลังพูดถึงจอมมารฉู่ ที่เรืองอำนาจเมื่อสิบปีก่อนใช่ไหม ?” ปรมาจารย์คนที่เกือบถูกเสือตะปบตายถามผู้อาวุโสเล่ยพยักหน้า ตอบว่า “ใช่ เป็นเขาเอง”
“ใครคือจอมมารฉู่เหรอครับ ?” จอมยุทธ์หนุ่มหน้าใหม่ ที่เพิ่งเลื่อนพลังเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ระดับหนึ่ง ถามด้วยความสงสัย
ยัยตัวร้ายตอบกลับไปว่า “เขาคือตำนาน เขาทำให้โลกยุทธภพปั่นป่วนได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่มีใครอยากจะเป็นศัตรูกับเขา มีปรมาจารย์ระดับแปดและเก้า ต้องตายในมือเขาไม่ต่ำกว่าสิบคน ส่วนปรมาจารย์ระดับอื่น ๆ นั้นไม่สามารถประเมินได้เลยว่า ตายไปกี่คนแล้ว บางคนก็เรียกขานเขาว่าปีศาจ บางคนก็ว่าเขาเป็นจอมมาร แต่บางคนก็บูชาเขาเป็นเทพเจ้า”
เมื่อได้รับฟังคำอธิบายจากยัยตัวร้าย ทุกคนก็ถึงกับตกตะลึงไปทันที จอมมารฉู่ ผู้สามารถสังหารปรมาจารย์ระดับแปดและระดับเก้า ได้เป็นว่าเล่นงั้นเหรอแล้วปัจจุบันนี้ เขาหายไปอยู่ที่ไหนกันนะ ?