จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 339 สหพันธ์ศาสตร์มืด
บทที่ 339 สหพันธ์ศาสตร์มืด
หยานหวูซวงดวงตาแดงก่ำ ลมปราณพวยพุ่งออกมาจากร่างกายในขณะที่เขากระโดดเข้าใส่ผู้เฒ่าชาร์ลี
ชายชราไม่รีบร้อน ยกมือขึ้นมาอย่างเชื่องช้า
พื้นดินสะเทือน เกิดเป็นกำแพงดินทั้ง 4 ด้าน กักขังหยานหวูซวงเอาไว้อยู่ตรงกลาง
เปรี้ยง!
หยานหวูซวงชกลมปราณใส่กำแพงจนพังทลาย
แต่โชคร้ายที่เมื่อกำแพงดินสลายตัว มันก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ในพริบตาเดียว
ครืน!
กำแพงดินรอบด้านบีบตัวเข้ามาหมายจะบีบอัดหยานหวูซวงให้บี้แบน
นับว่าลงมือได้เด็ดขาดมาก เหล่าจอมยุทธ์ชาวจีนทุกคนได้แต่กลั้นหายใจลุ้นเอาใจช่วยหยานหวูซวง
แต่ในตอนนั้นเอง แส้สีม่วงก็เป็นประกายสว่างไสว มันพุ่งทะลุขึ้นมาจากพื้นดินและสะบัดวาบทำลายกำแพงดินเหล่านั้นให้พังทลาย
เปรี้ยง!
กำแพงดินทั้ง 4 ด้านแตกกระจาย หยานหวูซวงจึงรีบถอยออกมาทันที
แส้สีม่วงพุ่งทะยานขึ้นมาจากใต้พื้นดินและทะลุกำแพงดินอย่างง่ายดาย สร้างความประหลาดใจให้แก่กลุ่มคนดูเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะผู้เฒ่าชาร์ลี สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป ดวงตาของเขาเป็นประกายในขณะที่หันไปมองกลุ่มจอมยุทธ์ชาวจีนด้วยความสนใจใคร่รู้
ฟิ้ว!
แส้สีม่วง 4 เส้นตวัดเข้ามาเหมือนกับงูฉกอย่างรวดเร็วและเป้าหมายของพวกมันก็คือผู้เฒ่าชาร์ลี
ชายชราตกใจไม่น้อยแต่ก็ต้องรักษาอาการเอาไว้ ชายชรารวบรวมพลังสร้างกำแพงดินขึ้นมาขวางกั้นด้านหน้าของตัวเอง
แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าแส้เหล่านั้นจะมีอานุภาพเหมือนกับกระสุนเจาะเกราะ มันสามารถทะลุกำแพงดินเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
เพี๊ยะ!
แส้สีม่วงฟาดลงไปบนร่างกายของผู้เฒ่าชาร์ลี พริบตานั้น ผิวหนังของชายชราก็มีเลือดสาดกระจาย ทำให้ชายชราต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ในเวลาเดียวกันนี้ แส้อีก 3 เส้นก็ทะลุกำแพงดินเข้ามาพวกมันเฆี่ยนตีผู้เฒ่าชาร์ลีอย่างไร้ความเมตตา
พลัน เสียงร้องโหยหวนของชายชราแผดดังมากยิ่งขึ้น
ร่างกายของชายชราเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด มองไปแล้วน่าสยองขวัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแส้ที่ฟาดเข้าไปบนใบหน้าของเขา ทำให้ริมฝีปากและใบหน้าของชายชราบิดเบี้ยว มีเลือดไหลโชกจนน่ากลัว
ผู้เฒ่าชาร์ลีไม่ได้เป็นแค่เพียงพ่อมดเท่านั้น แต่เขายังเป็นผู้ใช้วิชาระดับสูง ชายชรามองสายแส้ทั้ง 4 เส้นที่กำลังจะตวัดฟาดเข้ามา ทันใดนั้นพื้นดินรอบตัวเขาก็พุ่งขึ้นมาล้อมตัวเองเอาไว้เกราะป้องกัน
เปรี้ยง!
แต่เกราะป้องกันก็ระเบิดทันทีที่แส้สะบัดลงมา ผู้เฒ่าชาร์ลีส่งเสียงร้องโหยหวนอีกครั้ง
แส้สีม่วงคมราวกับคมดาบ ทุกครั้งที่มันตวัดฟาดลงมา ผิวหนังและกล้ามเนื้อของชายชราก็จะหลุดออกไป จนตอนนี้สามารถมองเห็นกระดูกบางส่วนได้แล้ว
ผู้เฒ่าชาร์ลีหวาดกลัวถึงขีดสุด ความเยือกเย็นบนใบหน้าของเขาหายไปจนหมดสิ้น ชายชราได้แต่ร่ำร้องออกมาด้วยความหวาดหวั่นกลัวความตาย
“ช่วยฉันด้วย!” เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากกลุ่มนักรบยุโรป
แต่หลายคนต่างก็รู้สึกเหมือนกันว่าพวกสหพันธ์ศาสตร์มืดเป็นตัวร้ายกาจ ปล่อยให้ถูกฆ่าตายไปก็ดีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมใจวิ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้เฒ่าชาร์ลี
“หยุดพวกมันเอาไว้!”
อี้เสี่ยวซูออกคำสั่ง คนของสมาคมนักล่ามังกรของเขาวิ่งออกไปขวางทางนักรบจากยุโรปที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้เฒ่าชาร์ลี
ส่วนกลุ่มจอมยุทธ์จีนคนที่เหลือนอกจากยืนดูเฉย ๆ ไม่ทำอะไรแถมยังถอยหลังหนีห่างไปอีกสองก้าวราวกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเขา
ผู้เฒ่าชาร์ลีเป็นคนของสหพันธ์ศาสตร์มืด ถือเป็นองค์กรที่น่ากลัวของฝั่งยุโรป ถ้าเกิดผู้เฒ่าชาร์ลีโดนฆ่าตายขึ้นมา ถ้าพวกเขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย พวกเขาก็มีหวังได้กลายเป็นเป้าหมายทวงแค้นของพวกสหพันธ์ศาสตร์มืดกันพอดี กลุ่มจอมยุทธ์จีนรีบถอยกันอย่างรวดเร็ว
“ไอ้พวกเศษสวะเอ๊ย หน้าไม่อายสิ้นดี” หยานหวูซวงคำรามออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
เมื่อได้ยินดังนั้น กลุ่มจอมยุทธ์ชาวจีนก็หน้าชา ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นฝีมือของหยานหวูซวงก่อนหน้านี้ คงได้เข้าไปสั่งสอนคุณชายหนุ่มผู้นี้สักหน่อยเป็นแน่แท้
คนกลุ่มนี้ไม่กล้าต่อสู้กับนักรบจากยุโรป แต่กลับมีความกล้าหาญที่จะสู้กับคนชาติเดียวกันเอง นับว่าเสียชาติเกิดยิ่งนัก
อี้เสี่ยวซูอยากจะฆ่าคนกลุ่มนี้ไปให้หมด ในจังหวะเดียวกันเป็นฉู่ชวิ๋นที่เริ่มลงมือโจมตีผู้เฒ่าชาร์ลีอีกครั้ง ไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่สองเท้าของชายหนุ่มได้ส่งคลื่นพลังลมปราณสีม่วงแผ่ออกไปเป็นวงกว้าง
แส้สีม่วง 4 เส้นพุ่งตรงเข้าใส่ผู้เฒ่าชาร์ลี ฉู่ชวิ๋นเตรียมลงมือขั้นเด็ดขาด
“น้องหลิว น้องมัวรออะไรอยู่?” อี้เสี่ยวซูตะโกนอย่างไม่อยากเชื่อเมื่อเห็นฉู่ชวิ๋นเอาแต่ยืนดูอยู่เฉย ๆ
ฉู่ชวิ๋นที่ถูกขัดได้แต่ถอนหายใจออกมา เพราะมันเป็นขณะเดียวกันกับที่นักรบยุโรปสองคนวิ่งเข้ามาถึงข้างตัวของผู้เฒ่าชาร์ลีและหิ้วปีกกำลังจะพาชายชราหนีไป
ในพริบตานั้น แส้เส้นหนึ่งก็พุ่งเข้าไปม้วนพันรัดขาข้างหนึ่งของผู้เฒ่าชาร์ลี
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายอำมหิต
“ควับ!”
ผู้เฒ่าชาร์ลีหมดสติไปแล้ว ขาของเขาถูกแส้บีบรัดจนกระดูกแตกแหลกละเอียด
ฉู่ชวิ๋นดึงพลังกลับมาและเริ่มต้นสังหารศัตรูพร้อมกับถางโร้ว
จอมยุทธ์จีนคนอื่น ๆ ยังไม่เคลื่อนไหว รอบตัวของฉู่ชวิ๋นมีคนอยู่ไม่ต่ำกว่า 20 คนแล้วก็ยังมีพวกนักรบยุโรปติดอาวุธอีกประมาณ 40 ถึง 50 คน
ในทันใดนั้นเมื่อ ดาบและหมัดปะทะกัน ลมปราณที่ออกมาจากกำปั้นก็ส่องแสงแวววาวราวกับสายรุ้ง
ฟิ้ว! นั่นคือเสียงลูกธนูน้ำแข็งจากแม่มดน้ำแข็งไฟ
แต่น่าแปลกที่ลูกธนูไม่ได้ยิงใส่คน แต่กลับยิงใส่แค่เพียงอาวุธเท่านั้น
ตู้ม!
เลือดสด ๆ สาดกระจายย้อมพื้นดิน นักรบยุโรปถูกลมปราณของอี้เสี่ยวซูซัดใส่จนร่างแหลกสลาย
หยานหวูซวงไม่มีอาวุธอยู่ในมือ แต่ก็ยังสามารถใช้ลมปราณสังหารนักรบยุโรปไปได้อีกหลายคน แต่ฝ่ายสมาคมนักล่ามังกรก็บาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน
“พี่อี้ ถอยก่อน!” หยานหวูซวงตะโกนบอกอี้เสี่ยวซู
ทั้งสองฝ่ายมีจำนวนคนที่ต่างกันมากเกินไป ถ้าฝ่ายพวกเขาบาดเจ็บก็ไม่อาจรับประกันได้เลยว่ากลุ่มจอมยุทธ์จีนที่ยืนดูอยู่เฉย ๆ จะไม่เปลี่ยนฝ่ายขึ้นมาดื้อ ๆ
อี้เสี่ยวซูพยักหน้า สู้ไปพลางล่าถอยไปพลาง แต่กลุ่มนักรบยุโรปก็ไม่กล้าตามติดเข้ามาไล่ล่าฆ่าฟัน การต่อสู้จึงยุติลงเป็นการชั่วคราว
“ทุกคนเป็นยังไงบ้าง?” ครั้งนี้ถือว่าสมาคมนักล่ามังกรได้รับชัยชนะในการต่อสู้!
“ผมไม่เป็นไร แค่ได้หักคอพวกมันคนสองคนก็คุ้มค่าแล้ว” เยวี่ยต้าย่งพูด แม้จะมีเลือดไหลออกมาจากหัวไหล่อย่างน่ากลัวก็ตาม
คนอื่น ๆ ก็มีสภาพเลือดท่วมตัว แต่ยังยิ้มได้
ในตอนนี้ ผู้เฒ่าชาร์ลีได้สติขึ้นมาแล้วและเมื่อเขาพบว่าตนเองขาหักจนใช้การไม่ได้ ชายชราก็ตะโกนออกมาด้วยความคลุ้มคลั่ง
“ใครกัน? ใครทำแบบนี้กับฉัน? ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่กลุ่มจอมยุทธ์จีนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนทำ?
“ดีมาก ดีมาก ยอดเยี่ยมจริง ๆ …” ผู้เฒ่าชาร์ลีกัดฟันกรอด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่ปิดบังไม่ได้อีกต่อไป
ฉู่ชวิ๋นเกิดสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องอัปมงคลขึ้นมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกับสภาพที่ดูไม่ได้ของผู้เฒ่าชาร์ลี
ผู้เฒ่าชาร์ลีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่จะยกมือขึ้นยัดสองนิ้วเข้าปาก และผิวปากส่งเสียงหวีดหวิว
เสียงผิวปากนั้นดังกังวานไปไกล
ผู้เฒ่าชาร์ลีพูดอย่างเสียสติว่า “พวกแกต้องตายกันให้หมด! อย่าหวังเลยว่าจะมีใครรอดไปได้!!”
ก่อนที่จะมีผู้ใดตอบรับ เสียงคำรามก็ดังกังวาน ภูเขาสั่นสะเทือนไปทันที
“ไม่นะ นั่นมันมังกรดำ! เขาเรียกมังกรดำออกมาแล้ว!!” ใครบางคนกรีดร้องออกมา
จุดสีดำเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนขอบฟ้า และมันขยายใหญ่ขึ้นเมื่อใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และมันก็คือมังกรดำที่สังหารนายทหารจีนไปหลายพันคน
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจกลัว ไอสังหารก็แผ่ออกมาจากร่างกายของฉู่ชวิ๋น พร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ
เขามาที่นี่เพื่อฆ่ามังกรดำ ไม่คิดเลยว่ามังกรดำตัวนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับผู้เฒ่าชาร์ลี ถือว่าชายชราสมควรพบชะตากรรมเช่นนี้แล้วจริง ๆ
โฮก!
มังกรส่งเสียงคำรามดังก้องท้องฟ้า เวลาที่ปีกของมันขยับไปมาจะเกิดเป็นพายุลมหมุนรุนแรง มังกรยักษ์บินอยู่เหนือหัวของทุกคน ดวงตาขนาดใหญ่จ้องมองลงมาด้วยความเฉยชา ราวกับมันกำลังมองมดแมลงฝูงหนึ่งเท่านั้นเอง
ผู้เฒ่าชาร์ลีที่มีนักรบยุโรปสองคนคอยพยุงอยู่สองข้าง ลุกขึ้นและก้มศีรษะลง “ท่านมังกรดำผู้สูงส่ง ถ้าท่านสามารถฆ่าพวกมันให้เราได้ เราในฐานะตัวแทนของสหพันธ์ศาสตร์มืด จะขอตอบแทนสิ่งที่ท่านต้องการเป็นสองเท่า”
โฮก!
มังกรดำส่งเสียงคำรามเป็นเชิงรับรู้ เสียงคำรามของมันราวกับสั่นสะเทือนโลกได้ทั้งใบ
ไอสังหารของฉู่ชวิ๋นแผ่ออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่คิดเลยว่าสหพันธ์ศาสตร์มืดจะเป็นพวกเดียวกับมังกรดำ
“ฉันขอถามแกหน่อยเถอะ ทำไมต้องฆ่าทหารจีนของพวกเราด้วย?” ฉู่ชวิ๋นตะโกนออกไปด้วยความโกรธแค้น
ผู้เฒ่าชาร์ลีหันมามองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยสายตาดูถูก ด้วยคิดว่าจอมยุทธ์ฝีมือดีคงมีแค่เพียงหยานหวูซวงคนเดียวเท่านั้น จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับต่ำ ๆ อย่างฉู่ชวิ๋นไม่ควรค่าให้เขาเหลือบตามองด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังอุตส่าห์ยิ้มตอบฉู่ชวิ๋น “ก็เพราะว่าฉันทำแล้วมีความสุขยังไงล่ะ อย่าว่าแต่นายทหารชาวจีนเลย แม้แต่แกก็อย่าหวังว่าจะรอด”
“งั้นก็เข้ามาเลย!” ฉู่ชวิ๋นกำมือเป็นหมัดแน่น พลังลมปราณพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรุนแรง
อี้เสี่ยวซูและพรรคพวกถึงกับตกตะลึง แต่พวกเขาก็ไม่ได้สงสัยอะไรคิดเพียงแต่ว่าฉู่ชวิ๋นคงเป็นชายหนุ่มเลือดร้อนทั่วไป ที่ทนไม่ได้กับการเห็นบรรดานายทหารตระเวนชายแดนถูกฆ่าตายอย่างไม่เป็นธรรม
“พวกแกต้องตายกันทั้งหมดที่นี่!” ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง
ผู้เฒ่าชาร์ลียิ้มกว้าง “‘ให้ตายเถอะ พวกแกทำให้ฉันต้องเสียขาไป คนของฉันต้องตายไปเพราะฝีมือพวกแก แต่ไม่เป็นไรยังไงซะ พวกแกก็ต้องตาย!”
“ท่านมังกรดำ ได้โปรดฆ่าพวกมันด้วย!” ผู้เฒ่าชาร์ลีเงยหน้าตะโกนใส่ท้องฟ้า
โฮก!
มังกรดำบินโฉบกระพือปีก พายุลมหมุนโหมกระหน่ำ ปีกของมันใหญ่โตเสียจนบดบังแสงอาทิตย์ ในขณะที่ปากของมันก็พ่นไฟออกมา
“พวกเราหนี!” กลุ่มจอมยุทธ์จีนพากันวิ่งหนีแตกกระเจิงเหมือนฝูงผึ้งแตกรัง
ฟู่!
เปลวไฟพุ่งลงมาจากท้องฟ้าด้วยอุณหภูมิร้อนจัดที่แม้แต่อากาศก็หลอมละลาย เปลวไฟยังลามเลียไม่ถึงพื้นดิน พื้นดินก็ไหม้เกรียมและเกิดเป็นรอยแตกร้าวขึ้นมาแล้ว
“อ๊าก…”
เกิดเสียงร้องโหยหวนดังก้องกังวาน ผู้คนจำนวนมากถูกไฟเผากลายเป็นลูกไฟขนาดยักษ์ เพียงพริบตาเดียว คนเหล่านั้นก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้กลุ่มคนที่หลบหนีหวาดกลัวถึงขีดสุด เนื่องจากในบรรดาผู้เสียชีวิตมีจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 หรือระดับ 4 อยู่ด้วยหลายคน แต่พวกเขาก็กลายเป็นเถ้าถ่านในเวลาเพียงแค่พริบตาเดียว แล้วแบบนี้จะไม่ให้หวาดกลัวได้อย่างไร?
ฟู่!
เปลวไฟพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอีกครั้ง มังกรดำบินโฉบเหมือนแมวเล่นกับหนู มันอ้าปากพ่นไฟเผาไหม้ทุกคนที่อยู่ตรงหน้า
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังอย่างต่อเนื่อง กลุ่มคนเปลี่ยนเป็นลูกไฟยักษ์ พริบตาต่อมาก็เห็นแต่เพียงควันสีขาวลอยขึ้นมาจากพื้นแล้วเท่านั้น
เปลวไฟเผาไหม้พื้นดินและสิ่งมีชีวิต
คนจำนวนมากถูกเผาไหม้จนตาย อีกจำนวนไม่น้อยได้รับบาดเจ็บสาหัส เปลวไฟของมังกรดำมีอานุภาพที่น่ากลัวในระดับที่ว่าถึงจะไม่สัมผัสโดนตัว แต่ก็ทำให้บาดเจ็บสาหัสได้แล้ว
มีแต่เพียงจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 ขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะต้านทานเปลวไฟมังกรดำนี้ได้
ผู้เฒ่าชาร์ลีหัวเราะด้วยความคลุ้มคลั่ง
“ไอ้พวกจอมยุทธ์จีน อย่าคิดเลยว่าจะหนีรอด พวกแกต้องตายกันทุกคน”
“พี่ฉู่ชวิ๋น ช่วยพวกเขาเถอะนะคะ” ถางโร้วทนไม่ได้เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาในเวลาอันรวดเร็ว
คนอื่นได้ยินไม่ชัดเจน แต่อี้เสี่ยวซูยืนอยู่ใกล้ที่สุด จึงได้ยินถางโร้วเรียกหลิวเทียนเหอว่าฉู่ชวิ๋นเต็มสองหู
อี้เสี่ยวซูตัวสั่นเทาโดยไม่รู้ตัว เขาได้แต่หันไปมองฉู่ชวิ๋นแล้วยืนทำอะไรไม่ถูก
ฉู่ชวิ๋นเงียบไปอยู่สักครู่หนึ่ง ความจริงแล้ว เขาไม่คิดอยากช่วยเหลือเจ้าพวกจอมยุทธ์ขี้ขลาดเหล่านี้เลย ถ้าสักวันหนึ่งเกิดสงครามระหว่างจอมยุทธ์จีนกับนักรบยุโรปขึ้นมาจริง ๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลุ่มคนพวกนี้คงหันหลังวิ่งหนีไปเป็นพวกแรก ๆ อย่างแน่นอน
อย่างเช่นเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพื่อนร่วมชาติถูกฆ่าตายไปหลายพันคน แต่พวกมันกลับยังยืนดูอยู่ได้หน้าตาเฉย คนพวกนี้ในสายตาของฉู่ชวิ๋นถือว่าเป็นเพียงเศษขยะไร้ค่าเท่านั้น ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อไป!
“พี่ฉู่ชวิ๋น” ถางโร้วเป็นคนใจอ่อนและส่งเสียงอ้อนวอนอีกครั้ง
ฉู่ชวิ๋นยิ้มด้วยความขมขื่น เขาไม่อยากทำให้ถางโร้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลือดเย็นเกินไป เขาไม่อยากทำให้เธอผิดหวัง
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ” ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างใจอ่อน
ฉู่ชวิ๋นลงมือแล้ว เขาโคจรพลังลมปราณ แล้วเส้นไหมขนาดเล็กนับหมื่นเส้น ก็ถักทอรวมตัวกันกลายเป็นแส้เส้นใหญ่เส้นหนึ่ง
ควับ!
สายแส้พุ่งตรงขึ้นไปหามังกรดำบนท้องฟ้า
มังกรดำที่ไม่เคยมองมนุษย์บนพื้นดินต่างไปจากมดตัวเล็กตัวน้อย มันพ่นไฟใส่มนุษย์ด้วยความรู้สึกสนุกในการฆ่าตลอดมา
เพี๊ยะ!
สายแส้สะบัดฟาดเข้าไปที่ลำตัวของมังกรดำ ในวินาทีนั้น ลำแสงสีม่วงสว่างจ้าไปทั่วท้องฟ้า สว่างไสวจนแสบตาไปหมด
มังกรดำร่ำร้องด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่ตัวลอยกระเด็นไปกระแทกใส่ภูเขาลูกหนึ่งอย่างแรง
อี้เสี่ยวซูปากอ้าตาค้าง สมาชิกของสมาคมนักล่ามังกรคนอื่น ๆ ก็ได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ หลิวเทียนเหอสามารถฟาดมังกรกระเด็นไปได้อย่างไร
กลุ่มจอมยุทธ์จีนที่กำลังหลบหนีพลันหยุดเท้าแล้วหันกลับมามองโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความฉงนสนเท่ห์
มีเพียงแต่ผู้เฒ่าชาร์ลีเท่านั้นที่ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เขาจำแส้ที่ฟาดมังกรได้ดี มันคือแส้สีม่วงแบบเดียวกับที่ทำขาเขาหักจนหมดสภาพ
ชายชรายกมือชี้ไปที่ฉู่ชวิ๋นและคำรามว่า “แกนี่เอง แกนี่เอง…!”
จนถึงตอนนี้ สมาชิกของสมาคมนักล่ามังกรก็ได้สติกลับมา ทุกคนตกตะลึงและไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี? ที่แท้ก็เป็นแส้เส้นนี้นี่เองที่หักขาของผู้เฒ่าชาร์ลีไปเมื่อสักครู่