จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 348 ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
บทที่ 348 ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
ทันทีที่แองกัสพูดจบ หยานหวูซวงและคนอื่น ๆ ก็เดือดดาลขึ้นมาแล้ว
นี่คือการหยามเกียรติฉู่ชวิ๋นชัดๆ
“อย่าฝันไปหน่อยเลย” ใบหน้าที่สวยงามของถางโร้วมีแต่ความขยะแขยง
กร๊อบ!
แองกัสยิ้มออกมาเล็กน้อย มือของเขาเพิ่มแรงบีบมากขึ้น หยานหวูซวงกระอักเลือดออกมาจากปาก
“เธอนั่นแหละอย่าฝันไปหน่อยเลย? ที่ตอบออกมานี่คิดดีแล้วหรือยัง?”
“อย่าทำร้ายเขานะ!” ถางโร้วรีบพูดออกมา
“ถ้าเธอสัญญาว่าจะยอมเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันก็จะสัญญาเหมือนกันว่าจะปล่อยคนพวกนี้ไป” แองกัสยิ้มกว้าง
ดวงตาของถางโร้วสั่นไหว
“อย่าไปยอมมันนะ” อี้เสี่ยวซูคำรามด้วยความเคียดแค้น “มันตั้งใจจะหยามเกียรติจอมมารฉู่ ต่อให้พวกเราต้องตายกันหมด ก็อย่าให้มันทำได้สำเร็จ”
“ถางโร้ว อย่านะ ฉันไม่ยังยอมแพ้” หยานหวูซวงพูดออกมาด้วยความยากลำบาก เลือดจำนวนมากกำลังไหลทะลักออกมาจากปากของเขา
“พวกผมก็ไม่กลัวตายเหมือนกัน นายท่านฉู่ชวิ๋นจะต้องมาแก้แค้นให้พวกเราแน่นอน” สมาชิกของสมาคมนักล่ามังกรที่นอนระเกะระกะอยู่บนพื้นส่งเสียงตะโกนขึ้นมาบ้าง
“วิหารดวงตะวันโสโครก พวกแกจะต้องพ่ายแพ้ให้กับจอมมารฉู่ชวิ๋น” สมาชิกคนหนึ่งพูดจบ แองกัสก็ซัดพลังตัดขาเขาทิ้งไปทันที แต่สมาชิกผู้นั้นก็ยังร้องตะโกนต่อไปว่า “ต่อให้ฉันต้องตาย! ฉันก็ไม่ยอมให้แกมาดูหมิ่นจอมมารฉู่ชวิ๋นได้หรอก!”
เปรี้ยง!
แองกัสยกมือซัดพลังออกไป แล้วกะโหลกศีรษะของชายหนุ่มคนนี้ก็ระเบิดตัวแตกโผละ ส่งเลือดสาดกระจาย
“อ๊าก…!” อี้เสี่ยวซูร้องคำรามด้วยความบ้าคลั่ง พยายามลากสังขารที่บาดเจ็บของตัวเองเข้าไปหาแองกัส
สีหน้าของแองกัสเต็มไปด้วยประกายเหยียดหยาม เขากระแทกฝ่ามือใส่
หยานหวูซวงในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ซัดพลังใส่อี้เสี่ยวซู แล้วทั้งสองก็ลอยกระเด็นออกไป
“คุณผู้หญิงคนสวย เธอลองคิดดูให้ดีนะ ต่อให้ฉันฆ่าพวกเขาทุกคน เธอก็หนีฉันไม่รอดอยู่ดี แต่ยังไงฉันก็จะไม่บังคับเธอหรอกนะ” แองกัสว่า
ถางโร้วพลันยิ้มออกมา เธอจ้องมองแองกัสขณะพูด “นายคิดผิดแล้วต่อให้นายบังคับและทุกคนตายกันหมด ฉันก็พร้อมที่จะตายไปกับพวกเขาด้วย”
แองกัสไม่อยากเชื่อ เขาซัดพลังแสงอาทิตย์เข้าใส่ถางโร้วทันที “เธอไม่มีโอกาสนั้นหรอก”
ถางโร้วยกมือขึ้นซัดลมปราณสีขาวออกมาป้องกันด้วยความตื่นตระหนก
แองกัสส่ายหัวด้วยความอนาถใจ เพียงสะบัดมือเล็กน้อย พลังของพวกเขาก็พุ่งเข้าปะทะกัน
เปรี้ยง! เกิดการระเบิดตามมา
“นี่มันอะไรกัน…”
แองกัสร้องคำรามในขณะที่ร่างของตนเองลอยกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตรต่อหน้าทุกคน
ถางโร้วเองก็ตกตะลึง ใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอกลับมามีสีเลือดด้วยความประหลาดใจ หญิงสาวหันกลับไปมองที่ข้างหลังก็พบกับใบหน้าที่คุ้นเคย
“พี่ฉู่ชวิ๋น” เสียงของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความโศกเศร้า
ฉู่ชวิ๋นเดินเข้ามาจับมือถางโร้วไว้และลูบเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของเธอ ก่อนที่จะดึงร่างบอบบางเข้ามาโอบกอด
“ขอโทษนะที่ฉันมาสายอีกแล้ว”
ถางโร้วรับฟังเสียงหัวใจของฉู่ชวิ๋นเต้นตึกตัก ร่างของเธออ่อนระทวยนี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่ชวิ๋นโอบกอดเธอ ทำให้ใบหน้าของเด็กสาวแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่
หลังจากดีดตัวลุกขึ้นยืน แองกัสก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น และเมื่อเขาพบว่าเป็นฉู่ชวิ๋น เลือดลมในร่างกายก็สูบฉีดขึ้นมาแล้ว
ในไม่กี่วันที่ผ่านมา นักสู้ยุโรปผู้มาประจำการในเวียดนามต้องตกตายไปด้วยฝีมือของฉู่ชวิ๋นจริงๆ
“ในที่สุดก็กลับมาได้สักทีนะ พี่ฉู่” หยานหวูซวงพูดด้วยความไม่พอใจ สภาพของเขาแทบดูไม่ได้เลย “ช้าจริงกว่าจะมาได้ ฉันเกือบตายไปแล้ว”
ถางโร้วตัวสั่นเหมือนกระต่ายน้อยผู้หวาดกลัว เธอคลายกอดออกจากอ้อมอกของฉู่ชวิ๋น ก่อนที่จะยกมือป้ายน้ำตา พูดว่า “พี่ฉู่ชวิ๋นคะ ดูสิ ทุกคนบาดเจ็บกันหมดแล้ว มี…มีคนตายด้วยนะ”
“เร็วเข้า รีบไปช่วยพี่อี้ก่อนเถอะ” หยานหวูซวงตะโกนบอก อี้เสี่ยวซูมือใช้การไม่ได้ไปทั้งข้างเนื่องจากถูกแองกัสใช้พลังแผดเผาจนเนื้อไหม้เกรียม
ฉู่ชวิ๋นเดินตรงเข้าไปหาอี้เสี่ยวซู แผ่พลังลมปราณสีม่วงออกมาช่วยเยียวยาอาการบาดเจ็บ แต่เมื่อได้มองมือของอี้เสี่ยวซู ฉู่ชวิ๋นก็ส่ายหัวเบา ๆ
อี้เสี่ยวซูเป็นคนที่ยอมรับความจริงได้ดี อย่างน้อยก็ในกรณีนี้ “ไม่เป็นไรหรอกครับ อย่างน้อยตอนนี้พวกเราก็ปลอดภัยแล้ว”
ดวงตาของเขาหันไปมองที่ร่างไร้วิญญาณของเยวี่ยต้าย่ง สีหน้าปรากฏความเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง สมาชิกคนสำคัญในทีมเขาต้องเสียชีวิตไปแล้วอย่างไม่อาจหวนคืน
ฉู่ชวิ๋นเดินไปไล่รักษาอาการบาดเจ็บให้ทีละคน
แองกัสจ้องมองฉู่ชวิ๋นเยียวยาบาดแผลด้วยดวงตาเป็นประกาย
“ฉู่ชวิ๋น อย่าปล่อยให้ไอ้หมอนั้นหนีรอดไปได้เด็ดขาด” หยานหวูซวงร้องคำราม เขาปฏิเสธที่ฉู่ชวิ๋นจะเสียพลังรักษาเขา ก่อนที่จะพูดด้วยความโกรธแค้นว่า “ฆ่ามัน ไอ้บ้านี่มันโรคจิต มันถึงกับควักหัวใจเยวี่ยต้าย่งออกมาสด ๆ เลยนะ”
“จอมมารฉู่ชวิ๋น กลับมาแล้วเหรอครับ” แองกัสพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
ฉู่ชวิ๋นหันไปมองหน้านักสู้ชาวต่างชาติ พลันสีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ใช่ ฉันกลับมาสายไปหน่อย ต้องขอโทษทุกคนด้วย”
“คุณจะฆ่าผมหรือเปล่า?” แองกัสถาม
ฉู่ชวิ๋นส่ายศีรษะ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ฉันจะไม่ฆ่านาย แต่ฉันจะทำให้นายยอมตายเสียดีกว่าอยู่”
แองกัสเงียบไปอึดใจใหญ่ แล้วก็ยิ้มออกมา พูดว่า “ผมไม่ได้กระจอกอย่างพวกสหพันธ์ศาสตร์มืด”
“แปลว่านายแข็งแกร่งมากเลยงั้นสิ?” ฉู่ชวิ๋นเบิกตามองด้วยความสงสัย
แองกัสยักไหล่ตอบว่า “ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ถ้าคุณอยากจะฆ่าผม เกรงว่าคงไม่ง่าย”
“พูดจริงเหรอ?” ฉู่ชวิ๋นยิ้มกว้างด้วยความขบขัน ก่อนหันหน้ามาพูดกับหยานหวูซวงว่า “อัดคลิปเอาไว้ด้วยนะ”
“ไลฟ์สดเลยดีกว่า?” หยานหวูซวงตอบรับและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมการถ่ายทอดสดทันที
ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจไม่น้อยที่หยานหวูซวงยังเหลือเรี่ยวแรงทำเรื่องแบบนี้อยู่ “งั้นฝากจัดการด้วย” แล้วการถ่ายทอดสดก็เริ่มขึ้น
ในตอนที่กล้องจับไปยังแองกัส ตอนแรกบรรดานักสู้ยุโรปก็ไม่พอใจกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากในเวลานี้ของฝั่งยุโรป ยังเช้าตรู่อยู่นั่นเอง
แต่ที่เมืองจีนกำลังร้อนระอุไปทั้งแผ่นดิน
ในที่สุด การต่อสู้ครั้งนี้ก็ได้รับความสนใจจากคนทั้งโลก
ก่อนหน้านี้ ฉู่ชวิ๋นต่อสู้กับบรรดานักสู้ยุโรปมาตลอด ทุกคนได้เห็นฝีมือของเขาผ่านอินเทอร์เน็ตและก็ยังมีการต่อสู้ให้บรรดาคนดูได้ติดตามอยู่เรื่อยๆ
หยานหวูซวงจัดแต่งเสื้อผ้าทรงผมให้เรียบร้อยที่สุด ก่อนที่จะหันกล้องมาถ่ายตัวเอง แล้วพูดว่า
“สวัสดีครับทุกคน ผมคือพิธีกรภาคสนามประจำวันนี้ ก่อนอื่นผมต้องแนะนำให้ทุกคนทราบก่อนว่าที่นี่คือเมืองชายแดนระหว่างประเทศจีนกับเวียดนาม”
หลังจากนั้น กล้องก็หันไปจับภาพแองกัสพร้อมกับบรรยายว่า “นี่คือสหายผมทองของเรา ผมเชื่อว่าหลายคนคงยังไม่รู้จักเขา แต่ไม่เป็นไร ผมจะแนะนำให้พวกคุณได้รู้จักเอง เขาคือรองเจ้าสำนักวิหารดวงตะวัน แองกัส”
บรรดาชาวเน็ตพิมพ์คอมเม้นต์ด้วยความเกลียดชังมาทันที
แองกัสผู้เป็นรองเจ้าสำนักดวงตะวันมาปรากฏตัวในเมืองจีนได้ยังไง?
“คนต่อไป ผมอยากให้ทุกคนจับตาดูเขาให้ดี ไม่ว่าเขาย่างก้าวไปที่ไหน ก็จะต้องเกิดความวินาศสันตะโรขึ้นที่นั่น” พูดจบ หยานหวูซวงก็หันกล้องไปอีกครั้ง
“ใช่แล้วครับ เขาก็คือ…จอมมารฉู่ชวิ๋น!” น้ำเสียงของหยานหวูซวงเต็มไปด้วยความตกตะลึงเกินจำเป็น
ฉู่ชวิ๋นหันขวับกลับมาจ้องมองตาเขียวปัด เนื่องจากรู้ว่าคุณชายหนุ่มตั้งใจหลอกด่าเขาอีกแล้ว
“นายท่านฉู่ชวิ๋นจริง ๆ ด้วย”
“จอมมารฉู่ชวิ๋นไม่ได้ตายด้วยน้ำมือสมเด็จพระสันตะปาปา เขาบุกเข้าไปก่อความวุ่นวายในวาติกันขนาดนั้น แล้วยังหนีรอดกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยอีกหรือนี่?”
“สรุปว่าพวกจอมยุทธ์ของเวียดนามกับพวกนักสู้ยุโรปที่ตายไป เป็นฝีมือของจอมมารฉู่ชวิ๋นจริง ๆ สินะ แบบนี้โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย”
ในโลกอินเทอร์เน็ตเกิดการถกเถียงขึ้นด้วยความตกตะลึง
ก่อนหน้านี้ ฉู่ชวิ๋นหายตัวไปอย่างลึกลับ เกิดข่าวลือว่าเขาถูกสมเด็จพระสันตะปาปาจับได้และถูกประหารชีวิตไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มจะกลับมาปรากฏตัวที่ชายแดนเมืองจีนอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าบรรดาผู้อาวุโสของสหพันธ์ศาสตร์มืด สมาชิกอัศวินโต๊ะกลมและองค์ชายแห่งวาติกันจะตายในน้ำมือของเขาจริงๆ
ในตอนนี้ วิหารดวงตะวันเป็นฝ่ายที่ตึงเครียดมากที่สุด การเผชิญหน้ากันระหว่างแองกัสกับฉู่ชวิ๋น เป็นตัวชี้วัดว่าการลงมือที่ผ่านมาของแองกัสล้มเหลวมาโดยตลอด
เจ้าสำนักวิหารดวงตะวัน หลุยส์ ครีเกอร์มีสีหน้าเย็นชาในขณะที่ส่งข้อความท้าทายฉู่ชวิ๋น ‘ถ้าแองกัสเป็นอะไรไป ฉันที่เป็นเจ้าสำนักวิหารดวงตะวันจะต้องล้างแค้นแกแน่นอน!’
ฉู่ชวิ๋นตอบรับคำประกาศผู้นำของวิหารดวงตะวัน โดยการหันมามองกล้องและพูดว่า “อย่าว่าแต่แองกัสเลย ต่อให้แกที่เป็นเจ้าสำนักมาเอง ฉันก็จะตัดหัวสุนัขของแกซะ”
ฉู่ชวิ๋นหันกลับไปมองหน้าแองกัส “ฉันเคยบอกเอาไว้แล้วไง ใครก็ตามที่มาดูหมิ่นประเทศจีนจะต้องถูกลงโทษ!”
“จอมมารฉู่ชวิ๋น คุณอยากจะอับอายต่อหน้าชาวโลกจริง ๆ ใช่ไหม?”
แองกัสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง เขาทราบดีว่ายังไงก็ต้องมีการเผชิญหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ ภารกิจของเขาคือการรักษาภาพลักษณ์ของวิหารดวงตะวันเอาไว้ให้ได้
“อับอายต่อหน้าชาวโลกอะไรกัน?” ฉู่ชวิ๋นยิ้มอย่างเย้ยหยัน พูดว่า “แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?”
ในขณะนี้ หยานหวูซวงกำลังบรรยายอย่างออกรสออกชาติว่า “จอมมารฉู่ชวิ๋นเป็นตัวแทนของประเทศจีนนะครับ ในขณะที่แองกัสเป็นตัวแทนจากฝั่งยุโรป และการต่อสู้ก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
แล้วกล้องก็หันกลับมาจับที่ใบหน้าของหยานหวูซวง ทำให้คนที่รับชมไลฟ์สดคอมเม้นต์ด่ากันวุ่นวาย
“ใครบอกให้แกเอากล้องมาถ่ายหน้าบวมๆ ของตัวเองวะ ฉันอยากดูจอมมารฉู่ชวิ๋นต่างหากโว้ย”
“แกเป็นใครกัน? รีบหันกล้องไปถ่ายจอมมารฉู่ชวิ๋นเร็วเข้า ใครเขาอยากดูหน้าตาอัปลักษณ์แบบนี้กันบ้าง เบ้าหน้าอย่างกับปลาบู่ชนเขื่อน”
“แกรีบหันกล้องออกจากหน้าตัวเองดีกว่านะ ตอนนี้เด็ก ๆ คงกลัวกันหมดแล้ว”
ทุกคอมเม้นต์พร้อมใจกันก่นด่าหยานหวูซวงที่หันกล้องมาจับแต่ใบหน้าตัวเอง
หยานหวูซวงเดือดดาลจนจมูกบาน ปกติเขาภูมิใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองเสมอมา แต่ทำไมทุกคนถึงบอกว่าเขาหน้าตาเหมือนปลาบู่ชนเขื่อน? เขาไม่หล่อตรงไหนกัน?
แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากจะขัดขวางได้ หยานหวูซวงหันกล้องกลับไปจับภาพที่ฉู่ชวิ๋นด้วยความไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ ก่อนที่จะบรรยายพร้อมกับกัดฟันกรอดว่า “เอาล่ะครับ…อ้าว…นี่มันอะไรกัน…หายไปไหนแล้ว?”
กล้องของเขาจับภาพไปตรงตำแหน่งที่ฉู่ชวิ๋นยืนอยู่ แต่บัดนี้ตรงนั้นมีแต่เพียงความว่างเปล่า คุณชายหนุ่มรีบหันกล้องไปทางแองกัสทันที
โลกอินเทอร์เน็ตได้แต่เงียบงัน
หยานหวูซวงก็ตกตะลึงเช่นกัน เขากระซิบออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อ
“ทุกคนครับ การต่อสู้…จบลงแล้ว ขอบคุณสำหรับการรับชม การต่อสู้จบลงโดยที่ผู้ได้รับชัยชนะเป็นตัวแทนของประเทศจีน ซึ่งก็คือจอมมารฉู่ชวิ๋น!”
หลังจากนั้น คุณชายหนุ่มก็รีบตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทันที
แต่ในจังหวะสุดท้ายก่อนที่ภาพจะตัดไป สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือแองกัสนอนเลือดอาบอยู่บนพื้นดิน ในขณะที่ฉู่ชวิ๋นเดินเข้าไปเตะเสยปลายคางเต็มแรง
“ไอ้หน้าปลาบู่ชนเขื่อนเอ๊ย เพราะแกคนเดียวแท้ๆ ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันจะตัดหัวสุนัขของแก”
“เพราะเขาคนเดียวทุกคนถึงพลาดช็อตสำคัญ ฉันล่ะอยากกระทืบเขาจริงๆ”
“ไอ้ @ ## ¥% ……”
หยานหวูซวงถูกบรรดาคนดูในโลกออนไลน์รุมถล่ม เนื่องจากเขามัวแต่เอากล้องมาถ่ายหน้าตัวเอง จึงไม่มีใครได้เห็นฉากการต่อสู้ระหว่างฉู่ชวิ๋นกับแองกัส ยกเว้นฉากสุดท้ายเท่านั้น
การต่อสู้ครั้งสำคัญแต่กลับได้เห็นเพียงฉากสุดท้าย บรรดาจอมยุทธ์ชาวจีนจึงไม่พอใจหยานหวูซวงเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าคุณชายหนุ่มรู้ตัวดี เขาถึงได้รีบตัดสัญญาณถ่ายทอดสดไปทันที
“พี่ฉู่ พี่จะรีบเผด็จศึกไปไหนเนี่ย?” หยานหวูซวงมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาไม่ต้องเข้าไปอ่านคอมเม้นต์ก็รู้ตัวดีว่าขณะนี้ตนเองกำลังโดนรุมถล่มหนักแค่ไหน
“ฉันรอจังหวะให้นายถ่ายตั้งนานแล้วนะ” ฉู่ชวิ๋นตอบ
หยานหวูซวงทำปากยื่นกระซิบออกมาว่า “ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย”
มีแต่เพียงอี้เสี่ยวซูคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นกับตาว่าฉู่ชวิ๋นจัดการศัตรูได้อย่างง่ายดายภายในหมัดเดียวเท่านั้น พลังแสงอาทิตย์ของแองกัสก็ถูกทำลายและร่างกายขนาดใหญ่ของเขาก็ปลิวกระเด็นไปไกล
ฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งเกินไป แม้แต่แองกัสที่เอาชนะพวกเขาได้อย่างราบคาบ ก็ไม่ใช่คู่มือของฉู่ชวิ๋นเลยแม้แต่น้อย
แองกัสโดนพลังหมัดของฉู่ชวิ๋นกระแทกใส่จนลุกไม่ขึ้น เขาไม่สามารถต้านทานอะไรได้เลยในขณะที่เห็นฉู่ชวิ๋นเดินเข้ามาหาเตะเสยปลายคางของเขา แองกัสรู้สึกเหมือนกะโหลกศีรษะของตัวเองแตกร้าว แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ในขณะนี้ แองกัสได้รับรู้แล้วว่าฝีมือของตัวเองต่ำต้อยมากขนาดไหน อยากอับอายต่อหน้าชาวโลกอย่างนั้นหรือ? ช่างเป็นเรื่องที่ตลกร้ายสิ้นดี ในตอนนี้แองกัสใบหน้าร้อนผ่าวขณะยันตัวลุกขึ้นนั่งและทำได้แต่เพียงขอบคุณฉู่ชวิ๋นอยู่ในใจที่ไม่ฆ่าเขาในฝ่ามือเดียว