จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 358 หยานหวูซวงโดนวางยาพิษ
บทที่ 358 หยานหวูซวงโดนวางยาพิษ
หยานหวูซวงตั้งใจลากเก้าอี้มาตั้งข้างตัวฉู่ชวิ๋น และผายมือเชิญให้เขานั่ง
ฉู่ชวิ๋นกัดฟันกรอด โชคดีที่ตอนนี้เขาเจ็บน้อยลงแล้ว ไม่อย่างนั้นคงได้ระเบิดพลังใส่หยานหวูซวงแน่นอน
หยานหวูซวงเห็นฉู่ชวิ๋นยังคงยืนอยู่ จึงกดไหล่เขาให้นั่งลงบนเก้าอี้
“ฮึ่ย…” ฉู่ชวิ๋นเจ็บจนน้ำตาไหล
“นายทำอะไรเนี่ย? ไม่เห็นหรือไงว่าพี่ฉู่ชวิ๋นเจ็บอยู่ นั่งไม่ได้?” ถางโร้วทนไม่ไหวต้องเดินเข้ามาผลักหยานหวูซวงออกไป
หยานหวูซวงทำเป็นโทษตัวเองและพูดว่า “ขอโทษที ฉันลืมไปสนิทเลย”
ฉู่ชวิ๋นกัดฟันด้วยความเคียดแค้น ความคิดที่อยู่ในใจของเขา ฉายชัดให้เห็นบนสีหน้า
“ไม่เป็นไร นายก็จำเอาไว้ให้ดีเถอะ” ฉู่ชวิ๋นขึงตามองหยานหวูซวงด้วยสายตาคาดโทษ
หยานหวูซวงตัวสั่น เขารู้ดีว่าฉู่ชวิ๋นจะต้องแก้แค้นเรื่องนี้อย่างแน่นอน
“นายท่าน ว่าแต่ไปเจออะไรมาครับนี่?” เหลยเป้าถาม
ฉู่ชวิ๋นหน้าแดงก่ำ ดวงตาเป็นประกาย พูดด้วยเสียงโกรธแค้น “อย่าพูดถึงมันเลย ระหว่างทางที่ฉันกลับมา บังเอิญได้เจอตาเฒ่าคนหนึ่ง มันมีหน้าตาอัปลักษณ์ยิ่ง คิดไม่ถึงเลยว่าฝีมือจะร้ายกาจเกินมนุษย์…”
หลังจากที่พวกของเหยียนชงรับฟังแล้ว สีหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไป คนที่เล่นงานฉู่ชวิ๋นได้แบบนี้จะต้องมีระดับพลังที่น่ากลัวเป็นแน่แท้
“นายท่าน มันเป็นคนของสำนักไหน?” เหยียนชงถามเสียงเคร่งเครียด
ฉู่ชวิ๋นส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตาแก่นั่นอัปลักษณ์ยิ่งกว่าอะไรดี แต่ช่างมันเถอะ ถ้ามันไม่ลอบโจมตีฉัน ฉันไม่มีวันพลาดท่าให้มันแน่นอน”
“ผมว่าระดับฝีมือขนาดนี้ มันต้องเป็นเจ้าสำนักแล้วละครับ เพราะฉะนั้น เราจะประเมินฝีมือของมันต่ำไปไม่ได้” จักรพรรดิยาพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ต่อไปนี้ทุกคนต้องระวังตัวให้มากขึ้น ชัดเจนแล้วว่าคนคนนี้มันคงไม่ได้เป็นมิตรกับเราแน่” แม่หม้ายสาวเริ่มวิเคราะห์อย่างจริงจัง
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
ดวงตาของหยานหวูซวงพลันเป็นประกายระยิบระยับก่อนถามออกมา “แต่ทำไมตาแก่คนนี้ถึงเลือกโจมตีพี่ฉู่ และเล่นงานที่ก้นของพี่ฉู่เป็นพิเศษด้วยล่ะ ไม่เห็นเล่นงานร่างกายส่วนอื่นเลย หรือมันจะมีความชอบที่ไม่เหมือนใคร?”
ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที จริงด้วยสิ? ทำไมชายชราผู้นั้นถึงเล่นงานแต่ที่ตรงส่วนก้น นี่มันคือเรื่องราวใดกันแน่?
ฉู่ชวิ๋นรู้สึกเดือดดาล เจ้าคุณชายตัวแสบมันจะอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้เลยใช่ไหม เรื่องกำลังจะจบลงด้วยดีอยู่แล้วเชียว
“พี่ฉู่ ฉันขอถามตรง ๆ เถอะนะ มันทำอะไรกับพี่บ้าง?” หยานหวูซวงขมวดคิ้วมองตรงส่วนก้นของฉู่ชวิ๋น ยิ้มออกมาตอนที่พูดว่า “รูทวารของพี่ยังสบายดีอยู่ใช่ไหม?”
“ไสหัวไปซะ!” ฉู่ชวิ๋นคำรามด้วยความโกรธแค้นสุดจะทนทาน
หยานหวูซวงรู้ตัวว่าฉู่ชวิ๋นหายเจ็บเมื่อไหร่คงมาเล่นงานตนเองแน่นอน
หยานหวูซวงจึ่งรีบหยิบขวดสีขาวขนาดเล็กออกมาจากอกเสื้อ แล้วยิ้มกริ่ม “ใจเย็นก่อนน่า นี่คือยาวิเศษที่ส่งต่อมาในตระกูลของผม ช่วยรักษาบาดแผลและรอยฟกช้ำได้อย่างมหัศจรรย์”
“ไม่เป็นไร ได้พักสักเดี๋ยวฉันก็หายแล้ว” ฉู่ชวิ๋นรีบปฏิเสธโดยเร็ว
“ไม่ต้องเกรงใจ บวมขนาดนี้ยิ่งปล่อยเอาไว้จะยิ่งแย่เอานะ” หยานหวูซวงสีหน้าเป็นกังวล ก่อนหันไปพูดกับถางโร้วและแม่หม้ายสาวว่า “พวกเธอสองคนออกไปก่อน”
ถางโร้วและแม่หม้ายสาวพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปจากห้องโถงใหญ่
“มาเถอะ เดี๋ยวผมทายาให้เอง” หยานหวูซวงเดินตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นร่ำร้องด้วยความตื่นตระหนก ”อย่านะ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
“อย่าโวยวายสิ ต่อให้ตะโกนจนคอแตก ก็ไม่มีใครมาช่วยนายได้หรอก”
หยานหวูซวงยิ้มอย่างชั่วร้าย “เหลยเป้า เหยียนชง มาช่วยฉันหน่อย”
“พวกแก กล้าดีก็ลองดู” ฉู่ชวิ๋นตวาด
“ขนาดบาดเจ็บยังดุจังเลยนะ พี่ฉู่จะทำยังไงถ้าแผลมันแย่ไปกว่านี้? ฉันรู้ว่าพี่อาย แต่พวกเราก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน จะอายไปทำไม?” หยานหวูซวงพูดจบก็หันไปกระตุ้นเหลยเป้ากับเหยียนชงว่า “พวกนายสองคนจะยืนบื้ออยู่ทำไม? ถ้าบาดแผลเกิดติดเชื้อขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ?”
จังหวะนั้น หยานหวูซวงหันไปเห็นว่าจักรพรรดิยากำลังจะแอบหนีออกไปนอกประตู จึงรีบตะโกนเรียกเอาไว้ “จักรพรรดิยา จะหนีไปไหน? ฉันรอให้นายเอายาดีมารักษาเขาอยู่เนี่ย”
จักรพรรดิยายืนตัวแข็งทื่อ เขาชำนาญเรื่องการรักษาบาดแผล จะสังเกตไม่ออกได้ยังไง บาดแผลที่ก้นของฉู่ชวิ๋นประหลาดยิ่ง ไม่ได้เกิดขึ้นจากการต่อสู้อย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนจะถูกใครสักคนโบยก้นมามากกว่า
เขารู้ว่าหยานหวูซวงก็มองออกเช่นกัน ผิดกับเหลยเป้าและเหยียนชงที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
ฉู่ชวิ๋นอาจจะแกแค้นพวกเขาก็ได้ ดังนั้น จักรพรรดิยาจึงไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
“รีบเอายาดีมาเดี๋ยวนี้นะ” หยานหวูซวงจ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาเป็นประกาย
จักรพรรดิยาหนังหัวชายิบ ฉู่ชวิ๋นกับหยานหวูซวง นับว่าเป็นสองตัวร้ายกาจที่เขาไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยเลยจริงๆ
ในขณะที่เดินเข้าไปภายใต้การจับจ้องอย่างดุร้ายของหยานหวูซวง จักรพรรดิยาก็รำพึงรำพันในใจ “ผมขอโทษนะครับนายท่านเป็นคนพวกนี้บังคับผม อย่าโกรธผมเลยนะ”
“หยุดเดี๋ยวนี้ พวกนายกล้าขัดคำสั่งฉันเรอะ?” ฉู่ชวิ๋นคำรามลั่น
“พี่บาดเจ็บ พวกฉันจะช่วยรักษาให้นะเนี่ย” หยานหวูซวงพับแขนเสื้อขึ้น กระโดดเข้าไปกอดรัดฉู่ชวิ๋นพร้อมกับร่ำร้องว่า “มาช่วยกันจับตัวเขาเร็ว”
“ผมขอโทษนะครับนายท่าน!” เหลยเป้ากับเหยียนชงพูดในขณะที่กระโดดเข้าไปล็อคตัวฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นพยายามดิ้นรนจนเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก
“นะ…นายจิตใจดีเหลือเกินนะ ฉันจะตอบแทนให้อย่างสาสมเลย” ฉู่ชวิ๋นจะร้องไห้อยู่แล้ว ตอนนั้นเองเจ้าโรคจิตหยานหวูซวงมันก็ดึงกางเกงของเขาลง
เพี๊ยะ! หยานหวูซวงใช้ฝ่ามือฟาดก้นฉู่ชวิ๋นแล้วพูดขึ้น “อยู่นิ่งๆ หน่อยสิ”
ฉู่ชวิ๋นน้ำตาคลอเต็มเบ้า พูดด้วยความโกรธแค้น “หยานหวูซวง แกอยากตายมาหใช่ไหม”
เพี๊ยะ! หยานหวูซวงยกมือขึ้นฟาดก้นของชายหนุ่มอีกครั้ง
“อ๊าก…” ฉู่ชวิ๋นร้องครางด้วยความเจ็บปวด
“เหลยเป้า เหยียนชง จักรพรรดิยา ฉันสั่งให้พวกแกปล่อยตัวฉันเดี๋ยวนี้” ฉู่ชวิ๋นตะโกน
“นายท่าน เรารู้ว่านายท่านเจ็บ แต่อดทนหน่อยนะครับ” เหลยเป้าพูด
ฉู่ชวิ๋นโกรธแค้นจนควันออกหู กัดฟันกรอด ถ้าถูกดึงกางเกงลงต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้ ยังจะเรียกว่าเป็นลูกผู้ชายอยู่ได้อย่างไร
ตู้ม! พลังลมปราณจำแลงแผ่ออกมาจากร่างกายของฉู่ชวิ๋น
พวกของหยานหวูซวงไม่ทันระวังตัว ร่างจึงถูกพลังลมปราณกระแทกลอยกระเด็นออกไป
ฉู่ชวิ๋นเหงื่อไหลท่วมตัวด้วยความเจ็บปวด บัญชีแค้นครั้งนี้เขาจะต้องสะสางกับจักรพรรดิอ๋าวหวงให้ได้
จักรพรรดิยาเห็นว่าเรื่องราวไม่ถูกต้อง จึงรีบลุกขึ้นและเผ่นหนีไปทันที
หยานหวูซวงลอยกระเด็นมากระแทกกับเก้าอี้ตัวหนึ่งอย่างจัง เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นกำลังจะโคจรพลังอีกครั้ง หยานหวูซวงก็ลุกขึ้นจะวิ่งหนี
“จะหนีไปไหน?” ฉู่ชวิ๋นคำรามด้วยความเจ็บแค้น เขาต้องอับอายสุดบรรยายเพราะหยานหวูซวงผู้นี้
ฉู่ชวิ๋นข่มความเจ็บปวดกัดฟันเดินไปข้างหน้า ซัดลมปราณใส่หยานหวูซวงและสะกัดจุดลมปราณของหยานหวูซวงเอาไว้
เหลยเป้ากับเหยียนชงก็หนีชะตากรรมเดียวกันนี้ไม่พ้น ฉู่ชวิ๋นยกมือขึ้นสะกัดจุดลมปราณพวกเขาทั้งคู่
“ฉู่ชวิ๋น อย่าโกรธไปเลยนะ พวกเราหวังดีกับนายจริงๆ” หยานหวูซวงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพาะรู้ดีว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตราย ต้องระมัดระวังคำพูดเป็นที่สุด
“นายท่านครับ อย่าโกรธผมเลย พวกผมแค่กลัวแผลนายท่านจะติดเชื้อ” เหลยเป้าตะโกนด้วยความร้อนใจ
“จริงเหรอ?” ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเยาะ เขามองออก เหลยเป้า เหยียนชง และหยานหวูซวงต่างก็มีเจตนารวมหัวกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ขัดคำสั่งเขาแน่
“นายท่านครับ พวกเราเป็นห่วงนายท่านจริงๆ นะครับ” เหยียนชงพูดไปน้ำตาก็ไหลไปเพราะรู้สึกผิด
ฉู่ชวิ๋นยังคงเดือดดาลอยู่ไม่หายก่อนจะตะโกน “ทุกคนมานี่!”
ลูกศิษย์ที่อยู่ด้านนอกห้องโถงใหญ่รีบวิ่งเข้ามารายงานตัว
“นายท่าน!” ทุกคนประสานมือทำความเคารพ
“พวกนายลากสามคนนี้ไปที่ลานหน้าปราสาท ตามลูกศิษย์ทุกคนให้มารวมตัวกันด้วย ฉันมีเรื่องจะประกาศ” ฉู่ชวิ๋นออกคำสั่ง
“ฉู่ชวิ๋น นายจะทำอะไร?” หยานหวูซวงขนลุกเกรียวไปทั้งตัว หนังหัวชายิบ
ฉู่ชวิ๋นหันมายิ้ม ตอบว่า “เดี๋ยวนายก็รู้”
“เจ้าพวกลูกหมา พวกแกกล้าดียังไง” เหลยเป้าคำรามใส่กลุ่มลูกศิษย์ที่เข้ามาลากตัวเขาออกไป
แต่นี่คือคำสั่งของฉู่ชวิ๋น จะไม่ทำก็ไม่ได้
คนทั้งสามถูกฉุดลากมาถึงลานหน้าปราสาท
ในขณะนี้ ลูกศิษย์ของปราสาทหยานหลงมารวมตัวกันอยู่เต็มไปหมดแล้ว
ฉู่ชวิ๋นสั่งให้คนนำเก้าอี้ยาวมาให้พวกของหยานหวูซวงนั่ง
“จักรพรรดิยา มานี่สิ” ฉู่ชวิ๋นเรียก
ผู้ถูกเรียกทราบดีว่าฉู่ชวิ๋นตั้งใจจะทำอะไร ตอนแรกเขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ถ้าจะต้องเป็นคนลงโทษสามคนนี้ จักรพรรดิยาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเหลยเป้าที่เป็นศัตรูหัวใจของเขา
ฉู่ชวิ๋นกวาดสายตามองรอบตัวและพูดเสียงดังว่า “ลูกศิษย์ทุกคนฟังให้ดี จอมยุทธ์ทั้งสามคนนี้กล้าทำผิดกฎและพวกเขาจะต้องถูกลงโทษ”
ฉู่ชวิ๋นกล่าวต่อไปว่า “โบยก้นคนละ 100 ที ผู้รับหน้าที่เป็นมือโบยคือจักรพรรดิยา”
“รับคำบัญชานายท่าน!” จักรพรรดิยาค้อมศีรษะลงเหมือนไม่เต็มใจ แต่หัวใจของเขากำลังเบิกบานเป็นอย่างยิ่ง
บรรดาลูกศิษย์ที่รับชมอยู่ต่างพากันเบิกตาโตและอดรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ บรรดาคนที่ถูกลงโทษนี้เป็นระดับปรมจารย์ของวัง ถ้าพวกเขาทำผิดพลาดบ้าง คงได้ตรงดิ่งลงยมโลกเป็นแน่แท้
“พี่ฉู่ ฉันไม่ใช่คนของปราสาทหยานหลง พี่จะมาลงโทษฉันไม่ได้” หยานหวูซวงตะโกนเสียงแข็ง
“ถ้ามีใครกล้าพูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว ให้โบยเพิ่มอีกสิบที” ฉู่ชวิ๋นพูดเสียงดัง
เหยียนชงกับเหลยเป้าที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง รีบปิดปากเงียบทันที
“เริ่มการลงโทษได้” ฉู่ชวิ๋นออกคำสั่ง
จักรพรรดิยาตอบรับอย่างเร็วไว ไม่รู้ว่าไปหาแส้มาจากไหนได้อย่างรวดเร็ว เดินสะบัดแส้ยิ้มกริ่มตรงเข้าไปหาทั้งสามคนนั้น
“จักรพรรดิยา เราไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใจกัน พวกเราออกจะสนิทกันด้วยซ้ำไปนะ” หยานหวูซวงกระซิบกระซาบขอความเห็นใจ
“จักรพรรดิยา ฉันเป็นคนที่สนับสนุนนายกับจือถงนะ ฉันเป็นคนที่บอกว่าพวกนายสองคนเป็นคู่กิ่งทองใบหยกชัดๆ ไม่ใช่เหรอ” เหยียนชงพูดไปก็หัวเราะไป
“เหยียนชง เจ้าคนสารเลว ไหนแกพูดว่าฉันกับจือถงพวกเราเป็นคู่กิ่งทองใบหยกไง” เหลยเป้าคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น
รอยยิ้มของเหยียนชงชะงักค้างอยู่บนใบหน้า ก่อนที่จะหันไปมองเหลยเป้า “ฉันพูดแบบนั้นเมื่อไหร่กัน อย่าพูดจาไร้สาระ ดูเบ้าหน้าอย่างแกเสียก่อน มีดีอะไรไปเป็นกิ่งทองใบหยกกับจือถง? เวลายืนคู่กัน คนเขานึกว่าเธอเป็นลูกสาวแกหมดแล้ว”
ดวงตาของเหลยเป้าเต็มไปด้วยไฟโทสะ ตะโกนออกมา “เหยียนชง แกมันเจ้าเล่ห์อะไรแบบนี้ นายท่านครับ ผมขอรายงาน เหยียนชงเป็นคนคิดแผนการทั้งหมดให้จับนายท่านถอดกางเกง”
สีหน้าของเหยียนชงเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว “เหลยเป้า แกกล้าดียังไงมาใส่ร้ายฉัน เพราะแบบนี้ไงล่ะ แกถึงไม่มีวันคู่ควรกับจือถง อย่าให้ฉันหลุดไปได้นะ ฉันจะหักกระดูกแกแน่”
“ทุกคนพูดกันจบหรือยัง?” จักรพรรดิยาถามพร้อมกับยิ้มกว้าง
“โอเค พี่ยา เบา ๆ มือหน่อยนะ”
“ไม่มีปัญหา” จักรพรรดิยายิ้มเบา ๆ เมื่อพูดจบ เขาก็สะบัดแส้ฟาดลงไป
เพี๊ยะ!
หยานหวูซวงร้องจ๊าก ดวงตาโปนถลน
“จักรพรรดิยา ไอ้คนใจร้าย…” หยานหวูซวงเจ็บปวดจนหน้าเขียวคล้ำ ปรากฏหยดเลือดซึมออกมาจากก้นกางเกงของเขา
จักรพรรดิยาตกตะลึง เขาว่าตัวเองเบามือแล้วนะ เมื่อหยิบแส้ขึ้นมาสำรวจดู ก็พบว่าที่ตัวแส้มีหนามแหลมคมติดอยู่จำนวนมาก
“นี่มัน…” จักรพรรดิยาเบิกตามองด้วยความไม่อยากเชื่อ
ตอนที่หยานหวูซวงเห็นหนามแหลมบนสายแส้ ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีม่วงคล้ำไปแล้ว
“จักรพรรดิยา นี่คิดจะฆ่าฉันให้ตายเลยหรือไง?” หยานหวูซวงคำรามออกมาสุดเสียง แต่ในทันใดนั้นเอง เลือดสีดำก็พุ่งออกมาจากปากของเขา ใบหน้าของหยานหวูซวงเป็นสีม่วงคล้ำเข้มขึ้นกว่าเดิม
“นี่มันแส้อาบยาพิษ!” สีหน้าของจักรพรรดิยาแปรเปลี่ยนไปทันที เขารีบยกมือแตะใบหน้าของคุณชายหยาน ก่อนจะหยิบเม็ดยายัดใส่ปากอีกฝ่ายโดยเร็ว
สีหน้าของฉู่ชวิ๋นก็เปลี่ยนไปเช่นกัน พริบตาเดียว เขาก็เข้ามาประคองร่างของหยานหวูซวงและถ่ายทอดลมปราณให้กับหยานหวูซวง ในขณะเดียวกันนั้น ฉู่ชวิ๋นก็ล้วงหยิบเยื่อไผ่สีเขียวออกมาป้อนให้หยานหวูซวงเคี้ยวกลืน นี่คือเยื่อไผ่ขจัดพิษ มีฤทธิ์สามารถกำจัดพิษในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
“นายท่านครับ ผมจะฝังเข็ม จะได้เจาะระบายพิษออกมา” จักรพรรดิยารีบพูด ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าทันที
พวกเขาจับร่างของหยานหวูซวงให้นอนลงบนพื้น หลังจากนั้นก็ใช้เข็มทองคำปักไปที่ปลายนิ้วมือของหยานหวูซวง นี่คือวิธีรักษาเฉพาะตัวของจักรพรรดิยา เข็มทองคำเหล่านี้จะทำหน้าที่ดูดพิษออกจากร่างกายเหมือนก้อนเมฆที่ดูดซับละอองน้ำในชั้นบรรยากาศ
ฉู่ชวิ๋นช่วยโคจรลมปราณจำแลงขับไล่พิษออกจากร่างกายของหยานหวูซวงอีกแรงหนึ่ง
ใบหน้าของหยานหวูซวงไม่ได้เป็นสีม่วงคล้ำอีกต่อไป แต่มันกลับซีดขาวผิดปกติและตอนนี้หยานหวูซวงก็นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงจนดูน่ากลัว