จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 386 สัตว์ยักษ์โบราณ
บทที่ 386 สัตว์ยักษ์โบราณ
เขี้ยวนูเอะยักษ์เต็มไปด้วยกลิ่นไอปีศาจ
นูเอะยักษ์เป็นสัตว์ร้ายในตำนาน ถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สัตว์ร้ายที่เคยยิ่งใหญ่และดุร้ายที่สุดในโลก
ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 โคจรพลังลมปราณ แล้วเขี้ยวนูเอะยักษ์ในมือของมัน ก็ดูดซับพลังลมปราณเข้าไปอย่างหิวกระหาย
“เจ้ามนุษย์ต่ำต้อย ตายซะเถอะ” มันร้องคำราม ก่อนที่เขี้ยวยักษ์จะพุ่งออกจากมือลอยตรงเข้าหาฉู่ชวิ๋นด้วยความเร็วน่าหวาดกลัว
ฉู่ชวิ๋นที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ รีบกระโดดกลับลงสู่พื้นดินทันที
เขี้ยวนูเอะยักษ์พุ่งตามมามีรัศมีเป็นสีแดงเจิดจรัส
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายเย็นชา ซัดลมปราณออกมาจากหมัดของตนเองเป็นประกายแสงราวสายรุ้ง
เปรี้ยง!
ลำแสงจากหมัดของเขาปะทะเข้ากับเขี้ยวนูเอะยักษ์
ฉู่ชวิ๋นหรี่ตาลงเล็กน้อย เขี้ยวนูเอะยักษ์ยังคงลอยตระหง่านอยู่จุดเดิม มิหนำซ้ำยังระเบิดแสงเป็นประกายเจิดจ้า ฉู่ชวิ๋นไม่รู้ว่านูเอะยักษ์ผู้ที่เป็นเจ้าของเขี้ยวตายไปนานขนาดไหนแล้ว แต่แค่เขี้ยวของมันยังคงมีพลังอยู่เปี่ยมล้นจนน่าหวาดกลัว
ฉู่ชวิ๋นรีบกระโดดหลบเข้าด้านหลังก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง
เสียงระเบิดดังขึ้น ก้อนหินที่เขาใช้เป็นที่กำบังระเบิดกระจุยกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย พลังสังหารจากเขี้ยวนูเอะยักษ์ยังคงพุ่งตรงเข้าหาฉู่ชวิ๋นอย่างไม่ลดละ
ชายหนุ่มรีบใช้พลังจิต ร่ายวิชาตัวอักษร ‘ฆ่า’
เปรี้ยง!
แรงระเบิดแผ่กระจาย แม้แต่วิชาตัวอักษร ‘ฆ่า’ ก็ไม่สามารถป้องกันพลังจากเขี้ยวนูเอะยักษ์ได้ เมื่อพลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน จึงเกิดเป็นการระเบิดขนาดใหญ่
ฉู่ชวิ๋นยังคงต้องตีลังกากระโดดหลบหาที่ซ่อนตัว เขี้ยวนูเอะยักษ์มีความเร็วน่ากลัวมาก ไม่ต่างจากความเร็วของสายฟ้าฟาด
เขี้ยวนูเอะยักษ์ที่มีฝุ่นเกาะอยู่เกรอะกรัง สามารถโจมตีด้วยตัวเองได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ต้องมีใครคอยควบคุม แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวในอดีตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาอย่างแท้จริง
ฉู่ชวิ๋นต้องกระโดดหลบหลีกต่อไป พลังของเขี้ยวนูเอะยักษ์น่ากลัวมากเกินไป แม้แต่ก้อนหินขนาดใหญ่ยักษ์ก็แตกกระจายไม่เหลือชิ้นดีเมื่อปะทะเข้ากับมัน
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายเย็นเยียบ เขาพลิกฝ่ามือหนึ่งครั้งแล้วประกายแสงสีทองก็สว่างไสว ดาบทองคำเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา
นี่คือดาบเกล็ดทองคำที่จักรพรรดิอ่าวหวงเคยใช้สังหารมังกรและปิดผนึกวิญญาณของมันเอาไว้ วันนี้ เห็นทีคงต้องเอาออกมาปะทะกับเขี้ยวนูเอะยักษ์ดูสักตั้ง
เมื่อโคจรพลังเข้าใส่ตัวดาบ ใบดาบก็กลายเป็นสีทองสว่างไสว เพียงตวัดดาบหนึ่งครั้ง ก็เกิดเป็นพลังคลื่นเสียงมังกรคำราม พุ่งตรงเข้าไปหาเขี้ยวนูเอะยักษ์ทันที
เงาร่างของมังกรตัวหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ มันตะปบกรงเล็บเข้าใส่เขี้ยวนูเอะยักษ์ เหมือนกำลังต่อสู้อยู่กับยักษ์ตัวหนึ่ง
เขี้ยวนูเอะยักษ์ขยับหนีด้วยความรวดเร็ว มันหมุนวนเป็นวงกลม พุ่งทะลวงเงาร่างของเงามังกรพร้อมกับส่งเสียงคำรามดังลั่น
มังกรทองคำเงยหน้ากู่ร้อง ถึงแม้จะไม่มีเสียงใดดังออกมา แต่ทุกคนก็ทราบดีว่ามันกำลังเดือดจัด เงาร่างของมังกรทองคำอ้าปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือด กัดเขี้ยวนูเอะยักษ์เขี้ยวนั้นไม่ยอมปล่อย
เขี้ยวนูเอะยักษ์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ลำแสงสีแดงแผ่ออกมา แล้วมันก็สามารถสะบัดหลุดออกมาจากปากมังกรได้สำเร็จ ลำแสงสีแดงจางลงไปแล้ว
ฉู่ชวิ๋นอาศัยจังหวะนี้กระโดดขึ้นไป ฟาดฟันดาบใส่เขี้ยวนูเอะยักษ์
เช้ง!
ประกายไฟสาดกระจาย ร่องรอยดาบปรากฏอยู่บนเขี้ยวนูเอะยักษ์เป็นทางยาว ฉู่ชวิ๋นรู้สึกชาดิกไปทั้งแขน ดวงตาของเขาส่อแววตกตะลึง แม้แต่เขาก็ยังตัดเขี้ยวขาวเขี้ยวนี้ไม่ขาด
โคจรพลังลมปราณลงสู่ตัวดาบอีกครั้ง ฉู่ชวิ๋นร้องคำราม ลองตวัดดาบฟันออกไปอีกรอบ พลัน เงาร่างของมังกรปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งกลางอากาศ คลื่นแรงสั่นสะเทือนทำให้กลุ่มคนดูที่อยู่โดยรอบถึงกับหายใจติดขัดในพริบตา
เปรี้ยง!
เงามังกรใช้กรงเล็บตะปบไปที่เขี้ยวนูเอะยักษ์
ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 มีสีหน้าขุ่นมัว มันจ้องมองฉู่ชวิ๋นด้วยแววตาดุร้าย ก่อนจะกางปีกออกกว้าง และบินเข้าไปหาเขี้ยวนูเอะยักษ์ เพื่อนำเลือดของมันไปพ่นเข้าใส่ เพิ่มพลังให้อาวุธในตำนานประจำเผ่าพันธุ์
ฟู่!
แสงสีแดงเป็นประกายเจิดจ้าไปทั่วท้องฟ้า กลิ่นเลือดคาวคลุ้งในอากาศ เขี้ยวนูเอะยักษ์เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสีแดง แล้วเงาร่างเจ้าของเขี้ยว ซึ่งเป็นนูเอะยักษ์ในตํานานก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับส่งเสียงคำรามดังสนั่น
นี่คือเงาร่างของนูเอะยักษ์โบราณ
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นก็ยังคงเป็นประกายเย็นเยือกอยู่เช่นเดิม พลังลมปราณของเขาพวยพุ่งออกมา อาบไล้ไปทั่วตัวดาบเกล็ดทองคำ ส่องแสงเป็นสีทองสว่างเจิดจ้า
ดาบในมือตวัดออกไป เงาร่างของมังกรพุ่งตรงในอากาศที่สั่นไหวไปด้วยเสียงคำรามของมัน
เงาร่างของนูเอะยักษ์ก็หันมาคำรามใส่เงาของมังกรที่พุ่งเข้าหา เตรียมพร้อมรับการปะทะอย่างเต็มที่
พวกมันต่างก็เป็นสัตว์ร้ายโบราณทั้งคู่ ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนหลายร้อยคน หลังจากผ่านไป 200 ล้านปี ในที่สุด พวกมันก็ได้กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
โฮก!
เสียงคำรามดังกึกก้องแผ่นฟ้า เงาร่างของสัตว์ร้ายทั้งสองชนิดต่อสู้กันด้วยความดุเดือด กรงเล็บขนาดใหญ่ตวัดตัดอากาศ กลายเป็นเสียงที่ชวนขนหัวลุก
มังกรยักษ์โจมตีด้วยความรุนแรง มันงับลำคอของนูเอะยักษ์ไม่ปล่อย ส่งผลให้พวกมันทั้งสองตัวต้องม้วนกลิ้งพันตูกันอยู่กลางอากาศ
ทุกคนได้แต่ยืนตาค้าง แน่นิ่งราวกับเป็นรูปปั้นแกะสลัก
สัตว์ร้ายจากยุคโบราณทั้งสองชนิด คือมังกรโบราณกับนูเอะยักษ์ ปกติสามารถพบเห็นได้แต่เพียงในสมุดบันทึกโบราณหรือจากในอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แม้ว่าพวกมันจะไม่มีร่างจริง แต่นี่ก็คือวิญญาณของพวกมันจริงๆ ซึ่งทำให้ทุกคนต้องอ้าปากค้าง
นูเอะยักษ์โดนกัดเข้าไปที่ลำคอก็ส่งเสียงร้องด้วยความโกรธแค้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง มันก็ตวัดขาใช้กรงเล็บเจาะเข้าไปที่เนื้อมังกร ส่งผลให้มีเลือดเป็นสายพุ่งกระฉูด
สัตว์โบราณทั้งสองตัวต่อสู้กันอย่างดุเดือด ก้อนหินใหญ่ขนาดหลายพันก้อนแล้วก้อนเล่าพังทลายลงไม่มีชิ้นดี เช่นเดียวกับต้นไม้ใหญ่อายุยืนหลายร้อยปี ก็ถูกโค่นล้มกิ่งก้านแตกหักในพริบตาเดียว
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายระยิบระยับ เขาโยนดาบเกล็ดทองคำมาถือในมือซ้าย ส่วนมือขวาปรากฏไม้เท้าทองคำขึ้นมาแล้ว
นี่คือไม้เท้าหางมังกรทอง!
ฉู่ชวิ๋นควงไม้เท้าทองคำลอยตัวขึ้นไป วิญญาณของสัตว์ร้ายทั้งสองหยุดต่อสู้กันอย่างกะทันหัน พร้อมกับหันมาจ้องมองฉู่ชวิ๋นด้วยความประหลาดใจ
วูบ!
นูเอะยักษ์ยิงลำแสงสีแดงเข้าใส่เขา แต่ลำแสงเหล่านั้นก็ถูกดาบเกล็ดทองคำดูดกลืนหายไปหมดสิ้น
นูเอะยักษ์พลันบินพุ่งเข้ามาหาฉู่ชวิ๋น ชายหนุ่มไม่ได้หลบหลีก ราวกับว่าเขาไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้นเมื่อมีไม้เท้าทองคำอยู่ในมือ
ฉู่ชวิ๋นควงไม้เท้าหางมังกร โคจรพลังเข้าใส่ ลำแสงสีแดงสว่างจ้า ในขณะที่กระโดดพุ่งเข้าไปหานูเอะยักษ์ที่บินเข้ามา
ควับ!
ไม้เท้าทองคำตวัดฟาดออกไป พลังลมปราณพวยพุ่งพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรร้าย
เปรี้ยง!
มังกรยักษ์พุ่งเข้ามาใช้กรงเล็บตะปบร่างของนูเอะยักษ์ ล็อคเป้าเอาไว้ให้ไม้เท้าทองคำโจมตี
นูเอะยักษ์ร้องคำรามดังสนั่น แต่ก็ไม่อาจหลุดลอดจากกรงเล็บมังกรได้
ฉู่ชวิ๋นกระโดดขึ้นไป ฟาดไม้เท้าทองคำลงไปบนร่างวิญญาณของเจ้านูเอะยักษ์เต็มแรง
เปรี้ยง!
ร่างของนูเอะยักษ์ม้วนกลิ้งในอากาศ บนลำตัวของมันเกิดรอยแตกร้าวเห็นได้ชัดเจน และนั่นเป็นผลจากการโจมตีของฉู่ชวิ๋น
สัตว์ร้ายในตำนานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษาส่งเสียงร้องด้วยความบ้าคลั่ง รอยแตกร้าวบนร่างวิญญาณของมันหายวับไปอย่างรวดเร็ว แต่ร่างของมันก็ซีดจางลงเช่นกัน
นูเอะยักษ์รีบพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นด้วยความโกรธแค้น
ฉู่ชวิ๋นหมุนตัวกลางอากาศ เงื้อไม้เท้าทองคำขึ้นเหนือหัว และฟาดแขนออกไปสุดแรงเกิด
นูเอะยักษ์ถูกกระแทกลอยกระเด็นไปไกล ร่างของมันหดเล็กลงมากยิ่งขึ้น และมีความโปร่งแสงมากยิ่งขึ้น
ฉู่ชวิ๋นกำลังจะฟาดไม้เท้ากระบวนท่าสุดท้ายออกไปเป็นท่าสังหาร ใครจะรู้เลยว่าในวินาทีนั้นเอง ดาบเกล็ดทองคำก็เป็นประกายแวววาว เงาร่างมังกรอีกตัวหนึ่งพุ่งออกมาจากตัวดาบ และอ้าปากงับลำคอของนูเอะยักษ์ด้วยความรุนแรง
แล้วเงาร่างของนูเอะยักษ์ก็ระเบิดกระจายบนท้องฟ้า สดใสสว่างจ้าราวกับแสงดาว
ร่างวิญญาณของมังกรที่ลอยออกมาจากดาบเกล็ดทองคำอ้าปากกว้าง ดูดกลืนดวงดาวเหล่านั้นเข้าปากจนหมดสิ้น ก่อนที่ร่างของมันจะพุ่งหายกลับเข้าไปในตัวดาบเกล็ดทองคำดังเดิมในวินาทีต่อมา
ฉู่ชวิ๋นรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่าตัวดาบเกล็ดทองคำแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเก่า เนื่องจากวิญญาณมังกรได้กินวิญญาณของนูเอะยักษ์เข้าไป พลังของมันจึงเพิ่มพูนมากขึ้นนั่นเอง
ณ ตอนนี้ เขี้ยวนูเอะยักษ์ที่ปราศจากวิญญาณ ก็กำลังร่วงละลิ่วหล่นจากท้องฟ้า
ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 กระพือปีกบินตรงเข้าไปหมายคว้าเอาไว้
แต่ฉู่ชวิ๋นมีความรวดเร็วมากกว่า ในขณะนี้เขามีพลังแก่นแท้ลมปราณขั้นกลาง จึงมีความเร็วที่มากกว่าความเร็วเสียงถึง 4 เท่า วินาทีต่อมา ชายหนุ่มก็มาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าเขี้ยวนูเอะยักษ์ ไม้เท้าหางมังกรในมือของเขาเงื้อขึ้นสูง
เปรี้ยง!
ขนนกปลิวกระจาย ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แขนข้างหนึ่งของมันหักงอเนื่องจากรับแรงกระแทกกับไม้เท้าเข้าไปเต็มเปา แล้วร่างของมันก็ร่วงหล่นลงจากกลางอากาศ
ฉู่ชวิ๋นเอื้อมมือออกไปคว้าจับเขี้ยวนูเอะยักษ์เอาไว้ แต่เพียงแค่นิ้วมือของเขาสัมผัสมันเท่านั้น เขี้ยวนูเอะยักษ์ก็แตกเปรี๊ยะกลายเป็นรอยร้าวสองฝั่ง เลือดสีแดงเป็นประกายสว่างไหลซึมออกมาจากส่วนที่แตกร้าวตรงกลาง แสงสีแดงเจิดจรัสไปทั่วแผ่นฟ้า สว่างไสวจนต้องยกมือป้องดวงตา
นี่คือเลือดนูเอะโบราณ
ฉู่ชวิ๋นหอบหายใจอย่างหนักหน่วง นี่คือเลือดของสัตว์ร้ายในตำนาน แม้ว่ามันจะมีอายุยาวนานมาก แม้อานุภาพของมันจะมีเพียงหนึ่งในล้านจากของจริง แต่ก็ไม่มียาวิเศษใดสามารถเทียบเคียงมันได้เลย
ฉู่ชวิ๋นรีบหยิบขวดหยกออกมา รองหยดเลือดเหล่านั้นเก็บเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว
ดวงตาของบรรดาผู้อาวุโสจากสำนักเทวามรณะแดงก่ำ นี่คือเขี้ยวนูเอะยักษ์ที่ส่งต่อมาในเผ่าพันธุ์ของพวกมันอย่างยาวนาน และได้รับการยกย่องว่าเป็นอาวุธสวรรค์ชิ้นหนึ่ง ไม่มีใครคิดเลยว่าในวันนี้หยดเลือดเหล่านั้นกลับต้องตกไปอยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม
นี่คือสมบัติสวรรค์แท้จริง ไม่อาจหาสิ่งใดมาทดแทนได้อีก
โม่กันพูดอะไรไม่ออก พวกเขาสูญเสียเขี้ยวนูเอะยักษ์ไปได้อย่างไร? นี่คือสมบัติสวรรค์ที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้อีกแล้ว
“เอาคืนมานะ” ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 ถึงกลับบ้าคลั่งไปโดยสมบูรณ์แบบ ของสิ่งนี้เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ปักษา ตามบันทึกโบราณกล่าวไว้ว่า นูเอะยักษ์เป็นสัตว์ร้ายตามธรรมชาติ ถ้าสามารถครอบครองกระดูกหรือเลือดของมันได้ ผู้ครอบครองก็จะได้รับพลังของมันถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
และถ้าสามารถควบคุมพลังของมันเอาไว้ได้ มันผู้นั้นก็จะมีพลังที่สามารถสั่นสะเทือนโลกนี้ได้อย่างง่ายดาย
ด้วยเหตุนี้ ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 จึงควบคุมสติตัวเองไม่อยู่ ดวงตาของมันแดงฉาน บินตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋นอย่างขาดสติ
“พวกเราฆ่ามัน เอาเลือดกลับมาให้ได้” โม่กันตะโกนออกคำสั่ง
ตัวมันและบริวารมนุษย์ปักษา รวมถึงผู้อาวุโสทั้งสองตัวที่ได้รับบาดเจ็บจากฉู่ชวิ๋นก่อนหน้านี้ ทั้งหมดต่างก็พุ่งตรงเข้ามาหาฉู่ชวิ๋นด้วยความบ้าคลั่ง
เผ่าพันธุ์ผีดิบ สำนักวัชระ และสำนักอื่นๆ ที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน ต่างก็เฝ้าดูด้วยใจระทึก แต่ในเมื่อนี่คือเลือดของสัตว์ร้ายในตำนาน ปล่อยให้หลุดมือไปก็คงน่าเสียดายยิ่งนัก
“ทุกคนไปหาข้อมูลมาหน่อย ไอ้หมอนี่มันเป็นใครกันแน่?”
“โทรบอกผู้อาวุโสในสำนัก ส่งคนมาช่วยฉันในปักกิ่งหน่อย เราจะแย่งชิงเลือดนูเอะมาให้ได้”
“ถ้าได้ดืมเลือดนูเอะ ไม่ว่าผู้ใดก็สามารถเลื่อนระดับได้อย่างน่ามหัศจรรย์”
นี่คือคำพูดจากบรรดาสำนักสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ ที่จ้องมองเลือดนูเอะโบราณด้วยดวงตาแวววาว
สงครามที่แท้จริงเริ่มต้นขึ้นแล้ว
มนุษย์ปักษาทุกตัวพุ่งตรงเข้าไปหาฉู่ชวิ๋น
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายเย็นชาปานน้ำแข็ง เขาควงไม้เท้าทองคำในมือ แล้วซัดลมปราณออกไปกระแทกใส่บรรดามนุษย์ปักษาแต่ละตัวเข้าอย่างจัง
ก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 พอจะต่อสู้ได้บ้างเพราะมีเขี้ยวนูเอะยักษ์อยู่ในครอบครอง แต่ในเมื่อสูญเสียอาวุธสวรรค์ประจำกายไปแล้ว มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่ชวิ๋นอีกต่อไป โดยเฉพาะในขณะนี้
ผู้อาวุโสลำดับที่ 10 ส่งเสียงร้องโหยหวนในขณะที่ลอยกระเด็นไปกระแทกกับต้นไม้เก่าแก่หลายต้นล้มระเนระนาด หลังจากนั้น ก็กระอักเลือดออกมาคำใหญ่
โม่กันแอบเข้ามาโจมตีฉู่ชวิ๋นทางด้านหลัง
ฉู่ชวิ๋นหันขวับกลับมา ฟาดไม้เท้าทองคำในมือออกไป เกิดเสียงดังตุบ ปะทะเข้ากับดาบทองคำในมือของฝ่ายตรงข้าม โม่กันล้มลงหงายหลัง ฉู่ชวิ๋นเหยียบเท้าลงไปบนหน้าอกของมัน ได้ยินเสียงกระดูกสันอกแตกหักดังกร๊อบ เช่นเดียวกับบนพื้นดินที่เกิดการยุบตัวจนกลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่
ในขณะนี้ มีมนุษย์ปักษาอีกสองตัวโอบกระหนาบซ้ายขวาเข้ามาเล่นงานฉู่ชวิ๋น ดาบทองคำในมือของพวกมันเป็นประกายเรืองรอง
แต่ไม้เท้าทองคำในมือของฉู่ชวิ๋นก็ตวัดฟาดออกไปด้วยความดุร้ายไม่แพ้กัน ดาบยาวในมือของมนุษย์ปักษาหลุดลอยกระเด็น ไม้เท้าหางมังกรฟาดเข้าไปที่เอวของพวกมันเต็มแรงทั้งสองตัว
มนุษย์ปักษาตัวขวามือตื่นกลัว ขยับปีกเตรียมบินหนี
ฉู่ชวิ๋นกระทืบเท้ากับพื้นดิน ดีดตัวลอยขึ้นตามติดไปพร้อมกับฟาดไม้เท้าทองคำใส่ปีกของฝ่ายตรงข้าม ได้ยินเสียงดัง “แคว่ก” เลือดสีแดงสาดกระจาย ขนนกปลิวกระจุย มนุษย์ปักษาร้องโหยหวนด้วยความเศร้า ปีกของมันข้างหนึ่งขาดออกไปแล้วด้วยฝีมือของฉู่ชวิ๋น
ปรากฏเส้นไหมสีขาวลอยออกมาจากใต้เท้าของฉู่ชวิ๋น คอยรองรับน้ำหนักตัวของเขาเอาไว้ ชายหนุ่มจึงไม่ร่วงหล่นลงมาจากกลางอากาศ
มนุษย์ปักษาตัวนั้นร้องโหยหวนในขณะที่ร่วงดิ่งลงสู่พื้นโลก แต่ฉู่ชวิ๋นกระโดดจับปีกข้างหนึ่งของมันมากระชากทิ้ง ก่อนที่จะโยนตัวมันลงไปบนพื้นดินด้วยความอำมหิต
กระดูกหน้าอกของโม่กันไม่รู้เลยว่าแตกหักเป็นกี่ชิ้น ปีกที่หลังของมันก็แตกหักเช่นกัน มันพยายามลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก แต่แล้วกลับได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังลอยมา เมื่อเงยหน้าขึ้นมองด้านบน พลัน มันก็ต้องตัวเย็นเฉียบด้วยความตื่นตระหนก
มันเห็นกับตาว่าฉู่ชวิ๋นตั้งใจเหวี่ยงมนุษย์ปักษาตัวนั้นลงมาหามัน
ผลั่ก!
หัวของมนุษย์ปักษาตัวนั้นกระแทกเข้าใส่กระดูกหน้าอกของโม่กัน หัวทั้งหัวผลุบหายเข้าไปในหน้าอก กระแทกใส่หัวใจโม่กันจนแหลกเละ มนุษย์ปักษาผู้โชคร้ายคอหักตาย เสียชีวิตไปพร้อม ๆ กับมนุษย์ปักษาชราในวินาทีนั้นเอง
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเต็มไปด้วยความบ้าเลือด เขาขยับเท้าเพียงเล็กน้อย กระโดนให้สูงขึ้นไปอีก ชายหนุ่มกระโดดขึ้นขี่หลังของมนุษย์นกอีกตัวหนึ่ง เขาใช้มือซ้ายจิกหัวของมันให้เงยหน้าขึ้นมา ก่อนที่จะกระแทกหมัดเข้าใส่ครึ่งปากครึ่งจมูกของมันเต็มแรง!