จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 39 การต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
บทที่ 39 การต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
ห้องจัดเลี้ยงเงียบงัน ทุกคนจ้องมองเฉินฮั่นหลงและสงสัยในสิ่งที่เขาจะทำกับฮู่จิ้นและลูกชาย เฉินหั่นหลงเดินไปที่มุมของห้องจัดเลี้ยงและมองฮู่จิ้นและลูกชายที่สภาพน่าเวทนา เฉินหั่นหลงแสยะยิ้มที่มุมปาก
เขาไม่เห็นอกเห็นใจฮู่จิ้นและลูกชายเลยแม้แต่น้อย เพราะนี่คือสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ ถ้าหากว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ถางโร้วผู้หญิงคนนั้นคงถูกทำลายลงเพราะปากของฮู่เหวินคนนี้ไปแล้ว
“ประธานเฉิน ปล่อยพวกเราไปเถอะ…ขอร้องล่ะ” ฮู่จิ้นยกมือไหว้อ้อนวอน “ปล่อยพวกเราสองคนพ่อลูกไปเถอะคิดซะว่าปล่อยนกปล่อยปลา….” ฮู่จิ้นอ้อนวอนทั้งน้ำตา
“ปล่อยพวกแกไป?” เฉินหั่นหลงหัวเราะ “ปล่อยพวกแกงั้นคนที่โชคร้ายก็คือฉันน่ะสิ”
“เจิ้ง…ประธานเจิ้งเห็นแก่ที่หลายปีมานี้ ฉันทำงานให้นายอย่างขยันขันขอร้องละช่วยฉันเถอะ ได้โปรดช่วยฉัน….” ฮู่จิ้นยังไม่ละความพยายามหันไปอ้อนวอนเจิ้งก่วงอี้ ให้เจิ้งก่วงอี้ช่วยไว้ชีวิตเขา
“ช่วยคุณ?” เจิ้งกันไม่ปล่อยให้พ่อได้คิดอะไร เขาพูดขึ้นมาทันที
“ผมบอกหลายครั้งแล้วนะ พูดจนปากฉีกปากแฉะก็ยังไม่รู้เรื่อง? ลูกชายงี่เง่าปากเสียของคุณไม่ช้าก็เร็วต้องเกิดเรื่องแน่นอน ทำไมคุณไม่ห้ามเขา”
เจิ้งกันพูดจบก็หันไปมองเฉินฮั่นหลง “คุณลุงเฉิน ผมมีวิธีลงโทษพวกเขาไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่พูดดี”
“ลองพูดมาซิ” เฉินฮั่นหลงพูด เจิ้งกันเดินขึ้นมาด้านหน้าแล้วกระซิบบอกเฉินฮั่นหลง! เฉินฮั่นหลงมองเขาด้วยสายตาแปลกใจใบหน้าแสดงความพึงพอใจก่อนตบเบา ๆ ไปที่ไหล่ของเจิ้งกัน
“ตกลง ทำตามที่นายพูด!” ทุกคนอดสงสัยไม่ได้ว่าเจิ้งกันออกความคิดเห็นว่าอะไรกันแน่ เฉินฮั่นหลงกระชากผมฮู่เหวินขึ้นมาเพื่อบีบบังคับให้เขาเงยหน้าขึ้นหลังจากนั้นก็ชกรัวไปที่ปากของเขา
ไม่นานฮู่เหวินก็ไร้เรี่ยวแรงต่อต้านปากของเขาถูกชกจนเลือดอาบ บวมเหมือนกับไส้กรอกปิ้ง เฉินฮั่นหลงหยิบขวดหยกเล็ก ๆ ออกมาอีกครั้งและลูบหยดน้ำพลังเทพเซียนไปบนปากของฮู่เหวิน
นี่คือหยดน้ำพลังเทพเซียนระดับสอง ผลลัพธ์แตกต่างกับที่ถางโร้วใช้ไปครั้งก่อนเป็นอย่างมากต้องรอหลายนาทีถึงจะเห็นผล
เมื่อทุกคนเห็นเฉินฮั่นหลงแสดงความมีจิตสำนึกออกมาเขา ต่างก็คิดว่าเฉินฮั่นหลงคงพอแค่นี้ แต่จู่ ๆ เฉินฮั่นหลงก็รัวหมัดชกฮู่เหวินซ้ำอีกครั้ง ฮู่เหวินร้องไห้ด้วยน้ำเสียงเศร้าโศก เขาไม่อาจขัดขืนโดนชกจนปากเบี้ยวตาเหล่
“ลุงเฉิน ลุงพักผ่อนเถอะ ผมทำเอง!” เจิ้งกันดึงแขนเสื้อขึ้นตื่นเต้นเหมือนกับคนโง่
“ไม่ใช่ว่ายังเหลืออีกหนึ่งคนเหรอ?” เฉินฮั่นหลงมองไปหาฮู่จิ้นที่ตกใจนั่งอยู่ข้าง ๆ
“ขอบคุณลุงเฉิน!” เจิ้งกันยิ้มแล้วเดินไปทางฮู่จิ้น
ฮู่จิ้นตกใจกลัวจนตัวสั่น
“เสี่ยวกัน เธอจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ เธออย่าลืมซิว่าตอนเด็ก ๆ ลุงรักเธอมากแค่ไหน…” คำพูดของฮู่จิ้นหยุดไปเพราะถูกหมัดชกเข้าไปที่ท้อง
“แน่นอนว่าผมจำได้ และผมก็จำได้ด้วยว่าวันนี้อีกนิดเดียว จะถูกคุณฆ่าตายเพราะกล้าไปยุ่งกับคุณถาง” เจิ้งกันยิ่งพูดยิ่งโกรธ วันนี้อีกนิดเดียวเขาก็เกือบตายโดยไม่รู้ตัวแล้ว ตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าจะบอกกับนายท่านฉู่ชวิ๋นยังไงดี?
“โพ๊ะ เพลี๊ยะ”
เจิ้งกันชกไปที่ปากนับสิบหมัด แน่นอนว่าเจิ้งกันไม่เพียงแต่ชกปากเขาชกมั่วไปหมดจนเจ็บมือ ไม่กี่นาทีต่อมาสภาพฮู่จิ้นก็เปลี่ยนเป็นไปเหมือนหมูตัวหนึ่ง เจิ้งกันสูดหายใจเข้าออกแกว่งแขนมองไปทางเฉินฮั่นหลงด้วยความมั่นใจ
“รับไปซะ! เก็บไว้ใช้ขวดนี้ราคา หนึ่งล้านเชียวนะ!” เฉินฮั่นหลงเอาขวดหยกที่อยู่ในมือโยนไปให้เจิ้งกัน
“ขอบคุณลุงเฉิน!” เจิ้งกันรับเอาไว้และมองไปที่ใบหน้าบวม ๆ ของฮู่จิ้น ก่อนพูดขึ้นว่า “เทียบกันแล้วหน้าลุงใหญ่กว่าก้นผมอีกของแบบนี้ให้ลุงใช้ก็สิ้นเปลืองเปล่า ๆ” เขาไม่ได้ใช้เสียเปล่าจริง ๆ เขาใช้ทาที่ปากของฮู่จิ้นเล็กน้อยเท่านั้น
หยดน้ำพลังเทพเซียนออกผล ฮู่จิ้นที่ใบหน้าทุกส่วนบวมเหมือนหัวหมูแต่ปากถูกรักษาจนหายดี มองไปมาก็น่าพิลึกดี เจิ้งกันง้างหมัดแต่ไม่ถึงครึ่งทางก็หยุดลง คิด ๆ ดูแล้วเขาก็ถอดรองเท้าหนังท่ามกลางสายตาของทุกคน
“เพียะ”
พื้นรองเท้ากระทบเข้ากับปากของฮู่จิ้นจนส่งเสียงดังออกมา
ฮู่จิ้นส่งเสียงร้องอย่างเวทนาขอบริมฝีปากมีเลือดไหลท่วม ภายในนั้นยังมีฟันสองซี่ป่นออกมา คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว เฉินฮั่นหลงหันหน้าไปมองเขาอดไม่ได้ที่จะตกใจ ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึงล่ะ?
“เจ้าหลานชาย ความขี้เกียจของแกนี้มันน่านับถือจริง ๆ” เฉินฮั่นหลงเห็นแล้วก็ทำตามถอดรองเท้าออกมาฟาดไปที่ฮู่เหวิน! ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงนิ่งเงียบไม่กล้าขยับ มีเพียงแต่เสียง
“เพียะ เพล้ง” ดังขึ้นในห้องจัดเลี้ยง
งานเลี้ยงดี ๆ กลับกลายเป็นแย่ไปหมดไม่มีใครคิดที่จะอยู่ต่อ
เฉินฮั่นหลงทุบตีจนเหนื่อยก่อนโทรไปเรียกสมาชิกของกลุ่มเหยี่ยวมังกรมารับตัวสองคนนี้ไป เขาบอกลูกน้องให้เฆี่ยนตีสองคนนี้ต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งเดือน
แขกที่มาร่วมงานโดยรอบแอบนินทาว่าเฉินฮั่นหลงเป็นคนบ้าสุดโหดเหี้ยมเรื่องแบบนี้ก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่คิดได้ หลังจากนี้คงไม่มีใครกล้าขัดใจหมาบ้าแบบเขาอีกแล้ว
ฮู่จิ้นและลูกชายพอได้ยินว่าจะโดนทุบตีแบบนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนก็สลบไปทันที
อีกด้านหนึ่ง ชั้นบนสุดของตึกที่ตกแต่งเป็นอย่างดี ฮัวชิงหวู่รินไวน์อยู่ที่ด้านหน้าต่างสายตามองไปที่รถน้อยใหญ่และคนที่จราจรบนถนน
เสียงเปิดประตูดังขึ้น!
ฮัวชิงหวู่ไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าเป็นผู้อาวุโสที่เข้ามา
“คุณหนู ของได้ส่งมอบให้กับคุณถางแล้ว” ผู้อาวุโสเดินมาข้างหน้าสองก้าวแล้วพูดออกมา
“ทุกคนต่างคิดว่าเธอเป็นเพียงดาราคนหนึ่งที่มาจากครอบครัวธรรมดา ๆ แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าเธอความโชคดีขนาดไหน!” ฮัวชิงหวู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอิจฉา
ผู้อาวุโสไม่ได้พูดอะไรเพราะฮัวชิงหวู่พูดมาก็ถูกพวกเขาดิ้นรนเป็นสิบปีก่อนจะได้มีเป็นคนยิ่งใหญ่มีหน้ามีตาแบบนี้ เทียบกับความโชคดีของถางโร้วแล้วไม่ได้จริง ๆ! แค่ฉู่ชวิ๋นชอบเธอก็เหมือนเธอได้ก้าวข้ามทุกอย่างขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดในพริบตา
“ผู้อาวุโส คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเฉินฮั่นหลง?”
“เขาก็แค่คนอันธพาลคนหนึ่ง” ผู้อาวุโสไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฮัวชิงหวู่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เรื่องที่เฉินฮั่นหลงทะเลาะกับผู้อาวุโสเธอรู้อยู่แล้ว
“ผู้อาวุโสเฉินฮั่นหลงคนนี้ในภายหลังเราต้องสนิทกับเขาให้มาก” ฮัวชิงหวู่พูดอย่างใจเย็น
“คนอันธพาลแบบนี้มีดีตรงไหน?” ผู้อาวุโสไม่พอใจจนต้องพูดออกมา
“ถ้าหากเขาและนายท่านไม่มีความสัมพันธ์กันฆ่าเขาก็เหมือนฆ่าสัตว์” ผู้อาวุโสพูดออกมาอย่างโกรธเคือง
“ไม่มีถ้าหาก ตอนนี้ฉู่ชวิ๋นเชื่อใจเขามากไม่อย่างนั้นหยดน้ำพลังเทพเซียนที่มีค่าเช่นนี้จะเอาให้เฉินฮั่นหลงได้ยังไง?” ฮัวชิงหวู่คิดแล้วว่าฉู่ชวิ๋นเชื่อใจเฉินฮั่นหลง ถ้าไม่เชื่อใจกันคงไม่มอบหน้าที่นี้ให้
ผู้อาวุโสครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คุณผู้หนูพูดถูก เฉินฮั่นหลงแต่เดิมก็ติดตามนายท่านมาตลอดและเขาคนนี้ก็ทำได้หลายอย่างเลยทีเดียว แถมยังจงรักภักดีต่อนายท่านมาก เพราะแบบนี้นายท่านถึงได้เชื่อใจเขา”
ผู้อาวุโสพูดต่อ “ดูเหมือนว่าพวกเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว แบบนี้ในภายหลังต่อหน้านายท่านพวกเราจะยังมีค่าอะไรให้พูดถึงอีกหรือ”
ฮัวชิงหวู่กำลังจะพูดออกมา! ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฮัวชิงหวู่เดินไปที่ลิ้นชักภาพข้างในคือกองโทรศัพท์ที่มีประมาณยี่สิบกว่าเครื่อง เธอหยิบขึ้นมาเครื่องหนึ่งแล้วกดรับสาย
“โอเค ถ้าหากพวกเขาลงมือจริง ก็ทุ่มแรงทั้งหมดเพื่อปกป้องคุณถางไว้”
อธิบายเรื่องต่าง ๆ เสร็จแล้ว ฮัวชิงหวู่ก็วางสาย เธอมองไปยังภาพฉายโปรเจ็กเตอร์ที่ฉายอยู่บนกำแพง บนหน้าจอคือสายโทรศัพท์จากชายราวอายุ สี่สิบปีกว่า
“ขอบคุณสำหรับข่าวนะ!” ฮัวชิงหวู่มองทางหน้าจอแล้วพูดกับชายคนนั้น
“คราวนี้เฉินฮั่นหลงทำผิดคิดว่าฉลาด แต่ทำเรื่องโง่ ๆ ลงไปแล้วเขากล้ามอบหยดน้ำพลังเทพเซียนน้ำยาเซียนที่มหัศจรรย์นั้นให้กับคุณถางที่ไม่มีความสามารถจะปกป้องตัวเอง นี้ไม่ใช่ว่าเป็นการทำร้ายเธอเหรอ” ผู้อาวุโสพูดอย่างเป็นกังวล
“เขาคิดว่าผ่านเรื่องวันนี้ไปคงไม่มีใครหน้าไหนกล้าทำอะไรถางโร้วแล้วแต่เขาประเมินความโลภของคนต่ำเกินไป” ฮัวชิงหวู่กดเปิดกล้องวงจรปิดบนจอโปรเจ็กเตอร์แล้ววางสายไป
“คุณหนู เพื่อความแน่ใจผมจะไปตรวจสอบด้วยตัวเองรอบหนึ่ง” ฮัวชิงหวู่คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบตกลง
ถางเหวินเหยียนพยายามคุมอารมณ์ที่ตกใจแล้วรีบขับรถยนต์กลับบ้าน ฉู่ชวิ๋นคือนายท่านที่ลึกลับงั้นเหรอ จนถึงตอนนี้เขายังไม่อาจวางใจได้เต็มร้อยเรื่องที่ลูกเขาบอกมันน่าเหลือเชื่อเกินไป ฉู่ชวิ๋นพึ่งออกจากคุกเองนะ!
รถยนต์ขับไปบนเส้นทางเล็ก ๆ เส้นทางนี้ห่างจากบ้านพวกเขาไม่ไกลแล้ว
“พ่อ ระวัง!” ถางโร้วอุทานอย่างตกใจ! มีรถตู้สีขาวคันหนึ่งขับปาดผ่านรถของพวกเขา
ถางเหวินเหยียนเหยียบเบรกให้รถยนต์หยุดทันทีตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วรถยนต์บนถนนก็มีน้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงถนนเส้นเล็กแบบนี้ ทำไมถึงมีรถตู้ขับแบบนี้ได้ละ
เขายังไม่ทันได้ตะโกนด่าเพื่อระบายอารมณ์ ไฟหน้ารถที่ส่องออกไปก็ทำให้มองเห็นรถตู้คันสีขาวเมื่อกี้ก็จอดรถ ประตูรถถูกเปิดออกผู้ชาย ห้าถึงหกคนเดินมาทางพวกเขา
“เหวินเหยียนรีบล็อกประตูรถ” ไม่ต้องเตือนถางเหวินเหยียนก็รู้ว่าเรื่องนี้ดูแปลก ๆ เขารีบล็อกประตูรถจากข้างในแล้วหลังจากนั้นก็เตรียมขับรถยนต์ออกไป
ไม่รู้ว่าเขาตื่นเต้นเกินไปหรือเป็นเพราะรถยนต์มีปัญหาเขาสตาร์ตรถหลายครั้งก็ไม่ติดซะที ผู้ชายร่างกายกำยำเดินมาถึงด้านหน้ารถ ตรงคอมีรอยสักหลากสีรูปแมงป่อง
พวกมันเดินถึงตรงหน้ารถและยิ้มแบบเหยียดหยามทันใดนั้นก็ออกหมัดโจมตี
“เพล้ง”
หน้าต่างทางประตูรถแตกเป็นเศษ ถางโร้วตกใจจนกรีดร้องแล้วหลบไปในอ้อมกอดของซ่งซื๋อ
“พวกคุณคิดจะทำอะไร?” ถางเหวินเหยียนหวาดกลัวจนต้องถามขึ้นมาอย่างเสียงดัง
“คุณถางไม่ต้องกังวลไปพวกเราต้องการเพียงแค่ขวดหยกที่คุณถางโร้วมีอยู่เท่านั้นพวกเราไม่ทำร้ายพวกคุณหรอก”
“ส่งขวดหยกนั้นให้กับฉัน ฉันสัญญาว่าจะรีบกลับไปทันที”
ถางเหวินเหยียนคิดอยู่สักครู่ คนพวกนี้มาเพราะต้องการหยดน้ำพลังเทพเซียนงั้นเหรอ
“อย่าคิดตุกติก รีบเอาออกมา” ผู้ชายอีกคนเดินมาด้านหน้าเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่ประตูรถ “ปัง” รถสั่นสะเทือน ประตูรถยุบเข้าไปทำให้ถางเหวินเหยียนตกใจไม่น้อย
ชายหนุ่มหัวเราะ “ไม่เต็มใจจะให้งั้นเหรอ ก็ได้ เพราะยังไงพี่น้องของพวกเราก็จะเป็นคนค้นตัวคุณถางโร้วด้วยตัวเองอยู่แล้ว”
“ฉันจะให้ ฉันจะให้พวกคุณ” ถางโร้วรีบพูดหลังจากนั้นได้เปิดกระเป๋าหยิบเอาขวดหยกออกมา
“คุณถางโร้วรู้หน้าที่ก็ดีแล้ว” หัวหน้าชายหนุ่มพูดออกมา
“เอาไป” ถางโร้วลดหน้าต่างกระจกลงแล้วยืนขวดหยกออกไปให้ สุดท้ายไม่รู้ว่าหน้าต่างรถลดต่ำเกินไปหรือว่าถางโร้วตื่นเต้นเกินไปขวดหยกเลยหลุดออกจากมือเธอ ชายหนุ่มยื่นมือที่แข็งทื่อออกมา สายตาทุกคนจ้องมองขวดหยกที่กำลังตกลงที่พื้น
“เพล้ง!”
ขวดหยกตกลงไปที่ถนนลาดยางส่งเสียงดังขึ้น หลังจากนั้นมันก็แตก
“ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ถางโร้วตกใจจนโง่งม เธอไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หัวหน้าชายฉกรรจ์สายตาเปลี่ยนไปจนน่ากลัว
“ไม่คิดว่าคุณถางโร้วจะไม่รู้งานอย่างที่คิด ในเมื่อเป็นแบบนี้พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว”
“บัดซบ ผู้หญิงคนนี้แกล้งพวกเราเล่นสินะ” ผู้ชายท่าทางน่ากลัวดูไม่พอใจมาก
“คุณถางโร้ว คุณรู้ไหมว่าพี่น้องของเราทำไมถึงโกรธขนาดนี้” หัวหน้าชี้นิ้วเคาะกับหน้าต่างรถ “ก็เพราะคุณทำให้พวกเราพลาดที่จะได้เงิน ห้าล้านดอลลาร์ยังไงล่ะ ถ้าได้ขวดหยกไปพวกเราก็จะได้เงิน ห้าล้านดอลลาร์แต่ตอนนี้ขวดหยกถูกคุณทำแตกไปแล้วพวกเราก็เสียเงิน ห้าล้านดอลลาร์ไป”
“เพล้ง”
พูดจบ มือที่เคาะประตูอยู่ของชายฉกรรจ์เปลี่ยนเป็นหมัดชกออกมา กระจกแตกเป็นเสี่ยง ๆ อย่างน่าหวาดกลัว!