จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 435 ยันต์สั่งตาย
บทที่ 435 ยันต์สั่งตาย
มันกำลังรวบรวมพลังจากสวรรค์ มีเป้าหมายคือการสังหารฉู่ชวิ๋น
ตัวอักษรสิบตัวที่ถูกเขียนด้วยเลือดบนแผ่นยันต์ พลันลอยตัวขึ้นกลางอากาศ
“ฉู่ชวิ๋น แผ่นยันต์เทวะได้รวบรวมพลังของฟ้าดินโลกมนุษย์กับแดนสวรรค์เข้าไว้ด้วยกัน ผู้ที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเหล่าเทพอย่าหวังเลยว่าจะรอดไปได้” หวูเค่อจินคำรามด้วยใบหน้าที่ขาวซีด
“ฉันจะทำให้แกได้เห็นเองว่า พวกเทพน่ะมันก็แค่แมลงวันตัวนึงเท่านั้น” ฉู่ชวิ๋นตะโกนเหยียดหยาม
“ฉู่ชวิ๋น แกนี่มันไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ” หวูเค่อจินมีดวงตาเป็นประกายดุร้าย หลังจากนั้น ก็ดีดหยดเลือดใส่แผ่นยันต์ที่ลอยตัวในอากาศ
แล้วแผ่นยันต์เทวะก็กลับมาเป็นสีทองสว่างไสวอีกครั้ง ตัวอักษรเลือดทั้งสิบตัวที่ลอยอยู่กลางอากาศ ปรากฏเปลวไฟลุกโชนโชติช่วง ระเบิดแรงกดดันออกมาในวงกว้าง
ครืน!
มวลอากาศปั่นป่วน คลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นขยายตัวปกคลุมบรรยากาศ การรวบรวมพลังจากสวรรค์ในครั้งนี้ ทำให้เหมือนกับทั้งโลกเกิดสุริยคราสในพริบตา
โผละ…!
เหล่าสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ที่ยืนอยู่ใกล้กับหวูเค่อจิน โดนพลังงานที่มองไม่เห็นนี้กดดันเข้าอย่างหนักหน่วง ตัวไหนที่มีพลังไม่แข็งแกร่งมากพอ ร่างกายก็จะระเบิดกลายเป็นม่านหมอกเลือดไปในทันที
ทั้งสองฝ่ายต่างตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล เสียงกระดูกลั่นกรอบแกรบ บางคนถึงกับมีเลือดไหลซึมออกมาจากรูขุมขน
ทุกคนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
แม้แต่บรรดาผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน ก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่แผ่ออกมาด้วยซ้ำ
ฟู่…!
ในกลุ่มคนดูที่รับชมการถ่ายทอดสด คนไหนมีพลังต่ำกว่าขั้นจักรพรรดิ ก็ถึงกับกระอักเลือดออกมาแล้ว
ฉู่ชวิ๋นดวงตาเย็นชา โคจรพลังลมปราณออกมาห่อหุ้มบรรดาจอมยุทธ์ที่ไม่อาจต้านทานแรงกดดันไหว ก่อนที่จะส่งคนกลุ่มนั้นหนีไปไกลหลายกิโลเมตร
“ทุกคนถอยไปก่อน”
ฉู่ชวิ๋นยื่นมือขึ้นไปอากาศ พลังลมปราณสีแดงพวยพุ่งออกจากฝ่ามือของเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า หยุดยั้งแรงกดดันมหาศาลให้ชะงักลง
กลุ่มจอมยุทธ์ที่ขึ้นมารับชมเหตุการณ์บนภูเขา อาศัยจังหวะนี้หลบหนีไปได้จำนวนไม่น้อย
“ฉู่ชวิ๋น ตายซะเถอะ” หวูเค่อจินตะโกน น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย
ครืน!
มวลอากาศเกิดแรงกดดันมหาศาล คล้ายกับมีมือยักษ์ที่มองไม่เห็นกดทับลงมาอย่างรุนแรง
ฉู่ชวิ๋นยืนเผชิญหน้ากับตัวอักษรเลือดทั้งสิบตัวของแผ่นยันต์เทวะ อย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย
แต่ในขณะนี้ แม้แต่ฉู่ชวิ๋นก็ยังอดรู้สึกขนลุกเกรียวไม่ได้
วูบ!
พลัน ลำแสงเลือดก็พุ่งออกมาจากตัวอักษรห้าตัวเหนือแผ่นยันต์ อานุภาพของมันรุนแรงเป็นอย่างยิ่งและเป้าหมายของลำแสงนี้ก็อยู่ที่ฉู่ชวิ๋นนั่นเอง
ฉู่ชวิ๋นหมุนตัวตีลังกากระโดดหลบหนีด้วยความรวดเร็ว
ตู้ม!
ลำแสงเลือดพุ่งกระทบพื้นดิน ก่อเกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ และสร้างรอยแตกร้าวกินพื้นที่ในวงกว้าง
แผ่นยันต์เทวะเหมือนกับมีชีวิต ยังคงยิงลำแสงพุ่งเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นไม่หยุดหย่อน
คราวนี้ ลำแสงถูกยิงออกมาจากตัวอักษรเลือดทั้งสิบตัวพร้อมกัน มองด้วยตาเปล่าจะเห็นเป็นลักษณะคล้ายกับแสงเลเซอร์ มีความรวดเร็วจนน่าหวาดกลัว
ฉู่ชวิ๋นกําหมัดแน่น ดวงตาเป็นประกายเย็นชา ก่อนที่จะยกมือขึ้นต่อยหมัดลมปราณออกไป
พลังลมปราณจากกำปั้นของเขา ปะทะเข้ากับลำแสงที่พุ่งออกมาจากตัวอักษรเหนือแผ่นยันต์
เกิดเป็นแรงระเบิดขนาดใหญ่ตามมา
ฉู่ชวิ๋นร้องครางในลำคอ มีเลือดไหลทะลักออกมาจากปาก เมื่อเห็นว่ามีลำแสงอีกสายพุ่งตรงเข้ามาหา ฉู่ชวิ๋นก็ทำได้เพียงหมุนตัวกระโดดหลบ แต่ลำแสงนั้นก็ยังกระทบถูกบริเวณหัวไหล่เขาอยู่ดีส่งผลให้เลือดสีแดงสดสาดกระจายเต็มพื้นดิน
นี่คือครั้งแรกที่ฉู่ชวิ๋นเสียเปรียบขนาดนี้ การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามรุนแรงไม่ใช่เล่น แขนขวาของเขาสั่นระริก มันด้านชาจนปราศจากความรู้สึก
นี่สินะความน่ากลัวของพวกเทพ?
บาดแผลบนหัวไหล่ของฉู่ชวิ๋นน่ากลัวมาก ผิวหนังเปิดออกจนมองเห็นกระดูกด้านใน เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ถูกย้อมกลายเป็นสีเลือด
นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้เลือดท่วมตัวขนาดนี้?
บรรดาจอมยุทธ์ที่ยังกัดฟันยืนดูเหตุการณ์อยู่บนยอดเขา เช่นเดียวกับผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน อุทานออกมาด้วยความหวาดกลัว สิ่งที่ทุกคนกำลังได้พบเห็นอยู่ในขณะนี้ก็คือ จอมมารฉู่ชวิ๋นได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว
ฉู่ชวิ๋นโคจรพลังลมปราณจำแลงรักษาอาการบาดเจ็บ พริบตาเดียว บาดแผลของเขาก็สมานตัวอย่างรวดเร็ว
“ฉู่ชวิ๋น นี่ไงล่ะความน่ากลัวของฉัน จงยอมศิโรราบแต่โดยดีเถอะนะ ฉันจะขอเป็นตัวแทนของเหล่าเทพทั้งหลาย มอบความตายให้แกอย่างไม่ต้องทรมานเอง” หวูเค่อจินเมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นบาดเจ็บ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ
“อย่าว่าแต่แกที่เป็นลูกหลานของเทพเลย ต่อให้บรรพบุรุษของแกลงมาที่นี่ ฉันก็ไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด” ฉู่ชวิ๋นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เมื่อถึงตอนนี้ บาดแผลบนหัวไหล่ของชายหนุ่มก็หายดีแล้ว ฉู่ชวิ๋นลองหมุนแขนตรวจสอบความเรียบร้อย เมื่อพบว่าไม่เป็นอะไรแล้ว เขาก็ยิ้มมุมปาก หันไปจ้องมองแผ่นยันต์เทวะ
หวูเค่อจินเห็นฉู่ชวิ๋นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาก็เป็นประกายดุร้ายมากยิ่งขึ้น มันเริ่มต้นร่ายคาถาอีกครั้ง
วูบวาบ! วูบวาบ!
ลำแสงสีแดงสองสายถูกยิงลงมาจากท้องฟ้า แน่นอนว่ายังคงล็อคเป้าหมายอยู่ที่ฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นหมุนตัวหลบหนีด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่าภูตผี
เปรี้ยง! เปรี้บง!
ลำแสงนั้นกระทบถูกพื้นดิน แผ่นดินยุบตัว ส่งเสียงดังครืนครันน่าสยองขวัญ
พลัน ลำแสงสีแดงอีกสายหนึ่งพุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋นด้วยความรวดเร็วเกินคาดคิด
เปรี้ยง!
เมื่อถูกลำแสงสีแดงกระแทกเข้าไปเต็มแรง ฉู่ชวิ๋นก็ถึงกับลอยกระเด็นไปไกลนับร้อยเมตร
เฮือก!
เลือดไหลทะลักออกมาจากปากของฉู่ชวิ๋น
แผ่นยันต์เทวะแข็งแกร่งมากเกินไป เขารับมือมันไม่ไหวจริง ๆ
เหล่าจอมยุทธ์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุและผู้ที่รับชมอยู่ทางบ้าน ตกอยู่ในสภาพพูดอะไรไม่ออก
ผู้คนทั้งโลกจะมีใครบ้างที่เคยเห็นจอมมารฉู่ชวิ๋นตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
แผ่นยันต์เทวะมีอานุภาพแข็งแกร่งมากพอที่จะทำให้จอมมารฉู่ชวิ๋นบาดเจ็บสาหัส เมื่อลองคิดดูให้ดี ก็จะเห็นถึงความแข็งแกร่งของเทพอย่างที่ควรจะเป็น
หวูเค่อจินเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ว่ามนุษย์เป็นเพียงแค่ทาสรับใช้ และโลกใบนี้มีผู้ปกครองก็คือเหล่าเทพ หวูเค่อจินคือทายาทที่เหลือรอดของเหล่าเทพบนสวรรค์ เติบโตมาด้วยการมองมนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ หากมันทำให้เทพสามารถกลับมาปกครองโลกมนุษย์ได้อีกครั้ง ประชาคมทั่วทั้งโลกก็ต้องสูญเสียอิสรภาพและต้องลดสถานะกลับไปเป็นข้าทาสบริวารอีกครั้ง
เมื่อคิดได้อย่างนี้ ทุกคนก็อดเป็นห่วงจอมมารฉู่ชวิ๋นไม่ได้แล้ว
“จอมมารฉู่ชวิ๋น แกมันอ่อนแอเกินไป เป็นเพียงแค่มดปลวกตัวเล็กตัวน้อย คิดอ่านจะท้าสู้กับพวกฉัน ไม่กลัวความตายบ้างหรือไง?” หวูเค่อจินพูดออกมาด้วยความบ้าคลั่ง
ฉู่ชวิ๋นลุกขึ้นยืน กระดูกของเขาส่งเสียงกรอบแกรบ อวัยวะภายในร่างกายเปล่งประกายสว่างจ้า หัวใจเต้นรัวดังกลองตี มวลพลังงานถูกรวบรวมขึ้นมาอีกชุดใหญ่
วูบ!
เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง แผ่นยันต์เทวะก็ปล่อยลําแสงโจมตีฉู่ชวิ๋นทันที
ฉู่ชวิ๋นมีดวงตาเป็นประกายเย็นชา ร่างกายของเขาห่อหุ้มด้วยพลังลมปราณจำแลง เมื่อยกมือขึ้นต่อยหมัดออกไป พลังลมปราณก็พุ่งเป็นแสงสว่างจ้า
เปรี้ยง!
พลังลมปราณจากหมัดของฉู่ชวิ๋น ปะทะเข้ากับลำแสงสีแดงอย่างจัง
ทันใดนั้น แผ่นดินสั่นสะเทือน พื้นดินใต้เท้าของฉู่ชวิ๋นเกิดรอยแตกร้าว คลื่นแรงกดดันแผ่กระจายออกไป
“อย่าหวังเลย” ฉู่ชวิ๋นกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น
พลังลมปราณของเขาสามารถป้องกันลำแสงสีแดงได้สำเร็จ
ตู้ม!
แต่ในพริบตานั้น ลำแสงสีแดงอีกหนึ่งสายก็ถูกยิงเข้ามาแทรกผ่านช่องว่างในม่านพลังที่ห่อหุ้มร่างกายของฉู่ชวิ๋น
ตู้ม!
ฉู่ชวิ๋นกระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่ ตัวคนลอยกระเด็นขึ้นกลางอากาศ
เมื่อสักครู่นี้ คนดูยังโห่ร้องด้วยความสะใจที่เห็นว่าฉู่ชวิ๋นสามารถป้องกันลำแสงสีแดงได้สำเร็จ แต่บัดนี้ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมาอีกแล้ว
ตู้ม!
ฉู่ชวิ๋นร่วงหล่นกระแทกพื้น หมุนกลิ้งไปกระแทกกับก้อนหินใหญ่อีกหลายก้อน ก่อนที่จะนอนแน่นิ่งไปในที่สุด
ฟู่!
ฉู่ชวิ๋นกระอักเลือดออกมาจากปากอีกคำใหญ่ มือหนึ่งของเขายกขึ้นกุมหน้าท้อง มีเลือดไหลทะลักออกมาตามง่ามนิ้ว
บัดซบ บาดเจ็บสาหัสจนได้!
ฉู่ชวิ๋นยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น ถ้าเขาไม่เคยอาบเลือดมังกรมาก่อน ร่างกายคงแหลกสลายไปแล้ว
อาวุธของพวกเทพไม่อาจประมาทได้เลยจริงๆ
“จอมมารฉู่ชวิ๋น แผ่นยันต์เทวะเป็นสิ่งที่ทุกเผ่าพันธุ์ต้องกราบไหว้บูชา แกเป็นเพียงแค่ทาสรับใช้ผู้ต่ำต้อย คิดเหิมเกริมต่อต้านแดนสวรรค์ นับว่าไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียแล้ว” หวูเค่อจินยิ้มเยาะ
บาดแผลของฉู่ชวิ๋นสมานตัวอย่างรวดเร็ว พลังลมปราณจำแลงมีอานุภาพฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงดังเดิมได้อย่างน่ามหัศจรรย์
เมื่อบาดแผลสมานตัวดีแล้ว ฉู่ชวิ๋นก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้งแล้วจ้องมองหวูเค่อจินด้วยสายตาเย็นชา
“ฉันบอกแล้วไงว่ากระดาษเช็ดก้นของแก ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
“แกไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาสินะ!” หวูเค่อจินตวาดก้อง
แผ่นยันต์เทวะยิงลำแสงใส่ฉู่ชวิ๋นอีกครั้ง ลำแสงสีแดงสดพุ่งเป็นเส้นตรงเหมือนแสงเลเซอร์
วูบ! วูบ!
ลำแสงสีแดงสองสายพุ่งเข้าหาฉู่ชวิ๋นด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด ครั้งนี้พลังของมันรุนแรงมาก แน่ชัดว่าต้องการสังหารให้ฉู่ชวิ๋นตกตายคาที่
ด้วยระดับพลังที่รุนแรงถึงเพียงนี้ ฉู่ชวิ๋นไม่โง่พอที่จะยืนต้านทานพลังของมันอีกต่อไป ชายหนุ่มรีบกระโดดหลบหนีด้วยความว่องไว
เปรี้ยง! เปรี้ยง!
แผ่นดินไหว ภูเขาสั่นสะเทือนไปทั้งลูก พื้นดินเกิดรอยแตกร้าว กินพื้นที่ขยายใหญ่มากกว่าเดิมหลายเท่า
กลุ่มคนที่รับชมการถ่ายทอดสด รวมถึงกลุ่มจอมยุทธ์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ พากันรับชมเหตุการณ์ด้วยร่างกายที่สั่นเทา พวกเขารู้ซึ้งแล้วว่าพลังของเทพเจ้าน่ากลัวขนาดไหน
ฉู่ชวิ๋นเองก็ปวดหัวอยู่ไม่น้อย เมื่อได้เผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามด้วยตนเองเช่นนี้ เขาก็เข้าใจคำพูดที่ว่าเทพเจ้าแข็งแกร่งมากกว่าสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์ในจักรวาล คำพูดนี้ไม่ได้เกินไปกว่าความเป็นจริงแต่อย่างใด
“ฉู่ชวิ๋น วันนี้แหละจะเป็นวันตายของแก” เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นสามารถกระโดดหลบหลีกได้อย่างว่องไว หวูเค่อจินก็รวบรวมพลังลมปราณตั้งแต่หัวจรดเท้า คำรามออกไปด้วยน้ำเสียงก้าวร้าว
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายแวววาว หวูเค่อจินโถมกายเข้ามาหาเขาด้วยความรวดเร็วว่องไว ฉู่ชวิ๋นชูกำปั้นขึ้นสูง พลางระเบิดลำแสงเป็นประกายเรืองรอง
หวูเค่อจินคิดไม่ถึงเลยว่าฉู่ชวิ๋นจะอาศัยโอกาสนี้โจมตีกลับ แต่มันไม่ได้แตกตื่น สายตาที่จ้องมองไปยังฉู่ชวิ๋นยังคงเย็นชาปานน้ำแข็ง
ฉู่ชวิ๋นประหลาดใจกับความเยือกเย็นของหวูเค่อจินอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็ยังคงเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเอง ในขณะที่ร่างของทั้งสองคนพุ่งสวนกัน หมัดของฉู่ชวิ๋นก็ถูกปล่อยออกไปพร้อมกับพลังลมปราณอันร้อนแรง
แต่ก่อนที่หมัดของฉู่ชวิ๋นจะทันได้กระแทกเข้าใส่หวูเค่อจิน ลำแสงสีขาวก็สว่างจ้าที่เบื้องหน้าของเขาขึ้นมาทันที
ผลั่ก!
กำปั้นของฉู่ชวิ๋นกระแทกเข้ากับม่านพลังสีขาวสว่างไสวนั้น พลัน ชายหนุ่มรู้สึกหูอื้อตาลายขึ้นมาในฉับพลัน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเร่งพลังลมปราณจำแลงจากกำปั้นให้รุนแรงมากขึ้น
เปรี๊ยะ!
รอยแตกร้าวเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนม่านพลังสีขาวและดูเหมือนว่าม่านพลังนี้พร้อมที่จะสลายตัวลงได้ทุกเมื่อ แต่ถึงอย่างนั้น พลังหมัดของฉู่ชวิ๋นก็ยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะสลายมันลงไปได้
ในขณะนี้ แผ่นยันต์เทวะส่งแสงสว่างเจิดจ้า ตัวอักษรเลือดในอากาศระดมยิงลำแสงใส่ฉู่ชวิ๋นเป็นจุดเดียว
ตู้ม!
จังหวะที่ฉู่ชวิ๋นกำลังจะกระโดดเข้าประชิดตัวหวูเค่อจิน แผ่นหลังของเขาพลันโดนลำแสงยิงเข้าใส่ เลือดสาดกระจาย ตัวคนลอยกระเด็นออกไปไกล
ฉู่ชวิ๋นรู้สึกเจ็บปวดสุดขีด พลังของลำแสงนั้นรุนแรงเกินต้านทาน ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วภายในร่างกาย
วูบ!
ลำแสงอีกสายถูกยิงเข้าใส่ฉู่ชวิ๋นอย่างต่อเนื่อง
ฉู่ชวิ๋นกัดฟันกรอด เลือดสาดกระจายออกจากแผ่นหลังของเขาอีกครั้ง
ผู้ชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้าน ถึงกับตกอยู่ในความเงียบงันไปแล้ว
ทุกคนเฝ้ามองฉู่ชวิ๋นด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
วูบ!
แผ่นยันต์เทวะโจมตีเข้ามาอีกระลอก
ฉู่ชวิ๋นม้วนตัวหลบหลีกอย่างทุลักทุเล
“จะหนีไปไหน ฉู่ชวิ๋น?” หวูเค่อจินแผดเสียงในขณะที่ดีดตัวขึ้นกลางอากาศและซัดพลังลมปราณออกมาจากฝ่ามือ หมายจะปลิดชีพฉู่ชวิ๋นให้ตกตายอยู่ตรงนั้นเอง
ฉู่ชวิ๋นมีสีหน้าเยือกเย็น กำมือเป็นหมัดแล้วต่อยสวนกลับไป ตอบรับการโจมตีจากหวูเค่อจินได้อย่างทันท่วงที
เปรี้ยง!
แต่ลำแสงสีแดงจากแผ่นยันต์เทวะก็ถูกยิงเข้าใส่แผ่นหลังของฉู่ชวิ๋นอีกครั้ง ผิวหนังของเขาเป็นแผลไหม้เกรียม ตัวคนลอยกระเด็นไปไกลกว่าร้อยเมตร
“ฉู่ชวิ๋น เข้าใจหรือยังว่าเทพน่ากลัวขนาดไหน นี่แหละคือจุดจบของแก” หวูเค่อจินกระตุกไหล่หนึ่งครั้ง ร่างกายก็ห้อมล้อมด้วยม่านพลังสีขาว ก่อนที่มันจะโถมตัวเข้าหาฉู่ชวิ๋นด้วยความโกรธแค้น
แผ่นยันต์เทวะเป็นประกายสว่างไสวมากกว่าเดิม เช่นเดียวกับลำแสงสีแดงที่ถูกยิงออกมาหมายสังหารฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นไม่สามารถใช้พลังลมปราณจำแลงเยียวยาบาดแผลพร้อมกับตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในเวลาเดียวกันได้ ดังนั้น เขาจึงต้องใช้พลังจิตเป็นตัวช่วยสำคัญ
ครืน!
มวลอากาศปั่นป่วน ก้อนเมฆบนท้องฟ้าแหวกออกเป็นวงกว้าง แล้วนิ้วมือขนาดยักษ์ก็ร่วงหล่นลงมาเหนือศีรษะของหวูเค่อจิน
กระบวนท่า 4 นิ้วกำราบมาร!
ครืน!
หมอกควันและกลุ่มฝุ่นผงฟุ้งกระจายในอากาศ หวูเค่อจินถูกนิ้วมือขนาดใหญ่ยักษ์นั้นร่วงลงมาทับต่อหน้าต่อตาทุกคน เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง พื้นดินยุบตัว ปรากฏรอยแตกร้าวกินพื้นที่หลายร้อยเมตร
ฉู่ชวิ๋นทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าหวูเค่อจินมีพลังที่น่ากลัวก็จริง แต่พลังของเขาก็น่ากลัวไม่แพ้กัน
ฉับพลันนั้น ลำแสงสีแดงถูกยิงเข้ามาอีกครั้ง
ฉู่ชวิ๋นหมุนตัวหลบไปด้านข้างได้อย่างฉิวเฉียด
แต่ในวินาทีนั้น ลำแสงสีแดงพลันพุ่งกระทบพื้นดิน ก่อนที่จะแฉลบขึ้นมากระแทกเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น จนร่างของเขาลอยกระเด็นไปด้านหลัง
ฟู่!
เมื่อฉู่ชวิ๋นอ้าปากออกมา เลือดเป็นสายก็ไหลทะลัก ย้อมเสื้อของเขาเป็นสีแดงสด
“ฉู่ชวิ๋น รสชาติของความหวาดกลัวเป็นอย่างไรบ้าง?” หวูเค่อจินยังคงปลอดภัยดีทุกประการ ร่างกายของมันได้รับการคุ้มครองจากม่านพลังสีขาว ที่แม้แต่นิ้วมือขนาดยักษ์ก็ทำอะไรไม่ได้สักนิดเดียว