จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 65 ความขัดแย้ง[รีไรท์]
บทที่ 65 ความขัดแย้ง[รีไรท์]
ฮวาโม่เซี่ยโกรธจัดจนหน้าเขียว แม้ฮวาชิงเฟิงจะไม่ได้เรื่อง แต่ก็เป็นลูกชายของเขา การกระทำแบบนี้มันเหมือนมีคนมาตบหน้าเขาอย่างแรง
“คุณชายฮวา อดทนไว้!” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์อันดีกับฮวาชิงเฟิง เดินเข้ามาดึงรองเท้าออกจากใบหน้าของฮวาชิงเฟิง
เมื่อรองเท้าถูกดึงออกไป ฮวาชิงเฟิงก็ไออย่างรุนแรง ผลคือน้ำลายผสมกับเลือดถูกพ่นออกมาจากปาก กระเด็นถูกชายคนที่มาช่วยจนทำให้เขาแทบอ้วกออกมา
คนอื่น ๆ ต่างสูดลมหายใจเข้าลึก เพราะเห็นฮวาชิงเฟิงฟันหน้าหายไปถึง 4 ซี่ บนสองล่างสอง ฮวาชิงเฟิงถูกรองเท้าส้นสูงกระแทกเข้าอย่างแรง เห็นแล้วก็ได้แต่รู้สึกเจ็บแทน
“ครั้งหน้า ถ้ายังพ่นอุจจาระออกมาจากปากอีก ฉันจะเลาะฟันแกให้หมดปากเลย!” เสียงเย็นชาลอดออกมาจากตัวบ้าน
จากนั้น ผู้อาวุโสก็ถอยหลังสองเก้าให้ฉู่ชวิ๋นกับฮวาชิงหวู่เดินออกมา การปรากฏตัวของฮวาชิงหวู่ ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกและสายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ในตอนนี้ฮวาชิงหวู่งดงามมาก คิ้วโก่งดังต้นหลิว และดวงตางดงามเหมือนผลท้อ ผิวกายขาวราวหิมะ ร่างกายสูงโปร่งและเย้ายวนใจ ทุกรอยยิ้มและท่าทางถูกต้องตามธรรมเนียมปฏิบัติทุกอย่าง ให้อารมณ์ความรู้สึกน่าเคารพนับถือ
ความรู้สึกนี้ปรากฏอยู่ในจิตใจของทุกคน แบบหุนหันพลันแล่น แม้แต่คนอย่างหยุนสุ่ยเซิง ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองตาค้าง
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนพวกนี้ ฮวาชิงหวู่ก็หันไปจ้องมองฉู่ชวิ๋นที่อยู่ใกล้ ๆ เธอลดเสียงลงแล้วพูดเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม
“ดูสิ คนเหล่านี้อยากได้ผู้หญิงของคุณ คุณจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ?”
ผู้อื่นย่อมไม่ได้ยิน แต่ว่าผู้อาวุโสที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ยินอย่างชัดเจน ผู้อาวุโสตกตะลึงตาค้างแล้วใบหน้าของผู้อาวุโสก็ยิ้มแย้มขึ้นในพริบตา สำหรับเขาคนที่จะคู่ควรกับฮวาชิงหวู่ได้มีเพียงนายท่านฉู่ชวิ๋นเท่านั้น
ฉู่ชวิ๋นใช้มือถูจมูกและแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน การกระทำนั้นทำให้ฮวาชิงหวู่รู้สึกไม่พอใจกับท่าทีตอบสนองของฉู่ชวิ๋นมาก ขณะเดียวกันผู้อาวุโสก็อึ้ง นี่ฮวาชิงหวู่จีบฉู่ชวิ๋นเหรอเนี่ย?
ในจิตใจของเขา ฉู่ชวิ๋นเปรียบเสมือนเทพเซียน และ ฮวาชิงหวู่ก็งดงามจนร่ำลือกันทั่วประเทศ ฐานะก็ดี สามารถแข่งขันแย่งชิงฉู่ชวิ๋นได้อย่างแน่นอน เขาชูนิ้วโป้งขึ้นแบบลับ ๆ เพื่อแสดงถึงการให้กำลังใจฮวาชิงหวู่ แม้จะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่เขาก็เลื่อมใสในความกล้าหาญของเธอ
เอาเลยแม่สาวน้อย! ผู้อาวุโสขยิบตาให้ฮวาชิงหวู่
พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานหลายปีจนกระทั่ง ฮวาชิงหวู่เติบโตขึ้น เธอเข้าใจในความหมายที่ซ่อนอยู่ของผู้อาวุโส เธอพยักหน้าและโยนความรู้สึกไม่พอใจทิ้งไป อย่างไรเขาไม่มีทางหนีพ้นน้ำมือของฉันไปได้หรอก!
ภายในดวงตาฮวาเหมียวเหมียวเต็มไปด้วยความรู้สึกอิจฉาริษยา ที่จริงแล้วตัวเธอเองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่เมื่อเปรียบเทียบกับฮวาชิงหวู่มันช่างแตกต่างราวฟ้ากับดิน ถึงผู้อื่นจะไม่พูดแต่เธอก็รู้สึกละอายใจอยู่ดี
“ฮวาชิงหวู่ ทาสของเธอมันไม่รู้จักกฎเกณฑ์ พยายามขัดขวางไม่ให้พวกเราเข้าไป!” ฮวาเหมียวเหมียวกล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ฮวาชิงเฟิง “พี่ชิงเฟิงแค่สั่งสอนไปไม่กี่ประโยค เธอทำแบบนี้ได้ยังไง?”
ฮวาชิงหวู่หรี่ตามองไปที่ฮวาเหมียวเหมียว “ฉันขอเตือนเธอนะ ว่าเธอควรเก็บปากของเธอไว้ดีกว่า ถ้ายังกล้าพูดแบบนั้นออกมาอีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ ฟังนะ ฉันจะบอกให้ว่าผู้อาวุโสไม่ใช่ทาสของฉัน เขาคือญาติของฉัน ถ้ายังกล้าล่วงเกินเขาอีก เธอรับผลกระทบที่ตามมาไม่ไหวหรอกแน่”
พอได้ยินแบบนี้ทุกคนก็ตกใจกันหมด ฮวาชิงหวู่พูดออกมาก็รู้สึกสบายใจ เธออดทนมาหลายปี ตอนนี้แม่ของเธอก็ฟื้นตัวและมีฉู่ชวิ๋นคอยช่วย เธอไม่จำเป็นต้องอดกลั้นอะไรอีกต่อไป
“ฮวาชิงหวู่ นี่เธอพูดอะไร? เธอบอกว่าเขาเป็นครอบครัวของเธองั้นเหรอ? ถามความคิดเห็นพวกเราหรือยัง? พวกเราไม่อยากนับญาติกับคนแบบนี้หรอกนะ ขายขี้หน้าเปล่า ๆ” คุณชายตระกูลฮวาคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงดัง
คนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วยกับที่เอ่ยขึ้น
ฮวาชิงหวู่ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจและเย้ยหยัน “เรื่องของฉันทำไมต้องถามความคิดเห็นของนายด้วย?” คนเหล่านี้คิดว่าเธอเป็นฮวาชิงหวู่ที่ต้องการรอยยิ้มจากพ่อแม่อีกเหรอ? ตอนนี้ เธอไม่อยากได้แล้ว!
“อย่าลืมสิว่าตัวเองเป็นคนของตระกูลฮวาแล้วคนของตระกูลฮวา จะไม่ถามความเห็นชอบจากพวกเราได้ยังไง? นอกจากเธอจะไม่ใช้นามสกุลฮวา แล้ว!” ฮวาเหมียวเหมียวตะโกนออกมา
ฮวาชิงหวู่ยิ้มกว้าง “มันจะไปยากอะไร? นับตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะเปลี่ยนใช้นามสกุลแม่ นามสกุลหยาน ต่อไปฉันชื่อว่า หยานชิงหวู่”
เนื่องจากแม่ของเธอ สกุลเดิมคือสกุลหยาน ชื่อของแม่ ฮวาชิงหวู่คือ หยานหลาน
ทุกคนตกตะลึง ใบหน้าของฮวาเหมียวเหมียวบิดเบี้ยว เธอคิดว่านามสกุลเป็นสิ่งที่มีค่า แต่ฮวาชิงหวู่กลับไม่สนใจเลย อีกอย่างเธอก็รู้ว่าพ่อเดิมพันทุกอย่างกับตระกูลหยุน ถ้าคำพูดบ้า ๆ นี่ทำให้การแต่งงานถูกยกเลิกขึ้นมาพ่อจะต้องฉีกปากเธอเป็นแน่
ฮวาโม่เซี่ยมองฮวาเหมียวเหมียว เธอตกใจจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
“เหลวไหล! ฉันยังไม่ทันตาย แกคิดว่าอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนงั้นเหรอ แกเอาพ่อแกอย่างฉันคนนี้ไปไว้ที่ไหนแล้ว?” ฮวาโม่เซี่ยคำราม
“งั้นขอถามคุณพ่อสุดที่รักหน่อยนะ ว่าพ่อเอาลูกสาวอย่างฉันไปไว้ที่ไหน? สำหรับพ่อ ฉันเป็นเพียงหมากหนึ่งตัวที่จะทำให้พ่อได้ดี ผู้หญิงที่กำลังนอนป่วยอยู่คือภรรยาที่พ่อสาบานว่าจะแต่งงานด้วยอย่างเปิดเผย แม่ป่วยมากี่ปี พ่อเคยสนใจแม่บ้างไหม เคยมาเยี่ยมเยียนแม่บ้างไหม เคยสงสารแม่บ้างไหม?” ฮวาชิงหวู่กล่าวพร้อมกับหัวเราะเยาะ
ไม่รอให้ฮวาโม่เซี่ยตอบกลับ เธอก็พูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ฉันรู้สึกไม่ยุติธรรมแทนแม่มาก ๆ!”
ใบหน้าของฮวาโม่เซี่ยซีดเผือด คำพูดของฮวาชิงหวู่เหมือนมีดกรีดลงกลางหัวใจ หากคนในตระกูลหยุนคิดว่าเขาเป็นคนลำเอียง ไร้ซึ่งความยุติธรรม อาจเป็นสาเหตุให้ตระกูลหยุนเกิดความเกลียดชังในตัวเขา สิ่งที่ทำมาทุกอย่างจะไร้ค่า ซึ่งเขาไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่
“เสี่ยวหวู่ พ่อยอมรับว่าพ่อยุ่งกับกิจการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามากเกินไป จนไม่มีเวลาสนใจทั้งแม่และลูก แต่พ่อทำเพื่อบ้านของพวกเรานะ ลูกวางใจได้เลยว่าพ่อจะหาเวลาไปอยู่กับแม่และลูก และพยายามชดใช้ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาให้” ฮวาโม่เซี่ยพูดอย่างน่าเห็นใจ
ทุกคนหันไปมามองหน้ากัน อารมณ์ของฮวาโม่เซี่ยเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ผู้คนทั้งหลายตั้งตัวไม่ทัน
ถ้าเธอยังไม่ปลงกับพ่อคนนี้ เธอก็อาจจะเชื่อ แต่เธอรู้จักพ่อของเธอเป็นอย่างดี เขาโลเลและไม่มีความยุติธรรม เขาสามารถละทิ้งทุกอย่างได้ เพื่อผลประโยชน์
ฮวาชิงหวู่หัวเราะอย่างเย็นชา “ที่จริงถ้าคุณอยากชดเชยให้ฉันกับแม่ ไม่ต้องรอถึงเวลานั้นหรอก ตอนนี้เลยก็ได้นะ ถ้าคุณโอนสมบัติที่คุณครอบครองมาให้ฉัน ฉันจะให้อภัยคุณ คุณคิดว่าไง?”
ฮวาโม่เซี่ยที่แสดงตัวเป็นพ่อที่แสนรักลูกสาวอยู่ ดวงตาของเขามืดลงทันที เขาสร้างทุกอย่างมาด้วยความยากลำบากกว่าจะได้ครอบครอง 25% ของสมบัติของตระกูลฮวา อย่าพูดถึงจะโอนทั้งหมดมันให้ฮวาชิงหวู่เลย แม้แต่ฮวาชิงเฟิงเปอร์เซ็นต์เดียวก็เป็นไปไม่ได้
“@#$..” ฮวาชิงเฟิงจ้องฮวาชิงหวู่เขม็งแล้วพูดอะไรออกมาสักอย่าง แต่เพราะลิ้นของเขาบาดเจ็บแถมฟันหลอ ทุกคนทำให้ไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร
เมื่อเห็นท่าทางน่าเกลียดของเขา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะ
การที่ฮวาชิงเฟิงแทรกขึ้นทำให้ฮวาโม่เซี่ยโล่งใจ เขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นกันและก็ไม่รู้ว่าจะตอบฮวาชิงหวู่อย่างไร
“ขายหน้าเขาไปหมดแล้ว ยังไม่ไปโรงพยาบาลอีก” ฮวาโม่เซี่ยเปลี่ยนประเด็น แล้วก็ไม่คิดจะตอบฮวาชิงหวู่ด้วย
วัยรุ่นชายสองคนของตระกูลฮวาอยากจะพาฮวาชิงเฟิงไปส่งโรงพยาบาล แต่กลับถูกฮวาชิงเฟิงสะบัดออกอย่างแรง แล้วจ้องเขม็งไปทางฮวาชิงหวู่
“เสี่ยวหวู่ ทุกเรื่องสามารถคุยกันได้ ถ้าต้องการพ่อจะตามใจทุกอย่างเลย วันนี้เป็นวันที่ดี มันไม่เหมาะที่จะพูดถึงเรื่องนี้”
“วันดีงั้นเหรอ? คงไม่ใช่ว่าชู้ของพ่อคลอดลูกชายให้พ่ออีกแล้วหรอกนะ ถ้าใช่ งั้นมันก็ดีอยู่นะ” เธอหัวเราะเบา ๆ แล้วหันไปฮวาชิงเฟิง “งั้นนายก็คงต้องระวังตัวหน่อยแล้วละ”
“เสี่ยวหวู่ พูดอะไรเหลวไหล” ใบหน้าของฮวาโม่เซี่ยเปลี่ยนแดงก่ำ แต่เขาต้องอดกลั้นและพูด “วันนี้ลุงหยุนมาคุยเรื่องการแต่งงานของลูกกับหยุนหนานเฟิง เป็นความน่ายินดียิ่งของตระกูลฮวาของเรา”
“การแต่งงาน? ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าฉันจะแต่งงานกับ หยุนหนานเฟิง?” ฮวาชิงหวู่ทำสีหน้าหยอกล้อ
ใบหน้าของฮวาโม่เซี่ยเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขาดูวิตกกังวลกังวลมาก
“เสี่ยวหวู่ อย่าล้อเล่นแบบนี้ พ่อตอบรับสัญญาการแต่งงานครั้งนี้ไปแล้ว นอกจากนี้หยุนหนานเฟิงคือมังกรในหมู่ผู้คนทั่วไป…”
“ถ้าเขายอดเยี่ยมขนาดนั้น ฉันก็ไม่กล้าปีนขึ้นไปหาเขาหรอก ในเมื่อพ่อรับสัญญาแต่งงานไปแล้ว พ่อก็ไปแต่งเองสิ” ฮวาชิงหวู่พูดขัดฮวาโม่เซี่ยขึ้นมา และกล่าวอย่างประชดประชัน
ยังจะมามังกรในหมู่คนทั่วไปอีกนะ ช่างกล้าพูด ต่อให้หยุนหนานเฟิงจะดีเด่นยังไง ก็เป็นแค่หินก้อนหนึ่งเมื่อเทียบกับ ฉู่ชวิ๋น
เมื่อนึกถึงฉู่ชวิ๋น จิตใต้สำนึกก็สั่งให้มองไปที่เขาทันที เธอก็เห็นฉู่ชวิ๋นยืนพิงกรอบประตูอยู่พร้อมเปลือกตาปิดลงท่าทางราวกับหลับอยู่ บัดซบ! ผู้หญิงของตัวเองถูกบังคับให้แต่งงานอยู่แท้ ๆ ยังทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา บ้าที่สุด!
ฮวาโม่เซี่ยถูกฮวาชิงหวู่หักหน้า เขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความโกรธ “การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ต้องเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ และมันถูกตัดสินใจไปแล้ว ไม่แต่งก็ต้องแต่ง เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องคุยอีก”
ฮวาชิงหวู่หัวเราะอย่างเกลียดชัง “นี่มันสมัยไหนแล้วยังจะมาทำแบบนี้อีกนะ ถ้าเป็นตามที่พ่อพูด แล้วการที่พ่อไปมีชู้ ใครมันเป็นคนตัดสินให้พ่อ? หรือว่าพวกเธอทำตามคำสั่งของพ่อแม่ให้มาเป็นเมียน้อยคนที่หนึ่ง คนที่สอง คนที่สามให้พ่อ?”
ฮวาโม่เซี่ยแทบกระอักเลือด
ใบหน้าของทุกคนล้วนแปลกประหลาดเพราะกลั้นหัวเราะ คำพูดของฮวาชิงหวู่เฉียบคมมาก พวกเขากลัวว่าฮวาโม่เซี่ยจะโมโหจนหงายหลังไปจริง ๆ
นัยน์ตาของฮวาชิงหวู่เหลือบมองไปยังหยุนสุ่ยเซิงและบิดริมฝีปากก่อนพูด “ดูเหมือนว่าคุณหยุนจะมาเสียเที่ยวแล้ว รบกวนฝากกลับไปแจ้งกับหยุนหนานเฟิงว่าฉันไม่แต่งงานกับเขา ฉันจะบอกให้รู้ไว้ว่าฉันมีคนที่ชอบแล้ว” เมื่อพูดจบแล้ว ดวงตาที่อ่อนโยนพร้อมความรู้สึกลึก ๆ ก็จับจ้องไปยังฉู่ชวิ๋นที่ยืนหลับอยู่!