จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 74-1 เมื่อศัตรูหัวใจได้พบกัน มักมีอารมณ์โกรธแค้นรุนแรงเป็นพิเศษ
- Home
- จำนนรักชายาตัวร้าย
- ตอนที่ 74-1 เมื่อศัตรูหัวใจได้พบกัน มักมีอารมณ์โกรธแค้นรุนแรงเป็นพิเศษ
“นี่ๆ วิญญูชนใช้เหตุผลไม่ใช้กำลังนะ! ช่าช่า ไม่ได้พบกันตั้งนาน เจ้ายังร้อนแรงขนาดนี้ ข้าชื่นชอบเสียจริง!”
แม้ปากจะร้องโวยวายอย่างร้ายกาจ ทว่าฝีมือของเชียนเยี่ยเสวี่ยกลับทำให้ผู้อื่นประหลาดใจ
เขายื่นมือจับขาข้างที่อวี้เฟยเยียนเตะและยกขึ้น จากนั้นใช้จมูกตัวเองก้มสูดกลิ่นหอม “อ้า หอมจริง! ช่าช่า เจ้ายังชอบใช้ถุงเท้ามะลิรมควันอยู่หรือ…”
คำพูดสองแง่สองง่ามที่พูดออกมานี้ ไม่เพียงทำให้อวี้เชียนเสวี่ยหน้าดำคร่ำเครียด ทว่าแม้แต่บุรุษอื่นอย่างซย่าโหวฉิงเทียน เหลียนจิ่น เซวียเฉียงก็ยังทะมึนตึงไปด้วย
เกี้ยวพาราสีอวี้เฟยเยียนต่อหน้าทุกคนหรือ
ชื่อเสียงความเจ้าชู้ของเยี่ยนอ๋องผู้นี้ไม่ใช่เรื่องโกหกจริงๆ !
“เช่นนั้นเจ้าก็ดมซะ!”
อวี้เฟยเยียนที่ถูกเชียนเยี่ยเสวี่ยเอาเปรียบกลับไม่โมโหแต่อย่างใด นางสั่นเท้าและสะบัดรองเท้าออก กระทบที่ใบหน้ารูปงามของเชียนเยี่ยเสวี่ย จนได้ยินดัง ‘แปะ’
“ช่าช่า ทำไมถึงได้โหดเ**้ยมขนาดนี้ ระวังจะขายไม่ออกนะ!”
เชียนเยี่ยเสวี่ยหัวเราะร่าและคว้ารองเท้าของอวี้เฟยเยียนไว้ จากนั้นยื่นมือไปสวมรองเท้าให้กับนาง “อากาศค่อนข้างเย็น อย่าให้ร่างกายได้รับความเย็น! เดี๋ยวถ้าป้าใหญ่[1]มาจะปวดท้องเอา และอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”
ความสนิทสนมที่แสดงออกมาระหว่างเชียนเยี่ยเสวี่ยกับอวี้เฟยเยียน ทำให้เหล่าบุรุษตรงหน้าเกิดความเจ็บจี๊ดในใจ
ป้าใหญ่คืออะไรกัน
ชายหนุ่มทุกคนอยากจะถามคำถามนี้
ป้าใหญ่ จะทำให้อวี้เฟยเยียนปวดท้องได้อย่างไร
สิ่งที่ทำให้อวี้เชียนเสวี่ยยิ่งเกิดความสงสัยก็คือ พี่สะใภ้รองเป็นบุตรีคนเดียวไม่ใช่หรือ หรือว่านางยังมีพี่สาวอีกคน ป้าใหญ่ของเสี่ยวเยียนเยียนมาหานางอย่างนั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ามีเบาะแสเกี่ยวกับพี่รองและพี่สะใภ้รองแล้วใช่หรือไม่
เรื่องสำคัญขนาดนี้เสี่ยวเยียนเยียนกลับไม่บอกอาสาม อาสามเสียใจยิ่งนัก
เกิดบรรยากาศผิดปกติไปชั่วขณะหนึ่ง
แม้ซย่าโหวฉิงเทียนกับเหลียนจิ่นจะไม่ถูกกันมาโดยตลอด ทว่าจู่ๆ เชียนเยี่ยเสวี่ยก็โผล่มา ทำให้ทั้งสองคนมีความรู้สึกเหมือนกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เยี่ยนอ๋องอะไรนี่ ช่างน่าชังนัก!
เหลียนจิ่นเริ่มคิดแผนการในใจ กลับไปจะต้องทำนายดูเสียหน่อย
ต้องทำนายดูว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยมาจากที่ใด มีความสัมพันธ์อะไรกับอวี้เฟยเยียน แม้การกระทำเช่นนี้จะต้องใช้กำลังจำนวนมาก ทว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอวี้เฟยเยียนเขาจำเป็นจะต้องรอบคอบ
ปฏิกิริยาของซย่าโหวฉิงเทียนโจ่งแจ้งเสียยิ่งกว่า
เขากระโดดออกจากอ้อมกอดของชิงหง จากนั้นวิ่งเข้าไปหาเชียนเยี่ยเสวี่ย ใช้เท้ากระทืบเข้าที่เท้าของอีกฝ่าย
“เจ้านี่ คิดจะแย่งแมวน้อยจากข้าหรือ ไก่อ่อนเกินไปแล้ว!”
“อื้อหือ เด็กน้อย! เจ้าเป็นใครกัน!”
เชียนเยี่ยเสวี่ยใช้เพียงแค่มือข้างเดียวก็สามารถยกซย่าโหวฉิงเทียนจนตัวลอยได้อย่างง่ายดาย และจ้องตากันอยู่นาน จากนั้นเชียนเยี่ยเสวี่ยใช้มืออีกข้างหนึ่งลูบแก้มเล็กอ่อนนุ่มของซย่าโหวฉิงเทียน ทำเป็นรูปตามที่ตนเองชอบ
“แมวน้อยหรือ เจ้าหมายถึงช่าช่าหรือ ฮ่าๆๆ ! เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ช่าช่านั้นตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่กินกับข้าตั้งนานแล้ว! เจ้าไปอยู่ด้านข้างไป!”
รอจนใบหน้าของเด็กชายแดงก่ำ เชียนเยี่ยเสวี่ยก็ยกมือขึ้น โยนเด็กชายกับชิงหงคล้ายดั่งเขาเป็นลูกบอล
“เด็กน้อยอย่าได้มารบกวนโลกของข้ากับช่าช่า!”
“อย่าคิดว่าเจ้าอายุน้อย แล้วข้าจะไม่ตีเจ้า!”
เมื่อถูกเชียนเยี่ยเสวี่ยหยอกเล่นราวกับเล่นกับเด็ก ซย่าโหวฉิงเทียนจึงเริ่มเกลียดคนตระกูลหนานกงแล้ว หากไม่ใช่เพราะพวกเขา เขาจะกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!
เจอศัตรูหัวใจแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ หรือจะต้องเห็นแมวน้อยถูกเจ้าปีศาจนี่แย่งไปกับตา
ไม่ได้!
“เสวี่ยเยี่ยน ตีเขาให้ข้าซะ!”
เมื่อซย่าโหวฉิงเทียนออกคำสั่ง เสวี่ยเยี่ยนจึงดึงดาบออกมาและลงดาบไปยังเชียนเยี่ยเสวี่ย
“อื้อหือ! ยังมีผู้ช่วยอีกด้วย!”
“แม่นางผู้นี้หน้าตาดีไม่น้อย! ลักยิ้มนี่ช่างน่ารักเหลือเกิน! เมื่อยิ้มยิ่งดูดี! พลังยุทธ์ก็ยิ่งไม่เลว! ทว่าใจคอโหดเ**้ยมไปเสียหน่อย เช่นนี้ไม่ดีนัก!”
“เป็นสตรีก็ควรจะอ่อนช้อยน่ารักเหมือนกับช่าช่าของพวกเรา นี่ถึงจะดีที่สุด!”
“เฮ้ๆ อย่าตบหน้าสิ! ข้ายังต้องใช้หน้าตาหากิน! หากทำลายหน้าตาที่งดงามของข้าแล้ว ถึงเวลาช่าช่าจะรังเกียจข้า เจ้าจะใช้ร่างกายชดใช้ให้ข้าหรืออย่างไร”
เชียนเยี่ยเสวี่ยปากคมประหนึ่งกรรไกร นางลวนลามเสวี่ยเยี่ยนไปพลาง บางทีก็สัมผัสมือเล็กของนางบ้าง บางทีก็กอดเอวเล็กของนางบ้าง ตั้งรับกระบวนท่าของนางอย่างสบายๆ
เจ้าหมอนี่ เป็นผู้ที่ฝึกยุทธ์อย่างชำนาญ!
คนในที่นี้แม้จะไม่ชอบเชียนเยี่ยเสวี่ย ทว่าขณะที่เขาหัวเราะอย่างสนุกสนาน ไม่เพียงแต่สามารถลวนลามเสวี่ยเยียนหลายครั้ง ขณะที่ตั้งรับสิบกว่ากระบวนท่าของนางได้ ทำเอาเสวี่ยเยี่ยนโกรธจนตัวสั่น ยิ่งทำให้นางออกแรงต่อสู้ไม่บันยะบันยัง
เมื่อเห็นซย่าโหวฉิงเทียนตัวน้อยงัดข้อกับเชียนเยี่ยเสวี่ย ทำเอาเหลียนจิ่นแทบจะหัวเราะออกมา
นี่ถือว่า ศัตรูหัวใจได้พบกัน มักมีอารมณ์โกรธแค้นรุนแรงเป็นพิเศษหรือไม่
ก็ดี…ให้ซย่าโหวฉิงเทียนลองทดสอบเบื้องลึกของเชียนเยี่ยเสวี่ยดู หากเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ก็ไม่สมควรมาอยู่ข้างกายอวี้เฟยเยียน
“ฮันจื่อ ไป! กัดเขาให้ตายซะ!”
เมื่อซย่าโหวฉิงเทียนปรบมือ ฮันจื่อก็กางเล็บกระโจนเข้าใส่เชียนเยี่ยเสวี่ย
ไฉนจะรู้ว่ายังไม่ทันได้เข้าใกล้อีก เชียนเยี่ยเสวี่ยก็สาดผงบางอย่างออกมา เพียงแค่ครู่เดียวฮันจื่อก็เริ่มคัดจมูก จากนั้นก็เริ่มจามไม่หยุด
แม่เจ้า นี่มันสิ่งใดกัน!
แสบจะตายอยู่แล้ว
เร็วเข้า แม่นางน้อย รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า!
“ที่แท้สุนัขก็สามารถจามได้หรือนี่ เป็นการเปิดโลกทัศน์โดยแท้!”
เมื่อเชียนเยี่ยเสวี่ยสามารถสลัดเสวี่ยเยี่ยนออกไปได้ จึงจัดแจงเสื้อผ้าหน้าตาของตนเองอย่างพิถีพิถัน
“ช่าช่า ข้าทำตามคำแนะนำของเจ้า ผงพริกไทยประดิษฐ์ฉบับปรับปรุง ดูแล้วมีประโยชน์ไม่เลว! ฮ่าๆ ! เป็นอย่างที่คาดไว้ การเชื่อฟังคำแนะนำของช่าช่าจะทำให้มีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร!”
สำหรับความหน้าด้านหน้าทนของเชียนเยี่ยเสวี่ย อวี้เฟยเยียนเห็นจนชินตั้งนานแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางอิ่มอกอิ่มใจของเขา อวี้เฟยเยียนจึงจับตัวเขาไว้ จากนั้นลากเขาไปอีกด้านหนึ่ง ทั้งสองเริ่มพูดซุบซิบกัน
“เสวี่ย เจ้ายังไม่รู้จักอยู่เฉยที่แคว้นฉินจื้อ จะมาที่นี่ทำไมกัน”
“อย่ามาพูดว่าเจ้าคิดถึงข้า คำพูดของเจ้าไม่เป็นปกติขนาดนี้ เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะบอกทุกคนว่า เยี่ยนอ๋องเป็นสตรี!”
“อย่านะ! ช่าช่า เจ้าอย่าได้ใจดำขนาดนี้!”
เมื่ออยู่กันในพื้นที่ส่วนตัว เชี่ยนเยี่ยเสวี่ยจึงกลับมาทำตัวปกติ ใบหน้าที่งดงามเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “ข้าได้ยินข่าวมาว่า หูซามาหาเรื่องเจ้า ข้ากลัวว่าเจ้าจะเกิดเรื่องเลยรีบมาหา”
“เจ้าจากมาเช่นนี้ ไม่กลัวว่ากุ้ยเฟยจะมาหาเรื่องเจ้าหรือ ไม่ใช่นางกำลังหาจุดอ่อนของเจ้าอยู่หรือ!”
“ถุย ข้าก็มาเช่นนี้แล้ว นางอยากจะทำอะไรก็ทำเถอะ!”
เชียนเยี่ยเสวี่ยถ่มน้ำลายลงพื้น อากัปกิริยาเช่นนั้นช่างเป็นบุรุษอย่างสมบูรณ์ มองไม่เห็นท่าทางของสตรีเลยสักนิด
“ช่าช่า หากไม่ใช่เพราะเสด็จแม่คอยกำชับข้าอยู่ตลอดเวลาว่าข้าเป็นบุตรีของเขา ไม่สามารถอกตัญญู ข้าคงสังหารพวกเขาทิ้งแล้ว!”
นัยน์ตาเหยี่ยวดุดันของเชียนเยี่ยเสวี่ยเผยประกายอำมหิตออกมา “โชคดีที่เสด็จแม่ยังอยู่ เสด็จแม่ของข้ายังเพ้อฝันอยู่กับบุรุษผู้นั้นอยู่ ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถทำให้เสด็จแม่เสียพระทัย”
“หากพวกเขายังใจดีอยู่สักหน่อย ก็คงจะดูแลเสด็จแม่ข้าอย่างดี!”
เชียนเยี่ยเสวี่ยรูปร่างสูงชะลูด สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสี่เซนติเมตร เมื่อยืนอยู่ข้างนาง ทำเอาอวี้เฟยเยียนที่สูงร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรกลายเป็นคนแคระอย่างไรอย่างนั้น
ทั้งสองยืนอยู่ใกล้ชิดกันอยู่ไกลๆ ท่าทางพูดคุยที่สนิทสนม ทำให้เซวียเฉียงรู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก
สาวงามไม่ว่าอยู่ที่ใด ก็ล้วนมีแรงดึงดูดมากขนาดนี้!
หรือเยี่ยนอ๋องที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันผู้นี้จะเป็นรักแท้ของอสูรร้ายอวี้
พวกเขาดูเหมาะสมกันมาก…
ยิ่งคิดเซวียเฉียงยิ่งรู้สึกได้ถึงละครโศกนาฏกรรมของตัวเอง
น้องสาวคนดีล้วนเป็นของผู้อื่น เป็นของผู้อื่น!
“สตรีต่ำช้าผู้นั้นกลับกังวลว่าข้ากับเจ้ามีอะไรกันจริงๆ กลัวว่าข้าจะไปสู่ขอเจ้าเพื่อเพิ่มกำลังเสริม นางเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อตำแหน่งฮ่องเต้ของบุตรชายน้าง ดังนั้นถึงได้เชิญหูซามาจัดการกับเจ้า ข้าทราบเรื่องนี้ จึงรีบมาที่นี่อย่างไม่รู้วันรู้คืน ไหนเลยจะรู้ว่าช้าไปก้าวหนึ่ง”
“ช่าช่า ขออภัยด้วยจริงๆ !”
“ลากเจ้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องสกปรกในแคว้นฉินจื้อของพวกเราแล้ว!”
เมื่อเห็นใต้ตาดำคล้ำทั้งสองข้างของเชียนเยี่ยเสวี่ย อวี้เฟยเยียนก็รู้ทันทีว่า นางรีบเดินทางมาโดยตลอดจนไม่ได้มีเวลาพักผ่อน นางยื่นมือไปจับมือที่เย็นเป็นน้ำแข็งของเชียนเยี่ยเสวี่ย เพื่อนำความอบอุ่นส่งผ่านไปให้แก่นาง
“เสวี่ย เจ้าพูดอะไรเช่นนั้น! พวกเราเป็นสหายกันนะ ยามสหายเดือดร้อนก็ต้องทุ่มเทเข้าช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง!”
“เจ้าหูซานั่นอย่างไรครั้งนี้ก็ถือว่าล่วงเกินข้าแล้ว!”
“เสวี่ย หากนางไม่มีความเห็นใด ข้าก็อยากจะสังหารเขาทิ้งเสีย!”
อวี้เฟยเยียนนั้นเข้าใจอย่างชัดเจนดี ถ้าหากวันนั้นซย่าโหวฉิงเทียนไม่ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน หูซาจะต้องหาข้ออ้างเพื่อประลองฝีมือกับนางอย่างแน่นอน และสุดท้ายก็ใช้โอกาสนี้กำจัดนางเสีย
แม้สุดท้ายแล้วแผนชั่วของหูชาจะไม่ประสบความสำเร็จ ทว่าเขาก็มีเจตนาจะสังหารผู้อื่นแล้ว
อีกฝ่ายต้องการสังหารข้า หรือข้าจะต้องยื่นลำคอขาวสะอาดไปให้เขากัน
การสังหารคน การชิงลงมือก่อนถือว่าดีที่สุด!
“เรื่องนี้…”
เมื่อได้ยินอวี้เฟยเยียนพูดเช่นนี้ เชียนเยี่ยเสวี่ยถึงเกิดความสับสน
อย่างไรหูซาก็เป็นจอมยุทธ์ระดับจอมเทวาของแคว้นฉินจื้อ หากเขาตายแล้ว ผลกระทบที่ตามมาจะให้กำลังของแคว้นลดลง แม้นางจะไม่ชื่นชอบเสด็จพ่อกับหลิวกุ้ยเฟย ทว่าก็จำเป็นต้องคำนึงอนาคตของแคว้นฉินจื้อ
อีกทั้งหากอวี้เฟยเยียนสังหารหูซาจริง ต้องบีบให้เสด็จพ่อของนางเสียสติไปแน่ ไม่แน่เขาอาจใช้กำลังทั้งหมดของแคว้นมาจัดการกับอวี้เฟยเยียน
แม้อวี้เฟยเยียนจะเก่งกาจมาก ทว่าเป็นต้องเผชิญหน้ากับคนนั้นแคว้น อย่างไรก็อาจจะไม่ชนะ
เพียงเวลาชั่วครู่เดียว ในหัวของเชียนเยี่ยเสวี่ยกลับสามารถคำนึงถึงเรื่องนี้ได้อย่างรอบด้าน จนท้ายที่สุดก็ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนกับอวี้เฟยเยียน
“หากครั้งหน้ายังเป็นเช่นนี้ ยังมาสร้างความวุ่นวายให้แก่เจ้าอีก แม้กระทั่งทำให้เจ้าทำอะไรไม่สะดวก ช่าช่า ข้าจะสนับสนุนเจ้า!”
“แต่ว่า เขาเป็นจอมยุทธ์ระดับจอมเทวา เจ้าอย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม มีเรื่องอะไรก็สามารถปรึกษาข้าได้ ตำแหน่งของข้า อย่างน้อยก็สามารถหยุดเขาได้บ้าง แม้พลังยุทธ์ของพวกเราจะเอาชนะเขาไม่ได้ ทว่าซองยาพิษที่เจ้าให้ข้ามานั้น ข้าจะหาโอกาสให้เขาดื่ม!”
“อย่างไรเรื่องชั่วร้ายพวกเขาก็กระทำมามากเหมือนกัน พวกเราก็แค่หนามยอกเอาหนามบ่ง! ผู้ชนะเป็นเจ้า ไหนเลยจะสนใจวิธีการอะไรนั่นกัน!”
ความเด็ดเดี่ยวในคำพูดของเชียนเยี่ยเสวี่ยนั้น อวี้เฟยเยียนทราบดีว่านางกำลังอยู่ระหว่างความเป็นอยู่ของประเทศกับความสัมพันธ์ของสหาย และนางก็เลือกสหายอย่างนาง ในใจจึงเกิดความตื้นตันขึ้นมากระทันหัน
“พี่น้องที่ดี!”
อวี้เฟยเยียนซัดหมัดชกอกของเชียนเยี่ยเสวี่ย
“โอ้ย! เบาหน่อยสิ หน้าอกข้า…”
เชียนเยี่ยเสวี่ยลูบหน้าอกตัวเองป้อยๆ และแยกเขี้ยวขึ้น “ข้าพันผ้าไว้มานานหลายปี เดิมทีก็เล็กอยู่แล้ว เจ้ายังจะกลั่นแกล้งข้าอีก หากข้าไม่อกแบน เจ้าคงไม่สบายใจใช่หรือไม่!”
เมื่อได้ยินเอ่ยเรื่องหน้าอกที่สตรีผู้นี้เป็นกังวล อวี้เฟยเยียนจึงกระซิบข้างหูนาง “ข้ามีวิธีทำให้อกอวบอิ่ม เจ้าต้องการหรือไม่”
“ต้องการสิ! ต้องอยากได้อยู่แล้วสิ!”
ยกประเด็นที่เชียนเยี่ยเสวี่ยจำเป็นต้องปลอมตัวเป็นบุรุษออกไปก่อน แท้จริงแล้วนางก็อยากจะมีสักวันที่สามารถกลับไปแต่งกายเป็นหญิงได้เช่นกัน
แม้จะไม่ใช่เวลานี้ ทว่าหากมีโอกาสในภายภาคหน้านางก็ยังอย่างแต่งองค์ทรงเครื่องเป็นหญิง ไม่อยากแสดงเป็นเยี่ยนอ๋องอะไรนั้นอีกแล้ว แม้จะได้เป็นเพียงสตรีสามัญชนก็ยังดี
“กลับไปข้าจะปรุงยาเม็ดให้แก่เจ้า! รับรองมาจะเปลี่ยนเป็นคัพซี! ไม่สิ น่าจะคัพดี!”
อวี้เฟยเยียนสัญญาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำเอาเชียนเยี่ยเสวี่ยดีใจจนหน้าบานเป็นกระด้ง รัดแขนของนางแกว่งไปมา และชมนางไม่หยุดว่า “พี่น้องที่ดี!”
“เช่นนั้นข้าจะเอาแบบนั้น!” เชียนเยี่ยเสวี่ยชี้ไปที่มู่เหนี่ยนซี
“นั่นจะใหญ่ขนาดไหนกันนะ ข้าจะเอาแบบนั้นแหละ!”
“เสวี่ย เจ้าช่างมีปณิธานที่แน่วแน่!” หลังจากประมาณรอบอกของมู่เหนี่ยนซีแล้ว อวี้เฟยเยียนจึงยกนิ้วโป้งขึ้น “นั่นประมาณคัพเอฟ! เจ้าแน่ใจหรือ ใหญ่ขนาดนั้นสวมใส่อาภรณ์สวยๆ หลายแบบไม่ได้นะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เชียนเยี่ยเสวี่ยที่รักสวยรักงามก็เริ่มลังเลใจ
ตั้งแต่นางเกิดมาก็ถูกปรนนิบัติดูแลในฐานะขององค์ชายมาตลอด นี่เป็นความลับระหว่างนางกับฮองเฮาของแคว้นฉินจื้อ ต่อมามีเพียงท่านหมอเทวดาฮั่วกับอวี้เฟยเยียนเท่านั้นที่ทราบเรื่องนี้
ทว่าไม่ว่านางจะแสดงท่าทีห้าวหาญสักเพียงใด แต่ภายในก็ยังมีใจเป็นสตรี
ในฐานะที่เป็นสตรี การมีใจรักสิ่งสวยงามนั้นคือเรื่องจำเป็น
ช่าช่าบอกว่าหากต้องการอกอวบอิ่มขนาดนั้น จะขาดเสื้อผ้างามๆ ไม่ได้…
ต่อสู้กับความคิดอยู่นาน ในที่สุดเชียนเยี่ยเสวี่ยก็เลือกเสื้อผ้าที่สวยงาม จึงเอาตามที่อวี้เฟยเยียนออก เอาแค่ขนาดคัพดีก็พอแล้ว
“ช่าช่า เรื่องนี้หากเจ้าสามารถช่วยเหลือข้าได้ พี่สาวจะใจเต้นแรงเพราะเจ้า แม้แต่คิ้วก็ไม่กระตุก! หากสังหารหูซา เขาก็จะให้เจ้าออกโรงก่อนเลย!”
การพูดคุยที่สนิทสนมของทั้งสองคำ เริ่มมีการวิพากษ์วิจารณ์จากมู่เหนี่ยนซีและเซวียจื่ออี๋เกิดขึ้น
“นี่แท้น้องอวี้ก็มีบุญคุณที่ช่วยชีวิตของเยี่ยนอ๋องไว้นี่เอง! มิน่าเยี่ยนอ๋องถึงได้ปักใจกับนางเช่นนี้! หน้าตาของเยี่ยนอ๋องนับว่าไม่เลว ทั้งยังเป็นถึงองค์ชาย ช่างเหมาะสมกับน้องอวี้เสียจริง!”
มู่เหนี่ยนซีมองสำรวจเชียนเยี่ยเสวี่ยอย่างสนอกสนใจ
“บุรุษรูปงามขนาดนี้ แม้จะนำไปวางไว้ในเมืองอู้ไห่ก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น สายตาของน้องอวี้ช่างหลักแหลมจริงเชียว!”
เซวียจื่ออี๋กลับไม่กล้าพูดอะไรมาก อย่างไรผู้สอดแนมอย่างลับๆ ของซย่าโหวฉิงเทียน ทั้งสองคนอย่างชิงหงกับเสวี่ยเยี่ยนก็ยังอยู่ที่นี่!
บุรุษผู้นั้น เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก
ยังดีที่เขาไม่อยู่ มิเช่นนั้นทั้งสองคนนี้จะต้องมีเข่นฆ่าสะเทือนฟ้าสะท้านดินอย่างแน่นอน!
——
[1] ป้าใหญ่ ในบริบทนี้เป็นความหมายแฝง หมายถึง “ประจำเดือน”