จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 80-2 ข้าวสาร ข้าวสุก หุงอย่างไร
อวี้เฟยเยียนยิ้มบางๆ แต่หวานหยดย้อย นางพูดขึ้นมาเช่นนี้ทำให้มู่เหนียนซียิ่งเขินอายเข้าไปอีก
ตอนนั้นเป็นมู่เหนี่ยนซีเองที่ดึงดันจะรับอวี้เฟยเยียนเป็นน้องสาว ทั้งยังบอกอีกว่าจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันชั่วชีวิต ตอนนี้กลับต้องมาเป็นป้าของนาง!
“เจ้าตัวแสบ! แม้แต่เจ้าก็หัวเราะเยาะข้า!”
มู่เหนี่ยนซี ‘บ่น’ ขึ้นมาเบาๆ
ตอนนี้มู่เหนี่ยนซีแน่ใจแล้วว่า ตอนนั้นที่โรงเตี๊ยม อวี้เฟยเยียนจำอวี้เชียนเสวี่ยได้ ดังนั้นขณะที่นางกำลังจะเรียกนางเป็นน้องสาวนั้น อวี้เฟยเยียนยิ้มประหลาดๆ ออกมา ยังถามนางกลับอีกว่านางจะมิเสียใจใช่หรือไม่
ตัวแสบเจ้าแผนการนักนะ!
ตอนนั้นก็วางกับดักไว้ รอคอยให้นางเข้าไปติดกับ!
“ไม่มีอะไร ข้าดีใจต่างหาก!”
ด้วยรู้ว่ามู่เหนี่ยนซีกำลังกังวลในสิ่งใด อวี้เฟยเยียนจึงรีบปลอบว่า
“ท่านป้าสาม ที่จริงแล้วท่านปู่ข้าใจดีมาก ท่านไม่ต้องกังวลไป! ท่านปู่ฟังข้าทุกอย่าง ดังนั้นเรื่องนี้ ให้เป็นหน้าที่ข้า ท่านวางใจได้เลย!”
มีคำพูดนี้ของอวี้เฟยเยียน ในที่สุดมู่เหนี่ยนซีก็คลายกังวลไปได้ ทันใดนั้นนางก็คิดถึงคิดถึงหูซาและเลี่ยเชวียขึ้นมา
“จะจัดการอย่างไรกับพวกมัน”
มู่เหนี่ยนซีชี้ไปที่ร่างโชกเลือดทั้งสอง
“ตาย!”
ซย่าโหวฉิงเทียนไม่ปรานีต่อคนทั้งสองเลยแม้แต่น้อย เมื่อเขากล่าวคำเมื่อครู่ออกมา ทันใดนั้นเลี่ยเชวียที่ได้ยินก็เนื้อตัวสั่นเทิ้มแล้วก็เริ่มพองตัวจนกลายเป็นลูกยางลูกบอลกลมๆขึ้นมา
“แย่แล้ว หมอนั่นจะระเบิดตัวเอง! ทุกคนระวังตัว!”
อวี้เชียนเสวี่ยรีบตรงเข้าปกป้องมู่เหนี่ยนซี
ใครจะรู้ อวี้เชียนเสวี่ยกล่าวจบ เลี่ยเชวียก็กลายเป็นลูกบอลขนาดมหึมา กลิ้งตรงไปยังกลางลานในตำแหน่งที่มีผู้คนมากที่สุด
“ฮ่าๆ! พวกเจ้าไปตายซะ! สำนักหมื่นพิษจะไม่มีวันพ่ายแพ้!”
เลี่ยเชวียร้องตะโกนออกมา เสียงดังสนั่น ผู้คนยังมิทันจะหาที่หลบซ่อนตัว ยิ่งไปกว่านั้นมีคนมากมายยังยืนตกตะลึงอยู่ที่เดิม ไม่แม้กระทั่งนั่งยองๆ ลงยกมือกุมศีรษะ
“บึ้ม—”
ชั่วอึดใจขณะที่ทุกคนกำลังรีบร้อนนั่นเอง แสงสีม่วงก็แผ่เป็นวงโอบล้อมร่างกลมๆ ของเลี่ยเชวียเอาไว้ ระเบิดภายใต้วงล้อมแสงสีม่วงนั้น ทำให้ไม่มีอันตรายใดๆมาถึงผู้บริสุทธิ์เลยแม้แต่น้อย
และเมื่อเหตุการณ์สงบลงก่อนที่ใครจะตั้งสติได้ แสงสีม่วงนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้เพียงแต่กองเศษเนื้อเละเทะที่มองไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าเป็นเลี่ยเชวีย
“เจ้า เจ้า…”
หูซาพิงกำแพง แล้วยื่นมือสั่นๆของตนเองชี้ไปที่ซย่าโหวฉิงเทียน
น่าหวาดกลัวยิ่งนัก!
นี่คือ…ม่านพลัง!
ตามตำนานบอกไว้ว่ามีเพียงขั้นเทพจักรพรรดิเท่านั้น จึงสามารถสร้างม่านพลังเป็นของตนเองได้ นี่ซย่าโหวฉิงเทียนอยู่ขั้นเทพจักรพรรดิหรือนี่!
จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!
หากว่าเขามิเห็นด้วยตาตนเองละก็ ให้ตายอย่างไรหูซาก็จะมิยอมเชื่อเด็ดขาดว่าตัวประกันที่เขาเคยดูถูกจะเก่งกาจเพียงนี้
เล่นกับเหยี่ยวมาตลอดชีวิต สุดท้ายถูกเหยี่ยวจิกบอด!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หูซาก็กระอักเลือดออกมาอีก
เมื่อครู่ทุกคนมัวแต่ตกใจการระเบิดตัวเองของเลี่ยเชวีย จึงมิทันเห็นซย่าโหวฉิงเทียนลงมือ มีเพียงแต่หูซาที่หมดทางรอด ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ ได้เห็นฉากที่น่าตื่นตะลึงนี้เข้า
นี่เขาใช่องค์ชายที่น่าสงสารที่ถูกจับไปเป็นตัวประกันที่แคว้นแคว้นฉินจื้อเมื่อปีนั้นจริงหรือ
เขาเก่งกาจถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด
หูซาข้องใจ แต่ก็ไม่ครุ่นคิดเรื่องเหล่านั้นอีกไป
ก่อนตาย ในที่สุดหูซาก็เข้าใจเสียทีว่าจุดเริ่มต้นโศกนาฏกรรมของตนเองคืออะไร!
มีซย่าโหวฉิงเทียนอยู่ เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะทำร้ายอวี้เฟยเยียนได้ ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาเป็นเพียงตะพาบในอ่าง ไม่มีทางหนีรอดไปไหนได้ โดยที่ด้านล่างอ่างสุมด้วยกองไฟที่ลุกโชน รอให้เขากระโดดเข้าไปเอง
“หึ หึๆ”
หูซาส่ายหัวไปมา ปากก็พร่ำว่า
“ผิดไปแล้ว ผิดไปแล้ว!”
เดินทางผิด เลือกคู่ต่อสู้ผิด ผลสุดท้ายตนตายโดยไร้ที่ฝัง!
หูซามิเคยคิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะต้องมาตายที่หุบเขาลั่วสยา ทั้งยังต้องมาตายเช่นนี้
คำที่หูซาพูดเองเออเองลอยไปเข้าหูซย่าโหวฉิงเทียน เขายิ้มเยือกเย็น แสงสีม่วงในมือสว่างวาววับ หัวหูซาถูกตัดจนขาด กลิ้งลงไปบนพื้น
ก่อนตายตาหูซาเบิกกว้าง ทั้งไม่ยินยอมและทั้งปลื้มใจ
อย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้ตายด้วยน้ำมือของขั้นเทพจักรพรรดิก็ถือว่าสมใจแล้ว!
การที่เลี่ยเชวียระเบิดตนเอง สร้างความโกรธแค้นให้กับสาธารณชน
แขกเหรื่อมากมายหลั่งไหลเข้าในลานประลอง พวกเขาประเคนทั้งมือเท้าให้กับศิษย์ของสำนักหมื่นพิษที่ถูกมัดเอาไว้เพื่อระบายความกลัวและโกรธแค้น
ความโกรธแค้นมหาศาล มิมีใครจะหยุดยั้งได้
จวบจนแขกเหรื่อออกไปกันหมดแล้ว บรรดาศิษย์ของสำนักหมื่นพิษก็แทบตายกันเลยทีเดียว
นอกจากผู้เฒ่าใหญ่ที่ถูกเชียนเยี่ยเสวี่ยวางยาพิษจนสลบไปและถูกเจ้าสำนักหลินคุมขังเอาไว้แล้ว แผนชั่วครั้งนี้ของสำนักหมื่นพิษก็ถูกทำลายลงราบคาบ มีทั้งที่มาแล้วไม่ได้กลับไป มีทั้งบาดเจ็บพิการด้วย
“ขอบคุณพวกท่าน! ขอบคุณ!”
เจ้าสำนักหลินออกมารับช่วงดูแลจัดการงานที่วุ่นวายนี้ เริ่มแรกจึงขอบคุณอวี้เฟยเยียนและพวกนางทุกคน
หากมิใช่พวกเขากล้าหาญมีคุณธรรม หอราชาโอสถจะต้องย่อยยับทั้งชื่อเสียงและสูญเสียทั้งชีวิตเป็นแน่!
โดยเฉพาะอวี้เฟยเยียน เป็นเพราะนางดึงดูดความสนใจพวกสำนักหมื่นพิษ ยับยั้งแผนชั่วของพวกมัน ทำให้แผนการดำเนินไปด้วยความราบรื่น
“เจ้าสำนักหลิน ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว!”
มองดูลานประลองที่เละเทะวุ่นวายตรงหน้า อวี้เฟยเยียนก็รู้ได้ทันทีเลยว่า งานทำความสะอาดหลังจากนี้ไม่เพียงแต่มากมายทั้งยังละเอียดยิบย่อยอีกด้วย
ดังนั้นนางจึงไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแต่อธิบายอะไรเล็กน้อยให้เจ้าสำนักหลินฟัง แล้วก็ขอตัวไปจากลานประลองพร้อมกับคนอื่นๆ
เจ้าสำนักหลินเอารู้ว่าวันนี้อวี้เฟยเยียนสูญเสียพลังไปมาก ต้องการพักผ่อน จึงไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก เพียงแต่กำชับว่าหากนางต้องการสิ่งใดก็ให้บอกกล่าวตรงๆได้เลย
เมื่อกลับมาถึงห้องพักเรือนเล็กของตน เพียงก้าวย่างเข้าประตู อวี้เฟยเยียนก็ทิ้งร่างลงบนเตียงอย่างคนหมดเรี่ยวหมดแรง
เมื่อคืนวานไปช่วยหมอเทวดาฮั่ว มู่เหนี่ยนซีก็เกิดเรื่อง ต่อมาก็ถอนพิษให้เจ้าสำนักหลินอีก ทำให้อวี้เฟยเยียนแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ
วันนี้ก็เริ่มตั้งแต่เช้า ต้องรักษาท่าทีตึงเครียดพร้อมรบตลอดเวลา นางเกร็งจนเหนื่อยอ่อน ยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้ อวี้เฟยเยียนทั้งเหนื่อยทั้งง่วง นอนเล่นไม่นานก็ผล็อยหลับไป
นางเหนื่อยมาก!
เมื่อตรวจดูว่าอวี้เฟยเยียนปลอดภัยสบายดี มู่เหนี่ยนซีก็ค่อยๆ ย่องออกมาจากห้อง แล้วจัดการปิดประตูลงกลอน
“ให้นางพักผ่อนให้เต็มที่เถอะ!”
“ไอ้หยา!”
ในตอนนั้นเองที่อวี้เชียนเสวี่ยตบหน้าผากตนแล้วร้องว่า
“แย่แล้วๆ ! ข้าดันลืมเรื่องใหญ่ไปเสียได้!”
ท่าทางตื่นตระหนกตกใจของอวี้เชียนเสวี่ย ทำเอาทุกคนตกอกตกใจไปตามๆ กัน
“ลุงสาม มีเรื่องอะไรกัน”
ตอนนี้เซวียเฉียงก็รู้แล้วว่า อวี้เชียนเสวี่ยเป็นลุงแท้ๆ ของอวี้เฟยเยียน
ถึงแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนจากรักนางเชิงหญิงชายกลายเป็นชื่นชมและนับถือนางแล้ว แต่บุคคลที่อยู่ด้านหน้าของเขาก็อาวุโสกว่า เช่นนั้นก็ต้องให้ความเคารพนับถือด้วย!
“วันนี้เป็นวันเกิดของอวี้หลัวช่า! นางอายุครบสิบห้าปีบริบูรณ์! เรื่องใหญ่ขนาดนี้ข้ากลับลืมไปเสียได้ข้าสมควรตายจริงๆ!”
อวี้เชียนเสวี่ยกล่าวออกมา คนอื่นๆ ต่างก็พากันอึ้งไป
“สิบห้าปี!”
เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า!
“ลุงสามท่านว่าช่าช่าเพิ่งจะสิบห้าปีเต็ม นางเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ ท่านแน่ใจหรือ”
คางที่เชียนเยี่ยเสวี่ยเท้าอยู่เกือบหล่นไปที่พื้นเลยทีเดียว!
ถึงแม้เขาจะรู้อยู่ว่าอวี้เฟยเยียนอายุยังไม่มาก แต่ไม่เคยคิดเลยว่านางจะเป็นเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
จักรพรรดิโอสถและจอมเทวาอายุสิบสี่ปี!
นี่มันฝืนกฎสวรรค์ชัดๆ!