จำนนรักชายาตัวร้าย - ตอนที่ 98-1 เดินกร่างทั่วปฐพี
“ข้าก็เช่นกัน!”
อวี้เฟยเยียนเงยหน้าขึ้น จุมพิตตอบซย่าโหวฉิงเทียน
วิญญาณนางทะลุมิติมาที่นี่และได้มาพบกับเขา นับเป็นการเดินทางที่แสนวิเศษ! นางได้แต่หวังว่า เวลาจะเดินช้าลงสักหน่อย หวังว่านางจะได้อยู่กับเขานานขึ้นอีกนิด…
“อย่าขยับ…”
แก้มซย่าโหวฉิงเทียนแดงก่ำ มือทั้งสองโอบเอวคอดของอวี้เฟยเยียนเอาไว้ เมื่อครู่เขาเพิ่งจะระงับความปรารถนาของตนเอาไว้ได้ ทว่าเมื่อถูกหยอกเย้าจากอวี้เฟยเยียนเข้า ความปรารถนานั้นก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
แสงจันทร์ทอดยาวราวสายน้ำ
มองดูรอยแดงจางๆ บนใบหน้าอันหล่อเหลาของบุรุษผมสีเทาตรงหน้า ทำให้อวี้เฟยเยียนอดนึกถึงภาพเหมือนที่ฮ่องเต้ทรงมอบให้กับซย่าโหวฉิงเทียนขึ้นมาไม่ได้
พระองค์ทรงเข้าพระทัยซย่าโหวฉิงเทียนดียิ่งนัก จึงมอบภาพนั้นให้เขาเป็นตัวอย่าง อวี้เฟยเยียนยิ่งคิด ดวงหน้าน้อยก็ยิ่งร้อนฉ่า
หากมองจากรูปร่างภายนอก นางที่อายุเพียงสิบห้าปีจึงยังเด็กไปสักหน่อย!
เมื่อเทียบกับซย่าโหวฉิงเทียนเป็นชายโสดที่อายุอานามปาเข้าไปยี่สิบสองปีแล้ว อีกทั้งในทุกครั้งเขามักจะกดความต้องการเอาไว้เรื่อยมา มันจะก่อให้เกิดโรคอะไรตามมาหรือไม่นะ แล้วในเวลาปกติเมื่อเขาพบเจอกับปัญหาเช่นนี้ เขาแก้ไขด้วยตนเองมาโดยตลอดหรือ
คิดไปคิดมา อวี้เฟยเยียนก็เริ่มคิดเลยเถิด
ในหัวนางปรากฏภาพๆ หนึ่งขึ้นมา หนุ่มหล่อขั้นเทพผมสีเงินนัยน์ตาสีม่วงสุดในการ์ตูนอนิเมะ ที่มีแสงประกายทั่วทั้งร่าง กำลังช่วยตัวเองภายใต้แสงจันทร์
ชายรูปงาม กับทิวทัศน์ที่สวยงาม…
ถึงแม้ว่าเนื้อหาจะไม่ดีต่อเด็กและเยาวชน แต่ภาพที่เกิดขึ้นสวยงามเป็นอย่างมากทีเดียว!
หน้าแดงๆ ของอวี้เฟยเยียน หนีไม่พ้นสายตาซย่าโหวฉิงเทียน
ถึงแม้ไม่รู้ว่าอวี้เฟยเยียนกำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ แต่ดูจากดวงตาที่สื่ออารมณ์ทั้งยังหวานหยาดเยิ้มหยดย้อย ซย่าโหวฉิงเทียนก็มั่นใจได้เลยว่าต้องไม่ใช่เรื่องดี
รู้สึกได้ถึงรอยยิ้มล้อเลียนของซย่าโหวฉิงเทียน อวี้เฟยเยียนก็เริ่มเป็นวัวสันหลังหวะขึ้นมา นางแสร้งทำชี้นิ้วไปที่แม่น้ำชางหลวนชวนคุยเพื่อคลายความอึดอัด
“เอ่อ ท่านอยากจะไปลดอุณหภูมิสักหน่อยหรือไม่”
สัตว์ร้ายกำลังจะกลายร่างเป็นมังกรโหดแล้ว หากไม่ระงับเอาไว้ล่ะก็ เกรงว่าจะเกิดเรื่องใหญ่!
มองดูดวงตาเป็นประกายสุกใสราวกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่างของอวี้เฟยเยียนแล้ว ซย่าโหวฉิงเทียนก็ยิ้มออกมาน้อยๆ
เจ้าแมวจอมหื่น!
เมื่อรู้ว่าอวี้เฟยเยียนไม่มีแรงต้านทานต่อชายรูปงามเลยแม้แต่นิด ซย่าโหวฉิงเทียนก็ตัดสินใจใช้ข้อเด่นของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เขาจะทำให้แมวน้อยผูกติดอยู่กับเขาตลอดไปให้ได้
พูดได้ทำได้
ว่าแล้วซย่าโหวฉิงเทียนก็กระโดดลงจากโขดหิน ถอดกางเกงตนออกแล้วหันหน้ามายิ้มให้กับนาง จากนั้นก็พุ่งตัวลงไปในแม่น้ำชางหลวนทันที
อย่ายั่วยวนกันเช่นนี้ได้หรือไม่
พี่ชายท่านนี้ หากท่านยังอบอุ่นและใจกว้างเช่นนี้ ข้าชักจะทนไม่ไหวแล้วจริงๆ นะ!
ถึงแม้นางจะระงับอาการไม่อยู่ก็ตาม แต่อวี้เฟยเยียนก็ยังคงทำเวลาได้ดี นางชื่นชมภาพสวยงามเบื้องหน้าโดยละเอียด
เพื่อจะเลี่ยงเหตุการณ์เลือดกำเดาไหลที่น่าอึดอัดไม่ให้เกิดขึ้น อวี้เฟยเยียนจึงใช้นิ้วมือซ้ายและขวาอย่างละหนึ่งนิ้วอุดจมูกตนเอาไว้ ในขณะเดียวกัน ตาทั้งสองของนางก็จดจ้องไปที่ซย่าโหวฉิงเทียนไม่วางตา
ซย่าโหวฉิงเทียนกำลังใช้แขนอันยาวเหยียดของเขาแหวกว่ายทวนกระแสน้ำอยู่ในแม่น้ำชางหลวน หยาดน้ำที่สาดกระเซ็นออกมา บวกกับผิวขาวราวหยกใสและเส้นผมสีเงินของเขาดูราวกับพญามังกรสีเงินกำลังเล่นน้ำก็ไม่ปาน
มัน…สวยงามจนนางตกตะลึง!
นี่คือบุรุษของนาง!
อวี้เฟยเยียนชื่นชมความงามตรงหน้าไปพลาง ขณะเดียวกันก็ภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก บุรุษที่สมบูรณ์พร้อมเช่นนี้ ยอมมาสยบแทบเท้านาง เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวให้กับนาง
จู่ๆ ก็มีของดีหล่นลงมาจากฟ้าโดยแท้!
สุดท้ายซย่าโหวฉิงเทียนก็หยุดว่ายน้ำ แล้วยืนอยู่ที่กลางสระ หยดน้ำเกาะพราวบนใบหน้าเขา บางหยดก็ไหลมผ่านหน้าอกที่กำยำของเขาก่อนไหลลงสู่แม่น้ำ
ผมสีเทาพลิ้วไหวไปตามการเคลื่อนไหวของน้ำ ราวกับพืชน้ำสีเงินกำลังรายล้อมอยู่แถวท้องน้อยของเขา บดบังทัศนียภาพนั้นเอาไว้
“แมวน้อย มา เล่นน้ำกับพี่!”
ซย่าโหวฉิงเทียนยื่นมือออกมา สายตาที่ทอดมองกับแววตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือล้นของเขามันกำลังยั่วยวนอวี้เฟยเยียนอยู่
ภายใต้แสงจันทร์ ชายรูปงาม ความเย้ายวนเช่นนี้ ในที่สุดอวี้เฟยเยียนก็อดรนทนไม่ไหว เริ่มคันยิบๆ ที่จมูกและเลือดอุ่นๆ ก็ไหลออกมาจากจมูกทั้งสองข้างของนาง
ได้ยินเสียงหัวเราะที่แสนมีความสุขแว่วเข้ามาในหู ทำให้อวี้เฟยเยียนเริ่มอึดอัด
ครั้งนี้ขายหน้าเขาอีกแล้ว!
อากัปกิริยาของอวี้เฟยเยียนทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนพึงพอใจเป็นอย่างมาก
เห็นทีสำหรับแมวน้อยแล้ว ตัวเขามีเสน่ห์ไม่น้อยเลย เพียงเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว!
ซย่าโหวฉิงเทียนเจตนาแกล้งอวี้เฟยเยียนมากขึ้นไปอีก ว่าแล้วเขาก็หันไปทิศทางที่นางอยู่แล้วเดินอาดๆ จากน้ำขึ้นฝั่งด้วยเรือนร่างเปลือยเปล่า
ห้ามเสียมารยาท!
ห้ามเสียมารยาท!
อวี้เฟยเยียนท่องเอาไว้ในใจ ส่วนมือทั้งสองข้างถึงขนาดต้องยกขึ้นปิดตาเอาไว้
เพียงแต่ มือน้อยๆ ทั้งสองข้างของนางกลับคลายออกเพียงเล็กน้อย ดวงตาแสนสวยคู่หนึ่งที่หลบซ่อนอยู่หลังมือนั้นกำลังลอบมองมา
อย่างไรเขาก็เป็นบุรุษของนาง ช้าเร็วนางก็ต้องเห็นอยู่ดี!
อวี้เฟยเยียนปลอบโยนตัวเองในใจ
ใครจะคาดคิด สิ่งที่อวี้เฟยเยียนมองเห็นกลับมิใช่ภาพอันสวยงามอย่างที่นางคาดหวังเอาไว้ เพราะเส้นผมสีเงินที่ยาวเกือบถึงหน้าขาของเขาบังเอาไว้พอดิบพอดี
แต่ภาพงดงามที่เลือนรางเช่นนี้ ทำให้คนยิ่งปวดหัวหน้าร้อนเห่อเข้าไปอีกน่ะสิ
“งามหรือไม่”
ซย่าโหวฉิงเทียนเดินเข้ามาหยุดที่เบื้องหน้าอวี้เฟยเยียน แล้วเป่าลมร้อนเข้าไปที่ช่องว่างระหว่างนิ้วมือของนาง
“งดงาม…”
จนกระทั่งอวี้เฟยเยียนได้สติขึ้นมา ดวงหน้าน้อยๆ ของนางแดงก่ำราวกับลูกท้อน้ำผึ้งก็ไม่ปาน ท่าทางคล้ายเด็กน้อยทำความผิดกลัวถูกจับได้อย่างชัดเจน ดวงตาทั้งสองข้างเอาแต่มองขึ้นไปบนฟากฟ้าด้านบน
“เหอะๆ ท่านหมายถึงดวงจันทร์ใช่หรือไม่! คืนนี้พระจันทร์สวยจริงๆ เลย”
“แมวจอมหื่น!”
เห็นอวี้เฟยเยียนแสร้งทำขึงขัง ซย่าโหวฉิงเทียนก็ยิ้มน้อยๆ แล้วดึงกางเกงมาสวมใส่ ขณะเดียวกันก็รอให้หยดน้ำที่เกาะอยู่บนร่างแห้งไป จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนโขดหินนั่งเคียงข้างอวี้เฟยเยียนโดยใช้มือเพียงข้างเดียวยันเอาไว้
“ดวงจันทร์หรือพี่สิ่งไหนงดงามกว่ากัน”
“ท่านงามกว่า!”
อวี้เฟยเยียนสารภาพออกไปตรงๆ
ท่าที่แสนซื่อของนางทำให้จิตใจซย่าโหวฉิงเทียนที่เดิมทีถูกตี้อู่หงเยี่ยก่อกวนจนขุ่นหมองแปรเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมา
“แมวน้อย เจ้าเห็นพี่ทั้งเนื้อทั้งตัวแล้ว เพื่อความเสมอภาค เมื่อไหร่กัน เจ้าจะให้พี่ได้มองเจ้าบ้าง…”
ซย่าโหวฉิงเทียนจ้องอวี้เฟยเยียนตาไม่กะพริบ มุมปากเขาหยักยกขึ้นยิ้มแฝงความชั่วร้ายออกมา
“เอ่อ…”
ได้ยินข้อเสนอที่ออกจะ ‘เกินไป’ จากปากซย่าโหวฉิงเทียน อวี้เฟยเยียนถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วคราวทีเดียว
“เราสองคนพบหน้ากันครั้งแรก ท่านก็เห็นทั้งหมดแล้วมิใช่หรือ”
“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย! ตอนนั้นเจ้ายังเด็กนัก!”
ซย่าโหวฉิงเทียนแสดงออกชัดเจนว่าไม่พึงพอใจในคำตอบของอวี้เฟยเยียน
พบหน้ากันครั้งแรก
ตอนนั้นอวี้เฟยเยียนยังเป็นเด็กน้อยอายุเพียงสิบสามปีเท่านั้น ราวกับลูกอ๊อดน้อยที่แสนบอบบางก็ไม่ปาน เอียงอาย เยาว์วัยเกินไป!
ในขณะที่พูดสายตาซย่าโหวฉิงเทียนก็ทอดมองสำรวจไปที่เนินอกน้อยๆ ของอวี้เฟยเยียนอย่างถ้วนทั่ว
นี่เป็นครั้งแรกที่ซย่าโหวฉิงเทียนไม่รู้จักหนักเบา ไร้ซึ่งอาการสำรวม อวี้เฟยเยียนจึงรีบยกมือทั้งสองข้างปกปิดเนินอกตนจากสายตาเขาเอาไว้ทันที
“พวกเรามาช่วยกันคิดดีกว่า ว่าจะกำจัดกลิ่นดอกขจรออกไปจากท่านได้อย่างไร!”
บรรยากาศกำลังดีๆ จู่ๆ ทักเรื่องนี้ขึ้นมาทำไมกัน…
“แมวน้อย เจ้าอย่าคิดว่าพี่จะปล่อยเจ้าไปนะ!”