ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ! - ตอนที่ 21 การป้องกันโรคกับฮันน่าจัง
ปึก เสียงปิดหนังสือเบาๆ ดังออกมา วาคาดะ ซายูริหาวอย่างง่วงงุน
เธอยังไม่ได้อาบน้ำเลยตั้งแต่ที่กลับมาที่โรงแรม ด้วยความกังวลในอะไรหลายๆ อย่างทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะอาบน้ำ ด้วยเกรงว่าคนที่คอยชักใยโชคชะตาอาจจะกำลังแอบดูอยู่
แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถปล่อยให้ความกังวลหยุดเธอได้อีกแล้ว
เธอรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเพราะเหงื่อที่ไหลออกมาเกือบตลอดเวลา โชคดีหน่อยที่ที่นอนไม่เปรอะเปื้อนไปด้วยเหงื่อ
ไม่อย่างงั้นความอับชื้นคงทำให้เธอนอนไม่หลับ
“ยูริจัง จะนอนแล้วเหรอ?”
ฮันน่าปิดหนังสือด้วยเช่นกัน เธอบิดขี้เกียจเบาๆ พลางใช้เวทมนตร์บางอย่างบังคับให้หนังสือลอยไปเก็บเข้าที่เดิม ยูริลุกขึ้นและนำหนังสือไปเก็บเช่นกัน
“ค่ะ ปิดไฟรอไว้เลยก็ได้นะคะ”
เธอป้องปากหาว
“เปิดโคมไฟไว้ก็พอค่ะ”
ฮันน่าพยักหน้า อีกฝ่ายเอื้อมมือไปปิดไฟขณะที่เด็กสาวเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับอุปกรณ์ที่จำเป็น จากนั้นก็นอนตะแคงข้างและหลับไป
ผ่านไปสิบนาที วาคาดะ ซายูริออกมาจากห้องน้ำ เธอเช็ดตัวจนแห้งและแต่งตัวเสร็จตั้งแต่ข้างในแล้ว
ชุดที่เธอสวมใส่เป็นชุดนอนลายเป็ดบางเบา ผ้าแนบชิดกับผิวกายของเธอ
แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกรำคาญแต่อย่างใด มันกลับกันด้วยซ้ำ เนื้อผ้านุ่มบางทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด
เด็กสาวเห็นฮันน่ากำลังนอนหลับอยู่บนเตียง อีกฝ่ายกอดหมอนข้างและหันหน้าเข้ากำแพง
มันเป็นทิศทางตรงกันข้ามกับบริเวณที่เธอจะนอนพอดี
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่ายูริหวาดผวาเรื่องในคืนนั้นมากเพียงใด เธอเลยหันหน้าไปอีกทางเพื่อให้เด็กสาวสบายใจ
ยูรินำผ้าขนหนูไปแขวนเอาไว้ที่ผนัง ก่อนจะมองอีกฝ่ายอย่างเงียบงัน
ท่ามกลางความมืดมิด ไม่มีแสงอะไรนอกจากแสงจากห้องน้ำและโคมไฟที่ตั้งอยู่ข้างๆ ประตูทางออก ซายูริเอื้อมมือไปปิดมัน ก่อนจะยืนนิ่งสักพัก ปล่อยให้สายตาค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับความมืดมิด
พรึบ แสงสุดท้ายดับลง นอกจากแสงดาวนอกหน้าต่างที่ทำให้ห้องพอมีแสงบ้างแล้ว เด็กสาวก็แทบมองไม่เห็นอะไร เธอไม่คิดจะไปนอนบนเตียง ภายในหัวสมองตีกันด้วยชุดความคิดบางอย่าง
เธอเกิดอยากจะเดินทางไปยังถนนเตาไฟขึ้นมาอย่างแรงกล้า มันเป็นความต้องการที่ไร้ซึ่งเหตุผลและบ้าคลั่ง ด้วยสติที่หลงเหลืออยู่ เธอรู้สึกได้ว่าเกิดเรื่องผิดปกติขึ้นกับเธอแล้ว
ทำไมเธอถึงอยากไปถนนเตาไฟขนาดนั้นกัน? ไม่มีเหตุผลที่จะไปมากขนาดนั้นสักหน่อย ทำไมกัน ทำไมกัน ผู้ชักใยเริ่มต้นบงการตัวเธออีกแล้วงั้นหรือ? แล้วทำไมต้องเป็นถนนเตาไฟล่ะ
เงิน เงินสดจำนวนมหาศาลคือสิ่งที่เธอต้องการ เด็กสาวรู้สึกได้เลยว่าถ้าเธอเดินออกไปจากโรงแรมตอนนี้เงินนับหมื่นปอนด์จะหล่นลงมาจากฟ้าแน่นอน และเผลอๆ มันจะหล่นมาได้เรื่อยๆ ตราบเท่าที่เธอต้องการ
ความคิดไร้สาระนี่มันอะไรกัน ถึงจะประหลาด แต่เธอก็รู้สึกได้ว่ามันอาจจะเป็นความจริงก็เป็นได้
เด็กสาวเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เตียง ดวงตาจับจ้องไปที่ฮันน่าที่กำลังนอนอยู่ สมองครุ่นคิดอะไรหลายอย่าง และภายใต้การต่อสู้กันอย่างดุเดือดของชุดความคิดมากมายในหัวสมอง ยูริหยิบหนึ่งในหมอนของเธอขึ้นมากอดเอาไว้พลางมองดูฮันน่าด้วยแววตาน่าขนลุก
ฮันน่าสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ เธอพลิกตัวมาทางขวามือของตน ก่อนจะเห็นเด็กสาวที่กำลังยืนนิ่งและกอดหมอนอยู่ข้างๆ เตียง
ภาพนั้นทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยราวกับเห็นผี อีกฝ่ายจ้องมองเธอกลับมาด้วยแววตาที่ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นยังไง เพราะทุกๆ อย่างมืดไปหมด
“ย ยูริจัง มีอะไรเหรอ?”
หญิงสาวรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอยากจะพูด แต่ด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้อีกฝ่ายไม่อาจพูดได้ เธอเลยเป็นฝ่ายเปิดประเด็นก่อน
“เอ่อ คือ”
ด้วยน้ำเสียงเขินอายเล็กน้อย ฮันน่าสัมผัสได้ถึงความกระอักกระอ่วนในน้ำเสียงของอีกฝ่าย
“พ พี่ไม่ต้องหันหน้าหนีก็ได้แล้ว…มั้งคะ”
น น่ารัก ฮันน่าคิดเช่นนั้นด้วยหัวใจพองโต เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นของความเขินอายที่แผ่ออกมาจากตัวของอีกฝ่าย ยูริจังกำลังเอาหน้าซุกหมอนแน่นราวกับว่ากำลังจะพูดเรื่องที่ชวนให้อับอายสุดขีด
“และ—และ เอ่อ หนูอยากให้พี่…”
วาคาดะ ซายูริเบือนหน้าหนีเล็กน้อย เธอกำลังรู้สึกปั่นป่วนในอก ความร้อนรุ่มพวกนี้มันอะไรกัน
“ช ช่วยทำแบบที่ทำเมื่อคืนก่อน”
ฮันน่ามองไม่เห็นสีหน้าของตนเองและอีกฝ่ายเพราะความมืด แต่เธอสัมผัสได้ว่าใบหน้าของตนร้อนผ่าว มุมปากค่อยๆ คลี่ยิ้มอย่างช้าๆ ความรู้สึกอยากหัวเราะกลบเกลื่อนความเขินของตัวเองแน่นหน้าอก
ยูริหน้าแดงในความมืด แต่เธอไม่เห็นหรอก รู้แต่เพียงว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกเหมือนทำอะไรไม่เข้าท่าอยู่
“ย อย่าเข้าใจผิด หนูแค่จะขอให้พี่ช่วยทำอะไรสักอย่างกับระบบภูมิคุ้มกันน่ะค่ะ แบบว่าอยากให้ช่วยดูดเลือดป้องกันเชื้อวัณโรคหรืออะไรแบบนั้นน่ะ”
เป้าหมายของเธอคือการเดินทางไปยังถนนเตาไฟ เธอต้องมั่นใจว่าตัวเองจะไม่ติดเชื้อวัณโรคมาอีก เธอเลยคิดจะมาขอให้ฮันน่าช่วยดูดเลือดให้อีกครั้ง ก็ใช่ว่าเธอจะชอบหรืออะไรแบบนั้น แต่มันจำเป็นสำหรับแผนการครั้งนี้
แต่ทำไมเธอถึงหน้าแดงกันล่ะ บ้าเอ้ย
สำหรับเรื่องที่ถูกใครบางคนชักใย อีกฝ่ายแสดงให้เห็นแล้วว่ายังไม่มีเจตนาร้ายในตอนนี้ และการควบคุมชะตาพวกนั้นก็มักจะทำประโยชน์ให้เธอเสมอๆ เด็กสาวเลยคิดจะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
มันเป็นการใช้ประโยชน์จากชะตากรรมของตนที่ถูกชักใยยังไงล่ะ
“อุก ได้สิจ๊ะ ยูริจังงง”
ฮันน่าคลี่ยิ้มกว้าง ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจ
อยากจับยูริจังมาน้วยเล่นชะมัด อ่า อีกฝ่ายน่าฟัดน่ากอดมากเลยล่ะ
และยิ่งตอนมายืนขอด้วยท่าทางเขินอายแบบนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกอยากกอดและลูบๆ คลำๆ อีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก ตัวเล็กน่ารักน่าฟัด—
ตุบตุบ ฮันน่าแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์พลางใช้ฝ่ามือตบที่นอนข้างๆ ตน ก่อนจะบอกให้เด็กสาวลงมานอน เดี๋ยวพี่สาวคนนี้จะสนองความต้องการนั้นให้เอง
วาคาดะ ซายูริเดินลงไปนอนบนเตียง เด็กสาวตะแคงข้างพลางกอดหมอนแน่นและแอบขดตัวเล็กน้อย
“เริ่มเลยไหมยูริจัง? เจ็บนิดหน่อยนะ”
เด็กสาวสัมผัสได้ถึงสายตาประหลาดของอีกฝ่ายที่กำลังจับจ้องเธอผ่านความมืดมิด
“อ่า ค ค่ะ”
เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิว่าควรทำแบบนี้ดีไหม แต่ความรู้สึกอยากไปยังถนนเตาไฟมันแรงกล้าจนเธอรู้สึกทรมานเหลือเกิน สัญชาตญาณของเธอมันกรีดร้องบอกให้เธอไปที่นั่นภายในคืนนี้ ภายในคืนนี้เท่านั้น
เด็กสาวสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากด้านหลัง อะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มมากระทบแผ่นหลังของเด็กสาว หน้าอกของฮันน่ามากระทบกับหลังของเธอ และนั่นทำให้เด็กสาวเผลอทำสีหน้าประหลาดอยู่ครู่หนึ่ง แขนทั้งสองข้างของฮันน่าโอบรอบเอวของเธอ ร่างของทั้งสองแนบแน่นใต้ผ้าห่มอุ่นๆ
ฟู่ ลมหายใจอุ่นๆ จากอีกฝ่ายกระทบปลายหู ยูริพลันรู้สึกแปลกประหลาด ราวกับว่าขนทุกเส้นในร่างกายลุกชัน สัมผัสนั่นทำให้เธอเริ่มหายใจถี่ๆ ใบหน้าร้อนผ่าว
“ยูริจังสัมผัสอ่อนไหวตรงหลังหูเหรอ? น่ารักซะจริงๆ”
“คำพูดสองแง่สองง่ามนั่นมันอะไรกันคะ”
“หุหุ คิดไปเองจ้า”
ในเวลาแบบนี้ฮันน่าจะดูแปลกไปจากตอนกลางวันมาก อีกฝ่ายดูราวกับสัตว์ร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อที่มันหมายปอง และยูริก็อาจจะเป็นเหยื่อที่ว่านั่น
อึก สัมผัสนุ่มและเย็นของริมฝีปากกระทบกับต้นคอของเธอ ฮันน่า ฉันขอให้พี่ดูดเลือดไม่ใช่หรือ? แล้วนี่กำลังทำอะไรอยู่
แค่ฉวยโอกาสนี้เลียนิดหน่อยยูริจังคงไม่ว่ามั้ง? ฮันน่าพึมพำในใจ ก่อนจะแลบลิ้นออกมาเล็กน้อยและเลียไปยังต้นคอของเด็กสาว ร่างกายของอีกฝ่ายพลันสั่นเทาขึ้นมาทันที ขนลุกซู่เล็กน้อย ตัวของอีกฝ่ายขยุกขยิกไปมาในอ้อมกอดของเธอ น่ารักซะจริงๆ
ใช่แล้ว เธอมีแผนแล้ว เพื่อให้ได้ทำแบบนี้กับอีกฝ่ายบ่อยๆ บางทีเธอควรจะทำให้ยูริจังได้พบกับ ‘ประสบการณ์สุดพิเศษ’ ในค่ำคืนนี้
ฮันน่าใช้มือของตัวเองล้วงเข้าไปในเสื้อของอีกฝ่าย ก่อนจะลูบไล้ไปตามหน้าท้องของเด็กสาว อ่า ผิวของยูริจังล่ะ มันทั้งเรียบเนียนและนุ่มหนึบหนับเต็มฝ่ามือของเธอเลย
ฮันน่าเผลอยิ้มแปลกๆ ออกมา เธอเกิดความรู้สึกอยากถอดเสื้อของอีกฝ่ายออกให้หมด รวมไปถึงของตัวเองด้วย
“ถ้ายังไม่เลิกทำแบบนั้นหนูจะเกลียดจริงๆ นะคะ”
ยูริพยายามเอียงคอมามอง แต่ด้วยทิศทางการหันตัวทำให้เธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เด็กสาวทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย
อ่า เสียงเย็นชาของยูริจังทำให้ฉันขึ้นสวรรค์! ฮันน่าอุทานในใจ น่ารักอะไรอย่างนี้นะ แต่พอก่อนดีกว่า ไม่งั้นยูริจังคงโกรธแย่เลย
หญิงสาวกำลังจะนำมือออกจากเสื้อของอีกฝ่าย แต่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
จริงสิ เวลาดูดเลือดยูริจังคงใช้สมาธิทั้งหมดจดจ่อกับตรงต้นคอล่ะมั้ง ดังนั้นในระหว่างนั้นจะแอบล้วงบ้างก็คงไม่เป็นอะไรหรอก?
ฮันน่าอ้าปากเล็กน้อย เผยให้เห็นเขี้ยวของแวมไพร์ที่ค่อนข้างแหลมคม มันเป็นเขี้ยวที่เล็ก สั้น และเรียวบาง ไม่มีทางก่ออันตรายกับใครเว้นแต่เจ้าของจะต้องการ
ง่ำ ฉึก เขี้ยวสองซี่ฝังลงไปในลำคอของอีกฝ่าย
อึก อึก ฮันน่าเริ่มกระบวนการป้องกันวัณโรคตามที่อีกฝ่ายขอ เธอดูดเลือดของเด็กสาวบางส่วน ของเหลวสีแดงอุ่นๆ ค่อยๆ ไหลผ่านซี่ฟันของเธอ
มันไหลลงไปในลำคอ รสชาติของมันทั้งขมปร่าและหอมหวานในเวลาเดียวกัน ของเหลวพวกนั้นเสียดสีกับเขี้ยวและฟันของเธอทำให้รู้สึกเสียวซ่านราวกับถูกหมอฟันฉีดน้ำใส่ปาก
“อึก อ่า”
เธอสัมผัสได้ว่าเด็กสาวตรงหน้ากำลังบิดตัวไปมา เสียงครางเล็กๆ นั่นทำให้เธอใจสั่นเล็กน้อย แค่เล็กน้อยเท่านั้น ทำไมจู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนกำลังก่ออาชญากรรมกันนะ
แฮ่ก แฮ่ก เด็กสาวตรงหน้าหอบเบาๆ หน้าของเธอแดงก่ำ เหงื่อไหลเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากจนถึงขั้นต้องไปอาบน้ำ
ยูริสัมผัสได้ถึงความเบาสบายหลังจากฮันน่าดูดเลือดไป และแน่นอน ไอ้ความรู้สึกดีๆ นั่นมันกลับมาอีกแล้ว
ฮันน่าถอนเขี้ยวออกจากคอของอีกฝ่าย แต่ยังคงกอดเด็กสาวแนบแน่นเหมือนเดิม เธอสัมผัสได้ว่าเรี่ยวแรงของอีกฝ่ายอ่อนลงแล้ว
ร่างของเด็กสาวพลันอ่อนปวกเปียกราวกับหุ่นเชิดที่ถูกตัดด้ายออก เลือดสีแดงสดไหลซึมออกจากคอ ฮันน่าที่ได้กลิ่นเลือดก็ใช้ลิ้นของตนค่อยๆ เลียตรงปากแผลอย่างบรรจง เลือดที่ไหลซึมก็ค่อยๆ หยุดไหลทีละน้อย จนกระทั่งมันหยุดอย่างสมบูรณ์
ส่วนพวกคราบที่เหลือฮันน่าก็ใช้เวทมนตร์เสริมลงไปตรงปลายลิ้น และเลียออก ตอนนี้คอของยูริกลับมาขาวสะอาดเหมือนแต่ก่อนแล้ว
เลือดและคราบเลือดหายไป รอยกัดตรงคอเหลือเพียงแค่รอยแดงๆ เท่านั้น แน่นอนว่าฮันน่าจงใจทิ้งมันเอาไว้ หนึ่งเขี้ยวเท่ากับหนึ่งรอย และบนคอของยูริก็มีรอยถึงสี่รอย นับรวมการรักษาวัณโรคในครั้งก่อนด้วย
“หึหึ ยูริจังน่ารักจังน้าา คราวหน้าก็มาขอให้พี่สาวคนนี้ทำแบบนี้ได้เรื่อยๆ เลยนะ”
เธอลูบหัวของอีกฝ่ายอย่างเบามือ เส้นผมของยูริจังนุ่มนิ่มและเรียบลื่น กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมาจากผมของเธอด้วย
“อะ อ่า”
เด็กสาวไม่อาจตอบอะไรได้อีก ด้วยเรื่องทั้งหมดทำให้เธออ่อนเพลียเหลือเกิน ราวกับเปลือกตาของเธอหนักขึ้นเล็กน้อย วาคาดะ ซายูริปิดตาของตนลง และเริ่มเข้าสู่นิทรา
“หลับไปซะแล้วแฮะ เราเองก็หลับด้วยดีกว่า”
ฮันน่าหาวเบาๆ เธอขยับตัวเข้าชิดเด็กสาวมากกว่าเดิมซะอีก แขนทั้งสองข้างกระชับแนบแน่นกว่าเดิม ก่อนที่ทั้งสองจะผล็อยหลับไปทั้งๆ ที่กอดกันอย่างงั้น…