ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ! - ตอนที่ 26 มันจะไม่เป็นแบบนั้นหรอกน่า
- Home
- ฉันก็แค่อยากตาย แต่ไหงต้องมาเกิดใหม่ด้วยล่ะ!
- ตอนที่ 26 มันจะไม่เป็นแบบนั้นหรอกน่า
ผมลืมตาตึ่นขึ้นมา
“……”
สโนว์กำลังนอนตัวแนบแขนผมอยู่ราวกับเป็นเรื่องปกตื
ขนตาของเธอเป็นสีขาวบริสุทธิ์ และเธอก็ยังหายใจอยู่แนบอกของผมด้วย
รู้สึกเหมือนจะได้กลิ่นแชมพูหรูหราของหอพักฟลาวุมยังไงยังงั้นเลยด้วย
แถมยังรู้สึกนุ่ม ๆ ยังไงก็ไม่รู้ด้วย ความรู้สึกแถว ๆ แขน มันนุ่มนิ่มยังไงก็ไม่รู้
ฟูกสองอันก็ห่างกันพอสมควร
แต่ว่าในช่วงไม่กี่วันมานี้ ฟูกอีกอันก็กลับว่าง
ทั้งที่น่าจะได้นอนแยกกันแท้ ๆ แต่ก็กลับตื่นขึ้นมาด้วยกันซะงั้น
สโนว์มากระซิบผมว่า “นอนไม่หลับน่ะค่ะ” แล้วก็กลายมาเป็นแบบนี้หลายวันแล้ว
ทำเอาผมอดคิดไม่ได้เลยว่าเธอตั้งใจทำรึเปล่า
ตอนนี้เป็นเวลาตี 3 ครึ่ง
ถึงตอนนี้จะเป็นฤดูใบไม้ผลิ แต่ก็ยังค่อนข้างหนาวอยู่เลย
ถึงุปกรณ์ให้ความอุ่นที่นุ่มนิ่มนี่จะค่อนข้างดีก็เถอะ แต่ถ้าผมเอาแขนออกล่ะก็คงวุ่นวายแน่…แต่จะว่าไปแล้ว นี่ยัยนี่กำลังคิดจะหลอกเอาเงินผมอยู่ปะเนี่ย?
ผมหลีกเลี่ยงการล่อลวง และลุกออกจากเตียง
อาจจะเพราะเธอเหมือนเด็กที่จะนอนไม่หลับถ้าไม่ได้กอดตุ๊กตา
เวลาที่ผมพยายามจะลุกโดยไม่ให้เธอตื่น สโนว์ก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับตาที่สะลึมสะลืออยู่ดี
“……”
“นี่เธอเข้ามาในฟูกของฉันอีกแล้วนะ ไปนอนซะไป นี่ยังเพิ่งตี 3 เองนะ”
“……”
สโนว์ยิ้มออกมาอย่างไร้การป้องกันพร้อมผมที่ปล่อยลงมา
“ไปดีมาดีนะคะ ท่านฮิอิโระ…”
“……”
ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ ฉันต้องปกป้องยูริ
พอผมเอาชนะการล่อล่วงของปีศาจนั่นมาได้ ผมก็ออกไปข้างนอก ผมก็เห็นคุณลิลลี่กำลังทำความสะอาดอยู่
พอคุณเมดเห็นผมใส่ชุดฝึกซ้อม เธอก็เดินเข้ามาหาผมพร้อมรอยยิ้ม
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านซันโจ”
“อ๊ะ หวัดดีครับ อรุณสวัสดิ์นะครับ ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะครับ”
เธอเอามือปิดปากและหัวเราะคิกคักออกมา
“ท่านซันโจนี่ ตื่นเช้าตลอดเลยนะคะ”
“พอดีว่าต้องไปฝึกน่ะครับ…แล้วคุณลิลลี่เองก็ตื่นเช้าเหมือนกันนี่ครับ? หรือว่าจะแอบฝึกอยู่ด้วยเหรอครับ?”
“ไม่หรอกค่ะ”
เธอยิ้มขณะที่ถือไม้กวาดไปด้วย
“ถึงจะปล่อยให้ผู้รับเหมาจัดการแล้ว แต่ที่นี่ก็คือหอพักที่ตระกูลไอซ์เบิร์ตบริหารอยู่ ยังไงมันก็ไม่สามารถที่จะดูแลทั้งหมดได้อยู่แล้ว เพราะงั้นนี่ก็ถือเป็นหน้าที่ที่ดูแลให้ทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ”
ช่างเป็นเมดที่ประเสริฐอะไรแบบนี้นะ…มีความเคารพต่อผู้เป็นนายเอามาก ๆ เลย
ผมนี่อยากจะให้เมดหัวขาวที่เตะเจ้านายได้คนนั้นมาเรียนรู้อะไรดี ๆ จากเธอบ้างจัง
“งั้นเหรอครับ ถ้างั้นเราก็ต่างคนต่างมาพยายามไปด้วยกันเถอะนะครับ งั้นก็ขอตัวนะครับ”
“อ๊ะ ช่วยรอเดี๋ยวก่อนนะคะ”
คุณลิลลี่หยิบหวีออกมาจากกระเป๋าแล้วเอามาหวีให้ผม
“ผมยุ่งอยู่นิดหน่อยนะคะ”
“อ๊ะ แบบว่าขอโทษด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณครับ”
“ไปดีมาดีนะคะ”
คุณลิลลี่โค้งคำนับให้
ผมวิ่งไปบนถนนพร้อมกับคิดไปด้วยว่าเธอนี่แหละคือแบบอย่างที่ดีของการเป็นเมดไปด้วย
จากนั้นผมก็มาถึงที่สวนสาธารณะ
อาจารย์ของผมที่รอคอยอย่างกระวนกระวายก็ได้เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับมุเมย์ โบฮิในมือ
“เร็วมาก!! ถึงจะกระหนุงกระหนิงกับคู่หมั้น แต่ก็ยังมาเร็วขนาดนี้เลยสินะคะเนี่ย!!”
“อาจารย์เนี่ย เป็นแบบที่เขาเรียกว่าไอ้นั่นสินะ แบบว่าแค้นฝังหุ่นน่ะ…ว่าแต่นั่นคือคำชมเหรอครับ?”
“ค่าาา!!”
“เสียงดังแต่เช้าเลยเลยนะ…แต่ก็เป็นคำตอบที่ดีเลย…!”
ผมรีบเหวี่ยงดาบในทันที
ถึงจะเคยพูดไปแล้วก็เถอะ แต่มันก็ไม่ใช่แค่การเหวี่ยงดาบง่าย ๆ เลย
พอติดตั้งคอนโซล [การสรรค์สร้าง : คมดาบ] แล้ว มันก็จะสร้างคมดาบไร้ธาตุขึ้นมาและรักษามันไว้ด้วยพลังเวทย์
แต่ถึงจะบอกว่าเป็นดาบก็เถอะ แต่มันก็ต้องมีความเป็นดาบอยู่ครบด้วย
ต้องมีทั้งความยาว ความกว้าง ความแข็ง และรูปร่างใบดาบ และส่วนโค้งงอ…
สิ่งเหล่านี้ก็คือสิ่งที่จำเป็นต้องจินตนาการไว้ในใจด้วย
เพราะถ้าไม่จินตนาการหลุดไปเมื่่อไหร่ รูปร่างของดาบมันก็จะเปลี่ยนไปในทันที
ถ้าดันเกิดเรื่องแบบนั้นระหว่างสู้จริงขึ้นมาละก็ ถือว่าลาก่อยทันที
จนถึงตอนนี้ผมก็แทบจะยังไม่เคยคิดถึงเรื่องระยะหรือทักษะการใช้ดาบอะไรเลย…
ผมมีแค่สไตล์การต่อสู้ที่ใช้แค่กล้ามเนื้อและสมองที่อิงจากค่าพลังเท่านั้นเอง
แต่สิ่งนั้นมันก็มีขีดจำกัดอยู่ล่ะนะ
ถ้ารักษาท่าทางและพลังเวทย์ให้ถูกต้องได้ล่ะก็ มันจะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ แน่นอน
“อึก!?”
ผมถูกมุเมย์ โบฮิตีเข้าที่หลังมือ เพื่อให้แก้ไขท่าทางใหม่
“…ไม่ใช่แบบนี้”
ในเวลาแบบนี้อาจารย์ก็ค่อนข้างไร้ความปราณีเลยทีเดียว เพราะแบบนั้นร่างกายผมเลยมีแต่รอยช้ำเต็มไปหมด
ผมยังคงเหวี่ยงดาบต่อไปในขณะที่ถูกจ้องมองด้วยตาสีฟ้าคู่นั้น
มันอาจจะดูรุนแรง แต่นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา
เพราะถ้าอาจารย์ไม่เคี่ยวเข็ญ แล้วผมดันทำท่าไม่ถูก ผมก็คงจะต้องตายในการต่อสู้จริงแน่นอน
ถ้าจะใช้ได้อย่างจริง ๆ จัง ๆ ล่ะก็ ต้องรักษาความรู้สึกแบบเร่งด่วนเอาไว้ให้ได้
ถ้าการตีแรง ๆ นี่ไม่ได้ใส่ฝักดาบไว้ล่ะก็ผมคงตายไปแล้วล่ะ
ยิ่งความตึงเครียดกับความกลัวนี่อยู่นานเท่าไหร่ การฝึกก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
เดิมทีโลกนี้ก็เป็นโลกที่ถ้าไม่ยอมฝึกอย่างจริงจัง มันก็มีแต่ตายกับตายอยู่แล้วนี่นะ
ถ้าคุ้นเคยกับการต่อสู้จริงในการฝึกมากขึ้น มันก็จะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
เราหยุดพักเล็กน้อย
พอเห็นใบหน้าของผม อาจารย์ก็ถอดเสื้อของผมออกและเริ่มทายาให้
“……”
“……”
“…ก็ตั้งใจจะบอกมาซักพักแล้วล่ะนะ”
“เรื่องอะไรเหรอคะ?”
“มีสาวสวยมาทาอะไรบางอย่างบนตัวผู้ชายที่เปลือยอยู่ครึ่งตัวในสวนสาธารณะตอนเช้าเนี่ย…ถ้ามีใครมาเห็นเข้าล่ะก็ มันก็คงดูน่าสงสัยรึเปล่า?”
“สะ…สาวสวยเนี่ย! โธ่ ฮิอิโระนี่ก็ชมเก่งนะคะเนี่ย!”
“เป็นเด็กน้อยที่ไม่เข้าใจอะไรบ้างเลยรึไงครับเนี่ย?”
จริง ๆ แล้วก็ถือว่าเป็นคนใจดีอยู่นะ
เพราะอาจารย์ก็ทายาบนรอยช้ำของผมให้ แถมยังดูรู้สึกผิดด้วย เลยทายาให้อย่างระมัดระวัง
แต่นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นบรรยากาศที่ดูน่าสงสัยสุด ๆ
“ผมทาเองได้น่า”
“ม่ายด้าย! ไม่ได้ค่ะ ปล่อยให้ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ อาจารย์ไม่ปล่อยให้ทำแบบนั้นหรอกนะคะ! มู่!”
มา “มู่” อะไรกันเล่า อายุก็ตั้ง 420 ปีแล้วไม่ใช่เรอะ…!
หลังจากที่อาจารย์สนุกการการทายาไปมา ผมก็เริ่มฝึกนีลแอร์โรว์อีกครั้ง
แต่มันก็ไม่เข้าเป้า
“อืม…?”
ยังคงที่ไม่พองั้นเหรอ?
ยังคงอ่อนเหลาะแหละเหมือนเคยเลย
ผมวางนิ้วชี้และนิ้วกลางไว้ และเล็งตรงหน้า แต่ก็ยังพลาดเป้า
นีลแอร์โรว์นั้น เป็นเวทย์ที่จะเปลี่ยนกระสุนเวทย์ให้กลายเป็นลูกธนู
ต้องจินตนาการให้พลังเวทย์ภาพรางเส้นทรงกระบอก
จากนั้นก็ยิงออกไปด้วย [การทำงาน : ยิง] เพื่อยิงกระสุนเวทย์ออกไป
เพื่อจะให้กระสุนโดนเป้า ก็ต้องใช้ [ธาตุ : น้ำ] และ [การสรรคสร้าง : ลูกธนู] เพื่อสร้างลูกธนูน้ำ
พลังเวทย์ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยอุปกรณ์เวทย์ ก้จะเพิ่มระยะทางและความเร็วในการยิงมากขึ้น
ทำให้ลูกธนูน้ำที่สร้างขึ้นมายิงออกไปตามทิศทาง
ลูกธนูน้ำที่สร้างมาในตอนแรกนั้นก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าก้อนมวลพลังเวทย์ที่มองเห็นได้ แม้การสร้างลูกธนูน้ำจะถูกยกเลิกในครั้งแรก แต่นักเวทย์ก็ยังสามารถควบคุมจินตนาการไว้ได้
เพื่อการนั้นแล้ว ก็จะต้องรวบรวมพลังเวทย์ไว้ และสร้างลูกธนูใหม่ไว้จะได้โดยไม่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่
นั่นแหละคือหลักการทำงานของนีลแอร์โรวล่ะ
พลังเวทย์ก็เหมือนกับของสะสมพลังของนักเวทย์
มีอยู่ทั้งในอากาศแล้วก็ในร่างกาย ซึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรโดยตรงต่อร่างกายมนุษย์
เพราะงั้นต่อให้กระสุนเวทย์จะโดนตัวผมมันก็ไม่รู้สึกอะไรเลย
เพราะเหตุนี้แหละ ถึงต้องใช้การสรรค์สร้างลูกธนูขึ้นมาเพื่อให้ใช้เป็นอาวุธได้
หรือควรจะสร้างไว้ตั้งแต่เริ่มเลยดีนะ?
การจะทำนีลแอร์โรว์ให้สำเร็จได้นั้นมันก็ต้องอาศัยพลังเวทย์ในการยิงผ่านอากาศและสร้างลูกธนูอีกลูก
“……”
ขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอยู่นั้น อาจารย์ก็เฝ้ามองผมอย่างมีความสุข
นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วสำหรับการยิงธนู ผมยังคงต้องสร้างลูกธนูให้มีรูปร่างที่ถูกต้องการเพื่อที่จะฝึกฝน
ซึ่งก็น่าจะทำให้พลังเวทย์เพิ่มขึ้นไปในตัวด้วย
พอผมตัดสินใจได้แบบนั้น ผมก็ตัดสินใจแยกกับอาจารย์และกลับไปที่โรงเรียนโอโตริ
“……”
“……”
“…ฮึ่ม!!”
จากนั้นผมก็ไปเข้ากลุ่ม และก็ได้รู้สึกถึงความอึดอันระหว่างสึกิโอริกับคุณหนู
ในคาบโฮมรูมก็ได้มีการให้ต่างฝ่ายต่างแนะนำตัวกัน…แล้วจากนั้นอาจารย์มาริน่าก็เข้ามา
แต่บรรยากาศในห้องนั้นมันตึงเครียดมากจนอยากให้เธอเข้ามาช่วยสุด ๆ เลย
“ฉันคือทายาทของตระกูลมาร์เจไลน์ พอมาคิดว่าฉันจะต้องมาอยู่กลุ่มกับผู้ชายแบบนี้นี่มัน…ขอปฏิเสธล่ะค่ะ ขอปฏิเสธค่า!!”
“ทำไมถึงต้องพูดถึงตั้งสอ–“
“ขอปฏิเสธล่ะค่า!!”
พูดไปสามครั้งแล้วนะ เด็กคนนี้…
“งั้นก็ออกไปซะสิ”
สึกิโอริหาวออกมาด้วยความง่วง
“สำหรับฉันน่ะ ขอแค่มีฮิอิโระคุงอยู่ด้วยก็พอแล้วล่ะ”
“แหม ๆ สนิทกันน่าดูเลยนะคะเนี่ย”
คุณหนูปากร้ายโอฟิเลียใช้พัดสีฉูดฉาดที่เอามาจากไหนก็ไม่รู้พัดหน้าตัวเองอย่างงดงาม
“นี่หรือว่าจะกำลังคบกับผู้ชายอยู่งั้นเหรอคะ? ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ มันก็เหมาะสมสำหรับคนระดับล่างด้วยกันแล้วล่ะ–“
“อื้ม พวกเรากำลังคบกันอยู่ล่ะ”
ไม่รู้เพราะมีคนฟังอยู่รึเปล่า ทั้งห้องก็เลยเกิดความโกลาหลกันใหญ่ จนถึงขั้นที่บางคนถึงกับยืนเลยทีเดียว
“……”
ลาพิสจ้องมองมาที่ผมด้วยสีหน้าตกใจ
“……”
พอผมหันไปอีกทาง เรย์ก็จ้องมองมาที่ผมแบบไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย
“นี่ ฮิอิโระคุง”
สึกิโอริวางหัวบนไหล่ของผม
เธอเงยหน้าขึ้นมาและยิ้ม
“เหวอ!! อย่ามาล้อกันเล่นสิ สึกิโอรี้!! เธอกับฉันเป็นแค่เพื่อนกันนะ ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น!!”
“แต่ว่าเราก็อยู่ใต้ชายคาเดียวกันนี่นา?”
“นั่นมันก็เพราะเราอยู่หอเดียวกันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนี่!!!”
“ฮุฮุ ช่างไร้ยางอายซะจริง ๆ ! คบกับผู้ชายอันต่ำต้อยได้แบบนี้ มันช่างไร้สม–“
“แล้วคุณมีคนที่กำลังคบด้วยอยู่รึเปล่าล่ะ?”
“เอ๊ะ”
สายตาของเพื่อนร่วมชั้น เบนไปทางคุณหนูปากร้าย
ทางด้านคุณหนูเองที่ดึงความสนใจของเพื่อนคนอื่นก็ถึงกับติดอ่างไปเลย
“นะ…แน่นอนอยู่แล้วว่ามีสิคะ…นั่นไงล่ะคะ…เอ่อ…คนรัก… มีประมาณ 500 คนล่ะมั้งนะ?”
อย่าไปคล้อยตามเธอสิ!! กลับมาเดี๋ยวนี้คุณหนู!!
“เห ถ้างั้นตอนกลางคืนคงจะลำบากเลยสินะ”
“กะ…กลางคืน…? ชะ…ใช่แล้วล่ะค่ะ ปกติก็จะมีปัญหาเรื่องโต๊ะอาหารไม่พอคนอยู่นะคะ…?”
คุณหนู….คุณหนู๊…! (ร้องไห้)
ไม่ไหวสินะ
หลังคุณหนูรู้ตัวว่าเธอตอบพลาดไป เธอจึงหน้าแดงขึ้นมา
“จะ…จะเอาไว้เลยนะคะ!!”
เธอวิ่งผ่านอาจารย์มาริน่าไป และหายไปกับสายลมอย่างเจิดจ้า
สึกิโอริที่อยู่ข้าง ๆ ผม ก็หัวเราะออกมาราวกับว่ารู้สึกภูมิใจในตัวเอง
“…สึกิโอริ อย่าไปแกล้งกันขนาดนั้นสิ”
“ก็มันน่าสนุกดีนี่นา”
นั่นมันถือเป็นยูริรึเปล่า?(รีแอ็คใน 0.05 วินาที)
หวังว่าจะเข้ามาท้าทายกันใหม่นะ…แต่ถึงตอนนั้นฉันก็จะเอาชนะให้ได้อยู่ดี”
“พอเวลานั้นมันถึง ฉันจะทำทุกอย่างเพือหยุดเธอเอ–“
มีเสียงดึงเก้าอี้ดังขึ้
เรย์นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางที่ดูสง่างาม จากนั้นก็ยิ้มให้สึกิโอริ
“คุณสึกิโอริ ซากุระ”
สายตาขณะที่พูดของเธอดูไม่ยิ้มแย้มเลยซักนิด
“ฉันขอท้าคุณค่ะ”
“…เห”
ผมถึงกับตกตะลึงที่สึกิโอริกับเรย์กำลังจ้องมองกัน
“……”
เดี๋ยวดิ ทำไมล่ะเนี่ย!?