ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 517: หน้าที่ (1)
บทที่ 517: หน้าที่ (1)
บุตรแห่งซูซะยังคงพยายามค้นหาต่อไปขณะที่เขาหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
ไอ้เด็กนั่นเป็นใครกัน?! มันเพิ่งผ่านไปเพียงสิบนาทีเท่านั้น แต่อีกฝ่ายกลับสามารถเรียกกำลังเสริมมาได้เนี่ยนะ?! หรือว่ามันจะเป็นลูกชายของจ้าวนรกแห่งยมโลกกัน?!
ไม่…นี่ไม่ใช่เวลามาคิดถึงเรื่องพวกนี้ สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือการหาตัวลีจองซุกและออกไปจากแผ่นดินจีน! การจับกุมตัวยมทูตนั้นไม่สามารถเป็นไปได้อีกแล้ว! ตอนนี้สิ่งเดียวที่มันหวังก็คือหลบหนีจากการจับกุมไปให้ได้!
ดวงตาของบุตรแห่งซูซะแดงก่ำขึ้นจากความหวาดกลัวที่ผุดขึ้นภายในใจ ขนบนร่างของมันลุกชัน ทันใดนั้น มันรีบประสานอินเพื่อระดมกำลังของขบวนร้อยอสูรของตนเอง แต่ถึงอย่างนั้น…มันกลับเปล่าประโยชน์
“นี่พวกมันกำลังโค้งคำนับเพื่อตอบรับการมาถึงของขั้นพระยมอย่างนั้นหรือ?! บัดซบ!!” ความกลัวเข้าปกคลุมจิตใจ ก่อนที่จะเริ่มกัดกินความหวังสุดท้ายที่เหลืออยู่ บุตรแห่งซูซะคำรามออกมาอย่างเดือดดาลและตวัดกรงเล็บไปยังเหล่าวิญญาณที่อยู่ตรงหน้าอย่างสิ้นหวัง แต่ก็ยังหาตัวลีจองซุกไม่พบ
นางอยู่ที่ใดกัน?!!
กึก กึก กึก…
ฟันของมันกระทบเข้าด้วยกันจนเกิดเสียงดัง อนาคตของมันดูมืดมนเป็นอย่างมาก เทพแห่งความตายได้ปรากฏตัวขึ้นในจีน แผ่พลังหยินที่ทรงพลังออกมาจนทำให้มันรู้สึกไม่ต่างอะไรกับลูกแกะตัวอ้วนที่อยู่ตรงหน้าของเสือที่ดุร้าย ความหวาดกลัวค่อย ๆ เข้าเกาะกุมหัวใจทีละน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่มันรู้สึกเสียใจที่ตัวเองก้าวเท้าเข้ามาในแผ่นดินจีน
ในขณะเดียวกัน ผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนกลับมองไปยังที่ตั้งของพื้นที่โครงการพัฒนาเหมาหยวนด้วยความรู้สึกมากมายที่เอ่ยล้นขึ้นมาภายในใจ
ในที่สุดยมโลกก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง…เป็นครั้งแรกในรอบร้อยปี ในที่สุดยมโลกก็ลงมือ! แต่…เขาอยากรู้จริง ๆ ว่าครั้งนี้ยมโลกได้ส่งใครมา?
เพราะว่าเป็นหนึ่งในสามผู้ฝึกตนที่ทรงพลังที่สุดในจีน เขาจึงรู้ข้อมูลมากกว่าคนส่วนใหญ่ ด้วยไม่ว่าอย่างไรแล้ว ผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์ก็ได้ส่งต่อมรดกของพวกเขาจากรุ่นสู่รุ่น และทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกจดบันทึกไว้อย่างละเอียด ในวินาทีนั้น เขารีบนึกย้อนไปถึงบันทึกที่ตนเองเคยอ่านทันที
นี่คือการมาถึงของกองกำลังทหารวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนอย่างนั้นหรือ? หรือว่าเรากำลังพูดถึงตัวตนขั้นพระยมกันอยู่?
มันน่าจะเป็นทหารวิญญาณ เพราะการปล่อยให้ขั้นพระยมมาจัดการกับขั้นฝู่จวินนั้นคงจะนับว่ามากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น… ทหารวิญญาณที่มาถึงจะต้องมีจำนวนมากเพียงใดถึงสามารถทำให้เกิดการปะทุของพลังหยินที่รุนแรงเช่นนี้ได้?
เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง บุตรแห่งซูซะตวัดกรงเล็บของมันไปข้างหน้า ทำให้วิญญาณที่อยู่ภายในระยะสิบเมตรด้านหน้าสลายหายไปในฉับพลัน ร่างของมันสั่นเทาขณะที่กรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง “ออกมา… ข้าสั่งให้เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!!!”
ตู้ม!!
คลื่นพลังหยินที่รุนแรงกระเพื่อมออกจากร่างของบุตรแห่งซูซะขณะที่มันเปล่งเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวออกมาเป็นระยะเวลากว่าสิบวินาทีก่อนจะสลายไปในที่สุด
มันไม่ใช่เสียงคำรามจากความโกรธ
กลับกัน มันกำลังระบายความหวาดกลัวสำหรับสิ่งที่กำลังจะมาถึง มันคือการแสดงความบ้าคลั่งครั้งสุดท้าย
มันหวาดกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ มันสัมผัสได้ว่ามหาสมบัติพื้นฐานของยมโลกนั้นอยู่ห่างจากตัวเองเพียงไม่มากเท่านั้น และทั่วทั้งร่างของมันก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่มีต่อวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังชิ้นนี้!
ทันใดนั้น ทุกอย่างโดยรอบก็เงียบเสียงลง
มันเป็นความเงียบที่แสนจะกดดันและแสนจะบีบคั้น เป็นความเงียบที่เกิดขึ้นเมื่อผู้สูงศักดิ์แห่งสรวงสวรรค์เสด็จลงมาจากฟากฟ้า หากพูดกันตามตรง มันเงียบเสียจนขนสีขาวบนหลังของมันลุกชันไปหมด แม้แต่เงาดำที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็ดูเหมือนจะหดตัวกลับไปจากจุดที่พวกมันจากมา
มันหันกลับไปมองด้านหลังด้วยความหวั่นสะพรึง ในขณะเดียวกันผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนก็มองไปที่ด้านหลังของบุตรแห่งซูซะ มองดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยลมหายใจที่เริ่มติดขัด
มาแล้ว… พวกเขามาแล้ว!
ระดับสูงของยมโลกมาถึงแล้ว!
ภายในหัวของทั้งมนุษย์และปีศาจพลันขาวโพลนไปหมด ขนลุกไปทั่วทั้งร่าง แต่ถึงกระนั้น ปฏิกิริยาทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทันใดนั้น รอยแยกสีแดงเข้มก็ปรากฏขึ้นด้านหลังของบุตรแห่งซูซะราวกับคราบเลือดที่แปดเปื้อนอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า และจากนั้นพลังหยินที่ทรงพลังก็หลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น!
ตุบ! ตุบ!
ในวินาทีนั้น ทั้งบุตรแห่งซูซะและผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนพลันรู้สึกว่าเข่าของพวกเขาอ่อนแรงขณะที่ทั้งคู่คุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นทันที
พลังหยินที่แพร่กระจายออกมาจากรอยแยกไม่ได้มากมายนัก แต่มันกลับเข้มข้นและบริสุทธิ์อย่างไม่สามารถหาที่เปรียบได้! มันเป็นกลุ่มก้อนพลังหยินบริสุทธิ์ที่ทำให้ผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนต้องจ้องมองด้วยความตกตะลึง ภายในหัวของเขาเวลานี้มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น
ขั้นพระยม… ขั้นพระยมจริง ๆ!! นี่ตุลาการนรกตนนั้นมีความสำคัญถึงขนาดทำให้ขั้นพระยมต้องปรากฏตัวเลยอย่างนั้นหรือ?! ขะ…เขาเป็นใครกันแน่ ?!
ขั้นพระยมเดินทางมายังยมโลกจริง ๆ น่ะหรือ ?!
ใครกัน ? พระยมแห่งพระตำหนักทั้งสิบ ? หรือราชันย์วิญญาณทั้งหก ? หรือบางที…อาจจะเป็นบุคคลอื่นที่ไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นมาก่อน !
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ขั้นพระยมทั้งหมดล้วนเป็นผู้ที่มีเกียรติในตอนที่ยังมีชีวิต และเป็นวีรบุรุษในตอนที่ตายไปแล้ว ! การที่ได้เห็นบุคคลเหล่านี้ด้วยตาของตัวเองถือว่าเป็นเกียรติแก่ชีวิตของเขายิ่งนัก !
หัวใจของเขาแทบจะกระโจนออกมาจากอก การแพร่กระจายของพลังหยินย่อมนำไปสู่การลดลงอย่างรวดเร็วของอุณหภูมิโดยรอบ แต่มันกลับไม่สามารถดับเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ภายในใจของเขาตอนนี้ได้เลย
กึก กึก กึก…
ในขณะเดียวกัน บุตรแห่งซูซะกลับตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง
น่ากลัว… น่ากลัวมาก…
ความรู้สึกเหมือนกับกำลังถูกมือที่เย็นยะเยือกลูบไล้ใบหน้าของตัวเองภายในห้องที่มืดมิด และในวินาทีนั้น พลังหยินที่อยู่ภายในกายของมันก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว
ฟึ่บ...
ในเสี้ยววินาทีต่อมา ลำแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งออกมาจากรอยแยก และหยุดลงล้อมรอบร่างของบุตรแห่งซูซะอย่างเป็นระเบียบ
ลำแสงสีดำพวกนี้เปล่งประกายเจิดจ้าขณะที่มันเคลื่อนไหวไปรวมตัวกันเป็นร่างอันเลือนรางของเหล่าทหารวิญญาณที่ถือหอกและสวมทับด้วยชุดเกราะที่ดูแข็งแกร่ง พวกเขาทั้งหมดเข้าล้อมรอบร่างของบุตรแห่งซูซะอย่างรวดเร็วและเป็นระเบียบ ธงผืนใหญ่ที่ถูกปักด้วยคำว่า ‘ฉิน’ ปลิวไสวไปตามสายลมขณะที่ทหารวิญญาณทั้งหมดตะโกนออกมาพร้อมกัน “ด้วยคำพิพากษาจากนรก เหล่าวิญญาณทั้งปวงจงสูญสิ้น!!!”
ตุบ!
เขาทั้งสองข้างของบุตรแห่งซูซะอ่อนแรง และเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นในท้ายที่สุด
จากนั้น มือขนาดใหญ่สองข้างก็เอื้อมออกมาจากรอยแยกนั้น ราวกับว่ามันกำลังพยายามที่จะขยายรอยแยกนั่น!
สภาพแวดล้อมโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยเสียงเผาไหม้และลุกโชนของเปลวไฟนรก เงินกระดาษจำนวนนับไม่ถ้วนเริ่มตกลงมาจากท้องฟ้าเบื้องบน ในขณะที่เปลวไฟนรกโดยรอบเริ่มโหมกระหน่ำขึ้น
ชายร่างผอมที่แต่งกายด้วยชุดของข้าราชสำนักในสมัยราชวงศ์ซ่งก็ค่อย ๆ โผล่ออกมาจากรอยแยก ขณะที่สายตาของเขาจ้องเขม็งไปที่ร่างของบุตรแห่งซูซะ
ขั้นฝู่จวิน!!
ผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ฟุ่มเฟือยอะไรเช่นนี้! ไม่คิดเลยว่ายมโลกจะส่งขั้นฝู่จวินระดับสูงมา! ชายสูงวัยรู้สึกได้ว่าพลังปราณของเขาแปรปรวนอย่างรุนแรงทันทีที่วิญญาณขั้นฝู่จวินก้าวเท้าออกมาจากรอยแยกนั้น
มันคือปฏิกิริยาที่เกิดจากการป้องกันตัว
“นี่คือ… ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของยมโลกอย่างนั้นหรือ ?”
“ช่างเป็นยมทูตที่ทรงพลังจริง ๆ” ร่างของบุตรแห่งซูซะสั่นเทาอย่างรุนแรง มันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเลยสักนิด ยมทูตตรงหน้านี้แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ! มันไม่สามารถสู้กับอีกฝ่ายได้เลย!
“เจ้าคือขั้นฝู่จวินที่รับหน้าที่ดูแลพื้นที่ชายฝั่งเช่นนั้นหรือ?”
แต่ขั้นฝู่จวินของยมโลกกลับเมินเฉยคำถามนั้น เขาเพียงหันกลับไปหมอบลงกับพื้น “ราชาผีแห่งพิภพอสูรขอต้อนรับการมาถึงของท่านจ้าวนรก!”
“ท่านจ้าวนรกจงเจริญ!!” ทหารวิญญาณตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน ทะเลเพลิงที่อยู่ล้อมรอบพวกเขาลุกโชนขึ้นจนสูงเสียดฟ้า
กรงเล็บข้างหนึ่งก้าวออกมาจากความว่างเปล่า ตามมาติด ๆ ด้วยร่างที่สูงกว่าสิบเมตรของอสูรที่มีส่วนหัวเป็นเสือ เขาหนึ่งข้าง หูของสุนัข และร่างของมังกรที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทอง
เปลวไฟนรกที่อยู่โดยรอบสงบลง ราวกับว่ามันยอมจำนนต่อการปรากฏตัวที่ยิ่งใหญ่ของตี้ทิง
“นี่มัน…ตี้ทิง!!!”
ทั้งบุตรแห่งซูซะและผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ภายในหัวของพวกเขาตื้อไปหมด และทั้งคู่ก็พบว่าตนไม่สามารถประมวลผลอะไรได้เลย แต่ถึงกระนั้น ทั้งสองก็รีบก้มหน้าลงทันที
ไม่ว่าผู้ใดก็ต้องแสดงความเคารพต่อการมาถึงของจ้าวนรก มันไม่ใช่ความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ แต่มันคือคำเตือนว่า…ผู้ใดก็ตามที่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองจ้าวนรกจะต้องถูกสังหารทันที!
นี่คือความยิ่งใหญ่และอำนาจของจ้าวนรกแห่งยมโลก!
ผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนรู้สึกตื่นเต้นอย่างอดไม่ได้เมื่อนึกถึงความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้น
ความแข็งแกร่งของยมโลกนั้นอยู่เหนือจิตนาการของมนุษย์! เรากำลังพูดถึงการมาถึงของจ้าวนรก! มันคือการประกาศให้โลกได้รู้ไม่ใช่หรือว่ายมโลกพร้อมที่จะกลับมาจัดการเรื่องภายในโลกใต้พิภพอีกครั้งแล้ว ?
ด้วยอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ มันคงใช้เวลาอีกเพียงไม่กี่ปีก่อนที่สถานการณ์ในแดนมนุษย์จะกลับมาสงบสุขอีกครั้ง!
ความคิดพวกนั้นทำให้ขนบนร่างของเขาลุกชันไปหมด ชายสูงวัยกำมือแน่นขึ้น
นี่อาจจะเป็นความหวังของพวกเขา…
ทันใดนั้นเอง ฉินเย่ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ราชาผีแห่งพิภพอสูร”
บุตรแห่งซูซะและผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนอยากจะเงยหน้าขึ้นมอง แต่พวกเขาก็ต้องข่มความปรารถนาภายในใจของตัวเองเอาไว้
พวกเขาเพียงต้องการที่จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของจ้าวนรก แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย พวกเขาต่างหวาดกลัวความพิโรธของนรก
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของผู้เป็นนาย ราชาผีแห่งพิภพอสูรก็ค้อมศีรษะลงเล็กน้อย “ใต้เท้า”
ฉินเย่เหลือบไปมองบุตรแห่งซูซะและเอ่ยด้วยเสียงเย็นยะเยือก “การบุกรุกอาณาเขตถือเป็นการท้าทายอำนาจของยมโลก และการสังหารวิญญาณของยมโลกก็เทียบได้กับการประกาศสงคราม”
บุตรแห่งซูซะรู้สึกว่ามีก้อนบางอย่างอุดอยู่ที่ลำคอของตน ความกลัวและความหวั่นเกรงแพร่กระจายออกไปราวกับเนื้อร้ายที่ขยายไปทั่วร่าง ปิดกั้นความพยายามในการพูดไปจนหมดสิ้น
เขากำลังรอคอยคำตัดสินสุดท้าย
ฉินเย่สูดหายใจเข้าช้า ๆ และเอ่ยรอดไรฟัน “บทลงโทษตามกฎของยมโลกระบุไว้ว่าอย่างไร?”
กึก…
บุตรแห่งซูซะจิกกรงเล็กของตนลงกับพื้น
“ผู้ที่กระทำผิดจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต ผู้ที่ดูหมิ่นจะต้องสำนึกไปชั่วนิรันดร์!”ราชาผีแห่งพิภพอสูรตอบกลับด้วยความนอบน้อม
“ดี” ฉินเย่ยกมือขึ้น จากนั้นจึงกดลงอย่างแรง “กำจัดมันซะ!!”
คืนนี้ เขาจะสร้างชื่อเสียงให้กับโลกใต้พิภพของจีน!
“โจมตี!!!!” ในชั่วพริบตา ทหารวิญญาณจำนวนมากก็พุ่งเข้าใส่บุตรแห่งซูซะจากทั่วทุกสารทิศ ซึ่งกลุ่มที่นำทัพหน้าก็คือทัพเกราะทมิฬ พวกเขาวิ่งออกไปอย่างกล้าหาญ ลากทวนยาวของพวกเขาไปตามพื้น พร้อมที่จะโจมตีทันทีที่ถึงตัว!
ด้านหลังของพวกเขาคือพลหอก และปลายหอกของพวกเขาส่องประกายภายใต้แสงจันทร์สลัว ผืนดินสั่นสะเทือนจากเสียงร้องที่กล้าหาญ ในขณะที่บุตรแห่งซูซะตัวสั่นเทากับภาพที่เกิดขึ้น ในเวลานี้ ภายในหัวของมันมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น
ไม่… มันจะถูกจับไม่ได้! ทันใดนั้น ความกลัวที่เคยทำให้มันไม่สามารถขยับตัวได้ก็พุ่งสูงขึ้นจนกลายเป็นแรงจูงใจที่กระตุ้นหัวใจของมันอีกครั้ง พร้อมกับเสียงร้องแหลมสูง กรงเล็บของมันยืดออกมาอีกหลายสิบเมตรและตวัดไปยังทัพเกราะทมิฬที่อยู่ใกล้ที่สุด
เคร้ง!!
ทันใดนั้น ทัพเกราะทมิฬก็หยุดการเคลื่อนทัพของพวกเขาและชูทวนยาวในมือขึ้น กรงเล็บที่แหลมคมของฝ่ายตรงข้ามปะทะเข้ากับใบมีดของพวกเขาเข้าอย่างจัง ส่งผลให้เกิดประกายไฟที่กระจายไปในอากาศ กองกำลังทหารที่ได้รับแรงกระแทกกระเด็นถอยกลับไปหลายสิบเมตร และชนเข้ากับพลหอกที่ยืนอยู่ด้านหลัง
แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังคงเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของเหล่าทหารวิญญาณของยมโลกที่สามารถสกัดการโจมตีอันทรงพลังของขั้นฝู่จวินเอาไว้ได้
โฮกกกก!!!
ความหวาดกลัวภายในใจของบุตรแห่งซูซะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับการตวัดกรงเล็บอย่างทรงพลังอีกครั้ง มันกรีดร้องออกมาขณะที่พยายามจะบินขึ้นไปในอากาศและหลบหนีออกจากวงล้อมที่อยู่โดยรอบ แต่ทันทีที่มันทำเช่นนั้น ลูกดอกหน้าไม้จำนวนนับไม่ถ้วนก็ถูกยิงขึ้นมาในอากาศจนเกิดเป็นประกายแสงระยิบระยับที่พุ่งเข้าใส่บุตรแห่งซูซะ
พวกมันคือหน้าไม้ศักดิสิทธิ์เปลวไฟแห่งกรรม
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างของลูกดอกหน้าไม้เปลวไฟแห่งกรรม บุตรแห่งซูซะก็สูดหายใจเข้าช้า ๆ และสยายปีกของตัวเองออกมาอย่างไม่ลังเล เผยให้เห็นขนนกสีขาวที่พุ่งออกไปสกัดกั้นลูกดอกหน้าไม้ทั้งหมดที่พุ่งเข้าใส่ จากนั้น มันก็พุ่งตรงไปที่ชายฝั่งทันที
หนี…มันจะต้องหนีออกไปจากที่นี่!
ไม่มีทางที่มันจะรอดชีวิตออกไปได้หากมันยังคงชักช้าอยู่อย่างนี้!
ฉินเย่ไม่เอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แม้ว่าบุตรแห่งซูซะจะหนีห่างออกไป กลับกัน สิ่งที่เขาทำก็มีเพียงแค่เหลือบมองไปยังราชาผีแห่งพิภพอสูร
ร่างของราชาผีสั่นเทา จากนั้นจึงคำรามออกมาด้วยความโกรธ “บังอาจ!!!”
“เจ้าคิดว่ายมโลกคือสถานที่ที่เจ้าสามารถเข้าออกได้ตามใจชอบเช่นนั้นหรือ?!”
เสี้ยววินาทีต่อมา ช่วงอกของเขาก็แยกออก เผยให้เห็นทารกร่างสีดำสนิทที่เปียกโชกไปด้วยของเหลวที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่า มันจ้องมองไปยังร่างตรงหน้าที่ดวงตาแดงก่ำ จากนั้นก็ค่อย ๆ อ้าปากกว้าง
ตู้ม!!!
ทั้งโลกดูเหมือนจะเงียบเสียงไปในตอนนั้น
เปลวไฟนรกที่อยู่โดยรอบพากันมารวมตัวที่ปากของทารก จากนั้น วิญญาณและสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในรัศมีหนึ่งพันเมตรก็ลอยขึ้นจากพื้น…ก่อนจะพุ่งเข้าไปในปากของทารกเช่นกัน!