ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 518: หน้าที่ (2)
บทที่ 518: หน้าที่ (2)
เคร้ง เคร้ง…!
เสาโทรศัพท์โค้งงอและบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงก่อนจะพังทลายลง พื้นดินแยกออก แม้แต่พาหนะและต้นไม้ที่อยู่โดยรอบก็เริ่มลอยขึ้นจากพื้นและพุ่งเข้าไปในปากของทารก ที่ซึ่งมันถูกกลืน นเข้าไปในสิ่งที่ดูคล้ายกลับขุมนรกอันไร้ก้นบึ้ง!
ฟึ่บ...
หลังจากผ่านไปสามวินาที กระแสน้ำวนที่มีความกว้างกว่าร้อยเมตรก็ก่อตัวขึ้นตรงหน้าของทารก
“บัดซบ!!!” บุตรแห่งซูซะกรีดร้องออกมาขณะที่มันพยายามรวบรวมพลังหยินทั้งหมดภายในร่างกายตัวเองเพื่อหลบหนี แต่น่าเสียดายที่ความเร็วของมันมีแต่จะลดลง ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นจำนวน นมากกำลังฉุดรั้งร่างของมันเอาไว้ และหลังจากผ่านไปไม่นาน ก็พบว่าตัวเองแทบจะไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อของได้ด้วยซ้ำ
“นี่… ไอ้พวกนี้…” มันกัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์ขึ้นกว่าเดิม พยายามต่อสู้กับแรงที่มองไม่เห็นที่ดูเหมือนจะหยุดยั้งมันเอาไว้ แต่หลังจากผ่านไปเพียงสิบวินาที พร้อมด้วย เสียงร้องของความตื่นตะลึง ร่างของมันก็ร่วงลงจากท้องฟ้าราวกับอุกกาบาตที่ตรงเข้าสู่ปากของราชาผีแห่งพิภพอสูร
นี่คือพลังของยมทูตขั้นฝู่จวินระดับสูงของยมโลกอย่างนั้นหรือ?
ภายในหัวของบุตรแห่งซูซะว่างเปล่า มันอดไม่ได้ที่จะเริ่มตั้งข้อสงสัยในความสามารถของตนเอง
ทั้งมันและอีกฝ่ายต่างอยู่ในขั้นฝู่จวินทั้งคู่ แต่ทำไม…ฝ่ายตรงข้ามถึงสามารถจัดการมันได้ด้วยการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว?
แคว่ก!
การเสียสมาธิอาจนำไปสู่ความตาย ภายในชั่วพริบตา เสื้อผ้าที่มันสวมอยู่ถูกฉีกออก และขนบนหลังของมันก็ลุกชัน ราวกับว่าพวกมันกำลังพยายามต้านทานการโจมตีอันทรงพลังของราชาผี แ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ขนทั้งหมดบนหลังของมันถูกฉีกกระชากออกจากหลังและกลืนกินโดยราชาผีทันทีพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่โหยหวน
“หึหึ… ไร้ประโยชน์… ไร้ประโยชน์!” ราชาผีแห่งพิภพอสูรรู้สึกตื่นเต้นกับผลลัพธ์นั้น นี่เป็นงานแรกที่เขาได้รับมอบหมายโดยท่านจ้าวฉิน และเขาก็รู้ดีว่าตัวเองควรจะทำมันให้ส สำเร็จหากเขาต้องการจะทำให้ท่านจ้าวฉินคิดว่ามันยังมีประโยชน์ที่จะเก็บเขาเอาไว้
หนึ่งนาที…
ไม่ เขาจะต้องจบชีวิตของอีกฝ่ายภายใน 30 วินาที! เขาจะต้องทำให้ท่านจ้าวฉินรู้สึกว่าตนได้ตัดสินใจไม่ผิดที่ไว้ชีวิตเขา!
วี๊ดดดด!!! พร้อมกับเสียงผิวปากที่ยาวเหยียด ริมฝีปากของทารกที่อยู่ภายในอกของราชาผีก็หดเข้าหากัน ส่งผลให้แรงดูดที่เกิดขึ้นรุนแรงมากกว่าเดิม และบุตรแห่งซูซะก็ต้องตกตะลึงเมื อพบว่าพลังหยินของมันเริ่มรั่วไหลออกมาจากทุกรูขุมขนที่ขนของมันเคยอยู่! สายพลังหยินกว่าพันสายกำลังไหลออกจากร่างของมันและตรงเข้าไปในปากของทารกนั่น!
และมันยังไม่หมดเท่านั้น แต่ผิวหนังของมันยังเริ่มเหี่ยวเฉาจากการสูญเสียพลังหยินไปจำนวนมากอีกด้วย หากทุกอย่างยังเป็นเช่นนี้ มันจะต้องไม่ต่างอะไรกับฟองน้ำที่พ่นพลังหยินออก กมาเป็นแน่!
ไม่…มันจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้…มันจะถูกยมทูตพวกนี้จับตัวไปไม่ได้เด็ดขาด…!
ทันใดนั้น เขาก็ประสานอินเพื่อเปลี่ยนให้ร่างของตัวเองกลายเป็นลูกบอลพลังหยินที่มีขนาดใหญ่กว่าร้อยเมตร และในเสี้ยววินาทีต่อมา… มันก็ระเบิดออก!
การระเบิดที่รุนแรงจนพื้นดินโดยรอบสั่นสะเทือน
คลื่นกระแทกจำนวนมากกระเพื่อมออกไปราวกับคลื่นสึนามิพลังหยิน ด้วยการระเบิดที่ทรงพลังนี้ บุตรแห่งซูซะสามารถหลบเลี่ยงจากการจับกุมของราชาผีได้สำเร็จ หลังจากนั้น ร่าง ๆ หนึ่งก็พุ งออกมาจากกลุ่มเมฆพลังหยินและพุ่งตรงออกไปทันที
ตุ้บ!
ในวินาทีนั้น ประกายแสงสีเงินก็ส่องประกายขึ้น และร่างที่พุ่งตัวห่างออกไปก็ร่วงลงบนพื้นอีกครั้ง ราวกับยุงที่เพิ่งถูกตบ
ไม่มีผู้ใดมองเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น
พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการโจมตีเมื่อครู่มาจากที่ไหน หรือพุ่งไปทางไหนต่อ
ผู้ถือครองกระบี่เซวียหยวนตัวสั่นเทาขณะที่เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาไม่กล้ามองไปยังจ้าวนรกแห่งยมโลกโดยตรง แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าเขากำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศย่อมหมายความว่าเขา มีข้อได้เปรียบในการมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และภาพที่เห็นก็ทำให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปตามกระดูกสันหลัง
เขาไม่เห็นว่ามันเกิดจากอะไร แต่เขาสามารถบอกได้ว่าเมื่อครู่นี้ตี้ทิงขยับหาง
หากเขาเดาถูก...มันคงจะเป็นตี้ทิงที่ตบวิญญาณร้ายตนนั้นลงไป ชายสูงวัยลอบกลืนน้ำลาย นี่คือพลังของยมทูตขั้นพระยมอย่างนั้นเหรอ?
มันไม่สามารจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของยมโลกได้เลยหากไม่ได้เห็นกับตาของตนเอง
ตู้ม!!
ราวกับอุกกาบาต ร่างขนาดใหญ่กระแทกลงกับพื้นอย่างแรงจนเกิดเป็นหลุมลึกจากการกระแทกนั้น และภายในชั่วพริบตา เหล่าทหารวิญญาณที่อยู่โดยรอบก็ตะโกนออกมาสุดเสียง “โจมตี!!!”
พวกเขาพุ่งเข้าหาบุตรแห่งซูซะเหมือนฝูงนกแร้งหิวโหย
ภายในไม่กี่วินาที หอกและทวนจำนวนมากก็แทงลงไปยังหลุมขนาดใหญ่ สร้างเสียงกรีดร้องที่โหยหวนออกมาจากเป้าหมายขณะที่พลังหยินได้แพร่สะพัดไปทั่ว
“อ๊ากกกกก!!!” ด้วยเสียงร้องแห่งความโกรธ ร่างดังกล่าวพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นเพื่อต้องการที่จะหลบหนีไปจากการโจมตี
มันคือคาราสุเท็งงุ
ดวงตาสีทองของมันแดงก่ำขณะที่มันมองไปยังทหารวิญญาณที่อยู่โดยรอบด้วยสายตาบ้าคลั่ง มันตวัดกรงเล็บของตัวเองไปรอบ ๆ ก่อนจะได้รับการโต้กลับด้วยการโจมตีที่รุนแรงอีกครั้งหนึ่ง
เคร้ง…เคร้ง…เคร้ง!
อาวุธจำนวนมากแทงเข้าที่แขนและไหล่ของมัน แต่นั่นก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับมันเลยแม้แต่น้อย ภายในชั่วพริบตา คาราสุเท็งงุก็คว้าเข้าที่ร่างของทหารวิญญาณสองนายที่อยู่ข้ างตน ดวงตาสีทองของมันเต็มไปด้วยความโกรธเคืองขณะที่มันเงยหน้าขึ้นและตะโกนออกมาสุดเสียง “ตายซะ!!!”
กร๊อบ!
ข้อนิ้วของมันส่งเสียงออกมาเบา ๆ ขณะที่กำมือรอบลำคอของทหารทั้งสองแน่น ทว่าทันใดนั้น การฟันที่รุนแรงก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ตัดแขนทั้งสองข้างของคาราสุเท็งงุจนหลุดออกจากช่ว วงไหล่
“อ๊ากกกกกก!!!” ปีศาจญี่ปุ่นกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน พลังหยินอันไร้ขอบเขตหลั่งไหลออกมาจากจุดที่ถูกฟันขาด ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำเอามันแทบขาดใจ ในขณะเดียวกัน มือของราชาผีก็ กลับเข้าไปกุมไว้ภายในแขนเสื้ออีกครั้ง ในขณะที่ทารกที่โผล่ออกมาจากอกของเขาดูแปลกไปเล็กน้อย แทบจะเหมือนกับว่ามันคือหุ่นเชิดในการแสดงเสียงพากย์ “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้าก้าวเ เท้าเข้ามาในแผ่นดินจีนด้วยพลังอันน้อยนิดเช่นนี้”
ภายในไม่กี่วินาที ทหารวิญญาณจำนวนมากก็วิ่งเข้ามาและกดร่างของคาราสุเท็งงุให้แทบอยู่กับพื้น ยับยั้งการเคลื่อนไหวอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง
ราชาผีหันกลับไปด้านหลังด้วยรอยยิ้มประจบประแจง เขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างนอบน้อมขณะที่มอบดาบโครงกระดูกอันงดงามให้กับฉินเย่พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า “โปรดทำการลงโทษตามที่ใต้เท้าเ เห็นสมควร!”
ฉินเย่กระโดดลงจากหลังของตี้ทิงในทันที
เขาหยิบดาบโครงกระดูกขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย เด็กหนุ่มก้าวทีละก้าวเพื่อเดินเข้าไปหาคาราสุเท็งงุ จากนั้นจึงชี้ดาบยาวจ่อไปที่หน้าผากของวิญญาณตรงหน้า
“พยายามจะจับตัวข้าอย่างนั้นหรือ?” ฉินเย่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกขณะที่เขาค่อย ๆ แทงดาบเข้าไปที่หัวของคาราสุเท็งงุ ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องแห่งความทรมานก็ดังขึ้น
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงก่อเรื่องขึ้นในอาณาเขตของยมโลก หืม??” เขาฟันลงไป ส่งผลให้บาดแผลลึกปรากฏขึ้นที่หน้าผากของคาราสุเท็งงุ ที่ซึ่งพลังหยินจำนวนมากหลั่งไหลออกมา แต่ฉินเย่ ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น ความปรารถนาในการฆ่าของเขาไม่เคยรุนแรงเท่านี้มาก่อน
เทศกาลวันสารทจีน การเตรียมการทุกอย่างเป็นไปอย่างยาวนาน และประชากรของยมโลกก็กำลังมีความสุข เขาอยากให้งานเฉลิมฉลองผ่านไปโดยไม่มีข้อผิดพลาด เด็กหนุ่มอยากให้เทศกาลวันสารทจีนที่ ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในรอบร้อยปีได้ถูกจดบันทึกลงไปว่าเป็นงานเฉลิมฉลองที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของยมโลก
แต่ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเขากลับถูกทำให้แปดเปื้อนโดยยมทูตนอกอาณาเขตสองตน
“ฆ่าข้าซะ!” คาราสุเท็งงุกัดฟันกรอด “ยมโลกเป็นผู้กล่าวเองว่ายมทูตนั้นถูกสังหารได้ แต่จะถูกหยามเกียรติไม่ได้”
“นี่เจ้ากล้าเรียกตัวเองว่ายมทูตได้อย่างไรกัน?!” ฉินเย่กดดาบเข้าไปในกะโหลกของคาราสุเท็งงุลึกกว่าเดิม ส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามกรีดร้องออกมาอีกครั้ง
“ได้คิดบ้างหรือไม่ว่าเมื่อครู่นี้ตัวเจ้าได้ก่อความวุ่นวายขึ้นภายในอาณาเขตของผู้ใด?!”
ตุบ! เขาเหยียบลงไปบนหัวของคาราสุเท็งงุ กดอีกฝ่ายให้แนบลงไปกับพื้น เส้นผมของปีศาจญี่ปุ่นสยายไปทั่ว ความโกรธแค้นฝังลึกภายในขณะที่มันพยายามดิ้นรนและส่งเสียงขู่ฉินเย่อย่าง งน่าสะพรึงกลัว
“บังอาจ!!!” เมื่อเห็นเช่นนั้น ทหารวิญญาณที่อยู่โดยรอบก็รีบตรึงร่างของคาราสุเท็งงุด้วยแรงทั้งหมดของตนเองทันที และนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายไม่สามารถขยับตัวได้อีกครั้ง
ริมฝีปากของฉินเย่สั่นระริกด้วยความโกรธเกรี้ยว และเขาก็ไม่คิดที่จะเก็บงำมันไว้แม้แต่น้อยขณะที่ยังคงเหยียบลงไปที่หัวของอีกฝ่ายต่อไป “เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงสังหารวิญญาณของจี นในช่วงเทศกาลวันสารทจีน? แล้วกล้าดีอย่างไรถึงวางแผนที่จะจับตัวยมทูต?! ช่างกล้าเสียนี่กระไร…!”
“แต่ด้วยความพยายามของเจ้า ข้าจะมอบของขวัญที่เจ้าจะไม่มีวันลืมให้”
“มันจะเป็นของขวัญ…ที่เจ้าจะได้ลิ้มรสไปชั่วนิรันดร์”
สิ้นสุดเสียงพูด สมุดโบราณเล่มหนึ่งก็ลอยออกมาจากเสื้อของฉินเย่และไปหยุดอยู่ตรงหน้าของคาราสุเท็งงุ และค่อย ๆ กางออก
ในวินาทีนั้น วิญญาณทุกตนที่อยู่โดยรอบต่างคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อทำความเคารพ แม้กระทั่งตัวของราชาผีเอง
ไม่มีใครจับกุมร่างของคาราสุเท็งงุอีกต่อไป แต่ถึงกระนั้น มันกลับยังคงสั่นเทาขณะที่จ้องมองไปยังสมุดที่ได้กางออกตรงหน้าของตัวเอง
คำว่า ‘สมุดแห่งความเป็นตาย’ ที่ถูกปักอยู่ที่หน้าปกทำให้ภายในหัวของมันเต็มไปด้วยความหวั่นสะพรึง ความหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างราวกับกระแสไฟฟ้า และมันก็กรีดร้องออกมาสุ ดเสียงทันที “ไม่…เจ้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้! เจ้าทำเช่นนี้ไม่ได้!!!”
“ข้าทำได้แน่” ฉินเย่หันหน้าสมุดไปทางคาราสุเท็งงุ “เพราะว่าข้า…คือจ้าวนรกองค์ที่สามของยมโลกอย่างไรเล่า”
ฟึ่บ!!!
ประกายแสงสีขาวระเบิดออกมาจากหน้ากระดาษของสมุดแห่งห่อหุ้มร่างของคาราสุเท็งงุโดยสมบูรณ์ พลังหยินที่อยู่ภายในร่างของคาราสุเท็งงุนิ่งสนิท และร่างมายาที่เลือนรางร่างหนึ่งก ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของมัน
มันคือร่างขนาดหนึ่งนิ้วของคาราสุเท็งงุกำลังดิ้นรนและกรีดร้องออกมาด้วยความกลัว
“อย่าทำเช่นนี้! ได้โปรด…ข้าขอร้อง!!” คาราสุเท็งงุเอ่ยออกมาด้วยเสียงที่สั่นเทา “อย่าทำเช่นนี้… บิดาของข้าคือซุซะโนะโอะ! ปล่อยข้าไป แล้วเขาจะต้องตบรางวัลให้กับความมีเ เมตตานี้อย่างงาม!”
ฉินเย่แค่นหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ร่างขนาดหนึ่งนิ้วของคาราสุเท็งงุได้ปรากฏออกมาแล้ว และอีกฝ่ายก็กำลังพยายามหดกลับเข้าไปในหน้าผากของตัวเอง แต่มันกลับเปล่าประโยชน์
“ซุซะโนะโอะ… อยู่ขั้นพระยมหรือไม่?”
ราชาผีแห่งพิภพอสูรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉินเย่เพียงก้มหน้าตอบอย่างเคารพ “ไม่น่าจะเป็นไปได้ ใต้เท้า วิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่ผู้ใดอื่นแต่คืออิซานามิที่อยู่ข ขั้นฝู่จวินระดับสูง ซุซะโนะโอะ…น่าจะอยู่เพียงแค่ขั้นฝู่จวินระดับกลางเท่านั้น”
ฉินเย่พยักหน้าและหันกลับไปหาคาราสุเท็งงุ “นี่เจ้ากำลังพยายามที่จะเจรจาต่อรองกับโลกใต้พิภพของจีนด้วยสิ่งเหล่านี้จริง ๆ น่ะหรือ?”
คาราสุเท็งงุตัวสั่นเทา ทันใดนั้น เขาก็นึกถึงภาพที่อิซานามิก้มศีรษะให้ผู้ปกครองของยมโลก หากพูดกันตามตรง เขาจำได้ด้วยซ้ำว่าเขาเคยเห็นเหล่าผู้นำของโลกใต้พิภพทั้งหมดในทว วีปตะวันออก ยกเว้นแต่ผู้นำของโลกใต้พิภพแห่งฮินดูสถาน ทั้งหมดล้วนตัวสั่นเทาขณะที่ต้อนรับมหาอำนาจทั้งสอง จากนั้น ภายในหัวของมันก็หวนนึกถึงวันคืนแห่งความรุ่งโรจน์ในตอนที่จ้า าวนรกองค์ที่สองยังคงปกครองยมโลกแห่งเก่า
ในวินาทีนั้น ภายในใจของมันพลันเต็มไปด้วยความเสียใจ มันเสียใจที่โลกใต้พิภพของญี่ปุ่นนั้นไม่แข็งแกร่งพอ มันไม่พอใจกับข้อเท็จจริงที่ว่าโลกใต้พิภพของจีนกล้าทำตัวอาจหาญถึงเพียง งนี้ ที่สำคัญที่สุด มันเกลียดโชคของตัวเอง! มันปล่อยให้ลีจองซุกหลบหนีไปในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ได้อย่างไร?!
นอกจากนี้มันยังรู้สึกสิ้นหวังและหมดหนทาง บุตรของหนึ่งในวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของโลกใต้พิภพญี่ปุ่นจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเจรจาต่อรองกับโลกใต้พิภพของจีนได้อย่างไร?
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของฉินเย่ยังคงฉายชัดถึงเจตนาสังหารที่ชัดเจน “เจ้าคงจะรู้กฎของยมโลกดี ผู้ที่กระทำผิดจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต ผู้ที่ดูหมิ่นจะต้องสำนึกไปชั่วนิรันดร์”
เมื่อเอ่ยจบ ฉินเย่ก็ปิดสมุดแห่งความเป็นตายลง และทันใดนั้น ร่างขนาดหนึ่งนิ้วของคาราสุเท็งงุก็ถูกดึงออกมาจากหน้าผากและลอยเข้าไปในสมุดแห่งความเป็นตายทันที
ในไม่ช้า ร่างที่เหลืออยู่ของคาราสุเท็งงุก็สูญเสียความเปล่งประกายและสีสัน รวมทั้งหัวของมันก็ตกลงเบา ๆ ขณะที่ร่างทั้งร่างล้มลงกับพื้น
จากดินสู่ดิน…
ฉึก! ฉินเย่ยกมือขึ้นและเหวี่ยงลงอย่างแรง แยกส่วนหัวของคาราสุเท็งงุและร่างของมันออกจากกัน จากนั้นเขาจึงหันไปหาทหารวิญญาณที่เหลืออยู่ “เอามันไป”
“นำไปวางอยู่หน้าสุสานผู้พลีชีพเพื่อไว้อาลัยให้กับเหล่าวิญญาณที่เราได้สูญเสียไปในวันนี้”
“รับทราบ!”
มันเป็นตอนนั้นเองที่ฉินเย่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกในที่สุด จากนั้น เขาจึงหันกลับไปมองยังท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไป
พระอาทิตย์มักจะขึ้นเร็วในช่วงฤดูร้อน ตอนนี้เป็นเวลาเพียง 04.30 น.เท่านั้น แต่ท้องฟ้ากลับเริ่มสว่างขึ้นแล้ว
ในที่สุด…ค่ำคืนแห่งความวุ่นวายก็กำลังจะจบลง
แต่ถึงกระนั้น…มันยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ!
คาราสุเท็งงุอาจจะถูกจัดการไปแล้ว แต่ยักษ์ทมิฬยังคงเหลือรอดอยู่! และข้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันได้เห็นแสงของวันใหม่เด็ดขาด!
“ตามหามัน” ฉินเย่กัดฟันแน่น “ต่อให้ต้องตามล่ามันไปจนถึงสุดขอบโลก ข้าก็ต้องเอาหัวของมันมาให้ได้!”
“รับบัญชา ใต้เท้า” ราชาผีแห่งพิภพอสูรเอ่ยตอบ
ทว่าทันใดนั้นเอง จิตใต้สำนึกของฉินเย่ก็หลุดออกจากร่างและพุ่งขึ้นไปยังจุดที่ผู้คนมักจะสวดภาวนาถึงเขา
และในขณะนี้…ภาพ ๆ หนึ่งก็กำลังกะพริบอย่างรุนแรง
มันคือภาพของลีจองซุก
นางกำลังพนมมือทั้งสองข้างและสวดวิงวอน “ช่วยด้วย…ช่วยฉันด้วย!”
“มันมาแล้ว…ตอนนี้มันกำลังยืนอยู่ที่หน้าสถานที่ที่ฉันกำลังซ่อนตัวอยู่!”
หญิงสาวกำลังซ่อนตัวอยู่ภายในวัดที่ทรุดโทรม นางถือปืนไว้ในมือ ขณะที่เอนหลังแนบกับด้านหลังของพระพุทธรูป
เสียงร้องที่แหบพร่าดังขึ้นให้ได้ยินจากอีกด้านหนึ่งของพระพุทธรูป มันเป็นเสียงอันน่าสะพรึงกลัวที่เสียดแทงหัวใจ คล้ายกับเสียงร้องโหยหวนของวิญญาณ
มันคือ…ยักษ์ทมิฬ!
อีกฝ่ายเจอตัวลีจองซุกแล้ว!