ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 520: หน้าที่ (4)
บทที่ 520: หน้าที่ (4)
เทศกาลวันสารทจีน ตอนนี้เป็นเวลา 04.50 น. แต่ท้องฟ้าด้านบนกลับเริ่มสว่างด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ
ไม่มีใครรู้ว่าโชคชะตาได้เตรียมอะไรไว้สำหรับพวกเขา มันอาจจะเป็นความเจ็บปวด หรืออาจจะเป็นความสุขก็ได้ ฉินเย่ไม่คิดว่าเลยว่าลีจองซุกจะร้องขอความช่วยเหลือออกมาในช่วงเวลาที่ มืดมนที่สุดในชีวิต เขาไม่คิดเลยว่ายักษ์ทมิฬจะยังมีไพ่ตายอีกใบซ่อนอยู่อีก และที่สำคัญที่สุด เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้มาพบกับคนจากหน่วยสอบสวนพิเศษในสถานที่ที่ห่างไกล เช่นนี้
คนเหล่านี้คือกลุ่มคนที่ฉินเย่ไม่อยากจะเจอเลยสักนิด
เขาควรทำอย่างไรดี?
ฉินเย่ลังเล…
หากช่วยลีจองซุก คนจากหน่วยสอบสวนพิเศษก็จะรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่ถ้าไม่ช่วย…
ฉินเย่กัดฟันกรอด เขารู้ดีว่าลีจองซุกไม่มีทางตาย แต่เขาก็ไม่สามารถมองข้ามมันไปได้
ครั้งหนึ่ง ยายเมิ่งเคยบอกว่าที่นางเลือกเขาก็เพราะว่าเขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยหลักการ และตอนนี้ ในเวลาวิกฤตเช่นนี้ หลักการของเขาก็เริ่มแสดงตัวออกมาแล้ว
ลีจองซุกจะไม่ตายเนื่องจากนางเป็นผู้ที่ได้กินเห็ดเทียนสุ่ยเข้าไป แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่านางเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉินเย่ และตอนนี้เขาก็ควร ทำในสิ่งเดียวกัน หากไม่ปฏิบัติตามหลักการของตัวเอง สิ่งนี้จะต้องเป็นการตัดสินใจที่กัดกินจิตวิญญาณของเขาไปอีกยาวนานอย่างแน่นอน…
เด็กหนุ่มเกลียดการที่ต้องมาจนมุมแบบนี้!
อย่าพูดอะไรเด็ดขาด ตราบใดที่เขาไม่พูด มันก็จะไม่มีใครจำเขาได้ เขาจะต้องกำจัดยักษ์ทมิฬโดยเร็วที่สุด จากนั้นก็พาลีจองซุกไปจากที่นี่ อย่างมากที่สุด เขาก็แค่ต้องไปลาออกจาก หน่วยสอบสวนพิเศษในวันพรุ่งนี้…
เด็กหนุ่มตัดสินใจในที่สุด เขายกมือขึ้น เรียกหอกไฟที่ก่อตัวขึ้นจากพลังหยินที่อยู่โดยรอบออกมา เสียงร้องที่แสนโหยหวนดังขึ้นในทุกย่างก้าวที่เขาเดิน ปลายหอกถูกลากไปบนพื้นจน เกิดเป็นประกายไฟขึ้น เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้กลุ่มก้อนพลังหยินนั้น
“เจ้าเป็นใคร?” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้นอย่างหวาดระแวง “ไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่รู้เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยมโลก แต่ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้ามาก่อน”
อย่าตอบนาง…ฉินเย่กัดฟันแน่นและเร่งความเร็วของตัวเอง จังหวะการเดินของเขาเร็วขึ้น และไม่นานเขาก็พุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดของตัวเอง! ปลายหอกที่ถูกลากไปบนพื้นสร้ างรอยลึกยาวไปตามทาง และเปลวไฟนรกก็ลุกโชนขึ้น!
เขาพบว่าตัวเองเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนมากมาย หากเป็นในอดีต เขาคงวิ่งหนีไปทันทีที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ตอนนี้…เขากลับกวัดแกว่งหอกในมือและพุ่งเข้าใส่ศัตรูที่อยู่ตรง งหน้าอย่างกล้าหาญ!
นี่เขาเปลี่ยนไปอย่างนั้นหรือ?
อาจจะใช่ และนั่นก็คงจะเป็นเหตุผลที่ทำไมผู้คนถึงมักพูดว่าความยากลำบากจะทำให้คนเราแข็งแกร่งขึ้น…
ฉินเย่กระโดดขึ้นจากพื้นและปล่อยให้กลุ่มก้อนพลังหยินที่หนาแน่นล้อมรอบร่างของตน ทันใดนั้น ร่างของเขาก็เริ่มพร่าเลือน แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงจ้องมองผ่านความมืดด้วยเปลวไฟสีทอง งที่ลุกโชนอยู่ภายในดวงตา เขาชูหอกขึ้นเหนือศีรษะ ท้องฟ้าเริ่มส่งเสียงร้องดังสนั่นด้วยความพิโรธ!
ฟึ่บ! ร่างสีแดงเข้มพุ่งลงมาจากด้านบน
เร็ว…
เร็วมาก!
นี่คือความแข็งแกร่งของขั้นฝู่จวิน เขาได้ยืมพลังของราชาผี ซึ่งแม้แต่โม่ฉางห่าวก็ไม่สามารถมองการเคลื่อนไหวของหอกได้ทัน ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับสายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างน่ าสะพรึงกลัว! พร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น หอกเล่มนั้นกลับกระเด็นออกจากร่างของเป้าหมาย!
ยักษ์ทมิฬหมุนตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่หอกจะทันปะทะเข้ากับร่างของตัวเอง จากนั้นก็ระเบิดพลังหยินที่ซึมลงไปกับพื้นอย่างรวดเร็วออกมา
พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่น่าขนลุก เงาดำที่อยู่โดยรอบต่างพุ่งตรงไปยังกลุ่มก้อนพลังหยินบนพื้นราวกับว่าพวกมันถูกดูดโดยแม่เหล็ก
เสียงอู้อี้เบา ๆ ดังขึ้นเหมือนกับเสียงคำรามแห่งความตายในยามรุ่งเช้า ภายในชั่วพริบตา เงาดำจำนวนมากที่อยู่ในรัศมีพันเมตรก็พุ่งไปยังกลุ่มก้อนพลังหยินและก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนข ขนาดสิบเมตรทันที
“อ๊ากกก...”
“ฮือออ… ทรมาน...”
“ข้ายังไม่อยากตาย…”
“ช่วยด้วย… ช่วยเราด้วย!!!”
เสียงร้องที่แสนทุกข์ทรมานดังก้องมาจากด้านในกระแสน้ำวนนั้น ใบหน้าที่แสนเจ็บปวดของมนุษย์ปรากฏขึ้นมาภายในใจกลางของน้ำวน ก่อนจะถูกกลืนกินเข้าไปในความบ้าคลั่งอีกครั้ง ทุกสิ่งทุ กอย่างค่อย ๆ ถูกดึงไปสู่จุดกึ่งกลางของกระแสน้ำวนดังกล่าว
ทั้งสองฝ่ายต่างมีเหตุผลที่ไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมา และพวกเขาก็กำลังใช้การกระทำตัดสินทุกสิ่ง
ไม่กี่วินาทีต่อมา กระแสน้ำวนพลังหยินที่น่าสะพรึงกลัวก็แยกออกพร้อมกับแสงสว่างวาบ มันหยุดหมุนชั่วคราวก่อนจะระเบิดออกเป็นสองส่วน!
พลังหยินและเปลวไฟนรกหลั่งไหลออกมาจากทุกทิศทาง กวาดล้างกลุ่มก้อนพลังหยินที่ปกปิดร่างของฉินเย่ไปจนหมดสิ้น ก่อนจะเผยให้เห็นกับความจริงที่ว่าหอกในมือของเขาได้เปลี่ยนเป็นเค คียวไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ มันยังมีธงวิญญาณจำนวนมากล้อมรอบร่างของเขา มีแม้กระทั่งสร้อยคอที่ทำจากกระดูกมนุษย์ด้วย การปะทะกันระหว่างพลังหยินทำให้ร่างมายาของเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง เสื้อผ้าและ ะเครื่องแต่งกายของเขาดูราวกับกำลังระเหิด เหมือนกับไอน้ำที่ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ภายในไม่กี่วินาที พลังหยินที่ระเหิดไปก็กลายเป็นนกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ส่งเสียงร้องออกมาดังลั่นขณะที พวกมันบินไปรอบ ๆ เขา
จากนั้น โลกก็ดูเหมือนว่าจะจมดิ่งสู่ความมืดมิด
ความมืดสนิท โดยไร้ซึ่งสัญญาณเตือนใด ๆ
มันก็เหมือนกับคนที่แล่นเรือผ่านมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยพายุ หรือการเดินผ่านนาข้าวท่ามกลางฝนฟ้าคะนองโดยมีสายลมที่รุนแรงพัดผ่าน และในวินาทีนั้น ดวงตาขนาดใหญ่ก็ลืมขึ้นท่ามกลา างความว่างเปล่าที่อยู่ด้านหลังของฉินเย่
ดวงตาดังกล่าวมีรูม่านตาที่เป็นแนวตั้ง ประกายที่สะท้อนบนแววตาฉายให้เห็นภาพของผู้หญิงที่สวมชุดกิโมโนสีดำ รอบตัวของนางถูกล้อมรอบไปด้วยดอกฮิกังบานะสีแดงเข้มที่บานสะพรั่ง
“กรี๊ดดดดด!!!” พร้อมด้วยเสียงกรีดร้องที่แหลมเสียดหู ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม จากนั้น ร่างของผู้หญิงในกิโมโนก็แยกออก เผยให้เห็น…ปากขนาดมหึมา!
และทันใดนั้น ดวงตาขนาดใหญ่ก็หายวับไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับตอนที่มันปรากฏขึ้น แต่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นก่อนที่ดวงตาสีแดงก่ำจำนวนมากจะลืมขึ้นท่ามกลางค ความมืดมิดที่อยู่โดยรอบ!
มันเป็นเหมือนกับฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด
มันเหมือนกับการหลงทางอยู่ในแม่น้ำแห่งความมืดอันเป็นนิรันดร์!!
นกสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนบินมาจากทั่วทุกสารทิศ แทบจะเหมือนกับว่ามันคือสายฝนที่ตกกระหน่ำ!
โจวเซียนหลงและโม่ฉางห่าวอ้าปากค้างด้วยความหวั่นสะพรึง โม่ฉางห่าวรีบประกบมือเข้าด้วยกัน ส่งผลให้แผ่นยันต์สีแดงภายในมือของเขากลายเป็นเกราะป้องกันสีขาวที่ก่อตัวขึ้น ทันใดนั น เสียงระเบิดจำนวนมากก็ดังขึ้นที่ผิวของเกาะป้องกันนั้น ส่งผลให้พลังปราณจำนวนมากจางหายไปในความมืด
“อดทน…อดทนไว้!!” โจวเซียนหลงกัดฟันแน่นและถ่ายเทพลังปราณของตนไปที่เกราะป้องกันโดยไม่คิดจะเหลือเอาไว้แม้แต่น้อย
กริ๊ก!
รอยร้าวรอยแรกปรากฏขึ้น
กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก!!!
หลังจากนั้น รอยร้าวนั้นก็ขยายออกไปเป็นรอยแตกขนาดใหญ่ แทบจะเหมือนกับว่ามันคือแก้วที่สามารถแตกได้ทุกเมื่อ!
เพล้ง!!
ไม่ถึงสิบวินาที เกราะป้องกันดังกล่าวก็แตกสลายไป ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนที่อยู่ภายในก็กระเด็นออกไป ก่อนที่คลื่นพลังหยินที่น่าสะพรึงกลัวจะพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างรวดเร็ว!
ทว่าในวินาทีนั้น ความมืดมิดนั้นก็สลายไป ดวงจันทร์ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้าอีกครั้ง และตอนนี้ฉินเย่ก็ปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังของดวงตาดังกล่าวและฟันเคียวของเขาเข้าไปใจกลางของ ดวงตานั้น
แต่ความพยายามของเขาดูเหมือนจะสูญเปล่า
ทุกคนสามารถมองเห็นแรงที่เขาทุ่มใส่เข้าไปในการโจมตีอย่างชัดเจน เส้นเลือดบนมือของเด็กหนุ่มนูนขึ้น แต่เขากลับไม่สามารถผ่าดวงตานั้นถึงครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ ตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ ห่างจากดวงตานั้นเพียงช่วงลมหายใจเท่านั้น และทันใดนั้นเอง ดวงตาตรงหน้าก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เราทั้งคู่ไม่มีฝ่ายใดแข็งแกร่งกว่ากัน”
“ชั่วโมงแม่มดใกล้จะมาถึงแล้ว ปล่อยยักษ์ทมิฬไป ข้าให้สัญญาว่าเขาจะไม่กลับมาเหยียบแผ่นดินจีนอีก! และข้าจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับยมโลกในปลายปีนี้อีกด้วย!”
เสียงที่เอ่ยออกมาของนางเจือไปด้วยความเร่งรีบ นางรู้ดีว่าอีกไม่นาน กองกำลังที่แข็งแกร่งกว่านี้จะมาถึง
ฉินเย่ยิ้ม
จากนั้น เขาก็กดเคียวในมือของตนลึกลงไปอีกหนึ่งมิลลิเมตร
“การตายของเจ้า…จะเป็นหลักประกันที่ดีที่สุดสำหรับคำสัญญานั้น”
กึก!
ผู้หญิงในชุดกิโมโนที่ยืนอยู่ ณ จุดกึ่งกลางของดวงตาจับใบมีดที่ฟันลงมาแน่นและเอ่ยต่อด้วยสีหน้าที่บิดเบี้ยว “เจ้าไม่กลัวชั่วโมงแม่มดเลยอย่างนั้นหรือ? มันไม่มีทางที่เราจะสาม มารถตัดสินผลแพ้ชนะได้ในเร็ว ๆ นี้! เหตุใดเจ้าจึงยึดติดกับการตายของยักษ์ทมิฬถึงเพียงนี้?!”
“มีเพียงความตายเท่านั้น…” ฉินเย่กัดฟันกรอดในขณะที่เขาพยายามรวบรวมพลังทั้งหมดในร่างเพื่อกดเคียวให้ลึกลงไปกว่าเดิม “ที่จะสามารถดับเปลวไฟแห่งความโกรธภายในใจของข้าได้…”
ทันใดนั้นเอง แสงสว่างจ้าก็ปะทุออกมาจากอกของเขาก่อนที่มันจะก่อตัวเป็นเกล็ดสีทองที่ลอยอยู่กลางอากาศ
มันคือเกล็ดของตี้ทิง
และในเวลาเดียวกัน เสียงไก่ขันก็ดังขึ้น แสงแรกของวันเริ่มโผล่ขึ้นมาให้เห็นแล้ว
05.00 น. ชั่วโมงแม่มด
ดวงดาวบนท้องฟ้าเริ่มถอยกลับเข้าไปในหมู่เมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ผืนดินเริ่มเปล่งประกายแสงสีทองอ่อนของดวงอาทิตย์ และในขณะนั้นเอง เสียงของตี้ทิงก็ดังขึ้นภายในหัวของฉินเย่ “ “ตีห้าแล้ว”
ตีห้า?
ฉินเย่ขมวดคิ้ว
อีกฝ่ายพยายามจะสื่ออะไรกันแน่?
แต่ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยต่อ เขาก็รู้สึกถึงความผันผวนอย่างรุนแรงของพลังหยิน
คลื่นพลังหยินพุ่งสูงขึ้นและลดต่ำลงราวกับมังกรที่เคลื่อนตัวผ่านเมือง จากนั้นโคมไฟที่ถูกถือโดยเหล่าวิญญาณภายในเมืองก็เริ่มดับลง
ฉินเย่รีบส่งจิตใต้สำนึกของเขาไปยังจุดที่ประตูนรกตั้งอยู่ทันที บานประตูขนาดใหญ่ค่อย ๆ ปิดลง วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยความหิวกระหายและความหวาดกลัว แต่ถึง งกระนั้น มันกลับไม่มีวิญญาณตนใดเลยที่กล้าเดินเข้าไปใกล้ประตูนรก
“นี่มันอะไรกัน…”
เขาเริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก เสียงของตี้ทิงดังขึ้นอีกครั้ง “ประตูนรกสามารถเปิดและปิดโดยตัวเจ้าหรือตัวแทนที่เจ้าได้มอบอำนาจของยมโลกให้เท่านั้น แต่ด้วยสถานการณ์ใ ในตอนนี้ เจ้ายังไม่สามารถมอบอำนาจให้วิญญาณตนอื่นได้ ดังนั้น…เจ้าจะต้องกลับมาดูการปิดลงของประตูนรกด้วยตัวเอง”
ฉินเย่อ้าปากค้างขณะที่จ้องมองไปยังปีศาจตรงหน้า “แล้วหากข้าไม่ปิดมันเล่า?”
“เช่นนั้นวิญญาณที่ได้รับพลังหยินบริสุทธิ์ของยมโลกก็จะยังเร่ร่อนอยู่ในแดนมนุษย์ต่อไป และพวกเขาก็จะเริ่มพัฒนาสามัญสำนึกทางจิตวิญญาณของตัวเองขึ้นในไม่ช้า …พวกเขาทั้งหมด” ตี้ท ทิงหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เรากำลังพูดถึงวิญญาณ 300,000 – 400,000 ตน มันเคยมีเหตุการณ์ที่ประตูนรกไม่ได้ถูกปิดลงอย่างสมบูรณ์เกิดขึ้นในอดีตมาก่อน และภายในเวลาเพียงแค่หกเดือน เมือ องทั้งเมืองก็กลายเป็นเมืองของคนตาย”
“นี่เป็นความรับผิดชอบของเจ้า มันคือความรับผิดชอบของจ้าวนรกแห่งยมโลก เจ้าจะต้องปิดประตูก่อนหกโมงตรง และขั้นตอนในการปิดประตูก็ใช้เวลาทั้งสิ้น 30 นาที”
ฉินเย่สูดหายใจเข้าช้า ๆ จ้องไปที่ดวงตาขนาดใหญ่ด้วยจิตสังหารที่รุนแรง ผู้หญิงในชุดกิโมโนหันไปสบตากับฉินเย่อีกครั้ง “มอบลีจองซุกและยักษ์ทมิฬมาให้ข้าและข้าจะไปจากที่นี่ท ทันที! ข้าจะไม่อยู่ขัดขวางการทำหน้าที่ของเจ้า!”
นางรีบเอ่ยต่อ “นอกจากนี้ โลกใต้พิภพของญี่ปุ่นจะมอบหินวิญญาณ 50 ล้านตันให้กับยมโลกเป็นการชดเชย บวกกับแบบจำลองที่ดีที่สุดของดาบคุซานางิ กระจกยาตะ และหยกรูปหยดน้ำ รวมไปถ ถึงยันต์ที่ดีที่สุดที่เรามีอีกด้วย”
“ในทางกลับกัน หากเจ้าไม่ตกลงรับเงื่อนไขนี้… เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้าออกไปจากที่นี่เช่นกัน!”
ฉินเย่กัดฟันแน่น บัดซบ…เขาจะยอมปล่อยยักษ์ทมิฬหลุดไปได้อย่างไร?! เพียงแค่คาราสุเท็งงุตนเดียวไม่สามารถใช้เป็นรากฐานของกงล้อแห่งสังสารวัฏได้ มันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเป็นร่าง งของบุตรแห่งซูซะเท่านั้น
นอกจากนี้…หลังจากที่พวกมันได้ทำลายเทศกาลสำคัญอย่างเทศกาลวันสารทจีนไปแบบนี้ เขาจะยอมปล่อยพวกมันไปได้อย่างไร?! เขาจะยอมปล่อยมันไปง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร?!
“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะใช้กำลังแย่งมันมาอย่างนั้นหรือ?”
“เจ้าอาจจะเป็นยมทูต แต่เจ้าก็ไม่ควรที่จะสบประมาทพวกเราที่เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน!” ผู้หญิงในชุดกิโมโนกัดฟันแน่นขณะที่นางจับใบมีดของเคียวแน่นกว่าเดิม นี่แสดงให้เห็นถึงความแ แน่วแน่ของนาง นี่เป็นทางเดียวที่นางจะสามารถกลับไปได้โดยที่ยักษ์ทมิฬยังรอดชีวิต!
“เจ้าเองก็คงจะรู้ดีว่าเจ้าไม่สามารถสังหารข้าได้!”