ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 537: ซากศพเดินได้ (3)
บทที่ 537: ซากศพเดินได้ (3)
“พระเจ้า!!!” แม่ของเด็กน้อยรีบอุ้มลูกของเธอขึ้นและวิ่งไปที่ด้านหลังของห้องโดยสาร ทว่าเด็กน้อยกลับจ้องมองภาพนรกบนดินที่เกิดขึ้นตรงหน้าของเธอด้วยความงงงัน
ซอมบี้หลายสิบตัวพุ่งเข้ามาจากห้องโดยสารข้างหน้า ปิดกั้นทางเดินระหว่างที่นั่งและคว้าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกมันสามารถทำได้ด้วยแขนที่ยื่นออกมาด้านหน้า ทั้งหมดล้วนมีสีหน้าที่บิด ดเบี้ยวและน่ากลัวขณะที่พวกมันจ้องมองไปยังเหล่ามนุษย์ที่อยู่ภายในห้องโดยสาร ราวกับว่า…ส่วนหน้าของเครื่องบินได้กลายเป็นนรกบนดินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“หนี!! หนีเร็ว!!!”
“นะ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน!”
“ปีศาจ?! นี่มันเรียกว่าเป็นไวรัสได้ด้วยเหรอ?!”
“ช่วยด้วย…ช่วยฉันด้วย…เอื้อก!!”
คนทั้งหมดพยายามวิ่งหนีโดยเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้
แต่น่าเศร้าที่พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้เลยแม้แต่น้อย มนุษย์ทุกคนต่างพุ่งตัวไปที่ด้านหลังของห้องโดยสาร ในขณะที่ซากศพทั้งหมดยังคงเดินไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง ภายในร ระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที เลือดสีแดงสาดกระเซ็นไปโดยรอบ แขนขากระจัดกระจายไปทั่วทุกที่ ผนังสีขาวบริสุทธิ์ของห้องโดยสารถูกย้อมไปด้วยสีแดงอย่างน่าสะพรึงกลัว
ฉินเย่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ เขาไม่ได้ไร้ความรู้สึก แต่น่าเสียดาย มันไม่มีสิ่งใดที่เด็กหนุ่มสามารถทำได้เพื่อช่วยคนเหล่านี้
การกระทำที่น่าสงสัยทั้งหมดจะทำให้เขาตกเป็นเป้าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครื่องบินนี้กำลังมุ่งหน้าไปที่ฮันยาง
การตกเป็นเป้าสนใจจะดึงดูดสายตาที่มากเกินความจำเป็น และหากเป็นเช่นนั้น…ฉินเย่ก็จะไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ที่เขาตั้งเอาไว้ได้
เด็กหนุ่มคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าสู่สถานะยมทูตหากต้องการจะกำจัดฝูงซอมบี้ฝูงนี้ เพราะพวกมันไม่ใช่วิญญาณร้ายของจีน และเขาก็ไม่ได้มีอำนาจเหนือวิญญาณนอกอาณาเขต
อำนาจของยมโลกแห่งใหม่ไม่ได้แผ่ขยายไปถึงฮันยาง ผู้ที่มีอำนาจในดินแดนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นอดีตข้าราชการศักดินา หลิวอวี้ จ้าวผู้ปกครองคนปัจจุบันของฮันยาง
“ข้าหวังว่าหลิวอวี้จะดูแลพวกเจ้าอย่างดี…” เขามองดูภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ทั้งสามยังคงนั่งนิ่งเฉย
พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้แม้ว่าจะอยากทำมากเพียงใดก็ตาม
“ผู้โดยสารโปรดทราบ ผู้โดยสารโปรดทราบ” ทันใดนั้น ระบบบนเครื่องบินก็เริ่มประกาศเป็นภาษาอังกฤษ จีน และแดฮัน “ผู้โดยสารที่ติดซุปเปอร์ไวรัสถูกตรวจพบภายในเที่ยวบินนี้ โปรดหาที่ก กำบังที่ท่านสามารถหาได้ และเตรียมพร้อมสำหรับการโดดร่มทุกเมื่อ…”
พรึ่บ…
ทันใดนั้น หน้ากากออกซิเจนก็ตกลงมาเหนือศีรษะ ชุดร่มชูชีพเองก็หลุดออกมาจากใต้ที่นั่ง แต่ถึงกระนั้น มันกลับไม่มีใครเอื้อมมือไปหยิบของเหล่านั้นเลยสักคน
“ปีศาจ… นี่คือฝีมือของปีศาจ!!” หญิงสูงวัยชาวแดฮันกรีดร้องออกมาขณะที่เธอผลักคนด้านหน้า ด้วยความที่มีความคล่องตัวน้อยกว่าคนอื่น เธอจึงตกไปอยู่ท้ายสุดของกลุ่ม แสงสีแดงสาดส่อ องไปทั่วเครื่องบิน ในขณะที่ประตูฉุกเฉินที่แยกระหว่างห้องโดยสารค่อย ๆ ปิดลงตรงหน้าของเธอ
ในขณะเดียวกัน ซอมบี้ทั้งหมดก็ส่งเสียงคำรามออกมาขณะที่พวกมันพุ่งไปข้างหน้า กระโจนใส่เธอและลากกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ไม่…ไม่นะ!! กรี๊ดดด!!! ช่วยด้วย… ช่วยฉันด้วย!!!”
เส้นผมสีขาวของเธอกระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง ในขณะที่แว่นสายตาหลุดออก เธอพยายามคลานไปตามพื้น ดิ้นรนจากการเกาะกุมของซอมบี้พวกนั้น แม้กระทั่งร้องวิงวอนออกมาด้วยเสียงแหบพร่า
ฟึ่บ...
ทันใดนั้น หญิงสูงวัยก็บังเอิญเงยหน้าขึ้นขณะที่ถูกลากไปตามทางเดินที่ฉินเย่นั่งอยู่ วินาทีนั้น ดวงตาของเธอกลับมามีประกายความหวังอีกครั้ง ด้วยการรวบรวมแรงทั้งหมดภายในร่าง เธ ธอคว้าที่วางแขนและร้องขอด้วยเสียงที่สั่นเทา “ช่วยด้วย…ฉัน…ไม่อยากตาย!!!”
โฮกกกก!!!
ทันใดนั้นเอง เหล่าซอมบี้ที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอก็กัดลงมาที่ลำคออย่างแรง ดวงตาของหญิงสูงวัยเหลือกขึ้น และหมดสติไปในที่สุด
หลังจากนั้น โนบูทาดะก็หันไปหาฉินเย่และค้อมศีรษะเล็กน้อย “ใต้เท้า เราสามารถลงมือได้เลยหรือไม่?”
“อย่าลงมือหนักเกินไป” ฉินเย่ปาดเลือดที่อยู่บนนิตยสารภายในมือของตนออกขณะที่อ่านมันต่อ “อย่าทำให้ใครรู้เด็ดขาดว่าพวกเราลงมือ”
“รับทราบ”
โนบูทาดะลุกขึ้นยืนและขยับมืออย่างแผ่วเบา ซอมบี้ที่กัดอยู่ที่ลำคอของหญิงสูงวัยอย่างแน่นก็คลายออก หัวของมันเอนไปด้านหลังและระเบิดออก ส่งผลให้สมองสีเทาของมันกระจัดกระ ะจายไปทั่ว
ทั่วทั้งห้องโดยสารว่างเปล่า ผู้โดยสารที่มีชีวิตอยู่ทั้งหมดได้ไปรวมตัวกันที่ห้องโดยสารอีกห้องหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพวกเขาก็จ้องผ่านประตูฉุกเฉินเพื่อมองสิ่งที่ดูเหมือ อนกับนรกบนดิน ทั้งหมดที่เหลืออยู่ภายในห้องโดยสารห้องนี้มีเพียงซอมบี้เกือบร้อยตัวเท่านั้น
มันเริ่มต้นด้วยซอมบี้ไม่กี่สิบตัวเท่านั้น แต่เพียงไม่นาน ทุกคนที่ถูกกัดก็กลายสภาพเป็นซอมบี้ไปด้วยเช่นกัน!
เสียงเคี้ยวและบดกระดูกดังก้องไปทั่ว แต่ทันทีที่หัวของซอมบี้ตัวแรกระเบิดออก ซอมบี้ทั้งหมดก็หยุดการกระทำทั้งหมดของพวกมันและหันไปมองที่ต้นเสียง
ทันใดนั้น ดวงตาสีดำสนิทนับร้อยคู่ก็จ้องมองไปที่โนบูทาดะ เลือดมนุษย์เปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัวของพวกมัน บางตัวมีแม้กระทั่งเศษเนื้อติดอยู่ที่ปาก ซอมบี้ทั้งหมดดู มึนงงเล็กน้อยขณะที่มันมองไปที่ร่างของซอมบี้ไร้หัวที่นอนอยู่บนพื้น ก่อนจะหันไปมองที่โนบูทาดะอีกครั้ง ไม่กี่เสี้ยววินาทีถัดมา พวกเขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยขาที่บิดเบี้ยว กระด ดูกและข้อต่อของพวกมันส่งเสียงดังลั่นขณะที่เผยยิ้มที่น่าขนลุกออกมาพร้อมกับกระโดดไปหาอีกฝ่าย
อาหาร…
อาหารที่น่ากลัว…แต่…มันจะต้องอร่อยมากแน่ๆ…
ทำไม… พวกมันถึงไม่เห็นคนเหล่านี้เมื่อครู่?
“โฮกกก...” พวกมันส่งเสียงคร่ำครวญออกมาขณะที่พุ่งเข้าใส่โนบูทาดะ บางตัวเดินเข้าไปด้วยร่างที่บิดเบี้ยว ในขณะที่บางตัวคลานไปจากใต้ที่นั่ง ภาพของปีศาจจำนวนมากที่พุ่งเข้าไป ราวกับคลื่นน้ำขนาดใหญ่นั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก
แต่ถึงกระนั้น…โนบูทาดะเพียงมองไปที่ฝ่ายตรงข้าม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา
ตู้ม!!
เสี้ยววินาทีต่อมา สายลมเย็นยะเยือกก่อตัวขึ้นภายในห้องโดยสาร ส่งผลให้หนังสือและกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กที่เป็นของผู้โดยสารคนอื่น ๆ กระจัดกระจายไปโดยรอบ กระแสลมทั้งหมดก็รวมตัวเข้า าด้วยกันและก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนขนาดสามเมตรขึ้นกลางห้องโดยสาร ซอมบี้ทั้งหมดจ้องมองภาพที่เกิดขึ้นโดยที่เลือดยังคงไหลย้อยออกมาจากริมฝีปากของมัน
“ช่างโง่เขลายิ่งนัก…” ลูกไฟนรกสองลูกปรากฏขึ้นจากด้านในกระแสน้ำวน โนบูทาดะหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน “ภูตผีจากแดฮันกล้าอวดดีต่อหน้ายมทูตจีนอย่างนั้นหรือ?”
“ยมโลก...ไม่มีทางละเว้นตัวตนที่น่าเกลียดเช่นเจ้า…”
ฟึ่บ...!
มือที่ก่อตัวขึ้นจากพลังหยินก็เอื้อมออกมาจากกระแสน้ำวน
ซอมบี้พวกนั้นไม่หวั่นกลัวเลยแม้แต่น้อย กลับกัน พวกมันเริ่มเลียริมฝีปากด้วยความหิวกระหายมากกว่าเดิม
ทันใดนั้น…
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
มือจำนวนมากที่ก่อตัวขึ้นจากพลังหยินก็พุ่งออกมาจากด้านในกระแสน้ำวน! แน่นอน มนุษย์ธรรมดาอาจจะมองไม่เห็นยมทูต แต่ในสายตาของซากศพเดินได้ทั้งหมด พวกเขานั้นไม่ต่างอะไรกับเรือ อที่มุ่งหน้าตรงไปยังทางหวงเฉวียนเลยแม้แต่น้อย!
มือพลังหยินยังคงพุ่งออกมาจากกระแสน้ำวนอย่างต่อเนื่อง ซอมบี้ทั้งหมดที่เห็นเช่นนั้นก็แน่นิ่งไปกว่าสามวินาทีเต็ม จากนั้นด้วยเสียงคำรามที่แสดงถึงความหวาดกลัว พวกมันรีบพุ่งตัวก กลับไปยังห้องโดยสารวีไอพีที่พวกมันจากมา!
“โฮกกกกก!!!”
ฝูงซอมบี้พยายามกระโจนหนีราวกับกระแสน้ำ มันเหมือนกับฝูงแกะที่เพิ่งพบเห็นหมาป่าที่ดุร้าย ทั้งหมดกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งและพยายามหนีโดยเร็วที่สุดเท่าที่แขนขาอันบิดเบี้ยวของ พวกมันจะสามารถทำได้!
น่ากลัว… น่ากลัวอะไรเช่นนี้! ต้องออกไปจากที่นี่! นี่…นี่คือปีศาจที่แท้จริง!
“พยายามจะหนีอย่างนั้นหรือ?” โนบูทาดะหัวเราะเบา ๆ จากด้านในกระแสน้ำวนพลังหยิน “มันสายไปแล้ว…”
ภายในชั่วพริบตา มือที่ก่อตัวจากพลังหยินก็พุ่งออกไปข้างหน้าราวกับฝูงอสรพิษคลั่ง ส่วนหัวของซอมบี้ทั้งหมดระเบิดออกในทุกจุดที่พวกมันเคลื่อนตัวผ่าน ไม่นานร่างของซอมบี้พวกนั้ นก็อ่อนปวกเปียก เสียงครวญครางและเสียงร้องดังขึ้นครู่หนึ่ง ในขณะเดียวกัน ฉินเย่ยังคงนั่งประจำที่ของตนอยู่เงียบ ๆ ฟังเสียงร้องที่ดังก้องพวกนั้นด้วยคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน
น่ารำคาญชะมัด…
วิญญาณร้ายต่างชาติอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรือ?
ราวกับสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของฉินเย่ โนบูทาดะรีบเร่งมือ กระแสน้ำวนพลังหยินขยายใหญ่ขึ้น และไม่นานดวงตาสีแดงเข้มก็ลืมขึ้น ณ จุดกึ่งกลางของกระแสน้ำวนนั้น
30 วินาทีต่อมา กระแสน้ำวนพลังหยินก็สลายไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับตอนที่มันปรากฏขึ้น แล้วจากนั้นโนบูทาดะก็กลับไปนั่งที่ของตนด้วยร่างมนุษย์ของเขา “ใต้เท้า การกวาดล้างเสร็ จสิ้นแล้ว”
“อืม” ฉินเย่พยักหน้า ตราบใดที่เครื่องบินไปถึงที่ฮันยางทันเวลา ทุกอย่างก็ไม่เป็นไร แต่ดูเหมือนพวกเขาคงจะต้องทนกับกลิ่นเหม็นพวกนี้ไปอีกสักพัก
…………
ภายในห้องพักของพนักงาน คิมซังอูกำสิ่งประดิษฐ์เวทในมือของตนแน่นขณะที่ยืนคุ้มกันประตูอย่างระมัดระวัง ภายในห้องถูกติดไปด้วยแผ่นยันต์จำนวนมาก
นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขา ด้วยระดับการบ่มเพาะ ชายสูงวัยไม่สามารถทำอะไรได้แม้จะสู้กับซอมบี้ทั้งหมด เขาอาจจะจบลงด้วยการเสียสละชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ ดังนั้นจึงตัดสินใ ใจที่จะขังตัวเองอยู่ที่ส่วนหน้าของเครื่องบิน สวดภาวนาให้ตนสามารถทนได้จนถึงฮันยาง
เขาจะปลอดภัยเมื่อไปถึงที่ฮันยาง…คิมซังอูเอนตัวแนบกับประตูและกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง เขาจะพลาดไม่ได้แม้แต่น้อย ตอนนี้…หัวใจของเขากำลังเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจาก อก
สจ๊วตและแอร์โฮสเตสทั้งหมดต่างไปรวมตัวกันที่ด้านหลังของห้อง จ้องมองไปที่ทางเข้าห้องโดยสารด้วยความหวาดกลัว หลายคนกำสร้อยไม้กางเขนที่ตัวเองสวมอยู่แน่น สวดภาวนาเพื่อให้ชีวิตขอ องตนปลอดภัย
ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่อีกด้านหนึ่งของบานประตู แต่พวกเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชของผู้คนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ผู้อาวุโสคิม…” สจ๊วตที่อายุน้อยที่สุดถามเสียงเบา “ยะ…ยังเหลืออีก 30 นาทีกว่าจะถึงฮันยาง… ตะ…ตอนนี้เครื่องบินเริ่มลดระดับแล้ว พวกเราจะปลอดภัย…ใช่มั้ยครับ?”
คิมซังอูไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เขายังคงตั้งท่าเตรียมต่อสู้ต่อไป ทว่าทันใดนั้นเอง หางคิ้วของเขาก็กระตุก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง
“หืม?!”
มันหายไปแล้ว…
จู่ ๆ พลังหยินของซอมบี้พวกนั้นก็หายไป!
นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?!
ชายสูงวัยนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบกระจกแปดเหลี่ยมออกมา ก่อนจะพบว่าเข็มที่อยู่ตรงกลางกำลังหมุนไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วและค่อย ๆ หยุดลงในที่สุด
“นี่มัน…” เขายืดตัวตรงและหันกลับไปมองด้านหลัง “ซอมบี้พวกนั้น…หายไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
“ผู้อาวุโส…ผู้อาวุโสครับ!!” สจ๊วตตนหนึ่งตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “มัน…มันจบแล้วใช่มั้ยครับ?”
“มันจบแล้วใช่มั้ยครับ? พวกเราปลอดภัยแล้วใช่มั้ย? พวกเราปลอดภัยแล้วใช่มั้ยครับ?!”
คิมซังอูไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา กลับกัน เขาเพียงมองไปรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างสูง
มันไม่มีทั้งพลังหยินหรือพลังปราณ แล้วทำไมจู่ ๆ ซอมบี้พวกนั้นถึงหายไป?
เมื่อเดือนที่ผ่านมา เหตุการณ์ที่ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับระดับสูงของรัฐบาลได้เกิดขึ้น เมื่อ LSD คิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มสงบลง พวกเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าแท้จริงแ แล้วมันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ภายในระยะเวลาสั้น ๆ ญาติของเหล่าผู้ที่ประสบกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติก็เสียชีวิตลง จากนั้นก็กลายเป็นซอมบี้ไปในที่สุด
และสิ่งที่แย่กว่าเดิมก็คือมีเพียงผู้ฝึกตนระดับสูงเท่านั้นที่สามารถกำจัดวิญญาณร้ายเหล่านี้ได้ แต่สิ่งที่แปลกที่สุดตอนนี้ก็คือเขาสัมผัสถึงร่องรอยของพลังปราณไม่ได้เลยแม้แต ต่น้อย!
มันไม่มีทางที่เขาจะไม่สามารถสัมผัสคือความผันผวนของพลังปราณได้หากมีใครบางคนลงมือเมื่อครู่นี้!
แล้วใครเป็นคนฆ่าปีศาจพวกนี้กัน?
“ผมจะไปตรวจดูสักหน่อย” เขาสูดหายใจเข้าช้า ๆ และควบคุมมือที่สั่นเทาของตัวเองก่อนจะเปิดประตูออก “ต่อให้ผมมาเคาะประตู ขอเข้าไปด้านใน คุณก็ห้ามเปิดประตูเด็ดขาด! ห้ามทำอะไรจนก กว่าจะไปถึงฮันยาง เข้าใจไหม?!”
“ครับ!”
คิมซังอูเปิดประตูก้าวออกไปแล้วรีบปิดประตูลงทันที และทันใดนั้นเขาก็ได้พบกับภาพที่น่าหวั่นสะพรึง
มันคือการสังหารหมู่…
ศพจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายอยู่โดยรอบ
มันไม่สามารถบอกได้เลยว่าไหนคือร่างของมนุษย์และไหนคือร่างของซอมบี้ ศพทั้งหมดล้วนมีคราบเลือดจำนวนมาก บางร่างถูกทำร้ายอย่างรุนแรงในขณะที่บางร่างมีบาดแผลน้อยกว่าร่างอื่น
ส่วนใหญ่แล้ว…ช่องท้องของศพทั้งหมดต่างถูกเปิดกว้าง อวัยวะภายในกระจายไปทั่ว แต่สิ่งหนึ่งที่ร่างพวกนั้นมีเหมือนกันก็คือส่วนหัวของศพนั้นหายไป!
“ใช่แล้ว…ทางที่ดีที่สุดในการกำจัดซอมบี้เหล่านี้ก็คือการตัดหัวของมัน…” เขากัดริมฝีปากร่างของตนด้วยความประหลาดใจอย่างมาก “แต่ใครกัน…”
“การแพร่ระบาดเพิ่งเกิดขึ้นไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้น ผู้ฝึกตนคนใดกันที่สามารถกำจัดซากศพเดินได้เหล่านั้นได้ภายในคราวเดียว และถ้าเขาอยู่ที่นี่ ทำไมเขาถึงไม่ลงมือให้เร็วกว่านี้?”
หัวใจของเขายังคงเต้นแรง ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าซอมบี้ทั้งหมดถูกกำจัดแล้ว ดังนั้นชายสูงวัยจึงเริ่มกวาดตามองไปตามที่นั่งเพื่อหาผู้รอดชีวิต ไม่นาน ดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้น นและรีบพุ่งตัวไปข้างหน้าทันที
เขาเห็นชายสามคนยังคงนั่งอยู่ที่ที่นั่งของตัวเองด้วยดวงตาที่ปิดสนิท
แต่ถึงกระนั้น เขาก็สามารถบอกได้ว่าอกของพวกเขายังคงกระเพื่อมอยู่ พวกเขาคงจะหมดสติไป! พวกเขายังไม่ตาย! พวกเขารอดชีวิตจากการโจมตีของซอมบี้!
ทันใดนั้น เขาก็วิ่งเข้าไปและเขย่าร่างของหนึ่งในนั้นให้ตื่นขึ้น
คิมซังอูจำผู้ชายคนนี้ได้ เขาคือชายผู้มีใบหน้าซีดขาวผิดปกติที่เขาพยายามจะ ‘รักษา’ ก่อนหน้านี้
ไม่กี่วินาที ชายคนนั้นก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น คิมซังอูรีบถามอย่างร้อนรน “อย่าเพิ่งมองไปทางอื่น บอกผมมาก่อน... มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
“และที่สำคัญที่สุด เมื่อครู่นี้มีใครมาที่นี่หรือเปล่า?”