ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 548: บทที่สามของปาฏิหาริย์ (1)
บทที่ 548: บทที่สามของปาฏิหาริย์ (1)
พรึ่บ…
เกิดความปั่นป่วนไปทั่วทั้งฮันยาง
วิญญาณเร่ร่อนทั้งหมดที่กำลังเตร็ดเตร่อยู่บนดินแดนต่างคุกเข่าลงด้วยร่างที่สั่นเทา พลังหยินของหนึ่งในสี่โลกใต้พิภพที่แข็งแกร่งที่สุดได้กดทับลงมาบนร่างของพวกเขาราวกับพลัง อันยิ่งใหญ่ ทันใดนั้น เมืองทั้งเมืองก็กลายเป็นนรกบนดิน
ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญแดนมนุษย์ที่มีดวงเนตรแห่งนรกต่างตัวสั่นและรีบกลับไปอยู่ด้านหลังของแท่นบูชาที่อยู่ภายในโบสถ์และวิหารของพวกเขาด้วยความหวาดกลัว เสียงร้องคร่ำครวญดังก้ องไปทั่วพื้นที่กว่า 600 ตารางกิโลเมตร แม้แต่รูปปั้นทางศาสนาและบานกระจกทั้งหมดก็แตกกระจายราวกับเกิดแผ่นดินไหว
มันคือการมาถึงของขั้นฝู่จวิน
ฉินเย่สามารถบอกถึงระดับขั้นการฝึกตนของตัวตนลึกลับที่เพิ่งเข้าร่วมสนามรบได้ในทันที ในวินาทีนั้น ภายในหัวของเขาเต็มไปด้วยความคิดมากมาย
เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายรู้ว่าเรามาจากหนึ่งในสี่โลกใต้พิภพที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าฝ่ายนั้นไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาบอกเราว่าผู้ที่คอยสนั บสนุนมันอยู่นั้นมีอำนาจไม่เท่ากับของเรา ไม่เช่นนั้น…คงไม่มีทางล่าถอยจากการต่อสู้เช่นนี้
การโจมตีเมื่อครู่นี้เป็นเพียงฉากหน้า เป้าหมายที่แท้จริงของอีกฝ่ายคือช่วยอัน โซมี เพราะการโจมตีที่ดูยิ่งใหญ่เมื่อครู่นั้นกลับเบาบางจนแทบจะไม่เป็นภัยต่อตัวตนของฉินเย่เล ลยสักนิด กลับกัน ฝ่ายตรงข้ามทำเช่นนี้ก็เพื่อที่จะส่งพลังหยินของตัวเองไปยังอัน โซมีเพื่อจะดึงร่างของนางกลับไปและช่วยนางให้รอดพ้นจากความตาย
คลื่นพลังหยินปะทะเข้ากับร่างของฉินเย่ ส่งผลให้เสื้อผ้าและผมเผ้าของเขาปลิวไสวไปในอากาศ แต่ถึงกระนั้น เด็กหนุ่มยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงและตอบกลับไปเสียงเรียบ “หายากมากจริง ง ๆ ที่จะมีขั้นฝู่จวินอยู่แถวนี้ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร แดฮันก็ยังคงเป็นของยมโลก และมันก็ไม่สำคัญเลยว่าโลกใต้พิภพของรุสจะกล้าเพียงใด เพราะพวกท่านยังคงไม่กล้าที่จะยึดครอ องแดฮันไปอยู่ดี ดังนั้น…ข้าจึงค่อนข้างมั่นใจว่าขั้นฝู่จวินน่าจะเป็นยมทูตของรุสที่แข็งแกร่งที่สุดที่ข้าจะได้พบที่นี่…”
“แต่ไม่คิดเลยว่าท่านจะยอมปรากฏตัวขึ้นเพียงเพราะอัน โซมี นี่วิญญาณขั้นยมทูตขาวดำมีค่าพอที่จะได้รับการคุ้มกันจากขั้นฝู่จวินเลยอย่างนั้นหรือ? นางกุมความลับอะไรอยู่กันแน่? ? เหตุใดท่านถึงให้ความสำคัญกับนางถึงขนาดที่ยอมเปิดเผยตัวตนกันหนึ่งในสี่โลกใต้พิภพที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงเพื่อช่วยนาง? ท่านรู้หรือไม่ ยิ่งท่านมีท่าทีว่าอยากจะช่วยนางมากเท่าใ ใด…ข้าก็ยิ่งอยากรู้มากเท่านั้นว่าเทพแห่งความตายของพวกท่านวางแผนอะไรเอาไว้กันแน่…”
อัน โซมีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันทีที่รู้สึกว่าร่างของตัวเองถูกห่อหุ้มด้วยพลังหยินของขั้นฝู่จวิน
ขั้นฝู่จวินนั้นเทียบได้กับพระเจ้า โชคดีจริง ๆ ที่ศัตรูของเราในครั้งนี้เพิ่งอยู่แค่ขั้นตุลาการนรก เขาไม่มีทางสามารถ…เดี๋ยวก่อน...นะ…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?!
ในวินาทีนั้น เธอก็หันกลับไปมองด้านหลังด้วยสีหน้าที่หวั่นสะพรึงก่อนจะก้มลงมองด้านล่างด้วยสายตาตกตะลึง
กลุ่มก้อนพลังหยินที่เกิดจากการจู่โจมของขั้นฝู่จวินเมื่อครู่นี้ได้เปลี่ยนเป็นสายพลัง ในขณะเดียวกัน วิญญาณที่สวมชุดเกราะโบราณของจีนอีกตนหนึ่งก็เปิดปากกว้างอยู่ที่ปลายอีกด้ านหนึ่งของท่อ กลืนกินพลังหยินจากขั้นฝู่จวินเข้าไปราวกับหลุมดำ!
หากพูดกันตามความจริง มันไม่ใช่แค่พลังหยินเท่านั้น!
อัน โซมีหวาดกลัวเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าหลุมดำดังกล่าวมีแรงดูดที่รุนแรงเสียจนแม้แต่ร่างของนางเองก็กำลังถูกดูดเข้าไปในปากของมันด้วยเช่นกัน!!
ขบวนร้อยอสูร…วิญญาณห้วงมิติ!
“เฮ้อ…” วิญญาณขั้นฝู่จวินถอนหายใจออกมา
เขารู้ดีว่าตัวเองไม่กล้าสังหารยมทูตจากโลกใต้พิภพของจีน ไม่สามารถเป็นต้นเหตุของปัญหาทางการทูตระหว่างยมโลก หนึ่งในสี่โลกใต้พิภพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และโลกใต้พิภพแห่งรุส สได้! การมีอยู่ของยมโลกนั้นเหมือนกับขุมพลังที่แข็งแกร่งที่อยู่เหนือจิตใจของพวกเขา มากจนแม้แต่ขั้นฝู่จวินก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตน โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากั บขั้นตุลาการนรก!
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าการโจมตีเมื่อครู่นี้ของขั้นฝู่จวินนั้นมีฉากหน้าที่ยิ่งใหญ่จนฉินเย่เลือกที่จะใช้วิญญาณห้วงมิติของตัวเอง ไม่คิดเลยว่าขั้นตุลาการนรกจะสามารถระบุตำแหน่ง งของเขาได้ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที… นี่คือความแข็งแกร่งของหนึ่งในสี่โลกใต้พิภพระดับสูงอย่างนั้นหรือ?
วิญญาณขั้นฝู่จวินรู้สึกราวกับว่าตนกำลังนั่งอยู่บนหลังเสือ
อัน โซมีนั้นอยู่แค่ขั้นยมทูตขาวดำ มันไม่มีทางที่นางจะสามารถหลบหนีจากแรงดูดที่ทรงพลังของหนึ่งในวิญญาณห้วงมิติที่ทรงพลังมากที่สุดในโลกใต้พิภพได้ หากเขาต้องการจะช่วยนาง เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องสู้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่ยิ่งผ่านเวลาไปนานเท่าใด ความเป็นไปได้ที่ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น!
เขากำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แต่ไม่นาน เขาก็ตัดสินใจได้ในที่สุด
ในวินาทีนั้น เสียงร้องของวิญญาณร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนก็ดังขึ้นรอบร่างของอัน โซมี นางถูกลากกลับลงมาจากกลางอากาศ ที่ซึ่งวิญญาณสาวอ้าปากค้างด้วยความหวั่นสะพรึงขณะที่มองไปรอบ ๆ ๆ ก่อนจะพบว่าพลังหยินที่อยู่รอบตัวของตนก่อนหน้านี้ได้เปลี่ยนเป็นวิญญาณร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนที่กรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง แล้วพวกมันก็พุ่งเข้าใส่ราวกับต้องการจะฉีกร่างของนาง เป็นชิ้นๆ!
“กรี๊ดดดดด!!!”
เสียงกรีดร้องดังตัดผ่านความเงียบยามค่ำคืน อัน โซมีหันไปมองบนฟ้าด้วยสายตาเหลือเชื่อ “นายท่าน...ได้โปรด! ไม่… ไม่นะ!!! ช่วยข้า! โปรดช่วยข้า!!!”
ไร้ซึ่งคำตอบ
ไม่กี่วินาทีต่อมา กลุ่มก้อนพลังหยินที่ห่อหุ้มอยู่รอบตัวของอัน โซมีก็หดตัวเล็กน้อย มันเปลี่ยนร่างเป็นกรงที่ขังนางไว้ภายใน วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าและออกจากกรงนั้น แ แต่ในเสี้ยววินาทีต่อมา ประกายแสงสีทองก็ปะทุขึ้นภายในวิทยาเขตของโรงเรียนมัธยมปลายเสิ้งเต๋อ
“นั่นมัน…” วิญญาณร้ายที่อยู่ภายในกลุ่มพลังหยินกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ในขณะที่ดวงตาสีแดงเข้มลืมขึ้นและจ้องเขม็งไปทางฉินเย่
ตอนนี้ เหนือฝ่ามือของเด็กหนุ่มมีพู่กันยาวขนาดครึ่งเมตรลอยอยู่
มันเป็นพู่กันสีทองที่ถูกสลักด้วยลวดลายที่แสนวิจิตร นอกจากนี้ ดวงวิญญาณสีทองที่กำลังลอยไปมาอยู่กลางด้ามพู่กัน น้ำหมึกที่ปลายพู่กันเองก็เป็นสีทองเช่นกัน มันดูหรูหราและทรง งพลังเป็นอย่างมาก แค่มองมันเพียงแวบเดียวก็ทำให้ขั้นฝู่จวินที่ตัวอยู่ในพลังหยินกรีดร้องออกมาเสียงดังและถอยห่างด้วยความกลัว
“โชคชะตา…”
เสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ในเสี้ยววินาทีต่อมา มันก็เปลี่ยนเป็นกระแสลมและสลายพลังหยินทั้งหมดที่ยังคงเหลืออยู่โดยรอบ พร้อมกับวิญญาณร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนที่ยังคงกัดกินอ อัน โซมีอยู่ หลังจากผ่านไปประมาณสามวินาที ท้องฟ้าเหนือโรงเรียนมัธยมปลายเสิ้งเต๋อก็กลับมาสดใสอีกครั้ง เหลือไว้แค่ร่างของอัน โซมี ตามลำพัง
มันเหมือนกับกลุ่มเมฆฝนที่ตกลงมาอย่างโหมกระหน่ำ และเพิ่งได้สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย…
“โว้ว!! มันดีขนาดนี้เลยหรือ?” ฉินเย่มองพู่กันในมือด้วยความประหลาดใจขณะที่เขาวาดมันไปในอากาศ “หึหึหึ…นี่ท่านพี่สวีได้ทำเรื่องอะไรไว้กันแน่ ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำให้ขั นฝู่จวินยอมทิ้งทุกอย่างในมือและหนีกลับไปแต่โดยดีกัน? ไม่คิดเลยว่าเขาจะไม่สนใจแม้กระทั่งเบาะแสเกี่ยวกับแผนการของเทพแห่งความตายไร้นาม!”
“จะว่าไป เราเองก็เริ่มชินกับการโต้กลับในรูปแบบนี้แล้วเหมือนกัน! แต่เรายังไม่ได้เริ่มอุ่นเครื่องเลยด้วยซ้ำ!”
ในวินาทีนั้น ฉินเย่ก็รู้สึกว่าการเดินทางมายังแดฮันของเขาในครั้งนี้อาจราบรื่นกว่าที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามี ‘โชคชะตา’ ให้พึ่งพา เด็กหนุ่มรู้สึกดีใจอยู่ครู่หนึ่ง จา ากนั้นก็หันไปหาอัน โซมี
ตอนนี้ ร่างวิญญาณของนางเหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น การโจมตีของขั้นฝู่จวินคงอยู่ไม่ถึงสองวินาที แต่ถึงกระนั้น มันกลับกลืนกินร่างกายส่วนมากของนางไป
โชคดีที่นางยังมีชีวิตอยู่…
แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
วี้หว่อ วี้หว่อ!!
ทันใดนั้น เสียงไซเรนก็ดังขึ้นจากด้านนอกโรงเรียนมัธยมปลายเสิ้งเต๋อ ฉินเย่กระดิกนิ้ว และวิญญาณห้วงมิติของเขาก็กลืนร่างของอัน โซมีเข้าไปในคราวเดียว จากนั้น ทั้งคู่ก็หายตัว ไปอย่างไร้ร่องรอย
…………
เจ็บ! ความเจ็บแพร่กระจายไปทั่วทั้งร่าง
อัน โซมีลืมตาขึ้น ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง
นางไม่สามารถบอกได้ว่าที่นี่คือบ้านของใคร แต่นางสามารถบอกได้ว่ามันถูกตกแต่งด้วยองค์ประกอบและเครื่องประดับสไตล์จีนที่แสนหรูหรา นางกัดฟันแน่นและสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบตัวเ เอง พยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดของการที่ร่างถูกกลืนกินด้วยเหล่าวิญญาณที่หิวโหย หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที เมื่อสายตาของนางมาหยุดอยู่ที่โซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง นางก็หยุดชะง งัก จากนั้น ร่างของนางก็สั่นเทาอย่างรุนแรง
ที่โซฟาตรงหน้าของนาง…มีผู้ชายคนหนึ่งที่ทั่วทั้งร่างปกคลุมไปด้วยพลังหยินนั่งอยู่
กลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ของขั้นตุลาการนรกหลั่งไหลออกมาจากร่างของเขา ในขณะเดียวกัน ทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มตรงหน้าก็มีวิญญาณขั้นยมทูตขาวดำและขั้นนักล่าวิญญาณนั่งอยู่ และท ทั้งสามก็กำลังจ้องมองมาที่นาง
ชายตรงหน้านั้นไม่ใช่ผู้ใดอื่นนอกจากยมทูตของยมโลกที่จับตัวนางมา!
ริมฝีปากของนางสั่นเทา
สุดท้าย…นางก็ถูกเขาจับมาอย่างนั้นหรือ?
ในวินาทีนั้น นางรู้ได้ทันทีว่าโอกาสในชีวิตรอดของตัวเองนั้นริบหรี่จนแทบจะไม่เหลือ
“ท่านอยากรู้สิ่งใด…” นางพึมพำเสียงเบา “ข้าจะบอกท่านทุกอย่างที่ข้ารู้”
“หืม?” ฉินเย่คนชาในแก้วเบา ๆ เขาค่อนข้างประหลาดใจเมื่อพบว่าภายในที่พักของลีจองซุกมีชาชั้นยอดอยู่เต็มไปหมด
“หากเจ้ารู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงจะไม่ดิ้นรนตั้งแต่แรก”
เด็กสาวยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
แม้แต่ในชีวิตหลังความตาย วิญญาณก็ปรารถนาที่จะมีชีวิต
“สิ่งเดียวที่ข้าขอคือความตายที่รวดเร็วและไร้ความเจ็บปวด…” นางข่มกลั้นความเจ็บปวดอันรุนแรงจากร่างวิญญาณขณะที่เอ่ยต่อด้วยเสียงที่แหบพร่า “ภายในแดฮันไม่มีสถานที่ให้ข้าอยู อีกแล้ว ข้อเท็จจริงที่ว่าข้าถูกท่านจับมาจะถูกประกาศไปทั่ว และแม้ว่าท่านจะตัดสินใจปล่อยข้าไป มันก็คงไม่มีผู้ใดที่จะกล้าไว้ใจข้าอีก...”
เงียบ
แววตาของฉินเย่วูบไหวเล็กน้อย เขากำลังคิดว่าเขาควรจะดำเนินการสอบสวนนี้อย่างไร?
เอกสารเกี่ยวกับเรื่องซากศพเดินได้พวกนี้ถูกซ่อนไว้ที่ใด? เนื้อหาเกี่ยวกับภารกิจที่เจ้าได้รับมีอะไรบ้าง? เหตุใดเจ้าถึงติดต่อกับลีจองซุก?
คำถามสามข้อที่ชี้ไปถึงสามวัตถุประสงค์
คำถามแรกคือเพื่อหาตำแหน่งที่ตั้งของโลกใต้พิภพของรุสที่อยู่ภายในแดฮัน คำถามที่สองคือสิ่งที่ทำให้เขาได้รู้ความจริงเกี่ยวกับแผนการของเทพแห่งความตายไร้นามมากขึ้น และคำถามท ที่สามก็จะช่วยบอกตำแหน่งของลีจองซุกกับเขา
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉินเย่ก็เอ่ยออกมาในที่สุด “เจ้าเป็นวิญญาณของแดฮันอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว…”
“และเจ้าก็ทำงานให้กับโลกใต้พิภพออร์ทอดอกซ์ตะวันออกของรุส?”
“เป็นเช่นนั้น…” จากนั้น โดยไม่แม้แต่จะคิดสักเล็กน้อย อัน โซมีก็เอ่ยต่อ “ถึงแม้ว่าข้าอาจจะไม่มีค่าอะไรนักในสถานที่ที่ท่านจากมา แต่ในแดฮัน ข้าสามารถถือได้ว่าเป็นวิญญาณที่ ค่อนข้างทรงพลัง ที่นี่เรามีขั้นยมทูตขาวดำอยู่ไม่ถึงสิบตนเท่านั้น…”
ช่างขาดแคลนเสียจริง…ฉินเย่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยขณะที่นั่งฟังต่อ
“พวกเราทั้งหมดต่างรู้ดีว่าผู้ที่ปกครองโลกใต้พิภพแห่งฮันยางนั้นมิใช่ผู้ใดอื่นนอกจากหนึ่งในข้าราชการศักดินาของพวกท่าน และเพราะว่าเราเป็นเพียงวิญญาณกลุ่มเดียวที่หลิวอวี้มี พวกเราจึงได้มีโอกาสในการเข้าร่วมการเจรจาที่สำคัญบางอย่าง”
“ในตอนแรก พวกเขาทั้งหมดยอมทุ่มทั้งกายและใจให้กับหลิวอวี้ เขาทรงพลัง…ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็อย่างที่ท่านรู้ การสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่เคยมีการหยุดช ชะงัก” นางกัดริมฝีปากล่างของตัวเองและถามขึ้นว่า “นายท่าน... มันเป็นไปได้หรือไม่ที่จะบรรเทาความเจ็บปวดที่ข้ากำลังประสบอยู่ในตอนนี้? มัน…ทำลายสมาธิของข้า…”
ฉินเย่ดีดนิ้ว ทันใดนั้น กลุ่มก้อนพลังหยินของเขาก็เข้าห่อหุ้มร่างของอีกฝ่าย ฟื้นฟูร่างวิญญาณของนางเล็กน้อย
แววตาของอัน โซมีไหววูบ นางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกขณะที่เอ่ยต่อ “นอกจากนี้ ศาสนาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแดฮันก็คือนิกายโรมันคาทอลิก นิกายโรมันคาทอลิกและคริสตจักรออร์ท ทอดอกซ์ตะวันออกนั้นต่างสืบทอดมาจากเชื้อสายเดียวกัน ดังนั้น เราจึงมักจะเห็นวิญญาณของรุสจำนวนหนึ่งปรากฏขึ้นในแดฮันอยู่เสมอ”
ฉินเย่ฟังอย่างครุ่นคิด
นี่คือเกมระหว่างประเทศ ในภายภาคหน้า เมื่อยมโลกได้เปิดประตูสู่เส้นทางนานาชาติ มันก็จะมีวิญญาณและพันธมิตรจากชาติอื่น ๆ หลั่งไหลเข้ามาเช่นกัน นี่คือสถานการณ์ที่เขาจะต้องเผชิญห หน้ากับมันในที่สุด
อัน โซมีสูดหายใจเข้าช้า ๆ และกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากขณะที่เอ่ยด้วยเสียงที่เบาราวกระซิบ “ เมื่อ 15 ปีก่อน…วิญญาณของโลกใต้พิภพออร์ทอดอกซ์ตะวันออกได้มาพบข้า…”
ทั้งห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ ฉินเย่รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังจะเริ่มพูดถึงจุดสำคัญของเรื่องนี้
“เขามาพร้อมกับข้อเสนอที่ข้าไม่สามารถปฏิเสธได้ เขาบอกข้าว่าหากข้าสามารถทำบางสิ่งบางอย่างให้เขา… เขาก็จะช่วยให้ข้าก้าวขึ้นไปสู่ขั้น *มาร์ควิส! *[1]”
ฉินเย่ยกมือขึ้นเพื่อถามคำถาม “มาร์ควิส?”
“ถูกต้อง…” อัน โซมีเอ่ยต่อ “ระดับขั้นการฝึกตนของพวกเขาอิงตามยศของอัศวิน แต่มันก็สอดคล้องกับระบบที่ยมโลกใต้เป็นส่วนใหญ่ ขั้นตุลาการนรกจะเทียบได้กับขั้นมาร์ควิส ในขณะท ที่ขั้นฝู่จวิน...จะเป็นดยุก*[2]”
นั่นเป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละประเทศ… ฉินเย่พยักหน้า “แล้วใครเป็นผู้มอบข้อเสนอนี้ให้กับเจ้า? แล้วเจ้าต้องทำอะไร?”
อัน โซมีตอบกลับ “เพื่อที่จะได้รับความเชื่อใจจากข้า วิญญาณจากโลกใต้พิภพออร์ทอดอกซ์ตะวันออกตนนั้นได้บอกชื่อของเขากับข้า และเขา…ก็เป็นคน ๆ เดียวกับที่ท่านได้เผชิญหน้าเม มื่อครู่นี้ด้วยเช่นกัน”
“ไพออตเตอร์ อะเลคซันโดรวิช รัมยันต์เศว ซาดูไนสกี (Pyotr Alexandrovich Rumyantsev-Zadunaisky) หรือกษัตริย์แห่งดานูบ เขาเป็นหนึ่งในสิบจอมพลของโลกใต้พิภพของรุส และยังเป็นผู้ ที่รับผิดชอบภารกิจนี้อีกด้วย! กงสุลใหญ่! หนึ่งในราชทูตพิเศษของรุสที่ประจำการอยู่ในแดฮัน!”
เป็นเขาจริง ๆ!
ฉินเย่นิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกมากมาย
นี่คือชื่อที่ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์!
ข้อพิพาทระหว่างรุสและทูเคีย*[3] ในปัจจุบันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะผู้ชายคนนี้!
[1] เป็นบรรดาศักดิ์สืบตระกูลแบบหนึ่งของยุโรป ในหมู่เกาะอังกฤษ มาร์ควิสมีฐานะสูงกว่า เคานต์หรือเอิร์ล แต่ต่ำกว่าดยุก
[2] เป็นบรรดาศักดิ์ของขุนนางในทวีปยุโรป เป็นตำแหน่งทางปกครองที่เป็นรองจากกษัตริย์ซึ่งปกครองดินแดนที่เรียกว่า ‘ดัชชี’ ส่วนตำแหน่งดยุกในหมู่เกาะอังกฤษเป็นเพียงตำแหน่งที่ตั้งไว ว้เป็นเกียรติยศเท่านั้น ไม่มีอำนาจในทางปกครองเหมือนในประเทศยุโรปอื่นๆ ปัจจุบันตำแหน่งดยุก(ที่ไม่ใช่ราชวงศ์)ปรากฏอยู่อย่างเป็นทางการเฉพาะในสหราชอาณาจักรเท่านั้น