ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 554: โชคชะตาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
บทที่ 554: โชคชะตาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง หนึ่งในบริกรของร้านก็รีบเดินมาที่โต๊ะของฉินเย่ “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นครับ?”
“ผู้ชายคนนี้เขาเป็นแมวมองน่ะครับ แต่ในขณะที่กำลังคุยกับเราอยู่ จู่ ๆ เขาก็หมดสติไป” เด็กหนุ่มเอ่ย “รีบโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับตัวเขาไปดีกว่าครับ”
พวกเขาไม่ได้จากไปไหน บริกรคนนั้นไม่ยอมให้พวกเขาออกไปไหนทั้งสิ้น ในขณะเดียวกัน โนบูทาดะก็มองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง “ตอนนี้ข้าไม่สามารถบอกได้ว่ามันยังมีไรสมองตัวอื่นที่ กำลังจับตาดูพื้นที่แถวนี้อยู่อีกหรือไม่”
“ไม่มีหรอก” ฉินเย่ส่ายหน้าและสลายพลังหยินที่เหลืออยู่บนโต๊ะ ทว่าทันใดนั้น เขาก็ต้องชะงักไป
เด็กหนุ่มสังเกตเห็นลำแสงสีทองเล็ดลอดออกมาจากในแขนเสื้อของตน เขารีบถกแขนเสื้อขึ้นเพื่อสังเกตมันอย่างละเอียด แต่แล้วก็พบว่ามีแสงสีทองจาง ๆ ส่องสว่างอยู่ที่ฝ่ามือของตน!
“นี่มันอะไรกัน…” เขารีบเดินตรงไปที่ห้องน้ำ เดินเข้าไปในห้องแยกและสร้างบาเรียที่แยกตนเองออกจากส่วนอื่น ๆ ของโลก จากนั้นเขาก็เปลี่ยนไปอยู่ในร่างยมทูตของตัวเองอีกครั้ง ง
เมื่อลองตรวจสอบดู ฉินเย่ก็พบว่าแสงสีทองดังกล่าวนั้นไม่ได้มาจากฝ่ามือของเขา แต่มันกลับอยู่ลึกเข้าไปอีกในแขนเสื้อ!
แขนเสื้อของเขา…เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบ ๆ อย่างงงงัน เด็กหนุ่มถกแขนเสื้อขึ้นช้า ๆ ก่อนจะพบว่า…มีตัวหนังสือสีทองขนาดเล็กจำนวนมากถูกเขียนอยู่ด้านใน!
พวกมันดูเลือนลางเป็นอย่างมาก ตัวหนังสือทั้งหมดเป็นสีทอง แต่พวกมันกลับประทับอยู่บนพลังหยินสีดำ แทบจะเหมือนกับว่าพวกมันคือดอกบัวทองจำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ในทะเลพลังหยิ น ทันใดนั้น เด็กหนุ่มก็รีบถอดเสื้อคลุมของตนออกก่อนจะพบว่า…ด้านในของเสื้อคลุมของเขาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแขนเสื้อหรือด้านหลัง ล้วนเต็มไปด้วยตัวหนังสือทั้งสิ้น!
ฉินเย่อ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เขารู้ดีว่ามันมีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้…
เมื่อมองดูใกล้ ๆ เขาก็พบว่าโชคชะตากำลังเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ตอนนี้ มันได้เปลี่ยนร่างเป็นพู่กันทองขนาดหนึ่งนิ้วที่กำลังเขียนข้อความติดต่อกันทีละแถว และบังเอิญเป็นอย่างมากท ที่มันกำลังจะเขียนเสร็จพอดี ในที่สุดประโยคสุดท้ายก็เสร็จสมบูรณ์
นี่คือร่างจริงของโชคชะตา มันยังเป็นปากกาจิตวิญญาณอีกด้วย!
“นี่มันเริ่มเคลื่อนไหวเองตั้งแต่เมื่อใดกัน?” เขาแทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น เด็กหนุ่มเลื่อนสายตากลับไปยังจุดต้นเรื่องของเนื้อหาทั้งหมด มันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเดิ นทางมาที่ฮันยาง? แถมยังเริ่มจดบันทึกตั้งแต่ก่อนที่พวกเราจะเดินทางออกจากจีนอีกด้วย?
ผู้เดียวที่จะสามารถใช้งานโชคชะตาได้ก็คือจ้าวนรกองค์ที่สองแห่งยมโลก
หรือนี่กำลังจะบอกว่าในขณะที่สวีหยางอี้กำลังเคี่ยวกรำเขาอย่างหนัก อีกฝ่ายก็จับตาดูเขาด้วยอย่างนั้นหรือ? ด้วยการมีโชคชะตา ไม่ใช่ว่าเขาจะกลายเป็นเทพแห่งสงครามผู้ไร้พ่ายเม มื่อมาถึงแดฮันหรืออย่างไร?!
ตัดหลิวอวี้ออกไป เพราะแม้แต่เทพแห่งความตายอาร์ตูโรก็ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้!
แต่…หากท่านใช้โชคชะตาไปแล้ว ท่านจะให้มันมาทำไมกัน? นี่ท่านพยายามกระตุ้นการพัฒนาของข้าอย่างนั้นหรือ? จุดประสงค์ของการทำสิ่งนี้คืออะไร? ทดสอบทักษะทางการแสดง?!
และนอกจากนี้ เรื่องทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด?! นี่ท่านประสานอินทั้งหมดด้วยเท้างั้นหรือ?!
ตอนนี้ภายในหัวของฉินเย่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย แต่ถึงกระนั้น เขาก็สูดหายใจเข้าช้า ๆ และถอนหายใจออกมา สถานการณ์ภายในแดฮันอาจจะอันตราย แต่มันก็ยังไม่สามารถเรียกได้ว่าถึงแก่ชี วิต อย่างมากมันก็เป็นเพียงการทรยศหักหลังและยังครุมเครืออยู่
เขาสบถภายในใจต่ออีกเล็กน้อย ก่อนจะสงบใจลงและให้ความสนใจกับเนื้อหาหลักที่ถูกเขียนโดยโชคชะตา
‘เรื่องสั้น ตัวละคร…ท่านจ้าวฉิน มาร์ควิสรัมยันต์เศว แคทเธอรีนมหาราชินี จ้าวแห่งฮันยาง หรือหลิวอวี้ ลีจองซุก ควอน คยองโฮ อัน โซมี มูคอฟ…พวกเขาไม่ได้โดดเด่นเท่ากับผู้ท ที่เกี่ยวข้องในเทศกาลวันสารทจีน…’
‘บทนำ…โลกใต้พิภพแห่งแผ่นดินจีนได้ล่มสลายลง ราชทูตทั้ง 12 ต่างเต็มไปด้วยข้อสงสัย พวกเขารู้ดีว่าเมื่อปราศจากการสนับสนุนจากยมโลก มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนท ที่พวกเขาจะถูกนำไปรวมเข้ากับโลกใต้พิภพอื่น ๆ…’
ดวงตาของฉินเย่ไหววูบ สิ่งนี่ถูกเขียนขึ้นจากมุมมองของราชทูตทั้ง 12 นี่คือโอกาสในการเรียนรู้ของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มได้เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องการปกครองของยมโลก และเขาก็ยังไม่เข้าใจถึงความคิดและมุมมองของข้าราชการศักดินา รวมไปถึงแนวร่วมทางการเมืองของตัวเองดีนัก ผู้ใดจะไปคิดกันว่าโอกาสแบบนั้นจะมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้?
‘ความคิดของหลิวอวี้นั้นไม่ได้น่าประหลาดใจอะไร” เนื้อเรื่องของโชคชะตาถูกเขียนออกมาในลักษณะของการเล่าเรื่องโดยบุคคลที่สาม “แต่เขายังคงมีความทะนงตนและอวดดี ไม่ยินยอมที่จะสวาม มิภักดิ์ต่อโลกใต้พิภพแห่งใด ราชทูตส่วนใหญ่เองก็เหมือนกันในแง่ของการที่พวกเขาไม่ยอมรับการไม่มีอำนาจของยมโลก อย่างไรก็ตาม…ในฐานะของราชทูตเพียงคนเดียวที่เคยเป็นผู้ก่อตั้งร ราชวงศ์ ความคิดของหลิวอวี้นั้นฝังรากลึกกว่าคนอื่น ๆ’
‘เขาพบว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการรวบรวมโลกใต้พิภพของจีน แต่เขาก็รู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ด้วยความสามารถของเขาเพียงลำพัง นอกเหนือจากราชาผีทั้งสามที่ขวางทางพวกเขา าอยู่แล้ว มันยังมีราชทูตบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับเขาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ครุ่นคิดมาเป็นเวลาหลายสิบปี และแม้กระทั่งเดินทางกลับไปยังยมโลกแห่งเก่า เขาก็เลือกที่จะขอความช่ว วยเหลือจากต่างชาติ’
‘นั่นก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้เช่นกัน เพราะหากพูดกันตามความจริง ราชทูตคนอื่น ๆ เองก็ต่างครุ่นคิดถึงวิธีที่คล้ายกันนี้ แต่ทุกคนยังคงเลือกที่ปกปิดความจริงเกี่ยวกับยมโล ลกจากกองกำลังภายนอก เพราะไม่ว่าอย่างไร นี่ก็คือไพ่ตายของพวกเขา แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้ว่าหลิวอวี้จะได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษในยุคสมัยของเขา แต่ก็ยังห่างชั้นจากเหล่าผ ผู้ปกครองโลกใต้พิภพที่คงอยู่มานานกว่าหลายพันปีมาก เขายังคงเป็นเพียงลูกนกในสายตาของอีกฝ่าย’
‘ซาร์อาร์ตูโรเห็นถึงโอกาสที่มาพร้อมกับการร่วมมือนั้น และเขาก็บังเอิญมีบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมากที่ต้องการจะหารือกับยมโลก ทว่าน่าเสียดายที่เขาพบว่าความพยายามของตนถูกขัด ดขวางโดยอาณาเขตเวทแห่งมหาเทพทั้งเก้าที่ถูกสร้างขึ้นโดยจ้าวนรกองค์ที่สองของยมโลก ซาร์อาร์ตูโรรู้ถึงขีดจำกัดของตัวเอง และไม่พยายามที่จะทำลายอาณาเขตที่แยกยมโลกออกจากโลกใ ใต้พิภพอื่น ๆ จากนั้น เมื่อประมาณสิบปีก่อน เขาก็ได้พบกับหลิวอวี้ และทั้งสองก็ทำข้อตกลงกัน’
‘ซาร์อาร์ตูโรต้องการความช่วยเหลือจากหลิวอวี้ในการติดต่อกับยมโลก ในขณะที่หลิวอวี้ต้องการความแข็งแกร่งและการสนับสนุนจากซาร์ หลิวอวี้รู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องเป็นไปตา ามลำดับ หากเขาต้องการที่จะรวบรวมยมโลกและกลายเป็นผู้ปกครองมัน สิ่งแรกที่เขาต้องทำก็คือก่อตั้งโลกใต้พิภพของตัวเองและกลายเป็นผู้ปกครองโลกใต้พิภพแห่งฮันยาง และก้าวแรกในแผนกา ารอันยิ่งใหญ่นี้ก็คือการก่อตั้งโลกใต้พิภพแห่งฮันยาง’
‘ซาร์อาร์ตูโรได้เขียนบทละครแห่งความตายสำหรับหลิวอวี้ด้วยตนเอง มันคือเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกับคลื่นสึ นามิขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าเหยียบย่ำเข้าไปในแดฮัน เนื่องจากตามประวัติศาสตร์แล้ว แดฮันคือรัฐศักดินาของยมโลก การเหยียบย่ำเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตย่อม มเทียบได้กับการประกาศสงคราม นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดินแดนแห่งนี้คือรัฐศักดินาของยมโลกที่แสนยิ่งใหญ่’
ฉินเย่อ่านมันอย่างละเอียด สิ่งเหล่านี้ยืนยันข้อสันนิษฐานของเขาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ มันยังช่วยไขข้อสงสัยบางอย่างที่อยู่ในใจของเขาในช่วงก่อนหน้านี้อีกด้วย
‘ดังนั้น ซาร์อาร์ตูโรจึงตัดสินใจที่จะส่งหนึ่งในสิบจอมพลแห่งรุส กษัตริย์แห่งดานูบ มาร์ควิสรัมยันต์เศวมาแทน วิญญาณขั้นฝู่จวินได้รับมอบบทละครแห่งความตายที่ถูกเทพแห่งความตา ายไร้นามเขียนไว้บนแผ่นหนังของแพะภูเขาปีศาจ นี่เป็นวัตถุหยินที่มีความอัศจรรย์เป็นอย่างมาก มนุษย์ทุกคนที่มองมันจะพบว่าพลังหยางของพวกเขาถูกดูดออกมาจากร่าง ด้วยการถือครอง งวัตถุหยินที่ทรงพลังเช่นนี้ มาร์ควิสรัมยันต์เศวเล็ดลอดผ่านบาเรีย มาถึงที่ฮันยางและติดต่อกับหลิวอวี้’
‘ในขณะเดียวกัน หลิวอวี้ก็พยายามดำเนินการทุกสิ่งอย่างระมัดระวังเพื่อที่จะปกปิดความจริงของเรื่องนี้จากราชทูตทั้ง 12 คนอื่น ๆ และเขาก็มอบหมายการดำเนินการเหล่านี้ให้กับหนึ่งในข ขั้นยมทูตขาวดำคนสนิทของตัวเอง ทั้งหมดนี้ถูกทำภายใต้คำแนะนำของซาร์อาร์ตูโรเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขากังวลว่าความไร้ประสบการณ์ของราชทูตจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดและขัดขวาง การดำเนินการที่ไหลลื่นของบทละครแห่งความตาย’
‘หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้เริ่มกระบวนการเผยแพร่ตำนานและสร้างปาฏิหาริย์ การปฏิบัติการลึกลับนี้จะก่อให้เกิดขุมพลังที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งคอยทำลายล้างแดนมนุษย์ จากนั้น เมื่อถึงเวลา หลิ วอวี้ก็จะปรากฏตัวขึ้น นำความสงบสุขมาสู่แดนมนุษย์ และเกี่ยวเก็บความศรัทธาทั้งหมด เขาจะเป็นฝาไห่ในเรื่อง ‘ตำนานรักนางพญางูขาว’ นักพรตหยินในเรื่อง ‘โปเยโปโลเย’ หรือนักพรตเต ต๋านิรนามในเรื่อง ‘ฮว่าผี’*[1] ผลของความศรัทธาเหล่านี้จะทำหน้าที่เป็นรากฐานสำหรับโลกใต้พิภพแห่งฮันยาง เมื่อรากฐานถูกสร้างขึ้น สิ่งที่เหลือก็คือการรวบรวมกำลังพลซึ่งเป็นเพียง งเรื่องของระยะเวลาเท่านั้น’
‘แดฮันไม่ได้มีระบบตำนานเป็นของตัวเอง และมันก็คงจะใช้เวลานานเกินไปหากจะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความศรัทธาและค่อย ๆ บ่มเพาะมันเพื่อสร้างตำนานใหม่ ดังนั้น แผนการที่รวดเร็วและสก กปรกจึงถูกเขียนขึ้นในบทละครแห่งความตายซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน ค่อย ๆ สั่งสมจนกลายเป็นความตึงเครียดอย่างในปัจจุบัน ทั้งหมดที่พวกเขาต้องการในตอนนี้ก็คือเหตุการณ์ที่ จะกระตุ้นให้ทั้งแดฮันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง’
ฉินเย่พยักหน้าเบา ๆ นี่คือสิ่งที่เขาคิด แต่มันก็สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นมากเมื่อผ่านคำอธิบายที่ชัดเจนจากการจดบันทึกของโชคชะตา
เด็กหนุ่มอ่านต่อ…
ความขัดแย้งระหว่างประเทศไม่มีทางเกิดขึ้นเอง อันที่จริง สถานการณ์ตึงเครียดส่วนใหญ่ล้วนเกิดจากการสั่งสมของประวัติศาสตร์หลายพันปี ก่อนจะถูกกระตุ้นโดยฟางเส้นสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น สถ ถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรุสและทูเคียในตอนนี้เองก็เป็นผลมาจากการกระทำของรัมยันต์เศวเมื่อร้อยกว่าปีก่อน
อีกหนึ่งตัวอย่างก็คือสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ความตึงเครียดที่นำไปสู่ความขัดแย้งที่ไม่หยุดหย่อนเองก็เริ่มมาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อนเช่นกัน
ตอนนี้ฉินเย่กำลังมองโลกผ่านสายตาของจ้าวนรกแห่งยมโลก นี่เป็นสิ่งที่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะต้องทำมันในท้ายที่สุด
“การเตรียมการทุกอย่างในโลกใต้พิภพเสร็จสมบูรณ์แล้ว” มีการหักมุมปรากฏขึ้น “แต่ในแดนมนุษย์เล่า?”
‘มันไม่ใช่การพูดเกินจริงเลยหากจะบอกว่าบทละครแห่งความตายนั้นถูกเขียนขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดการโน้มเอียงทางความศรัทธาของชาติที่แทบจะไม่มีความเชื่อดั้งเดิม หลิวอวี้ไม่เพียงแ แค่ต้องนำความอยู่รอดมาสู่แดนมนุษย์เท่านั้น แต่พวกเขายังอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากผู้ที่มีอิทธิพลในการระงับปฏิกิริยาของแดนมนุษย์ และนำพวกเขากลับไปสู่สภาวะปกติหลังจากนั้นอีก กด้วย เพราะอย่างไรแล้ว ความศรัทธาก็คือสิ่งที่จะต้องหลอมรวมเข้ากับชีวิตประจำวันของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ โลกใต้พิภพแห่งรุสและหลิวอวี้จึงเริ่มการค้นหาของพวกเขา และไม่นาน พวกเขาก็ ได้พบบุคคลที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นอย่างลีจองซุก’
‘ด้วยการรับปากว่าจะเปิดประตูสู่โลกใต้พิภพแห่งรุสให้ ลีจองซุกจึงได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบทละครแห่งความตาย นางได้จดบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ทำและซ่อน นพวกมันไว้ในสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัย จากนั้น เมื่อห้าปีก่อน โศกนาฏกรรมเกี่ยวกับเรือข้ามฟาก เอ็มวี เซว็อลก็เกิดขึ้น’
‘เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ทำให้เกิดรอยแยกระหว่างลีจองซุกและโลกใต้พิภพทั้งสอง นับตั้งแต่นั้นเป็นตนมา นางก็เริ่มรักษาระยะห่างจากอีกฝ่าย ติดต่อพวกเขาผ่านทางกระจกสัมฤทธิ์และไม้ เนื้อแข็ง ไม่คิดที่จะเปิดเผยตำแหน่งของตนให้อีกฝ่ายได้รู้อีกเลย’
‘แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนักสำหรับรัมยันต์เศว เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้ว การดำรงอยู่ของนางในแดนมนุษย์ก็เปล่งประกายราวกับดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าในค่ำคืนที่มืดมิด แต่ถึ งกระนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลีจองซุกทำก็มีเพียงการแสดงทัศนคติของตัวเอง และมันก็เผยให้เห็นชัดเจนว่านางกำลังเตรียมที่จะยุติทุกสิ่งทุกอย่าง’
‘สถานะของนางค่อนข้างพิเศษ และบทบาทของนางในบทละครแห่งความตายเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การร่วมมือของนางจะทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น และการเป็นศัตรูกับนาง งก็จะทำให้หลายอย่างผิดเพี้ยนไปจากแผนเดิม แน่นอน นางอาจจะไม่มีอำนาจพอที่จะหยุดยั้งแผนการของโลกใต้พิภพระดับหนึ่ง แต่นางก็สามารถเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างที่นางได้ทำลงไปกับโลกได ด้ และการกระทำเช่นนั้นก็จะขัดต่อผลประโยชน์ของทั้งตัวหลิวอวี้และโลกใต้พิภพแห่งรุสเอง’
‘ดังนั้น เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ลีจองซุกถามอะไรมากเกินไป พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะสื่อสารกับนางผ่านทางซอมบี้ ซากศพเดินได้ที่ปราศจากสามัญสำนึกทางจิตวิญญาณ พวกมันทำได้เพียงทำงาน ที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น รัมยันต์เศวได้ออกแบบให้ซอมบี้อัน จุนโฮตอบรับเฉพาะในตอนที่ถูกลี จองซุกเรียกเขาผ่านพิธีอัญเชิญเท่านั้น ด้วยวิธีนี้ มันจะทำหน้าที่เป็นบาเรียสำหรั บการป้องกันไม่ให้มีข้อมูลรั่วไหลไปถึงหญิงสาว’
‘น่าเสียดายที่โลกใบนี้มีความบังเอิญอยู่มากมายเกินไป ซอมบี้นั้นไม่ใช่วิญญาณ เนื่องจากพวกมันมีร่างเนื้อ ด้วยความโชคร้ายของการที่พยายามจะหลีกเลี่ยงการถูกสงสัยโดยปราศจากการยุ่ งเกี่ยวของโชคชะตา อัน จุนโฮได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ นั่นจึงทำให้ฝ่ายโลกใต้พิภพไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะส่งผู้ประสานงานคนที่สอง หรือที่รู้จักในชื่อของอัน โซมีมาแทน ซึ่งนา าง…ก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างทวีความรุนแรงมากขึ้น นางคือตัวละครที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงของบทละครแห่งความตายนี้’
“อัน โซมีได้พูดเกี่ยวกับหมายเลข 02”
‘และความบังเอิญต่อมาก็คือเมื่อห้าปีก่อน วิญญาณที่ทรงพลังกว่าหมายเลข 02 ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นจากโศกนาฏกรรมเรือข้ามฟาก เอ็มวี เซว็อล ชื่อของเขาก็คือควอน คยองโฮ สิ่งที่หมายเลข 02 ไม่รู้ก็คือการพูดคุยระหว่างเขาและลีจองซุกได้ถูกควอน คยองโฮเห็นเข้าอย่างจัง ดังนั้นความลึกลับที่อยู่รอบ ๆ บทละครแห่งความตายก็ค่อย ๆ คลายออกทันทีที่อัน โซมีเปิดเผยความจ จริงเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเรือข้ามฟาก เอ็มวี เซว็อล’
‘เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นตั้งแต่วินาทีที่ท่านจ้าวนรกองค์ที่สามแห่งยมโลก ท่านจ้าวฉิน ก้าวเท้าเข้าสู่คาบสมุทรแดฮัน’
‘ดวงดาวทั้งหมดเรียงตัวกัน ความบังเอิญเริ่มเข้าที่และเช่นเดียวกับโดมิโนที่เมื่อตัวหนึ่งล้ม ตัวอื่น ๆ ก็ล้มลงตามอย่างต่อเนื่อง’
[1] เหล่าวีรบุรุษที่ปรากฏตัวขึ้นเพื่อกำจัดวิญญาณร้ายไปจากโลก