ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] - บทที่ 76: การเสียสละของกัปตันธีโม
บทที่ 76: การเสียสละของกัปตันธีโม
ฉินเย่สลัดความคิดในใจของเขาและเดินขึ้นเวทีอย่างมั่นใจ พร้อมกับโบกมือให้ผู้ชม ด้วยความรู้สึกที่ราวกับว่ามีดวงตาของหมาป่าสีเขียวนับไม่ถ้วน กำลังจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเขา
“ดูเหมือนเพื่อนร่วมงานตัวน้อยของเราที่นี่ จะกำลังแคลงใจกับการตัดสินใจของฉันอยู่นะ” ผู้ว่าการเกาแสร้งทำเป็นดึงดูดผู้ชมด้วยอารมณ์ขัน ในขณะเดียวกันเขาก็เคลือบมองไปที่ โจวเซียนหลงด้วยสีหน้าที่เหมือนกำลังถามว่า นายไม่ได้แจ้งให้เขาทราบล่วงหน้าหรือ?
โจวเซียนหลงกลับมองด้วยสายตาสับสนอุทานขึ้นในใจว่า แจ้งแล้วเฟ้ย!
ฉินเย่ขึ้นเวทีมาบนเวทีแล้ว
สิ่งที่เห็นก็เป็นตัวอย่างชั้นดี ที่จะช่วยทำให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น
เขาเป็นหนึ่งในผู้ฝึกตนอิสระระดับ S ที่ทำลายเขตการไล่ล่าเก้าแห่งในเวลาเพียงคืนเดียว จนทำให้รับหน้าที่และเข้าร่วมแผนกสอบสวนพิเศษ แต่ผู้ฝึกตนคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อสองวันก่อน กลับไม่เคยเห็นฉินเย่เคยแม้แต่ชายแขนเสื้อ จะมีอะไรดีไปกว่าการให้ฉินเย่ขึ้นมาแสดงตัวบนเวทีด้วยตัวเองอีก?
อีกอย่างมันคงไม่สมเหตุสมผล ที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญระดับตุลาการหรือยมทูตขาวดำขึ้นเวทีเพื่อแสดงความสามารถอะไรสักอย่างจริงไหม? ผู้เชี่ยวชาญระดับนักล่าวิญญาณไม่ใช่พวกขี้ขลาด แต่พวกเขาก็ไม่อ่อนแอถึงขนาด ผู้ชมรับไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นนี้จึงเป็นการตัดสินใจที่สมบูรณ์แบบ
กล่าวก็คือพวกเขาเรียกฉินเย่มาเพื่อแสดงโชว์ปาหี่ให้ประชาชนดู
รอยยิ้มของฉินเย่บิดเบี้ยวเหมือนจะร้องไห้ มือของเขายังคงจับอยู่ที่เอวเหมือนพร้อมที่จะดึงกระบี่ออกมาทุกเมื่อ ทั้ง ๆ บริเวณนั้นของเขาว่างเปล่า
โจวเซียนหลงเดินไปหาฉินเย่ ภายใต้สายตาที่มองอย่างระมัดระวังของฉินเย่ เขามอบโล่เกียรติยศให้กับฉินเย่พร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก
“แต้มกุศลสองหมื่นแต้มไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มา เธอสามารถเอามันไปแลกอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ ฉันจะบอกว่า แม้แต่ตัวแทนระดับยมทูตขาวดำของเราก็สะสมแต้มกุศลได้เพียงสี่หมื่นถึงห้าหมื่นแต้มเท่านั้นเองนะ”
“อะ…” ฉินเย่พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มฝืด ๆ
นอกจากยิ้มแล้วเขายังไม่กล้าพูดอะไรมาก
โจวเซียนหลงมองท่าทางของเขาและเลิกคิ้วอย่างสงสัย “คุณ … ไหวไหม”
“ผมไม่เป็นไรครับ… ” จิตใจของฉินเย่แทบจะว่างเปล่า ราชาแห่งหมาป่ากำลังยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าฮัสกี้ จ้องมองเขาและถามว่าเขาสบายดีไหมในถ้ำหมาป่า …
แน่นอนว่าเขาต้องตอบว่าไม่เป็นไรแน่นอน!
ปล่อยข้าไปตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ! ข้าไม่คิดว่าข้าจะอดทนได้นานกว่านี้แล้วนะ!!
แม้แต่อาร์ทิสยังเก็บตัวเงียบสนิท
“ดี ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่พูดอะไรสักหน่อยล่ะ” โจวเซียนหลงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ห๊า?!
พูดเรื่องบ้าอะไรเนี่ย?
นี้ข้าหูฟาดใช่ไหม?!
ฮัสกี้ฉินเย่ รักษารอยยิ้มแห้ง ๆ บนใบหน้าของเขาไว้ และจ้องมองไปที่โจวเซียนหลงด้วยความหวาดหวั่น
ขนของเขาลุกชัน
เขาอยากจะตบแก้มตัวเองสักทีสองที!
จะให้ข้าพูดอะไรก่อน!!! เจ้านักเขียนเจ้าเขียนบทผิดใช่ไหม! บรรทัดนี้ไม่มีในสคริปต์นี่!
โจวเซียนหลงนึกว่าฉินเย่ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก เขาจึงยิ้มอีกครั้งและอธิบายอีกครั้ง
“แสดงให้ความสามารถของคุณให้สหายและประชาชนรับรู้สิ เราต้องแสดงให้ทุกคนเห็นกับตาว่าผู้ฝึกตนเป็นอย่างไร”
ก่อนที่ฉินเย่จะตอบตกลง เขาก็หันกลับมาและกล่าวกับผู้ชมว่า
“พวกคุณที่ดูอยู่ที่บ้านอาจจะไม่รู้ว่าผู้ฝึกตนคืออะไรกันแน่ ดังนั้นฉันจะให้ทุกคนประทับใจกับสิ่งที่พวกคุณกำลังจะเห็นต่อไปนี้”
อย่าพูดอีกเลย … ได้โปรดเถอะเจ้าบ้า…
ฉินเย่เงยหน้ามองไปบนท้องฟ้าน้ำตาคลอ
โอ้ สวรรค์…โปรดสั่งให้เขาหยุดพูดเดี๋ยวนี้ที!!!
เจ้าต้องการอะไรจากข้า? เจ้าต้องการอะไร?!
โจวเซียนหลงก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ถือเป็นโอกาสดีที่ฉันจะเชิญเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก มาแสดงความกล้าหาญของผู้ฝึกตนให้เห็นเป็นที่ประจักษ์!”
เสียงปรบมือดังกึกก้องพร้อมกับสายตาอิจฉานับไม่ถ้วนก็ส่งมายังฉินเย่
“เดี๋ยวก่อน” ชายหนุ่มรูปหล่อในที่นั่งแถวที่สามตะโกนอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“หึ เพราะคืนนั้นฉันไม่อยู่ใกล้เก้าเขตล่าไล่หรอก เจ้าเด็กนี้ถึงแย่งทำผลงานไปได้……ถ้าฉันอยู่ที่นั่นฉันก็ขอลองดูสักตั้ง”
“เขาก็แค่โชคช่วย” ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาพูดขึ้นพร้อมถอนหายใจ
“การสาธิตครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะฝากความประทับใจไว้กับสำนึกผู้ฝึกตนในอนาคต รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้แผนกสอบสวนพิเศษด้วย! ทำไมฉันถึงไม่โชคดีแบบนี้บ้างนะ”
ฉินเย่รู้สึกเหมือนปากไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษารอยยิ้มบนใบหน้าขณะที่เขาตอบว่า “ได้โปรดให้เวลาผมห้านาทีในการเตรียมตัว”
โจวเซียนหลงพยักหน้า ฉินเย่เดินไปที่ด้านข้างของเวทีและพึมพำเสียงเบาทันที
“ข้าจะทำเช่นไรดี! การเคลื่อนไหวทั้งหมดของข้าต้องอาศัยพลังหยิน! การแสดงทักษะของข้าเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย! แต่ไม่ต้องกังวล ท่านวางใจเลยว่าข้าจะขายท่านก่อนที่ข้าจะตาย หากท่านไม่คิดหาทางช่วยข้าเดี๋ยวนี้!!”
“นี่…เจ้าอย่าตื่นตูมเกินไปได้หรือไม่!” เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่ตุลาการนรกต้องรับมือกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้ด้วยตัวเอง
“ไม่เป็นไร! ชิ้นส่วนจ้าวนรก เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ของทวยเทพ และเป็นชิ้นส่วนเดียวที่มีพลังมากพอที่จะหลอกคนทั้งโลกได้! นอกเสียจากตอนที่เจ้าเลื่อนตำแหน่งเป็นตุลาการนรกแล้ว เศษชิ้นส่วนนั้นจะสามารถปกปิดตัวตนของเจ้าได้ทุกเมื่อ!”
“เจ้าสามารถเปิดเผยร่างยมทูตของเจ้าต่อหน้ามนุษย์ โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังยืนอยู่ต่อหน้ายมทูต แต่ปัญหาคือเสื้อผ้าของเจ้า แม้ว่าเจ้าจะสามารถปกปิดพลังของเจ้าได้! แต่ชุดเจ้ามันเด่นเกินไป! โลกมนุษย์ก็มีบันทึกเกี่ยวกับเครื่องแบบยมทูตเช่นกัน!”
“ท่านก็รีบ ๆ คิดเข้าสิ! หรือข้าควรจะปลดผนึกลูกบอลและปลดปล่อยท่านออกมาตอนนี้เลย?”
“อย่า … ได้โปรด … ข้ารู้สึกว่าการอยู่ที่นี่ดีกว่าออกไปในตอนนี้เสียอีก มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้สิ”
“ท่านไม่ได้ชอบหลอกล่อให้ข้าปลดผนึกลูกบอลนี้อยู่ทุกเมื่อหรือไร!”
“ไม่!” อาร์ทิส ร้องเสียงหลง จากนั้นขบคิดเนิ่นนาน ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายเจิดจ้า
“ข้ารู้แล้ว!”
“เจ้าสามารถเปลี่ยนเครื่องแบบยมทูตของเจ้าได้! แต่เจ้าจะได้รับโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น! ตราบใดที่เจ้าเปลี่ยนเครื่องแบบของเจ้า ควบคู่ไปกับชิ้นส่วนของตราจ้าวนรกที่ปกปิดพลังหยินของเจ้าเอาไว้ เจ้าจะสามารถบดบังฐานะของเจ้าได้อย่างแน่นอน!”
“เป็นแบบใดกัน”
“มันขึ้นอยู่กับเจ้า! เข้าก็เลือกตัวละครอะไรก็ได้ที่เจ้าชอบมาสักตัวสิ อย่างพวก ไอรอนแมน! ฮัตสึเนะมิกุ! มีตัวเลือกเต็มไปหมด! เลือกมาสักอันหนึ่งเถอะ!”
“ฮัตสึเนะมิกุหรือ…นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน … ” ฉินเย่กัดฟัน ยิ่งเขากังวลมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งคิดไม่ออก ทันใดนั้นเสียงทุ้มของผู้ชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้าง ๆ เขา
“คุณฉิน ผู้การขอให้ผมมาถามว่าคุณพร้อมหรือยังครับ”
ฉินเย่กัดฟัน “ฉัน….พร้อมแล้ว!”
“ถ้าอย่างนั้นได้โปรดตามผมมา”
ฉินเย่ขึ้นมาบนเวทีกลางอีกครั้ง ขณะนี้มีสายตามากกว่าสามล้านคู่จับจ้องมาที่เขา
ดวงตาของจางหลินฮวาเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแท้จริงแล้ว “ พ่อทูนหัว” ของเขาคนนี้เป็นคนจากหน่วยสอบสวนพิเศษ!
ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่พ่อของเขาบอกไว้ก่อนหน้านี้
“นี้… ฉันพลาดโอกาสอะไรไปเนี่ย … ”
คนอื่น ๆ ส่วนใหญ่เฝ้าดูหน้าจอด้วยความสนใจ ผู้ฝึกตนคืออะไร มันเหมือนกับตัวละครที่สามารถกระโดดข้ามเมฆและเรียกหมอกได้ไหม? พลังที่น่ากลัวแบบไหนกันที่คนคนนี้จะแสดงให้ทุกคนเห็น?
“เริ่มเลยเถอะ” โจวเซียนหลงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจาง
ฉินเย่หายใจเข้าลึก ๆ ขมับของเขาเต้นตุบ ๆ เมื่อมองไปเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นมากมายจากผู้คนด้านล่าง ความคิดเดียวในใจของเขาตอนนี้คือ แปลงร่างแปลงร่างแปลงร่าง…
ให้ตาย … ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดไม่ออกเลยว่าจะแปลงไปตัวอะไร!
อิลลิดาน?
มากเกินไป!
ไอรอนแมน?
นั่นก็หลุดธีมเกินไป!
“คุณฉิน?” โจวเซียนหลงเลิกคิ้ว
“เริ่มได้แล้วนะ”
ฉินเย่ยิ้มรับแม้จะแอบสาปแช่งในใจ เขาพยายามซื้อเวลาให้ตัวเองอีกสักหน่อย
“ถ้าอย่างนั้น … ผมเริ่มเลยนะ”
โจวเซียนหลงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ แต่คราวนี้นัยน์ตาคมเหมือนจะเปล่งเสียงพูดออกมาได้ว่า ไอ้เด็กเวร! เร็วเข้าเถอะ!
เมื่อไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ฉินเย่หายใจเข้าลึก จากนั้นในขณะที่ทุกคนเฝ้ามองด้วยสายตาคาดหวัง จนฉินเย่ต้องกระเแอมไออย่างประหม่า
“ผม … ผมจะเริ่มแล้วจริง ๆ นะ”
คนสำคัญทุกคนบนเวทียิ้มจาง ๆ และพยักหน้า แม้ว่านัยน์ตาจะเหลืออดเต็มทน
ตูม !!
พลังงานที่หนาแน่นหนาก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขาทันที และเริ่มหมุนวนมีพลังรอบ ๆ ฉินเย่ กลายเป็นกระแสน้ำวนพลังงานนั้น สูงขึ้นไปสามเมตรจากตำแหน่งที่เขายืนอยู่
เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งเห็นภาพนี้ ก็พยักหน้าเป็นเชิงยืนยันว่า
“ระดับพลังสมดุลมาก แม้แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมายังมีแรงกดดันที่ไม่เลวทีเดียว เขาสมควรได้รับการขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถจัดการเขตไล่ล่าเก้าเขตในคืนเดียวได้ด้วยตัวคนเดียว”
“ใช่…ขนาดฉันรับมือกับเขตไล่ล่าเก้าเขตตัวคนเดียวก็แทบแย่แล้ว” คนอื่น ๆ พูดอย่างตื่นเต้น
“พลังของเขาแตกต่างจากคนอื่นจริง ๆ หรือว่าเขาจะเป็นสายเลือดของท่านผู้นั้นที่หายไปจากโลกนี้กันนะ? โอ้ พระเจ้าดูนั่นสิ!”
บรรดาผู้ที่นั่งอยู่หน้าจอก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ทั้งเมืองลุกเป็นไฟทันทีที่เห็นฉากนั้น!
“ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย?!”
“นี่พวกเขาไม่ได้กำลังถ่ายหนังอยู่ใช่ไหม”
“พระเจ้า! นั่นคือผู้ฝึกตน? จริง ๆ น่ะเหรอ?”
ทุกคนอุทานขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นการแสดงความสามารถ กลายเป็นฉากในหนังสักเรื่องไปแล้ว!
แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าไม่มีทางที่ตัวละครในหนังจะโผล่ออกมาในชีวิตจริงได้ แต่ตอนนี้ …ของพวกนั้นกลับปรากฏอยู่เบื้องหน้าพวกเขาแล้ว!
มีอะไรอยู่ในหมอกหนา
มันคืออะไร?
ที่บ้านหลังหนึ่ง มีเด็กชายตัวอ้วนจับเมาส์ในมือแน่น ขณะที่กำลังมองการถ่ายทอดสด
ในโรงเรียนนักเรียนหลายคนในวัยเดียวกันกลั้นหายใจขณะรอการเปิดเผยครั้งใหญ่ ที่บ้าน ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าจอ LED เธอทิ้งขนมทั้งหมดในมือหยุดเคี้ยว และอ้าปากค้าง
ผู้คนนับล้านคนเฝ้าดูอย่างใจจดใจจ่อ
กลางจัตุรัสร่างกายของฉินเย่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หนึ่งวินาที … สองวินาที … สามวินาทีต่อมาหมอกที่หมุนวนรอบตัวของเขาระเบิดอย่างรุนแรง!
และร่างของเขาก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้ง
“ เขาออกมาแล้ว!” สายตาของผู้คนจ้องมองอย่างสดใส
“ ขอฉันมองใกล้ ๆ … ”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็พบว่าคำพูดที่เหลือก็หายไป
ในช่วงเวลาถัดไป ทั่วทั้งจัตุรัสก็พากันปิดปากเงียบ
ไม่ … ไม่ใช่แค่ในจัตุรัส แต่ตอนนี้เมืองทั้งเมืองเงียบสงัดราวกับมีใครกดปุ่มหยุดเอาไว้
“ฮ่าฮ่า … ” ฉินเย่เช็ดเหงื่อที่หน้าผากของเขา สิ่งแรกที่เขาทำคือจับบริเวณข้างเอวตัวเอง ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ผ่อนคลายท่าทางอีกครั้ง
ดีมาก ไม่มีใครสงสัย
นั่นหมายความว่าฝูงหมาป่ายังเดาตัวตนที่แท้จริงของฉันไม่ออก…
จากนั้นในขณะที่เขาเอื้อมมือไปเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก เขาก็สังเกตเห็นว่าตอนนี้เขาสวมถุงมือสีเขียวทหารอยู่
“นี่คือ … ” จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเอะใจขณะที่เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า จากนั้นทันทีที่เขามองชุดตัวเองเต็มตา เขาก็แทบจะร้องอุทานด้วยความสยดสยอง
ผู้คนหลายล้านคนกำลังจ้องมองการปรากฏตัวของเขาในขณะนี้ เขาสวมหมวกนิรภัยสำหรับการต่อสู้ในป่าเก่า ๆ โดยมีแว่นตากรอบสีแดงคู่หนึ่งวางอยู่บนนั้น สวมผ้าพันคอสีแดงรองเท้าบูทสีเขียว สะพายเป้ลายทหารไว้ข้างหลัง
“นี่คือ … ” ในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่เฝ้าดูหน้าจอด้วยสายตาสับสน หนุ่มสาวกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์พบว่าตัวเองตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่พวกเขาจะระเบิดเสียงหัวเราะเสียงดังระงม
“สุดยอด! สุดยอด !!” นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งกลิ้งไปมาบนพื้นแล้วหัวเราะ“ ธีโม! มันคือ ธีโม! [1] ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่คือสคริปต์ใช่มั้ย! ฮ่า ๆๆๆๆ!”
“ นั่นเป็นการคอสเพลย์ที่สมบูรณ์แบบของธีโม! สุดยอด! ฉันเป็นแฟนตัวยงเลย!”
“สุดยอด … ถึงแม้ว่าฉันจะเคารพหน่วยสอบสวนพิเศษ แต่ทำไมฉันถึงอยากจะหัวเราะขนาดนี้นะ โอ๊ยกั้นไม่อยู่แล้ว… ฮ่า ๆ ๆ ๆ !”
“ฮ่า ๆ ๆ !!” หนุ่มหล่อแถวที่สามหัวเราะจนตัวโยกอย่างไม่สามารถควบคุม
“โอ้โห! ฉันทำไม่ได้! ฉันจะตายแล้ว ฮ่าๆๆ!”
ซู่เฟิงจ้องมองเด็กหนุ่มบนเวทีด้วยความสับสน เขากะพริบตาอย่างเหม่อลอยราวคนสติหลุด
บนเวทีหลักฉินเย่พูดตะกุกตะกัก เขาพูดกับโจวเซียนหลงอีกครั้ง “เออคือว่า… คุณจะเชื่อผมไหมถ้าผมจะบอกว่า … ทั้งหมดนี้เป็นความเข้าใจผิด?”
[1] ฮีโร่จากเกม League of Legends