ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่196 ลงมือพร้อมกัน
ตอนที่196 ลงมือพร้อมกัน
หลืนจือกับคนอื่นๆลงลิฟต์ไปด้วยความประหลาดใจไม่เสือมคลาย
“พี่หลิน นี่หมายความว่ายังไง ไอ้เวรนั้นหนีออกมาได้ยังไงกัน? ไม่ใช่ว่าพี่สาวของพี่เก่งนักหเก่งหนาเหรอ?”
“ไอ้เวรนั่นมากับตำรวจด้วย! พวกเราไม่กลัวตำรวจหรอกนะ แต่ถ้าที่บ้านของพวกเรารู้เรื่องเข้า…”
“พี่หลิน รีบโทรหาพี่สาวก่อนเลย ถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
หลืนจือไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงรีบหยิบมือถือโทรหาหลิยหยิงทันที
หลินหยิงที่รับเงินของจ้าวเฉียนมาแล้ว ก็วิตกอย่างมากว่าหลินจือจะแก้แค้นเธอกลับ ดังนั้นเธอจึงคิดแผนหลบซ่อนตัวทันที แน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือของเธอเองก็ปิดเครื่องเช่นกัน เพื่อเลี่ยงไม่ให้หลินจือพบเธอ
หลินจือโทรไปหลายสิบสายก็ไม่ติดสักที เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่านี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ สองคู่มือกำหมัดกระชับแน่น กทุบกำแพงไม่หยุดด้วยความเกรี้ยวโกรธ
“ไอ้บัดซบ! มึงกล้าหักหลังกูใช่ไหม?! รอเดี๋ยวก่อน! อย่าคิดว่าฉันจะหามึงไม่เจอ!”
บรรดาเพื่อนฝูงรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน หลินหยิงจะต้องโดนจ้าวเฉียนซื้อไปแล้วอย่างแน่นอน
“พี่หลิน แล้วตอนนี้จะทำยังไงดี? ถ้านังนั้นบอกแผนการทั้งหมดของเราไป ไอ้จ้าวเฉียนต้องเอาเราคืนแน่นอน ฉันนคิดว่าเป็นการดีกว่านะ ถ้ารีบจ้างคนมาเก็บมันทิ้งซะ”
หยางหมิงกล่าวเสนอแนะไปทันที
หลินจือระเบิดหัวเราะเสียงดัง เอ่ยตอบไปว่า
“ต้องถึงขั้นจ้างฆ่า? ประเมินมันสูงเกินไปแล้ว! เรื่องที่เกิดขึ้นก็แค่เล็กๆน้อยๆเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาจ้างคนให้เหนื่อย แค่ทำตามแผนของเราคืนนี้ก็พอ ถึงตอนนั้นก็อย่าหาว่าพวกเราโหดร้ายแล้วกัน!”
คนอื่นๆต่างพยักหน้าเห็นด้วยและเดินออกจากโรงพยาบาลทันที
ในอีกด้านหนึ่ง อู่เลอก็กำลังเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้แก่จ้าวเฉียนฟัง
“บอส หลินจือมันพยายามจะซื้อใจผม แต่ผมปฏิเสธมันไป มันจึงหลุดปากมาว่า ครั้งนี้อยากพิการถาวรใช่ไหม นี่เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า คนที่จ้างกลุ่มอันตธานมาทำร้ายผมคือมันนี่แหละ เราสามารถเอาผิดกับพวกมันได้ไหม?”
แต่จ้าวเฉียนส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์
“ถ้าไม่มีหลักฐานก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เรื่องนี้ปล่อยให้ฉันจัดการเอง หน้าที่ในตอนนี้ของนายคือ รักษาบาดแผลและฟื้นกลับมาโดยเร็วที่สุด งานแข่งในครั้งนี้สำคัญสำหรับนายมากนะ ฉันจะออกไปคุยกับทางโรงพยาบาลสักหน่อย นับแต่นี้จะมีแค่ฉัน น้องสาวและพ่อของนายเท่านั้นที่จะสามารถเข้าเยี่ยมได้ นอกจากนี้ห้ามเด็ดขาด”
อู่เลอพยักหน้าตอบและเหม่อมองจ้าวเฉียนเดินลับสายตาออกไปอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
ทันทีที่เดินออกมา หวานเจียงก็พูดแซะขึ้นลอยๆว่า
“เฮ้ออ…ฉันอุตสาห์มาช่วยเพราะเป็นห่วงแท้ๆ แต่กลับเห็นนังนั่นสำคัญกว่า…”
หวานเจียงโกรธมากที่จ้าวเฉียนไม่ยอมให้ตำรวจจับหลินหยิงไปในตอนนั้น เธอกล่าวต่อว่า
“สงสัยคงติดใจลีลานังนั่นล่ะสินะ… อืมม…นังนั่นหน้าตาก็ไม่เลว ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหนคงยกโทษให้เธอได้แบบง่ายๆทั้งนั้น!”
จ้าวเฉียนพาหวานเจียงมาคุย ณ มุมหนึ่งปราศจากผู้คน
“นี่ฉันคิดว่า เธอจะเข้าใจสิ่งที่หมายถึงไปแล้วสักอีก? สรุปว่าเธอไม่เข้าใจอะไรเลยใช่ไหม? อย่างแรกนะ ที่ฉันยอมไปส่งเธอที่บ้านก็เพราะต้องการจะรู้ว่าเธอมีจุดประสงค์ยังไงกันแน่ แล้วก่อนที่เธอจะพาตำรวจเข้ามา ฉันก็รู้แล้วว่าเธอถูกหลืนจือซื้อด้วยเงินเท่านั้น ที่จริงเธอไม่มีเจตนาร้ายเลย”
หวานเจียงเบาะปากขยับปากงุมงามเชิงล้อเลียนจ้าวเฉียน และเอ่ยตอบสั้นๆแค่ว่า
“แก้ตัวต่อไปเถอะ!”
“ฉันไม่ได้แก้ตัว ทั้งหมดเป็นความจริง ระหว่างที่โดนจับตัวฉันก็พยายามเกลี้ยกล่อมเธอจนยอมช่วย ก่อนหน้าเธอได้รับคำสั่งจากหลินจือเพื่อยั่วยวนฉัน แถมเธอก็รู้ว่าศัตรูฉันเยอะแค่ไหน แล้วเธอที่พาตำรวจบุกเข้ามาในบ้าน นี่ก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเธอน่าจะเข้าใจความหมายที่ฉันสื่อไปที่สุด!”
จ้าวเฉียนพยายามอธิบายต่อ
หวานเจียงไม่รู้เลยว่าจ้าวเฉียนพูดจริงหรือกำลังโกหกเธอ คล้อยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ตอบไปว่า
“ที่ฉันเข้าใจเพราะ นายจงใจเน้นเสียงคำว่า‘พยาบาล’ ทำให้พลันนึกถึงนังร่านที่มายุ่งกันนายนี่ไง! ฉันก็เลยรีบติดต่อไปที่โรงพยาบาล ถามเพื่อนร่วมงานนังนั่นว่า บ้านอยู่ที่ไหน และโทรแจ้งตำวรจทันที ไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งนายพูดไปจะจริงหรือเปล่า? แต่ที่แน่ๆคือ…ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับเธอคงแนบแน่นกันมาก! ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยเธอลอยนวลไปทั้งแบบนั้น!”
จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบไปว่า
“แล้วเธอต้องการให้ฉันทำยังไง? ฉันยอมทำทุกอย่างถ้าจะทำให้เธอหายโกรธ เอาหุ้นส่วนบริษัทฉันเพิ่มไหมล่ะ?”
จ้าวเฉียนรู้ดี เธอต้องการทวงความยุติธรรมของเธอกลับคืนมา แต่เขากลับคิดผิด เธอไม่ได้ขออะไรทั้งสิ้นในครั้งนี้
“ไม่ ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นแหละ แต่จำเอาไว้ให้ดีนะ นี่จะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย! ถ้านายยังกล้ามีสัมพันธ์ชู้สาวกับผู้หญิงคนไหนอีกในอนาคต นายเตรียมตัวตายได้เลย! ฉันจะเป็นคนฆ่านายด้วยมือคู่นี้นี่แหละ!!”
เมื่อเห็นท่าทางการแสดงออกของหวานเจียง จ้าวเฉียนก็ตระหนักได้ทันทีว่าครั้งนี้เธอเอาจริง ทำเอาเขาอดหัวเราะไม่ได้พลางตอบไปว่า
“อย่าห่วงไปเลยน่า เรื่องในวันนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่นอน แต่ฉันขอถามอะไรหน่อยเถอะ ทำไมเธอต้องจริงจังขนาดนั้น? หรือว่า…ตกหลุมรักผมเข้าแล้วจริงๆ?”
สีหน้าของหวานเจียงแปรเปลี่ยนไปทันที เธอดูลุกลี้ลุกลนผิดธรรมชาติแตกต่างจากทั่วไป เธอส่ายหัวรัวเถียงตอบกลับไปทันที
“บ้า! ไร้สาระ! ฉันแค่กลัวว่าผลเดิมพันจะไม่แน่นอนเฉยๆ ถ้าเกิดนายชนะเข้าจริง แล้วฉันจะจำใจแต่งงานกับนายลงได้ยัง? ถ้า…ถ้านายผ่านมือผู้หญิงอื่นมาแล้ว…ก็เลย…ก็เลย… เหอะ! นายนี่มัน!! ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว! ขอตัว!”
หวานเจียงสะบัดหน้าหนีเดินลงลิฟต์ไปทันทีโดยไม่แม้แต่เหลียวหลังมองจ้าวเฉียน
จ้าวเฉียนหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข ก่อนจะหันซ้ายหันขวา พอแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่จึงโทรหาหยางหู่ทันที
“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าเป็นพวกหลืนจือที่ทำร้ายอู่เลอ สั่งสอนหลืนจือให้ฉันทีคืนนี้ ทรมานมันให้หนัก ขอแค่อย่าทำให้มันตายก็พอ จะจัดการยังไงตามสะดวกนายเลย”
“เข้าใจแล้วครับ ถ้าไม่ต้องตรวจสอบแล้วก็เข้าทางเลยครับ เตรียมรอฟังข่าวดีได้เลย!”
จ้าวเฉียนกดวางสายไป และขับรถกลับบ้านอย่างรวดเร็ว
แต่ทันทีที่มาถึงบ้าน เขาก็ต้องประหลาดใจที่จู่ๆหลินหยิงก็โทรเข้ามา
“นี่เธอ เกิดอะไรขึ้น?”
จ้าวเฉียนเปิดกระจกรถตะโกนถามทันที
หลินหยิงตอบไปตามตรงว่า
“มีสองเรื่อง หนึ่งคือตอนนี้ฉันไม่เหลือที่ไปแล้ว นายต้องหาสถานที่ปลอดภัยให้ฉันพักพิง และสอง ฉันถอนเงินมาแล้วสามล้านที่นายให้มา ดังนั้นฉันจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมให้ หลืนจือยังมีอีกแผนการหนึ่งก็คือ คืนนี้เขาจะจ้างคนมาแอบวางยาในเครื่องดื่มของอู่เลอ”
แม้ว่าหลินหยิงจะได้เงินสามล้านจากจ้าวเฉียนมาแล้วจริงๆ แต่ยังไงเธอก็ยังต้องการช่วยเหลือเขาให้ถึงที่สุด และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เธอไม่เหลือที่ปลอดภัยให้หลบซ่อนแล้ว
“ตกลง ฉันจะส่งที่อยู่ฉันไปให้ แต่ขอถามอะไรสักอย่างเถอะ หลืนจือมันจ่ายเธอมาเท่าไหร่กันแน่?”
จ้าวเฉียนเอ่ยถามด้วยความสงสัย
หลินหยิงตอบกลับไปทันทีโดยไม่มีปิดบังใดๆ
“สามแสน”
จ้าวเฉียนแทบระเบิดอารมณ์ใส่ทันทีที่ได้ยิน
“สามแสน! มันให้เงินเธอแค่สามแสน แต่ฉันให้เงินเธอไปตั้งสามล้าน! โอ้ คุ้มเลยหนิคราวนี้?”
หลินหยิงคลี่ยิ้มเล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า
“ก็นายทั้งจูบทั้งลวนลามฉัน ถือซะว่าเป็นค่าตัวแล้วกัน อีกอย่างนายก็พูดเองไม่ใช่เหรอว่า แค่สามล้านขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกจริงไหม?”
จ้าวเฉียนกดวางสายไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนส่งที่อยู่บ้านตัวเองให้หลินหยิง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลินหยิงมาถึงที่บ้านของจ้าวเฉียน
จ้าวเฉียนพาเธอเข้าไปในตัวบ้านและกล่าวว่า
“เธออยู่ที่นี่ชั่วคราวไปก่อน หลังจากฉันจัดการหลืนจือเรียบร้อย เธอคอยออกนะ”
ขึ้นชื่อว่าบ้านจ้าวเฉียน จะเป็นแค่บ้านหลังเล็กๆได้อย่างไร? แม้แต่หลินหยิงยังไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่า บ้านของจ้าวเฉียนจะเป็นคฤหาสน์หรูปานนี้ กล่าวได้เลยว่า ชั่วชีวิตนี้นับเป็นบุญแล้วที่ได้นอนในคฤหาสน์หรูหรา
เธอยิ้มหวานตอบไปทันทีว่า
“ไม่มีปัญหา ฉันขอสำรวจตัวบ้านหน่อยนะ!”
จากนั้นหลินหยิงก็วิ่งขึ้นไปชั้นบนอย่างมีความสุข เพื่อสำรวจตัวคฤหาสน์และเลือกห้องนอน
จ้าวเฉียนไม่มีเวลามานั่งดูแลเธอในตอนนี้ ปัจจุบันเรื่องจัดการหลืนจือสำคัญที่สุด
ในช้ายามราตรีก็มาถึง หลินจือส่งคนที่จ้างวานมาเดินทางไปที่โรงพยาบาลทันทีอย่างเงียบงัน
ระหว่างนั้นเองหยางหู่ก็แก้เกมโดยการส่งลูกน้องมีฝีมือจำนวนหนึ่งไปเฝ้าหน้าประตูห้องของอู่เลอ ทันทีที่มีคนร้ายเข้ามา เตรียมตัวพิการกลับไปได้เลย
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หยางหู่ก็ส่งลูกน้องอีกกลุ่มหนึ่งไปจัดการกับหลินจือ เขาจะต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายจากจ้าวเฉียนให้สิ้นเสร็จภายในคืนนี้