ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่324 ถึงตาย
ตอนที่324 ถึงตาย
จางเห่อและพวกตำรวจเดินตรงเข้ามาหาจ้าวเฉียนทันที แต่ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของตำรวจนายหนึ่งก็ดังขึ้น เขาจึงเดินแยกออกไปคุยอยู่สองสามคำ ก่อนจะเดินกลับแจ้งข่าวอะไรสักอย่างกับเพื่อนตำรวจคนอื่นๆและโบกมือถอนกำลังกลับไปโดยตรง
จางเห่อที่เห็นแบบนั้นก็รีบวิ่งไปตามนายตำรวจคนดังกล่าวทันทีและถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆที่เดินทางมาอยู่ตรงนี้แล้วแท้ๆ ทำไมจู่ๆก็จะกลับไปซะอย่างนั้น?
ตำรวจนายนั้นทำได้เพียงแถด้วยข้ออ้างมากมายที่สุดแสนจะครุมเครือและจากไปทันทีโดยไม่มีเหตุผล
จางเห่อยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ในเมื่อใช้วิธีสีขาวไม่ได้ผลสงสัยต้องใช้สีดำแล้ว จึงวางแผนจะโทรเรียกพวกนักเลงที่รู้จักให้เดินทางมาที่นี่ทันที
จ้าวเฉียนยิ้มและถามขึ้นว่า
“เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย? ไหนบอกว่าจะจับผมเข้าคุก? แล้วทำไมจู่ๆถึงกลับไปมือเปล่าแบบนั้น?”
แน่นอนว่าจางเห่อไม่ทราบว่า เหตุใดจู่ๆตำรวจก็ถอนกำลังไป เขาเอ่ยตอบด้วยท่าทีแสนเย่อหยิ่งว่า
“แค่นี้อย่าเพิ่งทำเป็นได้ใจ! พวกเขามีเหตุร้ายเร่งด่วนที่ต้องรีบไปจัดการก่อนเท่านั้น! แต่กูไม่ทำให้มึงผิดหวังแน่นอน เดี๋ยวกูจะโทรเรียกพวกที่รู้จักมากระทืบมึงให้เละ! มึงรู้จักแก๊งมังกรฟ้ารึเปล่า! พวกมันเพื่อนกูเอง! คืนนี้มึงไม่มีชีวิตรอดไปแน่!”
ชื่อว่าแก๊งมังกรฟ้า? จางเห่อตกหลุมพรางของจ้าวเฉียนอีกครั้งอย่างจัง เพื่อข่มขู่ให้จ้าวเฉียนรู้สึกหวาดกลัวเป็นธรรมดาที่ต้องเอ่ยชื่อแก๊งที่ตัวจางเห่อเรียกมาได้ แต่นั้นก็ทำให้จ้าวเฉียนระบุเป้าหมายที่ต้องจัดการต่อได้แล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จ้าวเฉียนไม่สนใจว่า ไอ้แก๊งมังกรฟ้าจะมีจริงหรือโกหก แต่เมื่อทราบข้อมูลแล้วเช่นนี้เขาไม่ยอมปล่อยผ่านไปแน่ และจำต้องตรวจสอบแก๊งดังกล่าวอย่างระมัดระวัง
จ้าวเฉียนหยิบมือถือขึ้นมาและโทรหาหลินเซียะทันที เขายิ้มกล่าวขึ้นว่า
“ผู้ว่าหลิว สวัสดียามเย็นครับ”
หลินเซียะหัวเราะเล็กน้อยและเอ่ยตอบไปว่า
“โอ้? พ่อบ้านของน้องจ้าวเพิ่งโทรหาผมเองนะตะกี้ ที่ติดต่อมาเองแบบนี้ แสดงว่าเรื่องที่ให้ช่วยยังไม่คลี่คลายดี?”
“เปล่าครับ ผมโทรมาหาผู้ว่าหลิวเพื่อแจ้งความ”
“โอ้? ถึงขั้นโทรมาแจ้งความกับผู้ว่าคงไม่ใช่ธรรมดา ใครกันที่กล้ามีเรื่องกับน้องจ้าว?”
“หมอนี่ชื่อจางเห่อ ตะกี้เขาขู่ผมว่า จะโทรเรียกแก๊งมังกรฟ้ามากระทืบผม พอมาคิดดูแล้วแจ้งความกับผู้ว่าหลินโดยตรงคงดำเนินการได้เร็วกว่า จะจริงหรือไม่ผมก็ไม่ทราบแน่ชัดหรอกครับ แต่ถ้าผมเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ…ผมว่าพ่อของผมคงไม่อยู่เฉยๆแน่นอน เร็วหน่อยก็ดีครับผู้ว่าหลิน เพราะอีกฝ่ายยังขู่อีกว่า คืนนี้ผมไม่รอดแน่”
หลินเซียะเริ่มปั้นหน้าจริงจังขึ้นทันทีที่ได้ยิน
“โอเคน้องจ้าว เดี๋ยวผมจะรีบส่งคนไปที่นั่นทันที!”
จางเห่อจองมองจ้าวเฉียนอย่างว่างเปล่า พูดไม่ออกบอกไม่ถูกอยู่สักพักใหญ่
หลิวเสี่ยวเฟยและเทรนเนอร์คนอื่นๆในฟิตเนส รวมไปถึงลูกค้าที่มาเล่นคนอื่นๆต่างร่วนหัวเราะเยาะจางเห่อราวกับคนโง่ ไหนล่ะที่ว่าของจริง? สรุปสุดท้ายนี้กลับเป็นตัวเขาเองที่ต้องเข้าคุกแทน?
จู่ๆจางเห่อก็นึกอะไรออกจึงรีบหยิบมือถือพยายามจะโทรหาใครบางคน แต่จ้าวเฉียนกลับพูดแทรกขึ้นทันทีว่า
“จะโทรหาใครตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ตำรวจและคนจากสำนักงานเขตกำลังมาที่นี่เพื่อจับตัวคุณไปสืบสวน อย่าคิดว่าพ่อตัวเองที่เป็นเทศมนตรีเขตหรือแม่ตัวเองที่เป็นประธานบริษัทผลิตยาจะช่วยอะไรคุณได้ ต่อให้พาพวกเขามายืนตรงหน้ามันก็ไร้ประโยชน์”
จางเห่อหยุดการกระทำทุกสิ่งลงฉับพลัน อ้าปากค้างตื่นตะลึงโดยสมบูรณ์ แค่ประโยคเดียว แค่ประโยคเดียวเท่านั้นก็ตระหนักได้ถึงความห่างชั้นของฟ้าดิน ซึ่งสถานะของเขาไม่ได้อยู่ในจุดที่สามารถควบคุมอะไรได้เลย
“มึง…มึงคิดว่าพูดแบบนี้ออกมามันจะช่วยให้มึงดูดีขึ้นรึไง! ก็แค่ขู่ให้คนอื่นกลัวเท่านั้น!”
จางเห่อคำรามขึ้นอย่างดุเดือด
เมื่อเห็นว่าจางเห่อกำลังตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง จู่ๆก็มีชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด
คนเหล่านี้ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีแต่แรกเห็น แต่ละคนล้วนมีกล้ามเนื้อล้ำบึกใส่เสื้อกล้ามอวดรอยสักทั่วทั้งแขนราวกับน่าภูมิใจ
“พี่จาง ใครมันกล้ากร่างใส่?”
“ใช่! มันเป็นใคร! ลูกพี่บอกมาได้เลย! ผมจะลากคอมันให้มาขอขมาแทบเท้าพี่เอง!”
“ให้ตายเถอะ ใครมันกล้าทำให้พี่จางเดือดขนาดนี้ สงสัยมีคนอยากเกิดใหม่วะ!”
………..
คนพวกนี้เป็นนักเลงปลายแถวประจำฟิตเนสที่ชอบเข้ามาแวะเวียน
จางเห่อเคยเลี้ยงดูปูเสื่อคนพวกนี้เอาไว้ เขาแสร้งปั้นหน้าเศร้าสร้อย กล่าวขึ้นท่าทีเก้อเขินว่า
“จริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก พวกนายไม่ต้องสนใจหรอก”
“จะไม่ให้สนใจได้ยังไงพี่จาง พี่มีบุญคุณกับพวกเราเสมอมานะ ถ้ามีปัญหาอะไรบอกพวกเรามาตรงเถอะ!”
“ถูกต้องเลยครับ! จะให้เรานิ่งดูดายกันได้ยังไง!”
………….
ผู้จัดการฟิตเนสแห่งนี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกโรงเอง และรีบตรงเข้าไปกล่าวโน้มน้าวพวกเขาให้ใจเย็นลงก่อน ถ้ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกันในฟิสเนส ใครจะกล้ามาใช้บริการอีกในอนาคต?
“พี่ๆครับ ผมต้องประทานอภัยจริงๆที่ต้องทำให้เดือดร้อนกัน แต่ที่นี่มันสถานที่สาธารณะนะครับ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันดีกว่า ตกลงไหมครับ?”
คนพวกนั้นเบ่งกล้ามโชว์รอยสักทันที ทุกสายตาเหลือบมาจับจ้องไปที่ผู้จัดการราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
แถมผู้จัดการคนนี้เองก็ดูขี้ขลาดอย่างมาก เขาหวาดกลัวชนิดที่ว่าไม่กล้าปริปากพูดอีกเลย
หลิวเสี่ยวเฟยรีบหันไปถามจ้าวเฉียนด้วยความกังวลว่า
“แล้วทีนี้จะทำยังไง? ไม่มีใครที่นี่สามารถปกป้องคุณจากพวกนั้นได้!”
ท่าทางการแสดงออกของจ้าวเฉียนยังคงสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง แถมยังเอ่ยถามด้วยทีท่าผ่อนคลายว่า
“ก็ไม่ต้องทำอะไร ผมเชื่อว่าพวกเขาไม่ลงไม้ลงมือแน่นอน แค่พูดคุยกันดีๆไม่กี่คำก็รู้เรื่องแล้ว”
หลิวเสี่ยวเฟยทำอะไรไม่ถูกแล้วจริงๆในขณะนี้ เธอไม่รู้เลยว่าจ้าวเฉียนกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ถึงพูดแบบนี้ออกไป? นักเลงพวกนี้มันพูดรู้เรื่องซะที่ไหน การจะไปพูดคุยกันดีๆนี่มันแผนการสิ้นคิดชัดๆ?
ชายกลุ่มนั้นทั้งหกคนเดินตรงมาหาจ้าวเฉียนทันที เหลือบสายตามองขึ้นมองลงเล็กน้อยจากนั้นกรนเสียงเย็นกล่าวขึ้นว่า
“ไอ้หนู แกเองเหรอที่หาเรื่องพี่จาง?”
“แกกล้ามาที่หาเรื่องพี่ใหญ่ รีบคลานเข่าไปขอโทษเขาเดี๋ยวนี้!”
“ไอ้เวร กลัวหัวหดจนไม่กล้าพูดอะไรเลยรึไง?”
จ้าวเฉียนขี้เกียจต้องมาทนฟังที่พวกมันพล่าม ก็เลยรีบกล่าวขัดจังหวะขึ้นว่า
“ผมจะบอกอะไรดีๆกับพวกคุณเองเอาไหม? ทั้งๆที่ตัวเองโดนไอ้หมอนี่ตีท้ายครัวอยู่แท้ๆ ยังจะไปปกป้องมันอีกงั้นเหรอ?”
พวกเขาเหล่านั้นตื่นตระหนกขึ้นทันทีที่ได้ยิน แววตาเหล่านั้นเริ่มทอประกายแสงรวนเร
“นี่แก…แกพล่ามไร้สาระอะไรวะ!”
“ไอ้เวร! กล้าใส่ร้ายพี่จางเชียวเหรอ? สงสัยอยากตายจริงๆใช่ไหม!?”
.”อย่ามาพูดไร้สาระในที่แบบนี้ คิดจะให้ชื่อเสียงของพี่ใหญ่ต้องแปดเปื้อนรึไง!”
…………
จ้าวเฉียนยกมือขึ้นขัดเชิงให้พวกเขาหุบปากลงทันทีและกล่าวว่า
“ฉันไม่ได้ใส่ร้าย แต่ไอ้พี่ใหญ่ที่แสนดูของพวกคุณน่ะ หลับหลังทำแต่เรื่องชั่วๆ รู้สึกว่าแฟนของพี่กล้ามโตคนนั้นจะชื่อลู่เอ๋อร์ใช่ไหม? เธอกำลังคบชู้อยู่กับพี่ใหญ่ของคุณที่รักนักนักหนาอยู่น่ะ”
คล้อยหลังที่จ้าวเฉียนพูดจบ เขาก็เปิดคลิปที่จางเห่อมีอะไรกับหญิงสาวที่ชื่อลู่เอ๋อขึ้นมาให้ดูทันที
ทั้งหกหันควับไปมองจางเห่อโดยพลัน
จางเห่อที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับถอยหลังโดยไม่ตั้งใจ ยามนี้เขากำลังหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
หนึ่งในหกคนนั้นโพล่งกล่าวขึ้นว่า
“พี่จาง พี่ทรยศผมแบบนี้ได้ยังไง?”
“ไม่ใช่…ไม่ใช่แบบที่แกเห็น! มัน…”
“พี่น้องทั้งหลาย! ขนาดฉันมันยังกล้าทำกันได้ลงคอ สักวันพวกเราทั้งหมดจะโดนมันทรยศเช่นกัน!”
“จางเห่อ! ไอ้สารเลว! มึงกล้าทำแบบนี้กับพี่เย่ได้ยังไง!”
พวกเขาทั้งหกรักใคร่กลมเกลียวตามภาษามิตรภาพลูกชายทั่วไปย่อมต้องโกรธแทนพี่น้องของพวกเขาอยู่แล้ว และทันใดนั้นเองหนึ่งในคนพวกนั้นก็ชักมีดสั้นออกมา พร้อมพุ่งเข้าไปแทงจางเห่อโดยตรง!
“กรี๊ดดด…”
หลิวเสี่ยวเฟยและคนอื่นๆโดยรอบแต่ตะโกนกรัดร้องลั่นด้วยความตกใจ ภาพฉากในขณะนี้ทุกอย่างดูยุ่งเหยิงขึ้นทันที