ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่328 แผนจุดกระแส
ตอนที่328 แผนจุดกระแส
ทั้งสองนอนค้างในโรงแรมต่อกันสองต่อสอง ตื่นมาในตอนเช้า โจวเหว่ยซูกลับบ้านไปพร้อมกับจ้าวเฉียน
เมื่อรู้ว่าลูกสาวของเขากลับมาแล้ว โจวเจียงเฉินก็ขอลาพักร้อนครึ่งวันเป็นพิเศษ วางแผนที่จะอยู่กับชางหย่าและโจวเหว่ยซูกันสามพ่อแม่ลูก
เมื่อเห็นว่าจ้าวเฉียนอยู่ที่นี่ด้วย โจงเจียงเฉินก็ยิ้มและกล่าวว่า
“เสี่ยวจ้าว แกเห็นคลิปวิดีโอที่เกิดขึ้นระหว่างงานของลูกสาวฉันรึยัง? ตอนนี้ลูกสาวฉันกลายเป็นคนดังแล้ว! มีคุณชายมากมายกำลังไล่ตามจีบเธออยู่ พร้อมกับรถสปอร์ตหรูทั้งเฟอร์รารี่ ทั้งแลมโบยกมากันเป็นโขยงเพื่อขอลูกสาวฉันแต่งงาน ดูท่าจะเป็นพวกลูกทายาทมหาเศรษฐีกันทั้งนั้น ไอ้ลูกรัก แกต้องรีบทำคะแนนกับลูกสาวฉันได้แล้ว ฮ่าฮ่า…”
โจวเหว่ยซูระเบิดหัวเราะขึ้นทันที
“พวกนั้นเป็นบอดี้การ์ดของจ้าวเฉียนเอง ทั้งหมดเป็นการจัดฉากเพื่อสร้งากระแสเท่านั้น”
โจวเจียงเฉินถึงกับผงะทันทีที่ได้ยิน
“ห๊ะ?!”
จ้าวเฉียนพยักหน้าและลก่าวว่า
“ใช่ครับ ทั้งหมดที่เห็นเป็นคนของผมเอง เพื่อจะวางแผนปั่นกระแสในช่วงเปิดตัวของคุณโจวให้ดังเป็นพลุแตก ที่สื่อหลักต่างๆประโคมข่าวขนาดนั้นเป็นเพราะผมจ่ายให้พวกเขาเบื้องหลังเอง ตอนนี้ยอดติดตามของคุณโจวบนโลกโซเซียลทะลุสี่ล้านคนแล้วครับ ยินดีด้วย”
โจวเจียงเฉินพยักหน้าให้ด้วยความยำเกรง ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจสิ่งที่เรียกว่า การตลาดในโลกโซเซียลน้อยเกินไปจริงๆ สุดท้ายนี้เด็กสมัยใหม่ย่อมมีลูกเล่นเหนือกว่าคนรุ่นเขามากมาย
โจวเหว่ยซูที่กำลังเล็งหาโอกาสเท้าความไปถึงเรื่องธุรกิจของจ้าวเฉียน ทันใดนั้นเธอก็กล่าวเสริมขึ้นว่า
“พ่อก็เห็นแล้วใช่ไหมว่าจ้าวเฉียนช่วยหนูมากขนาดไหน ถึงเวลาที่พ่อต้องช่วยเขาบ้างแล้ว! พวกเพื่อนๆพ่อมีคนเป็นเจ้าของบริษัทจำพวกโลหะอยู่ไม่ใช่เหรอ ช่วยเขาต่อราคาหน่อยสิ เพราะบริษัทเมล็ดพืชของพ่อด้วยนั้นแหละที่ไปต่อราคาบริษัทของจ้าวเฉียน จนต้องแบกรับรายจ่ายตั้ง500ล้านต่อปี ดังนั้นพ่อรีบแนะนำลูกค้าใหม่ให้เขาโดยด่วนเลย จะได้เอาเงินส่วนนี้มาชดเชยรายจ่ายนั้น”
โจวเจียงเฉินในตอนนี้มีความสุขอย่างมากที่ลูกสาวตัวเองกลายเป็นคนดังแล้ว แถมลูกสาวตัวดีคนนี้ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยเรียกเขาว่า‘พ่อ’เลยสักครั้ง ตอนนี้ถึงกับเรียกไม่หยุด กล่าวได้ว่าเรียกร้องอะไรก็ยอมทั้งนั้น
“ได้เลย! ไม่มีปัญหา! เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะโทรไปหาใหม่ถ้าจัดการเรียบร้อยแล้ว”
โจวเจียงเฉินตอบรับคำขอทันทีด้วยความเต็มใจ
อันที่จริงโจวเหว่ยซูยังไม่สามารถยอมรับโจวเจียงเฉินว่าพ่อได้จริงๆ แต่เป็นเพราะเห็นแก่หน้าจ้าวเฉียน เธอจึงต้องจำใจเรียกอีกฝ่ายว่า พ่อ
“เสี่ยวเฉียน ยังไงจากนี้ก็ฝากดูแลเหว่ยซูด้วยนะ ส่วนเรื่องกิจการของแกก็ไม่ต้องกังวล ฉันจะคอยดูแลให้อีกแรง ไอ้พวกหัวเรือใหญ่ในอุตสาหกรรมก็เพื่อนฉันกันทั้งนั้น ไปจิบชากันหน่อยก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว และด้วยปริมาณการขนส่งแร่โลหะแบบนี้ ฉันว่ามันจะต้องเพียงพอสำหรับชดเชยส่วนที่เสียไปได้แน่นอน”
จ้าวเฉียนรีบขอบคุณเขาในทันทีว่า
“ประธานโจว ขอบคุณมากเลยครับสำหรับความช่วยเหลือ ผมเกรงใจจริงๆครับที่ต้องมารบกวนแบบนี้”
“ฮ่าฮ่า…รบกวนอะไรกัน อย่างมากก็พาพวกนั้นไปลงอ่าง พอถึงตอนนั้นอะไรก็ยอมทั้งนั้นแหละ ฮ่าฮ่าๆๆ…มีอะไรก็ฝากบอกผ่านเหว่ยซูได้ตลอดนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ลงอ่างนานระวังเป็นหวัดนะครับ ฮ่าฮ่า…”
“ก็ได้ ก็ได้ เดี๋ยวบอกพวกนั้นย้ายไปตรงระเบียง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…”
โจวเจียงเฉินกังวลเรื่องลูกสาวที่สุดแล้ว สองวันต่อมา เขาเชิญพวกหัวเรื่อใหญ่ของอุตสาหกรรมโลหะไปตีกอล์ฟ โดยที่จ้าวเฉียนเองก็ถูกเรียกตัวไปเช่นกัน
เมื่อบรรดาหัวเรือใหญ่ได้ยินว่า จ้าวเฉียนเป็นเจ้าของผู้อยู่เบื้องหลังท่าเรือเฉียนตงทั้งหมด แต่ละคนถึงกับอ้าปากค้างตกตะลึง เดิมทีพวกเขาคิดว่า คนที่สามารถโค่นล้มท่าเรือหัวได้จะต้องเป็นพวกแม่น้ำสายเก่าแก่รุ่นเดียวกับหัวเซินซวน แต่ที่ไหนได้ กลับเป็นเด็กหนุ่มหน้าหล่อคนนี้นี่เอง!
โจวเจียงเฉินยิ้มกล่าวด้วยความทีแสนพอใจว่า
“เสี่ยวจ้าวหมั้นกับลูกสาวของฉันไว้แล้ว พี่น้องทั้งหลายเองก็ควรช่วยเหลือธุรกิจของกันและกันจริงไหม? พูดกันตามตรงนะ ตอนนี้น่านน้ำทะเลหยานจิ้ง อีกไม่นานท่าเรือเฉียนตงก็คุมทั้งหมดแล้ว ทำไมถึงไม่รีบย้ายก่อนที่ลูกค้าคนอื่นๆจะมาตัดหน้าสู้ราคาล่ะ?”
คนพวกนี้ล้วนแต่ต้องเกรงใจโจวเจียงเฉินทั้งสิ้น เมื่อเขาถูกถึงขนาดนี้แล้ว พวกเขาก็ละอายใจเกินกว่าจะปฏิเสธได้ลง เพื่อที่จะปองดองกับโจวเจียงเฉินต่อไปเผื่อจำเป็นต้องใช้เส้นสายในวันข้างหน้า พวกเขาจึงรีบเห็นดีเห็นงามด้วยทันที
โจวเจียงเฉินระเบิดหัวเราะอย่างมากความสุข จากนั้นก็เชิญพวกเขาไปรับประทานอาหารกันต่อที่โรงแรมหยานจิ้ง และพาไปเที่ยวอ่างเพื่อความผ่อนคลาย
ตราบใดที่บุคคลอันทรงอำนาจอย่างโจวเจียงเฉินยังออกหน้าช่วยเหลือเพื่อท่าเรือเฉียนตงแบบนี้ จ้าวเฉียนก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป ส่วนที่เหลือหลังจากนั้นจ้าวเฉียนก็วานให้หวางอวี่จุนมาดูแลต่อ
จ้าวเฉียนกำลังจัดเตรียทแผนการโปรโมตและเดบิวหลิวเสี่ยวเฟยอย่างเต็มกำลัง ทางด้านหยวนมี่เองก็ส่งแบบแผนมาให้สองสามทางเป็นทางเลือกแก่เขา แต่ท้ายที่สุดนี้เขาไม่พอใจสักแผนการเดียว
สำหรับเรื่องหลิวเสี่ยวเฟย หยวนมี่ตีความไปว่า เธอมีรูปร่างและหน้าตาที่ดีมาก ดังนั้นก็ควรเอาจุดแข็งตรงนี้มาเป็นจุดขาย เน้นไปทางสายคอสเพลย์ดึงความสนใจของบรรดาโอตาคุที่ชอบสาวอนิเมะมา เพราะนี่เองก็เป็นอีกแหล่งทำเงินชั้นดีเยี่ยม
อย่างไรก็ตาม จ้าวเฉียนไม่ต้องการให้หลิวเสี่ยวเฟยเดินในสายนั้นสักเท่าไหร่ เพราะลึกๆแล้ว หลิวเสี่ยวเฟยถือเป็นสาวสวยหนึ่งในคอลเลคชั่นของเขา ดังนั้นเขาไม่ต้องการให้คนอื่นจินตนาการหุ่นของเธอไปทำเรื่องสัปดน
หลังจากครุ่นคิดตลอดทั้งวันทั้งคืน จ้าวเฉียนก็เขียนแผนสรุปจัดส่งให้หยวนมี่โดยละเอียด และขอให้เธอทำตามแผนดังกล่าวดีกว่า
ซึ่งทันทีที่หยวนมี่เห็นแผนที่จ้าวเฉียนร่างขึ้นมา เธอก็ถึงกับตะลึง เนื่องด้วยเป็นตัวจ้าวเฉียนที่ไม่ค่อยจะมีประสบการณ์เรื่องอะไรแบบนี้มากนัก แต่การที่เขาเขียนแผนออกมาได้ดีเยี่ยมขนาดนี้ นับว่าน่าประหลาดใจอย่างแท้จริง
หลังจากเตรียมการสามวันเต็ม ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว
หยวนมี่ติดต่อพิธีกรยูทูปเบอร์คนหนึ่งที่มีผู้ติดตามถึง5ล้านคน รายการยอดนิยมที่สุดของเขาเกี่ยวกับการเที่ยวไปสัมภาษณ์ผู้คนตามท้องถนนถึงหัวข้อที่กำหนดในเทปนั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่าจ้าวเฉียนต้องการให้เขาไปสัมภาษณ์หลิวเสี่ยวเฟยนั้นเอง
จ้าวเฉียนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลคอยเฝ้ากดสะกดรอยตามยูทูปเบอร์คนดังกล่าวที่กำลังเดินหาเป้าหมายสัมภาษณ์
เป้าหมายแรกเป็น สาวผมสั้นใบหน้าขี้เหร่คนหนึ่ง
ยูทูปเบอร์คนนั้นเอ่ยถามขึ้นว่า
“สวัสดีครับ พวกเรามาจากช่องVRSO ขอสัมภาษณ์คุณผู้หญิงหน่อยได้ไหมครับ?”
สาวผมสั้นพยักหน้า
ยูทูปเบอร์กล่าวถามต่อว่า
“ถ้าคุณมีแฟนหรือสามีในอนาคต คุณคิดว่าเขาต้องหาเงินได้ต่อเดือนเท่าไหร่ถึงจะพอใจ?”
สาวผมสั้นปั้นหน้าครุ่นคิดจริงจังมาก ก่อนจะกล่าวตอบไปทันที
“ที่นี่ก็หยานจิ้งนี่เนอะ ถ้าเงินเดือนน้อยกว่าสองหมื่น คงไม่ไหวแน่นอน”
ยูทูปเบอร์กล่าวถามต่อว่า
“คุณผู้หญิงหมายความว่า ต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่สองหมื่นหยวนใช่ไหมครับ?”
สาวผมสั้นพยักหน้าและกล่าวตอบไปว่า
“ใช่ค่ะ อย่างน้อยต้องสองหมื่นหยวน น้อยกว่านั้นไม่พอกินหรอกค่ะ”
ยูทูปเบอร์คนดังกล่าวยิ้มและกล่าวขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ
เป้าหมายที่สองเป็น สาวมัดผมหางม้าหน้าตาน่ารักดูไร้เดียงสา หลังจากที่เธอได้ยินคำถามนี้ก็กล่าวตอบทันทีว่า
“อย่างน้อยต้องห้าหมื่นหยวน ห้าหมื่นต่อเดือน เพราะฉันชอบซื้อของฝากให้กับคนโน้นคนนี่ แล้วอีกอย่างนะ ผู้หญิงอย่างเราต้องแต่งหน้าทำผมทุกวัน ยังไงก็ต้องแบ่งค่าช็อปปิ้งซื้อเครื่องสำอางให้ด้วย น้อยกว่าห้าหมื่นก็อยู่เป็นโสดเถอะ”
เป้าหมายที่สามเป็นสาวสวยที่กล้าพูดกล้าชนไม่ใช่น้อย เธอยืนยันน้ำเสียงหนักแน่นว่า ต้องมีเงินเดือนอย่างน้อย100,000หยวนต่อเดือน(500,000บาท) เพื่อตั้งหลักแห่งในเมืองค่าครองชีพอย่างหยานจิ้ง เพราะตัวเธอเองหาเงินได้ปีละล้านหยวน ดังนั้นถ้าเธอจะมีแฟนทั้งที แฟนของเธอต้องเก่งและหาเงินได้มากกว่าเธอ
แน่นอนว่า จากมุมมองผู้ชายด้วยกัน คำตอบของสามสาวพวกนี้ฟังดูไม่เข้าหูสุดๆ แม้ที่นี่จะเป็นหยานจิ้ง แต่เงินเดือนเฉลี่ยอยู่เพียง8,000หยวนเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ยังมีผู้คนอีกมากที่มีเงินเดือนต่ำกว่า8,000หยวน ถ้ามันเป็นไปตามที่สามสาวคนนี้ว่ามาจริงๆ แสดงว่าผู้ชายเหล่านี้คงหาแฟนไม่ได้ไปตลอดชีวิตเลยเหรอ?
หลังจากเดินสุ่มไปเรื่อยๆ ยูทูปเบอร์คนนี้ก็เดินผ่านบริเวณฟิตเนสพอดี และในที่สุดก็ถือคิวของหลิวเสี่ยวเฟย ตรงตามสคริปที่จ้าวเฉียนแจ้งไว้พอดิบพอดี พอเห็นว่ายูทูปเบอร์คนดังกล่าวกำลังเดินมาทางนี้ หลิวเสี่ยวเฟยก็แสร้งทำเป็นเพิ่งออกมาจากฟิตเนส เดินผ่านหน้ากล้องทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร
ยูทูปเบอร์คนนั้นหันควับรีบวิ่งตรงไปสัมภาษณ์ทันที
“โอ้ว! มาแล้วครับ! ผู้สัมภาษณ์รายต่อไป! รอบนี้เป็นสาวสวยหุ่นดีที่เพิ่งออกจากฟิตเนสมาครับ! พวกเราไปดูกันดีกว่าว่าผู้ชายในอุดมคติของเธอจะต้องหาเงินได้เท่าไหร่! แต่จากสาวคนก่อนๆจะเห็นได้เลยนะครับว่า พวกเธอส่วนใหญ่ล้วนต้องการผู้ชายที่มีสถานะการเงินที่สูงมาก แล้วเธอคนนี้ที่สวยอย่างกับนางฟ้าจะขอสักเท่าไหร่ดี! ในความเห็นของผม ผมว่าหลักล้านต่อเดือนต้องมาแล้ว! ตามพวกเราVRSOไปสัมภาษณ์เธอกันเลย!”
จากนั้นทั้งตัวยูทูปเยอร์และคนถ่ายทำก็รีบวิ่งตรงไปสัมภาษณ์หลิวเสี่ยวเฟยทันที
“สวัสดีครับคนสวย พวกเรามาจากรายการ VRSO อยากจะสัมภาษณ์นางฟ้าสักหน่อยครับ”
ยูทูปเบอร์เอ่ยถามด้วยถ่อยคำที่สุภาพมาก
หลิวเสี่ยวเฟยยิ้มหวาน พลางเสยปอยผมเผยให้เห็นถึงแผงคอระหงส์ขาวเนียนสวยของเธอ ซึ่งทำเอาตากล้องกับยูทูปเบอร์คนดังกล่าวต้องตกตะลึงเพราะความสายและเสน่ห์เกินห้ามใจ
ยูทูปเบอร์คนนั้นถึงกับอุทานออกมา
“โอ้โห้ว สวยขนาดผมให้สามคำเลย! สวย โคตร โคตร! เอาล่ะกลับเข้ามาในประเด็นกันดีกว่า ตอนนี้ผู้ชมคงอยากรู้แล้วว่า นางฟ้าอย่างคุณ ถ้ามีแฟนหรือสามีในอนาคต เขาเหล่านั้นต้องหาเงินได้เท่าไหร่ต่อเดือนถึงจะพอใจ?”
หลิวเสี่ยวเฟยครุ่นคิดพลางหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน และกล่าวตอบไปว่า
“เท่าไหร่ก็ได้นะคะตราบเท่าที่เขาดูแลตัวเองได้ก็พอ เพราะฉันเองก็ทำงานไม่เห็นต้องแบมือขอเงินเขาเลยหนิค่ะจริงไหม?”
ยูทูปเบอร์คนนั้นถึงกับตะลึง รีบย้ำถามกลับไปว่า
“อะไรนะครับ? ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? รบกวนตอบอีกครั้งด้วยครับ”
หลิวเสี่ยวเฟยหัวเราะเล็กน้อยและตอบว่า
“ก็ตามนั้นเลยค่ะ เท่าไหร่ก็ได้ขอเพียงเขาดูแลตัวเอง ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้ได้ไม่ขาดแคลนก็พอ เวลาจะไปทานข้าวเย็นก็แค่ช่วยกันจ่าย จะไปดูหนังเขาซื้อตั๋วฉันซื้อป๊อปคอรน์ เรื่องแบบนี้ฉันว่ามันเป็นสิ่งที่คนสองคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่โยนภาระความกดดันให้แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นมันคงไม่ได้เรียกว่าความรักหรอกค่ะ แต่มันคือความเห็นแก่ตัว”
ยูทูปเบอร์รีบตอบด้วยความชื่นชมทันที
“สวยทั้งภายในและภายนอกเลยนะครับ นางฟ้าอย่างคุณมีแฟนแล้วรึยังครับ? ถ้ายังไม่มีพี่ชายผมยังว่างอยู่นะครับ ถ้าสนใจติดต่อมาได้ทุกเมื่อ ผมอยากให้พี่ชายตัวเองขายออกกับเขาบ้าง ฮ่าฮ่า…”
หลิวเสี่ยวเฟยยิ้มตอบกลับไปว่า
“ฉันยังรักชีวิตแบบอิสระอยู่น่ะค่ะ ส่วนเรื่องคู่ชีวิต ฉันค่อยๆหาไปก็ได้ค่ะ”
“ฮ่าฮ่า…เข้าใจแล้วครับ แต่ว่าคุณทำงานอะไรงั้นเหรอ? ทำไมถึงหุ่นดีขนาดนี้ได้?”
“ฉันเป็นเทรนเนอร์ฟิตเนสค่ะ มักจะมาออกกำลังกายหลังจากสอนนักเรียนเสร็จ เอ่อ…สัมภาษณ์จบแล้วใช่ไหมค่ะ? พอดีฉันต้องรีบไปซื้อของในตลาด เดี๋ยวมันจะปิดซะก่อน”
“จบแล้วครับ จบแล้ว ขอบคุณมากนะครับสำหรับความร่วมมือ”
หลิวเสี่ยวเฟยหันไปยิ้มหวานให้กล้องทีหนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ตากล้องกับยูทูปเบอร์คนดังกล่าวยังคงเดินตะเวนสัมภาษณ์คนแถวนั้นอีกสักพัก ก่อนจะกลับไปตัดต่อคลิปและโพสต์ลงช่องของตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น คลิปวีดีโอดังกล่าวถูกโพสต์ลงในเว็บโต่วหยิน(หรือที่คนไทยเรียกว่า TIKTOK)
หยวนมี่เองได้ตัดเอาส่วนที่หลิวเสี่ยวเฟยสัมภาษณ์มาทำลงช่องพร้อมยิงโปรโมตต่อทันที
แต่แน่นอนว่าคลิปดังกล่าวมันยังไม่เพียงพอ หยวนมี่จึงวางแผน้ตรียมสำหรับแผนการต่อไปทันที เพื่อให้แน่ใจว่าหลิวเสี่ยวเฟยจะแจ้งเกิดในโลกโซเซียลได้จริง