ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่40 เข้าเนื้อสามสิบล้าน
ตอนที่40 เข้าเนื้อสามสิบล้าน
ณ ปัจจุบัน เวลา23:59น. ทันทีที่เห็นนิยายทั้งสองเรื่องที่หวังเฉียงสนับสนุนแซงเรื่อง ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์ หรูเมิ่งก็ถอนใจยอมแพ้โดยสมบูรณ์ เธอรีบส่งข้อความหาจ้าวเฉียนเพื่อแสดงความขอบคุณทั้งหมดที่คอยช่วย
“ถึงฉันจะแพ้ แต่ก็ไม่เป็นไร แค่นี้ฉันก็ต้องขอบคุณคุณมากแล้วที่ช่วยถึงขนาดนี้”
จ้าวเฉียนตอบกลับทันทีเพียงสามคำว่า : “ยังไม่แพ้”
ในตอนนี้ หยางหมิงกระโดดโลดเต้นอย่างดีอกดีใจ เตรียมเปิดไวน์เฉลิมฉลองกับชัยชนะนี้ เขาส่งข้อความยั่วยุไปหา ‘พี่เฉียน’ เนื้อหาเต็มไปด้วยความหยาบคายมากมาย
“ไอ้กระจอก! มึงไม่มีทางเอาชนะกูได้ มึงแพ้แล้ว สวะ!!”
แต่ทันทีที่ข้อความนี้ถูกส่งออกไป จู่ๆ ก็มียอดตั๋วอ่านนิยายรายเดือนโผล่มาจากไหนไม่รู้ ถาโถมเข้ามาให้นิยายเรื่อง《ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์》อีก50,000ใบในชั่วอึดใจ!
ณ ตอนนี้เป็นเวลา 23:59:58วินาที
จ้าวเฉียนตอบหยางหมิงกลับไปโดยไวว่า : “ใช่ คุณแพ้แล้ว ไอ้กระจอก!”
กว่าที่หยางหมิงจะเห็นข้อความนี้ ก็กลายเป็นว่าขึ้นวันแรกของเดือนใหม่แล้ว
ท้ายที่สุดนี้นิยายเรื่อง《ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์》ก็แซงเอาชนะไปได้ในโค้งสุดท้ายอย่างพอดิบพอดี กลายมาเป็นนิยายยอดขายอันดับหนึ่งของเว็บไปโดยปริยาย ด้วยยอดทั้งหมดที่252,525ใบ ทำลายสถิตินิยายทุกเรื่องที่เคยมีมา
หยางหมิงรีบกดรีเฟรชหน้าเพจเว็บไซต์รัวๆ ไม่หยุด ทว่าพอเห็นว่ายอดตั๋วรายเดือนขึ้นรอบใหม่ที่ศูนย์แล้ว เขาก็โมโหอย่างมากจนขว้างมือถือในมือแตกกระจายทันที เขาใช้เงินทั้งหมดเกือบ30ล้านในครั้งนี้ แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นความพ่ายแพ้ ทั้งยังขาดทุนย่อยยับ และที่น่าสลดใจที่สุดคือ กระแสการแข่งขันยอดตั๋วรายเดือนดังกล่าวยังช่วยผลักดันให้นิยาย《ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์》กลายเป็นที่นิยมยิ่งขึ้นไปอีก เท่ากับว่าเขาใช้เงิน30ล้าน เพื่อช่วยโฆษณานิยายเรื่องนี้
เหล่าผู้คนสนใจแค่อันดับหนึ่งเท่านั้นและทุกคนในตอนนี้เอาแต่พูดถึงเรื่อง《ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์》พร้อมคว้าแชมป์ขึ้นแท่นนิยายทำยอดสูงสุดตลอดกาล และสำหรับนิยายของสองมหาเทพแพลตตินั่ม ในขณะนี้กลายมาเป็นเรื่องตลกที่ทุกคนต่างเอาไปวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปาก สิ่งที่น่าขายหน้าที่สุดคือ พวกเขาทั้งคู่เป็นฝ่ายท้าทายหรูเมิ่งก่อน แต่พอมาแพ้เองแบบนี้ มันไม่ใช่ว่ายกก้อนหินทุบเท้าตัวเองหรอกเหรอ?
เรื่องนี้กลับกลายมาเป็นกระแสอีกครั้งในWeibo Hot Search สามอันดับสุดฮอตที่ทุกคนนิยมค้นหาที่สุดได้แก่
“ตั๋วอ่านนิยายรายเดือน” “ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์” และ “ทำลายสถิติ”
“กำเนิดใหม่ นักเขียนมือทองแห่งยุค หรูเมิ่ง!”
“สองมหาเทพแขวนคอดับ หาเรื่องแต่เรื่องดันย้อนเข้าตัว!”
นอกเหนือจากนั้น ยังมีอีกหลายๆ หัวข้อที่เป็นประเด็นร้อนในหมู่ชาวเน็ต และยังมีเหล่าบรรดาแฟนคลับของหรูเมิ่ง ช่วยกันประจายข่าวและเขียนเชียร์เธออีกมากมาย ในทางตรงข้าม สองมหาเทพแพลตตินั่มดับสนิท
ใครในตอนนี้ไม่รู้จักนิยายเรื่อง《ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์》ถือว่าตกข่าวเกินเยียวยา ทุกคนต่างพูดถึงประเด็นนี้กันแทบทุกเว็บไซต์และแพลตฟอร์ม
หยางหมองมองไปยังหัวข้อยอดนิยมในอินเตอร์เน็ต รู้สึกขยะแขยงราวกับอมแมลงวันเน่าไว้ในปาก หวังจะสร้างกระแสดันนิยายของสองมหาเทพแพลตตินั่มขึ้น แต่สุดท้ายแผนการทุกอย่างดันพังลงไม่เป็นท่า แถมยังเข้าเนื้อไปอีก30ล้าน
จ้าวเฉียนนอนหลับอย่างสบายอารมณ์ ปิดฉากศึกสงครามในครั้งนี้ได้อย่างสวยงาม
เช้าวันรุ่งขึ้น เขาเปิดแอปอ่านนิยายขึ้นมา ในกล่องข้อความส่วนตัวของเขาแทบระเบิด มีคนส่งข้อความส่วนตัวมาหาเขานับครั้งไม่ถ้วน บางคนพิมพ์เข้ามาชื่นชมยกย่อง บ้างก็ตำหนิว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย และหยางหมิงเองก็ส่งข้อความมาหาเขาเช่นกัน
“อย่าดีใจจนเหลิงไป นี่เป็นเพียงเริ่มต้นเท่านั้น หัวเราะทีหลังดังกว่า! จำไว้! จะบอกอะไรให้เอาบุญ มึงเล่นผิดคนแล้ว กูลูกมหาเศรษฐี ใช้เงินให้ตายยังไงก็ไม่มีวันหมด ต่อจากนี้กูจะดันนิยายของสองคนนั้นให้ติดอับดับทุกเดือน กูจะขอดูหน่อยว่ามึงยังจะเหลือเงินเก็บอยู่ไหม!!”
จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะกับตัวเองดังลั่น และไม่ได้สนใจคำขู่ของหยางหมิงเลยสักนิด หลังจากที่นิยายเรื่อง《ล้ำฟ้าย่ำสวรรค์》คว้าอันดับหนึ่งไปได้ในเดือนนี้ กระแสนิยมก็พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด แม้จะให้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปเพิ่มอีกหลายร้อยล้านหยวน แต่กระแสนิยมคงไม่โตไปกว่านี้แล้ว หรือเพิ่มก็ขยับขึ้นอีกไม่มาก กล่าวได้ว่าไม่คุ้มทุน แล้วทำไมเขาต้องโง่ไปแข่งกับหยางหมิงอีกในทุกเดือน?
จ้าวเฉียนปัดบทสนาทนาดังกล่าวทิ้งและกดเข้าอ่านข้อความฉบับอื่นๆ ที่ส่งกันมา แต่ในไม่ช้าเขาก็บังเอิญไปเห็นข้อความที่หรูเมิ่งพิมพ์ส่งมาให้
“ดิฉันต้องขอบคุณพี่เฉียนจริงๆ ที่คอยสนับสนุนตลอดมา ไม่ทราบว่าดิฉันสามารถนัดเจอคุณสักครั้งได้ไหม? ไม่ต้องกังวลไป ฉันไม่มีเจรจาร้ายหรือขอเงินทุนใดๆ จากคุณ แต่สิ่งที่คุณทำให้ดิฉันมันมากเกินกว่าจะมองข้ามไปได้จริงๆ จึงอยากขอบคุณเป็นการส่วนตัวสักครั้ง”
ดูท่าหรูเมิ่งจะคิดว่า สาเหตุที่พี่เฉียนไม่เต็มใจที่จะพบเธอ เป็นเพราะเขากังวลว่าเธอจะรบกวนเขาหรือเข้าหา เพียงเพราะอีกฝ่ายรวย
ทว่าอย่างไร จ้าวเฉียนไม่ต้องการจะเปิดเผยตัวตนในตอนนี้ เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ นาๆ ที่ถาโถมเข้ามา เขาแค่ต้องการใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นแล้วเขาจึงแสร้งทำเป็นไม่เห็นและลบข้อความทิ้งทั้งหมด
เห็นว่าเวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงวันแล้ว จ้าวเฉียนก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำและเดินทางไปที่บริษัท
ทันทีที่มาถึง หวังเฉียงก็เรียกเขาเข้าไปในห้องทำงานทันที
“จ้าวเฉียน งานที่วานไปเป็นไงบ้าง?”
จ้าวเฉียนที่ช่วงนี้ยังคงยุ่งอยู่กับศึกตั๋วนิยายรายเดือน จึงลืมเรื่องดิลเกมไปสนิท เขาตอบไปแค่ว่า เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล เหลือแค่โทรไปยืนยันอีกทีก็เสร็จขั้นตอนแล้ว
“ผมว่าจะดึงเวลาอีกสักหน่อย ผู้จัดการหวังสบายใจได้ ผมไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน”
“ฮ่าฮ่า…ฉันเชื่อในความสามารถของนาย แต่…นี่ก็เพิ่งได้ยินมาว่า คุณชายหยางแห่งบริษัทเฟยอวี่เองก็เพิ่งจดทะเบียน ก่อตั้งบริษัทพัฒนาเกมขึ้นมา และกำลังหาเกมไปพัฒนาเช่นกัน ดังนั้นนายต้องรีบหน่อยล่ะ ถ้าโดนฉกโปรเจคนี้ไป คงไม่ดีแน่นอน ถึงจะเป็นบริษัทพัฒนาเกมน้องใหม่ แต่ทางนั้นมีกลุ่มอิทธิพลยักษ์ใหญ่อย่างเฟยอวี่คอยหนุนหลังอยู่ ถ้าแจ้งเกิดขึ้นมา บริษัทเราแย่แน่”
ทันทีที่จ้าวเฉียนรู้ว่า หยางหมิงเองก็เพิ่งเปิดบริษัทเกมและสนใจโปรเจคนี้เช่นกัน เขาก็ตาสว่างพราวขึ้นในบัดดล เขากังวลอยู่เสมอว่า จะไม่มีโอกาสลงมาสู้กับหยางหมิงได้อย่างเสมอภาค ทว่าตอนนี้โอกาสได้มาถึงแล้ว ในฐานะพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเกมฟางนี่ เขาจะใช้สถานะนี้ต่อกรกับหยางหมิงอย่างสุดความสามารถ ไม่มีเหตุผลเลยที่จะปฏิเสธโอกาสดีๆ แบบนี้ทิ้งไป จริงไหม?
“รับทราบ ผมเข้าใจแล้ว ผู้จัดการหวังมีอะไรอีกไหม? ถ้างั้นผมขอตัวออกไปที่บริษัทซิงหยวน น่าจะได้ข่าวอะไรดีๆ กลับมา”
หวังเฉียงพยักหน้า ทิ้งท้ายให้อีกฝ่ายดูแลตัวเองด้วย
จ้าวเฉียนลุกขึ้นจากเก้าอี้และจากออกไปทันที แทบจะในทันทีทันใด ใบหน้าอันเป็นมิตรของหวังเฉียงก็ค่อยๆ มืดทมิฬลง เคียงคู่ไปกับรอยยิ้มชั่วร้ายที่แสยะกว้างออกมา
“หึหึ…มันกล้ารับงานนี้จริงๆ คราวนี้ฉันขอดูหน่อยว่า แกจะจัดการกับหยางหมิงยังไง เข้าไปพัวพันกับทายาทเศรษฐีระดับนั้น แกไม่ตายดีแน่นอน!”
หวังเฉียงเอ่ยพึมพำกับตัวเอง และคลี่ยิ้มแห่งชัยชนะออกมา ปรากฏว่าเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า โปรเจคเกมนี้หยางหมิงเองก็จ้องไว้อยู่แล้วเช่นกัน ดังนั้นหวังเฉียงจึงจงใจทำให้จ้าวเฉียนกับหยางหมิงต้องขัดแย้งกัน แผนการยืมตัวบุคคลระดับทายาทเศรษฐีมาจัดการศัตรูหัวใจแบบนี้ จะต้องได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมแน่นอน แต่หวังเฉียงหารู้ไม่ว่า ระหว่างจ้าวเฉียนกับหยางหมิงต่างก็ขัดแย้งกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
จ้าวเฉียนเพียงหาข้อแก้ตัวเพื่อออกก่อนเวลางาน ตอนนี้เขากำลังนั่งของว่างอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง หยิบมือถือขึ้นมาพร้อมโทรหากัวหมิงต้า CEOบริษัทซิงหยวน
“ว่าไงครับคุณชายจ้าว โทรมาแบบนี้คงมีเรื่องให้ช่วยใช่ไหมครับ?”
“อืมใช่เลย นายออกมาพบฉันตอนนี้ได้ไหม เดี๋ยวค่อยอธิบายให้ฟังดีกว่า”
“ได้เลยครับ คุณชายจ้าวกินข้าวแล้วรึยัง? ถ้ายัง ผมขออนุญาตเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารคุณชายจ้าวสักมื้อนะครับ หวังว่าจะไปทานด้วยกัน”
ครั้งสุดท้ายที่เจอกัวหมิงต้า เขาถูกจ้าวเฉียนปฏิเสธนัดอาหารค่ำไป คราวนี้จ้าวเฉียนมีเรื่องต้องการคุยด้วย จึงโอกาสอันดีที่จะเชิญไปทานด้วยกันรอบแก้ตัว ทางฝั่งจ้าวเฉียนเองก็ไม่เกรงใจ ตอบตกลงไปทันที
ทั้งสองนัดพบกันที่โรงแรมตงไห่ในอีกหนึ่งชั่วโมงให้หลัง กว่าจะมีโอกาสได้พาคุณชายจ้าวไปทานอาหารด้วยกันสักที กัวหมิงต้าจึงโทรจ้องห้องอาหารที่ดีที่สุดของโรงแรมตงไห่
ทั้งสองเข้าไปยังห้องอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้และสั่งอาหารชุดหรูมากมาย ระหว่างนั้นเองจ้าวเฉียนก็เริ่มเปิดฉากสนทนากับกัวหมิงต้า
“ฉันได้ยินมาว่า ที่ซิงหยวนกำลังจะมีเกมเทอร์มินัลออกมาประมูลเพื่อนำไปพัฒนาต่อ?”
“ใช่ครับ คุณชายจ้าวสนใจหรือเปล่าครับ?”
“ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลย แต่ฉันได้ยินมาจากผู้จัดการในบริษัทที่ทำงานอยู่ว่า บริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ของหยางหมิงเองก็เข้าร่วมการประมูลด้วยใช่ไหม?”
กัวต้าหมิงพยักหน้าตอบว่า
“มีบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ด้วยชื่อหยางหมิงมาเข้าร่วมจริงๆ แถมอีกฝ่ายยังเน้นย้ำมาทางเราว่า เบื้องหลังของเขามีบริษัทเฟยอวี่คอยหนุนหลังอยู่ นี่ควรจะเป็นบริษัทของหยางหมิง ลูกชายของหยางเฉิงไม่ผิดแน่”
จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะอย่างมีความสุขและอธิบายให้กัวหมิงต้าฟังว่า หลังจากนี้ควรทำยังไงต่อ
“งั้นถือว่าบริษัทฉันดิลแล้วนะ แต่นายก็เปิดประมูลต่อไปนั้นแหละ ท้ายที่สุดนี้ฉันอยากรู้ว่าทางนั้นจะดิ้นยังไง”
“เข้าใจแล้วครับ ถ้าหยางหมิงกล้าทำให้คุณชายจ้าวขุ่นเคือง ผมจะหาคนมาจัดการให้ครับ ไม่ต้องถึงมือคุณเอง”
“ไม่ได้ ไม่ได้ ห้าปีก่อน ฉันอาจเคยใช้ความเป็นพ่อลูกแก้ไขปัญหา แต่ตอนนี้ฉันจะพยายามจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง นอกจากนี้ฉันยังไม่อยากที่จะเปิดเผยตัวตน นี่ก็เพื่อเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็นออกไป”
“เข้าใจแล้วครับ ไม่ต้องห่วงเลยคุณชายจ้าว ผมจะรีบจัดการตามแผน”
จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบด้วยความพึงพอใจ เอ่ยทักให้กัวหมิงต้ารีบทานอาหารก่อนมันเย็นชืด
ในตอนนี้หยางหมิงให้ความสำคัญกับโปรเจคเกมนี้เป็นอย่างมาก เพราะเขาคิดว่า ตราบใดที่ทางเขาประมูลโปรเจคเกมนี้มาได้ บริษัทเฟยอวี่จะสามารถสร้างสัมผันอันดีกับบริษัทซิงหยวนได้อย่างแน่นอน และเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาก็จะสามารถครองตลาดเกมของประเทศได้อย่างหมดจน แต่…หยางหมิงกลับไม่รู้ตัวเลยว่า บริษัทที่ต้องพยายามจะผูกสัมพันธ์ด้วยเป็นบริษัทของศัตรูคู่อาฆาตอย่างจ้าวเฉียน