ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่49 โค้ดเบต้าเกม
ตอนที่49 โค้ดเบต้าเกม
หากไม่มีหยางหมิงที่คอยเข้ามาแทรกแซงก่อปัญหาอยู่เป็นระยะ จ้าวเฉียนก็ถือว่ามีความสามารถในการบริหารอย่างยิ่ง
พริบตาเดียวหนึ่งเดือนได้ผ่านพ้นไป ในที่สุดเกมมือถือของบริษัทซิงหยวนก็เข้าสู่ขั้นตอนโค้ดเบต้า [1] ตราบใดที่ผลตอบรับค่อนข้างมีกระแสในทางบวก เกมนี้ก็จะเปิดสู่สาธารณชนได้เล่นอย่างแน่นอนเร็วๆ นี้
พูดตามตรงเลย นี่เป็นเกมที่สร้างโดยมีแรงบรรดาลใจมากจากเกม League of Legends และ ROV เวอร์ชั่นเริ่มต้น
อธิบายโดยสังเขปคือ เป็นเกมแนววางแผนและตีป้อมของฝ่ายตรงข้าม ผู้คนจะต้องเลือกฮีโร่ห้าตัวจากทั้งหมด
แบ่งออกเป็นห้าตำแหน่งได้แก่ ตำแหน่งป่า, ตำแหน่งเมจเลนกลาง, ตำแหน่งออฟเลนบน, ตำแหน่งออฟเลนล่าง และตำแหน่งสนับสนุน ฮีโร่ในปัจจุบันมีทั้งหมด50ตัว แบ่งเป็นตำแหน่งละ10ตัว ให้ผู้เล่นได้เลือกอย่างอิสระ
ตราบใดที่กระแสเกมนี้ยังคงดีอย่างต่อเนื่อง ทางผู้พัฒนาจะเปิดตัวฮีโร่ใหม่ได้เรื่อยๆ ในอนาคต
จ้าวเฉียนโทรหาอู๋ซินและนัดเจอกัน
เนื่องด้วยตอนนี้อู๋ซินกลายมาเป็นเน็ตไอดอลไปแล้ว เธอจึงมีชื่อเสียงและไม่สามารถเดินเตร่ตามท้องถนนแบบแต่ก่อนได้อีกต่อไป ทั้งสองจึงต้องนัดคุยกันในรถจากัวร์คันใหม่ที่จ้าวเฉียนเพิ่งถอยมา
อู๋ซินเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า
“หลายวันนี้มานี้นายหายเงียบไปเลบยนะ ทำไมไม่ออกมาหาฉันบ้างเลย?”
จ้าวเฉียนหยิบมือถือออกมาและเปิดเข้าเกมทันที และเบี่ยงประเด็นไปว่า
“ก็ช่วงนี้ฉันต้องขยันทำงานหน่อย เอาน่า อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย ฉันจะสอนเธอเล่นเกมนี้เอง ตั้งใจจับตาดูให้ดี เข้าใจไหม?”
“โอ้ ได้ๆ”
จากนั้นอู๋ซินก็รีบเขยิบเข้าใกล้จ้าวเฉียน สายตาคู่สวยของเธอจ้องเขม็งมาที่หน้าจอมือถือของเขา
เพื่อความสะดวกในการสอนอู๋ซิน จ้าวเฉียนจึงเลือกโหมดต่อสู้กับบอท [2] ระหว่างเกมเธอยังคงยิงคำถามออกมาต่างๆ นาๆ ราวกับอยากจะเล่นเองบ้างแล้ว แน่นอนเธอดูสนใจเกมนี้เป็นอย่างมาก
เมื่อเป็นเกมที่เราสนใจ ไม่ว่ายากแค่ไหนผู้คนล้วนจะพยายามฝึกซ่อมจนกว่าจะเล่นได้ จริงไหม?
หลังจากที่จ้าวเฉียนตาหนึ่งจบ อู๋ซินก็เอ่ยถามทันทีว่า
“เกมนี้ชื่ออะไรเหรอ? ฉันว่ามันน่าสนใจมากเลยนะ ทั้งเอฟเฟกต์สกิลความสามารถ ทั้งโมเดลตัวละคร ภาพฉากเกม ทุกอย่างมันดูสวยไปหมดเลย!”
จ้าวเฉียนรีบอธิบายตอบว่า
“นี่เป็นเกมที่บริษัทฉันกับบริษัทซิงหยวนร่วมมือกันพัฒนาขึ้นมา ตอนนี้อยู่ในระหว่างเปิดให้ทดลองเล่น แล้วจะเปิดให้บริการจริงในเร็วๆ นี้ ฉันคิดว่า ถ้าเธอเล่นเกมนี้ได้มีจะช่วยสร้างจุดเด่นอีกอย่างให้ตัวเธอแน่นอน ผู้คนโดยส่วนใหญ่เล่นเกมแนวนี้กันทั้งนั้น ถ้าเธอเล่นจนคล่อง แล้วไลฟ์สตีมเปิดเล่นโชว์ ฉันว่ายอดผู้ชมคงเพิ่มขึ้นหลายเท่า! นี่เป็นโอกาสดีสำหรับเธอนะ!”
อู๋ซินรีบกเหลียวกลับนั่งตัวตรงแหน็ว พร้อมเอ่ยถามเขาไปว่า ทำไมถึงบอกว่าเป็นโอกาสดีของเธอล่ะ?
จ้าวเฉียนอธิบายต่อว่า
“เฟยอวี่, เทียนซูว, สวอน หรือหลงย่า แพลตฟอร์มไลฟ์สตีมทั้งหมดในตอนนี้ ยังไม่มีที่ไหนมีจุดเด่นเป็นสตีมเมอร์สายเกมเลยจริงไหม? ถ้าเธอรีบศึกษาเรียนรู้ตัวเกมก่อนล่วงหน้า ทันทีที่เกมเปิดให้บริการ เธอจะได้เปรียบกว่าชาวบ้านชาวช่อง ใครๆ ก็ชอบดูคนที่เล่นเกมเก่ง แถมยังเป็นสตีมเมอร์สาวคนดัง ใครบ้างจะไม่อยากดู? สิ่งนี้แหละจะเป็นตัวชูโรงให้กับแพลตฟอร์มเทียนซูว”
อู๋ซินเข้าใจในทันทีว่าจ้าวเฉียนกำลังหมายถึงอะไร เธอยิ้มตอบทันทีว่า
“สิ่งที่นายพูดไปก็มีเหตุมีผล แต่ไม่รู้ว่าฉันจะเล่นเกมนี้ให้เก่งยังไงนี่สิ ถ้าตายบ่อยใครจะไปอยากดูล่ะจริงไหม?”
“เพราะงั้นเธอก็ต้องเริ่มฝึกฝนตั้งแต่ตอนนี้ ฉันไปสอบถามเพื่อนร่วมงานในแผนกพัฒนาเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับความสามารถของฮีโร่ต่างๆ ข้อมูลไอเทม หลังจากนั้นเธอก็กลับไปศึกษาให้ดี ฝึกเล่นให้บ่อย เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว”
หลังพูดจบจ้าวเฉียนก็หยิบUSBออกมาพร้อมส่งให้อู๋ซิน ซึ่งภายในนี้มีโปรแกรมติดตั้งเกมและข้อมูลจาดแผนกพัฒนาที่เธอต้องการ
จ้าวเฉียนกังวลว่าอู๋ซินจะติดปัญหาในระหว่างงานจนไม่มีเวลาฝึกฝน ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับเธอต่อว่า
“ฉันจะไปหาออฟฟิศที่เธอทำงานในวันพรุ่งนี้ หวังว่าฉันจะสามารถทำข้อตกลงกับแพลตฟอร์มที่เธอทำงานอยู่ได้ เมื่อสองบริษัทจับมือกัน ในอนาคตเธอก็จะสามารถไลฟ์สตีมเกมนี้ได้อย่างหมดห่วง หวังว่าประธานแพลตฟอร์มของเธอจะยอมให้เต็มใจให้ความร่วมมือกับฉันนะ?”
อู๋ซินยิ้มหวานพยักหน้าตอบให้ทันที และตอบเขาไปว่า พรุ่งนี้เธอจะรีบเข้าบริษัทแต่เช้าเพื่อช่วยเขาคุยกับประธานก่อนอีกแรง
จ้าวเฉียนพยักหน้าและขับรถไปส่งเธอ ก่อนจะกลับเข้าคฤหาสน์
ทันทีที่มาถึงจ้าวเฉียนต่อสายตรงโทรหาหงซิ่วทันที
“หงซิ่ว พรุ่งนี้ผมจะไปที่บริษัทเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือ เธอก็เตรียมตัวให้ดีล่ะ อย่าหลุดเรียกผมว่าท่านประธานเด็ดขาด”
“ไม่ต้องกังวลเลยค่ะประธานจ้าว ฉันจะพยายามเล่นตามบทให้ดี ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”
“อืมงั้นฝากด้วยนะ นี่ก็ดึกแล้วนอนพักผ่อนเถอะ ฝันดี”
จ้าวเฉียนวางสายไป คล้ายว่านึกอะไรขึ้นบางอย่างได้ จึงเดินไปที่บ้านพักข้างๆ ที่ติดกับคฤหาสน์ เพื่อไปเยี่ยมเยือนหวงหยิงเมิ่งกับซูอิ๋ง สองสาวกำลังง่วนอยู่กับการปรับแก้บทนิยาย
จ้าวเฉียนเคาะประตูเรียกพร้อมกับถาดผลไม้หลากสีสันในมือ หวงหยิงเมิ่งรีบวิ่งเปิดประตูและกวักมือเรียกให้เขาเข้าไป
“เป็นยังไงบ้างสองสาว บทนิยายคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว? อย่าโหมงานหนักจนเกินไปล่ะ เอานี่ พักทานผลไม้สักหน่อยมา”
ทั้งสองคลี่ยิ้มหวานพลางพยักหน้างึกงัก พร้อมเดินมาจิ้มผลไม้กินกันอย่างเอร็ดอร่อย
หวงหยิงเมิ่งรายงานความคืบหน้าว่า
“ช่วง300,000คำแรกใกล้จะเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่พี่ซูบอกว่า ต้องการให้ฉันเพิ่มจุดระลึกความหลังที่เชื่อมโยงกับอดีตเข้ามาหน่อย ฉันกำลังต่อเติมบทนี้เข้าไปเพิ่มอยู่ อีกหนึ่งสัปดาห์น่าจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
จ้าวเฉียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ตอบกลับไปว่า
“โอ้ วิเศษไปเลย ส่วนเรื่องคัดเลือกนักแสดงตอนนี้ก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ก็ยังหาคนที่มารับบทนางเอกไม่ได้สักที ถ้าได้ตัดสินใจว่าใครจะมารับบทนางเอกได้แล้ว ทางเราจะเริ่มการถ่ายทำทันที”
หวงหยางหมิงถามต่อว่า เธอมีสิทธิ์ดูรายชื่อนักแสดงที่มารับบทในเรื่องได้ไหม แม้ดธอจะไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่เธอในฐานะคนเขียนย่อมเข้าใจตัวละครดีที่สุด ถ้ามีอะไรผิดพลาด เธอจะได้แนะนำให้แก่ผู้กำกับได้
จ้าวเฉียนเองก็คิดว่า เธอพูดมีเหตุผล เนื่องจากยังไม่เริ่มการถ่ายทำ นักแสดงที่ได้รับแต่ละบทบาทไปจึงยังไม่ได้เซ็นสัญญา ระหว่างจึงยังพอมีเวลาสำหรับปรับแก้ไขอยู่บ้าง เขาพูดขึ้นว่า
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไปบอกผู้กำกับดู ถ้ามีส่วนไหนที่ยังดูไม่เข้ารู้เข้ารอย คุณก็สามารถท้วงติงได้เลย”
หวงหยิงเมิ่งดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น เธอรีบเอ่ยปากขอบคุณจ้าวเฉียนทันทีที่ช่วยเหลือเสมอมา และยังบอกอีกว่า ถ้าวันไหนว่าง เธออยากจะเชิญเขาออกไปรับประทานอาหารค่ำด้วยกันสักมื้อ ถือเป็นคำขอบคุณที่เขาดูแลเธอมาเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา
จ้าวเฉียนหัวเราะเล็กน้อย ตอบไปว่า
“ยินดีเสมอครับ ผมแค่ทำในสิ่งที่ควรทำเท่านั้น ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ เชิญพักผ่อนกันตามอัธยาศัย”
หวงหยิงเมิ่งและซูอิ๋งรีบลุกขึ้นไปส่งจ้าวเฉียนออกไป
บริษัท 0ฉียนเก๋อ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ในปัจจุบันยังไม่มีผู้กำกับส่วนตัวประจำสังกัด จ้าวเฉียนจำเป็นต้องยืมบุคคลจากกองถ่ายในเครือบริษัทภาพยนตร์ของพ่อเขา เพื่อไม่ให้คนนอกเกิดความสงสัย เขาจึงทำสัญญาแบบแชร์ผลกำไรกัน โดยให้ทางบริษัทภาพยนตร์ในเครือดังกล่าว20%
เช้าวันรุ่งขึ้น จ้าวฉียนโทรหาCEOบริษัทภาพยนตร์ดังกล่าวและนัดให้อีกฝ่ายออกมารับประทานอาหารเที่ยงด้วยกัน จากนั้นก็รีบขับรถตรงไปที่บริษัทแพลตฟอร์มเทียนรซูวต่อ
อู๋ซินดูตื่นเต้นอย่างมาก ทันทีที่มาถึง เธอก็รีบเอ่ยปากแนะนำจ้าวเฉียนให้หงซิ่วรู้จัก และพยามเกลียกล่อมให้เธอตกลงร่วมมือกับอีกฝ่าย
“ดิฉันได้ยินอู๋ซิวแนะนำมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก คุณจ้าว ไม่ทราบว่าลองโชว์เกมดังกล่าวให้ดิฉันดูสักครั้งได้หรือไม่?”
จ้าวเฉียนพยักหน้าอย่างสุภาพ และกล่าวตอบไปว่าไม่มีปัญหา จากนั้นก็เริ่มเข้าเกมและเลือกโหมดต่อสู้กับบอท พร้อมเล่นให้หงซิ่วดู
หงซิ่วเพียงแสดงตามน้ำพยักหน้าชื่นชมออกเป็นระยะ ทว่าปลายเท้าเกร็งจัดจนแทบจิกพื้นอยู่แล้ว มีอย่างที่ไหน ประธานบริษัทตัวเองกำลังเล่นเกมให้ดู? ไม่ว่าใครก็เกร็งกันทั้งนั้น!
“ว้าว! ทางคุณพัฒนาเกมออกมาได้ดีจริงๆ ฉันชอบนะ ทั้งระบบการเล่นและโมเดลตัวละคร สิ่งจะสามารถกระตุ้นอุตสาหกรรมไลฟ์สตีมให้คึกคักได้อย่างแน่นอน!”
จ้าวเฉียนยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร มือข้างหนึ่งวางมือถือลงบนโต๊ะและเอ่ยถามว่า
“ท่านประธานหง สนใจให้ความร่วมมือกับบริษัทเราไหมครับ?”
“แน่นอนค่ะ แต่ดิฉันต้องการทราบเงื่อนไขของทางบริษัทคุณจ้าวก่อนด้วย คงไม่อนุญาตให้สตีมเมอร์ของเราเผยแพร่เกมนี้โดยไม่คิดค่าอะไรเลยจริงไหมค่ะ?”
“ฮ่าฮ่า…สมแล้วที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มยอดฮิตในเวลานี้ ประธานฟางมีประสบการณ์ด้านธุรกิจไม่น้อยจริงๆ แต่ผมต้องบอกข่าวดีครับว่า ทางเราอนุญาตให้แพลตฟอร์ของคุณนำไปใช้งานได้ฟรี แต่มีข้อแม้ว่า อู๋ซินจะต้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเกมนี้ในตอนเปิดตัว และต้องแคสเกมนี้เป็นเวลาสองชั่วโมงต่อวัน เกมนี้อนุญาตให้แค่แพลตฟอร์มเทียนซูวในการเผยแพร่เท่านั้น”
คำขอของจ้าวเฉียนไม่ได้มากเกินไปแต่อย่างใด หงซิ่วรู้สึกว่าทุกอย่างค่อนข้างสมเหตุสมผล และไม่จำเป็นต้องต่อรอง ดังนั้นเธอจึงตอบตกลงทันที
จ้าวเฉียนลึกขึ้นยืนพร้อมจับมือกับหงซิ่ง ทั้งสองนัดเซ็นสัญญาอีกครั้งอย่างเป็นทางการในอีกสามวัน
ออกจากแพลตฟอร์มเทียนซูว จ้าวเฉียนก็หมุนตัวกลับมาและตรงเข้าไปในบริษัท เฉียนเก๋อ ที่อยู่ติดกันทันที และขอเข้าพบหยวนมี่
หยวนมี่รีบวิ่งออกมาจากห้องทำงานและเอ่ยถามทันทีว่า
“ประธานจ้าวมีอะไรให้ดิฉันรับใช้ค่ะวันนี้?”
“อืม…ออกไปทานอาหารเที่ยงกัน ผมจะพาคุณไปแนะนำให้รู้จักกับใครบางคน บริษัทของเราเพิ่งมาลงทุนในตลาดนี้ครั้งแรก หากมีปัญหาอะไรในวันข้างหน้า ก็สามารถปรึกษาเขาได้ตลอดเวลา ผมจะพยายามไม่เข้ามาช่วยเท่าไหร่นัก”
หยวนที่พพยักหน้ารับคำสั่ง และบอกเขาไปว่า ไม่มีปัญหา แต่ระหว่างเดินออกจากตึกนี้ ควรเดินออกไปก่อนทีละคนเพื่อกันผู้คนพากันสงสัย
ครึ่งชั่วโมงต่อมา จ้าวเฉียนได้พาหยวนมี่มาพบกับผู้กำกับเฉินเจีย
[1] ระยะเปิดเกมที่ให้ผู้เล่นเข้ามาทดสอบทอลองเล่นกัน
[2] ตัวละครที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์