ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่54 คลิปวีดีโอ
ตอนที่54 คลิปวีดีโอ
เมื่อได้ยินว่าบรรดาเพื่อนร่วมงานไม่มีใครเชื่อว่า ฟางนี่จะพูดแบบนี้ออกมา จ้าวเฉียนที่เดินผ่านมาพอดีจึงเสนอไปว่า ถ้างั้นฉันจะวีดีโอคอลหาฟางนี่ต่อหน้าทุกคน เพื่อรายงานเรื่องทั้งหมดให้เธอทราบ
“ประธานฟาง ทางบริษัทซวนอวี่แจ้งผลการประมูลมาแล้ว ทางเราเป็นฝ่ายชนะ แต่เพื่อนร่วมงานทุกคนต่างรู้สึกกังขาใจ แถมยังบอกว่านี่เป็นความผิดของผม ที่เสนอราคาออกไปโดยทำให้บริษัทต้องตกสู่สภาวะขาดทุนในอนาคต ประธานฟางคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ครับ?”
“อืมเข้าใจแล้ว นายช่วยเร่งเสียงดังๆ ที ฉันจะบอกกับทุกคนเอง”
“โอ้ดีเลยครับ”
จ้าวเฉียนเปิดเสียงมือถือให้ดังที่สุด หวังให้ทุกคนได้ยินสิ่งที่ฟางนี่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้กันโดยทั่ว
“ทุกคนฟังนะ ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในบริษัท จ้าวเฉียนจะเป็นคนบริหารและจัดการทุกอย่างแทนฉัน ไม่ว่าเขาจะพูดหรือตัดสินใจยังไง พวกนายแค่ปฏิบัติตาม หากเกิดอะไรขึ้นจริงๆ เขาจะเป็นคนแบกรับผลที่ตามมาทั้งหมด ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวล หรือคิดแทนเขา หวังว่าจะเข้าใจกันนะ?”
ทุกคนรีบตอบเสียงดังฟังชัด ทั้งยังกล่าวเสริมไปอีกว่า พวกเขาเข้าใจแล้วและจะไม่รบกวนฟางนี่อีกในอนาคต
ฟางนี่คลี่ยิ้มตอบอย่างพึงพอใจ และพูดกับจ้าวเฉียนต่อว่า
“จ้าวเฉียน อย่าไปฟังคนพวกนี้ให้มันมากนัก นายแค่ตั้งใจจัดการในแบบของนายไป ฉันเชื่อในความสามารถและความภักดีของนายที่มีต่อบริษัท”
จ้าวเฉียนรีบขอบคุณอีกฝ่ายที่ยอมไว้ใจ และตอบไปว่า
“ประธานฟางครับ…ผมไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริงๆ แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ผมจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังแน่นอน และจะยกระดับบริษัทของเราไปสู่อีกขั้น…”
“ฉันเชื่อใจในศักยภาพของนาย เอาล่ะ ฉันยังมีธุระอีกมาก ขอตัวก่อน ส่วนพวกนายก็ตั้งใจทำงานให้ดีล่ะ”
“โชคดีครับประธานฟาง”
คนอื่นๆ รีบบอกลาฟางนี่ก่อนที่จ้าวเฉียนจะตัดสายไป
เจียงเสี่ยวปิงบ่นพึมพำเบาๆ ว่า
“แสดงได้ดี ฉันนี่แทบหลั่งน้ำตา จะยกระดับบริษัทไปสู่อีกขั้นครับ! แอวะ…จะอ้วก!”
แต่จ้าวเฉียนคิดที่จะโต้เถียงกับเธอให้เปลืองน้ำลาย แสร้งทำเป็นหูทวนลมและรีบสั่งการให้แผนกพัฒนาเริ่มการสร้างเกมโปรเจคใหม่ทันที
ทุกคนต่างกลับเข้าประจำตำแหน่งเพื่อทำงานของตนต่อไป เจียงเสี่ยวปิงตรงมายังห้องชงการแฟ ซึ่งมีหวังเฉียงกำลังดักรอเธออยู่เงียบๆ ภายในนั้น
“ตอนนี้ฉฮันจะทำยังไงดี? ยัยโง่ฟางนี่ไม่รู้เลยว่าใครเป็นพิษร้ายของบริษัทแห่งนี้ แถมยังเชื่อใจไอ้จ้าวเฉียนเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้พวกเราไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย!”
เจียงเสี่ยวปิงหัวเสียถึงขีดสุด กระดกน้ำดื่มในแก้วรวดเดียวหมด ก่อนทุบโต๊ะไปทีหนึ่งด้วยความโมโห
หวังเฉียงตอนนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นคู่แข่งจ้าวเฉียนได้เลย และยิ่งได้ยินว่าฟางนี่เชื่อใจในตัวอีกฝ่าย เขายังมีปัญญาทำอะไรได้อีก?
เจียงเสี่ยวปิงต้องการความช่วยเหลือจากหยางหมิงเป็นอย่างมากในตอนนี้ แต่เธอกังวลว่า หากเอ่ยถึงอีกฝ่ายโดยตรงแบบนี้ หวังเฉียงอาจสงสัยในตัวเธอได้ ดังนั้นเธอจึงจงใจพูดขึ้นว่า
“มันจะดีกว่านี้หากพวกเราหาใครสักคนที่มีศักดิ์สถานะพอสู้กับฟางนี่ได้ ตราบใดที่จัดการเธอได้ ไอ้จ้าวเฉียนก็เป็นแค่เศษขี้เถ้า ไม่มีพิษสงอีกต่อไป”
หวังเฉียงที่ได้ยินแบบนั้นก็พลันนึกถึงหยางหมิงทันที และรีบเอ่ยถามว่า
“เธอเองก็เข้าร่วมการประมูลไม่ใช่เหรอ? ตอนที่จ้าวเฉียนชนะการประมูล หยางหมิงต้องมีปฏิกิริยาอะไรบ้างสิ?”
เจียงเสี่ยวปิงเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในงานประมูลให้หวังเฉียนฟังโดยละเอียด จนเขาระเบิดหัวเราะลั่นคล้อยหลังได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด
“จ้าวเฉียนมันใจใหญ่เกินไปแล้ว ถึงกล้าเผชิญหน้ากับหยางหมิงขนาดนี้ เอาล่ะ ฉันจะชวนหยางหมิงออกไปทานอาหารเย็นด้วยกัน เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาทำอะไรสักอย่างกับจ้าวเฉียน ถึงเราจะทำอะไรมันไม่ได้ แต่หยางหมิงทำได้”
เจียงเสี่ยวปิงพยักหน้าตอบทันที กล่าวได้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีมากเช่นกันสำหรับกำจัดจ้าวเฉียนออกจากชีวิต แต่ที่เธอมีความสุขที่สุดคือ คืนนี้เธอจะหาข้ออ้างไปต่อกับหยางหมิง จากนั้นก็รีบหาโอกาสเกาะแข้งเกาะขาของเขาโดยเร็ว หวังเฉียงเริ่มพิมพ์ข้อความส่งไปหาหยางหมิงผ่านWeChatทันที ซึ่งถามไปว่า วันนี้มีเวลาว่างมารับประทานอาหารเย็นด้วยกันไหม?
หยางหมิงสบโอกาสพอดิบพอดี เขาอยากได้เจียงเสี่ยวปิงมาขึ้นเตียงเต็มทนแล้ว แต่แน่นอนว่าเขาไม่พูดออกไปตรงๆ และตอบกลับไปเพียงว่า
“วันนี้ฉันว่างพอดี ถ้าไม่รังเกียจจะพาแฟนนายมาด้วยก็ได้ เพราะฉันเองก็จะพาแฟนมาหาอะไรทานด้วยเหมือนกัน หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว”
หวังเฉียงที่มุ่งมั่นคิดแต่เรื่องแก้แค้น จึงไม่ได้เอะใจสงสัยคำตอบของอีกฝ่ายเลย เขารีบตอบกลับอย่างมีความสุขว่า แน่นอนไม่มีปัญหา ทางหยางหมิงจึงรีบส่งเวลาและสถานที่นัดเจอทันที
เจียงเสี่ยวปิงที่เห็นรอยยิ้มของหวังเฉียง ก็เอ่ยถามขึ้นว่า
“เป็นไงบ้าง? อีกฝ่ายยอมไหม?”
หวังเฉียงพยักหน้าตอบว่า
“ยอมสิ แถมเขายังบอกให้พาเธอมาด้วย เพราะเขาเองก็จะพาแฟนเขามาด้วยเช่นกัน ไปวางแผนจัดการไอ้จ้าวเฉียน ทั้งยังได้กินของอร่อย เธอน่าจะไปด้วยนะ?”
เจียงเสี่ยวปิงรู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่งในใจ แต่ภายนอกเสแสร้งทำเป็นไม่ค่อยเต็มใจนัก เอ่ยตอบขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า
“ฉัน…แต่ฉันไม่อยากไป…ไปทานข้าวกับคนแปลกหน้า ฉันรู้สึกอึดอัดน่ะ ไม่ไปดีกว่า…”
หวังเฉียงรีบปลอบเจียงเสี่ยวปิงทันทีเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกลำบากใจ พร้อมให้เหตุผลไปว่า นี่เป็นแค่การกินข้าว บางทีเธออยากจะคุยกับแฟนของหยางหมิงถูกคอก็เป็นได้
เจียงเสี่ยวปิงพยักหน้าพร้อมท่าทีไม่ค่อยเต็มใจนัก และเอ่ยตอบไปว่า
“เพื่ออนาคตที่ดี ฉันจะไปแล้วกัน”
หวังเฉียงโอบเจียงเสี่ยวปิงเข้ามาในอ้อมกอดอย่างมีความสุด แต่ขณะในเวลาเดียวกัน แววตาคู่นั้นของเธอช่างเยือกเย็น ภายในใจคิดอย่างเดียวว่า ตนจะหาวิธีจับหยางหมิงขึ้นเตียงในคืนนี้ได้ยังไง
จ้าวเฉียนเห็นทั้งคู่ทำตัวผิดสังเกต แอบสุมหัวกันในห้องชงกาแฟอยู่ครู่ใหญ่ เขาจึงส่งWeChatไปหาหยางหู่เพื่อสั่งให้ส่งปาปารัสซี่ไปตามสืบเรื่องราวระหว่างหยางหมิงกับเจียงเสี่ยวปิง ว่าทั้งคู่แอบติดต่อกันอยู่หรือไม่
เวลาสองทุ่ม ขณะจ้าวเฉียนกำลังดูไลฟ์สดของอู๋ซินอยู่ จู่ๆ หยางหู่ก็โทรเข้ามาหา
“ฮาโหลครับคุณชายจ้าว ทางเราได้รับรายงานมาว่า หยางหมิงเดินทางไปรับสตีมเมอร์สาวคนหนึ่งและทานอาหารเย็นที่โรงแรมเอ็มเพอร์เรอร์ กับหวังเฉียงและเจียงเสี่ยวปิง ทั้งสี่จองห้องอาหารส่วนตัวกันไว้ที่นั้น ตอนนี้ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว ลูกน้องคนอื่นๆ ของผมกำลังตามเข้ามา ส่วนผมกำลังเฝ้าดูรอบนอกอยู่ครับ”
“เหอะเหอะ…หวังเฉียงมันยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ ตั้งใจจะใช้หยางหมิงเป็นเครื่องมือจัดการกับฉัน? เสี่ยวหู่ นายจับตาดูให้ดี ฉันไม่คิดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างหยางหมิงกับเจียงเสี่ยวปิงจะตื้นเขินแบบนั้นแน่นอน อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด”
“เข้าใจแล้วครับ! งั้นผมขอตัวก่อน หากมีอะไรเกิดขึ้นจะรีบโทรไปรายงานใหม่นะครับ!”
“อืม ระวังตัวกันด้วย อย่าให้ใครจับได้เด็ดขาด ระหว่างนี้พวกนายก็ไปเก็บหลักฐานมาให้ได้มากที่สุด ฉันเชื่อว่าหลังจากนี้คงได้ใช้ประโยชน์แน่นอน”
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบสั่งการคนอื่นๆ ทันที”
จ้าวเฉียนส่งเสียงตอบไปคำหนึ่งจากนั้นก็วางสายไป
หยางหู่รีบวอไปสั่งลูกน้องทันที พร้อมถ่ายทอดคำสั่งที่จ้าวเฉียนเพิ่งบอกไปให้พวกเขาฟัง
“เจ้านายน้อยคนนี้มันมาเหนือเมฆจริงๆ หยางหมิงควงเจียงเสี่ยวปิงออกไปแล้ว ก่อนหน้านั้นทั้งคู่ช่วยกันมอมหวังเฉียงจนเมาหลับอยู่ในห้องน้ำ ลูกน้องของผมแอบตามเข้าไปถ่ายไว้หมดแล้ว ทั้งยังมีบทสนาของพวกมันเสียงดังฟังชัด”
“เจียงเสี่ยวปิง นังนี่มันร่านได้ใจจริงๆ! จัดเรียงข้อมูลทุกอย่างให้เป็นระเบียบ แล้วส่งให้ฉันหน้าบริษัทพรุ่งนี้เช้า ถึงแล้วก็โทรมา เดี๋ยวฉันจะลงไปรับเอง”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลังจากวางสายไป จ้าวเฉียนก็กระทืบเท้าเสียงดังด้วยความโกรธ เจียงเสี่ยวปิงมันกล้าไปยุ่งกับหยางหมิงจริงๆ ซึ่งขัดคำสั่งของเขาอย่างหน้าตาเฉย ในเมื่อเธอเลือกเส้นทางนี้แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องปราณีเธออีกต่อไป
เช้าวันรุ่งขึ้นหยางหู่เดินทางมาที่บริษัทเกมฟางนี่ และนั่งรอที่ชั้นล่าง ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา จ้าวเฉียนก็เพิ่งจะมาถึง
“ทำไมนายมาเร็วจัง?”
จ้าวเฉียนเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
หยางหู่ยิ้มกว้างและตอบว่า
“ผมตื่นเช้าอยู่แล้ว แถมยังกังวลว่าจะพลาดงานสำคัญของคุณชายจ้าวไป ดังนั้นจึงรีบมาที่นี่ก่อนเวลา ทุกอย่างอยู่ในUSBหมดแล้ว ขอให้สนุกนะครับคุณชายจ้าว!”
จ้าวเฉียนพยักหน้ารับUSBดังกล่าวมาโดยตรง
ทันทีที่จ้าวเฉียงเข้ามาในออฟฟิศ หวันซวนก็รีบตรงเข้ามาหาทันที
“จ้าวเฉียน นายน้อยหยางกำลังเดินทางมาตรวจเช็คงาน นายรีบเตรียมตัวให้พร้อมเลย!”
จ้าวเฉียนตระหนักได้ทันทีว่า หยางหมิงไม่ได้มาสที่นี่เพื่อตรวจเช็คงานอะไรหรอก แต่มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา แต่เขาเองก็ไม่จำเป็นต้องกลัว มีคลิปวีดีโอเด็ดอยู่ในมือ หยางหมิงไม่มีทางยกภูเขาไท่ซานออกจากกลางอกได้แน่นอน
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
หวันซวนเอ่ยตอบอย่างไม่ค่อยพอใจว่า
“นี่นายรู้อะไรบ้างเนี่ย? คนที่แผนกพัฒนายังไม่ทันได้ปรับปรุงแก้ไขอะไรเลย แล้วนายน้อยหยางจะพอใจได้ยังไง?”
แววตาของจ้าวเฉียนเย็นสะท้านขึ้นในทันใด เขาเอ่ยถามไปว่า
“นายลืมไปแล้วเหรือว่าประธานฟางบอกพวกนายว่ายังไง? อยากให้ฉันต้องพูดซ้ำไหม?”
“ฉัน….”
หวันซวนพูดไม่ออก
“กลับไปทำงานของตัวเองเถอะ เรื่องตรงนี้ไม่ต้องกังวล!”
จ้าวเฉียนตะโกนเสียงดังเพื่อให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ พลอยได้ยินกันไปด้วย เพื่อสร้างความเกรงกลัว หวันซวนไม่กล้าพูดอะไรต่อจึงกลับไปนั่งทีอย่างโดยดี
ไม่ว่าภายในใจของเขาจะรู้สึกไม่พอใจแค่ไหน แต่ตอนนี้จ้าวเฉียนมีอำนาจมากที่สุด ท้ายที่สุดนี้ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากเถียงจ้าวเฉียนเลยสักคำ
จ้าวเฉียนเดินไปรินน้ำแก้วหนึ่ง พร้อมตรงมานั่งประจำที่ของตน และรอการมาถึงของหยางหมิงเพื่อ ‘เชือดทิ้ง’ อย่างสบายอารมณ์