ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล] - ตอนที่60 ปฏิเสธทั้งหมด
ตอนที่60 ปฏิเสธทั้งหมด
จ้าวเฉียนบีบคางหวานเจียงเชยคางเธอเงยขึ้น สายตาคู่เย็นจ้องนัยน์ตาสวยไม่แลเหลียวไปทางอื่น
“แค่แกล้งเป็นแฟนฉันก็พอ แล้วฉันไม่สนด้วยว่าเธอจะคิดยังไง ทำตามหน้าที่ตัวเองอย่ามาจุ้นจ้านล้ำเส้นคนอื่น พูดมากแบบนี้หรือเธออยากได้ฉันเป็นแฟนจริงๆ? แต่ขอโทษนะ เธอไม่มีคุณสมบัติขนาดนั้น”
หวานเจียงผละออกจากมือจ้าวเฉียนโดยเร็ว และกล่าวเย้ยไปว่า
“เหอะ ประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว ฉัน คุณหนูคนโตแห่งฮวาหยินกรุ๊ป คนที่ไม่คู่ควรคงเป็นนายมากกว่า คิดอะไรเกินเลยมากกว่านั้น ฉันแนะนำให้หยุดฝันบ้าๆนั้นซะ ไอ้พวกผู้ชายพฤติกรรมแบบนาย ฉันเกลียดเป็นที่สุด”
“คุณจะเสแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาไปถึงไหน? ถึงจะสวยแต่ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างเธอจะบริสุทธิ์ด้วยซ้ำ ไม่สิ…ต้องถามว่าซุกผู้ชายไว้กี่คน? ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาและตัวตนของเธอ คงเป็นเรื่องธรรมดาที่มีผู้ชายในสต๊อกเยอะ จำใส่กะโหลกไว้ด้วยนะ ฉันไม่ชอบผู้หญิงแบบเธอเหมือนกัน!”
หวานเจียงผลักร่างจ้าวเฉียนจนเซถอยออกห่าง และตะคอกเสียงดังลั่นด้วยความโกรธจัด
“นายนี่มันเลวจริงๆ! อย่าคิดว่าคนอื่นจะสันดานแบบนาย!”
จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเยาะลั่น เฝ้ามองหวานเจียงเดินหนีออกไปทั้งที่เดือดดาลแบบนั้น
“ฉันกลับแล้ว เมื่อไหร่ที่ฉันต้องการจะโทรไปหา แล้วเธอต้องมาทันทีตามที่ฉันสั่ง ส่วนเรื่องสัญญาลิขสิทธิ์ก็ไปคุยกับหยวนมี่ซะ เธอเป็นตัวแทนฉันเอง”
หลังพูดจบจ้าวเฉียนก็ขับรถไปที่บริษัททันทีโดยไม่สนว่าเธอจะคิดยังไง
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เจียงเสี่ยวปิงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เธอโทรหาจ้าวเฉียนทันทีและวิงวอนขอโอกาส
“หมอบอกว่าฉันสามารถกลับได้แล้ว แต่ตอนนี้ฉันไม่เหลือที่ไปแล้วจริงๆ จ้าวเฉียน ฉันขอร้องเถอะ หาที่พักให้ฉันก็ยังดี เห็นแก่อดีตของเรานะ”
จ้าวเฉียนไม่เคยแสดงความเมตตาต่อผู้ใดก็ตามที่เคยหักหลัง เขาตอบกลับทันทีว่า
“หวังเฉียงยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ? เธอในฐานะแฟนสาวก็ควรดูแลเขาต่อที่โรงบาล ไปปูที่นอนบนพื้นไป”
“นี่นาย…ทั้งๆที่ฉันเป็นถึงขนาดนี้แล้ว นายยังไม่เห็นใจฉันจริงๆเหรอ?”
“เธอนี่มันตลกเหลือเกินนะ เก็บความเสียใจนี้ไปตลอดชีวิตซะเถอะ ฉันเคยทั้งเห็นใจและดูแลเธอมาตลอด จนกระทั่งเธอทรยศฉันไปเป็นชู้กับหวังเฉียง ได้ข่าวว่า…ระหว่างที่คบกับฉันอยู่ เธอก็แอบไปนอนกับมันบ่อยหนิ? แสดงว่าพวกเธอทั้งคู่คงรักกันมาก ฉันก็สนองให้แล้วไง? ครองคู่กันไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ถ้าเธอกล้าแม้แต่ย่างเท้าสักก้าวออกมาจากโรงพยาบาล ฉันจะโทรเรียกหยางหู่ให้ไปรับเธออยู่ด้วยทันที เธอรู้ไหมว่าลูกน้องของเขาแต่ละคนชื่นชอบผู้หญิงมากขนาดไหน? เอาเป็นว่า…เธออาจจะขาดใจตายคาเตียงเลยแหละ ฮ่าฮ่าๆ…”
เจียงเสี่ยวปิงกรีดร้องลั่นหลากหลายอารมณ์พลั่งพรู เธอเขวียงโทรศัพท์มือถือทิ้งจนตกกระเด็น ภาพฉากที่เธอโดนพวกลูกน้องของหยางหมิงรุมกินโต๊ะในคืนนั้นฉายวาบขึ้นมาภายในใจอีกครั้ง คืนนั้นถือเป็นฝันร้ายที่จะสลักจารึกอยู่ในใจเธอไปตลอดกาล โดยไม่วันเลือนหายไป
เจียงเสี่ยวปิงโน้มน้ามให้จ้าวเฉียนหาที่พักพิง ก็เพื่อหาที่ปักหลักและฉวยโอกาสตอนที่เขาเผลอใส่ยาปลุกอารมณ์ และรอถ่ายคลิปแบล็กเมล์ส่งให้ฟางนี่ เธอสาบานกับตัวเองไว้แล้ว ชาตินี้เธอต้องแก้แค้นจ้าวเฉียนให้จงได้ ตราบเท่าที่เธอยังมีชีวิตอยู่ จ้าวเฉียนจะต้องไม่ตายดี!
ซึ่งจ้าวเฉียนรู้จักหญิงสาวสันดานเสียอย่างเจียงเสี่ยวปิงดี และรู้ว่าเธอต้องวางแผนเพื่อตลบหลังเขาแน่นอนในวันหน้า ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นใจเธอแม้แต่น้อย ถึงจะเคยมีอดีตมาด้วยกันก็ตาม
อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เจียงเสี่ยวปิงหายดีจนเกือบเป็นปกติแล้ว และกลับเข้าทำงานในบริษัทอีกครั้ง
บรรดาเพื่อนร่วมงานต่างแห่เข้าหา และเอ่ยถามกันว่า ตัวเธอกับหวังเฉียงหายไปไหนกันมา แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่? จู่ๆก็ขาดงานกะทันหัน โทรไปก็ไม่รับสายหรือติดต่อกลับมาเลย
เจียงเสี่ยวปิงยิ้มตอบว่า
“ฉันต้องกลับไปบ้านเกิดกระทันหันน่ะ มีธุระสำคัญที่ต้องไปจัดการ ส่วนหวังเฉียงยังอยู่ที่บ้านเกิดฉันอยู่เลย คงลางานยาว”
“ว้าว! กลับบ้านเกิดโดยไม่ต้องขอใบลาเลยเหรอ? แล้วไปทำอะไรที่นั้นถึงได้กะทันหันแบบนี้? ไม่คิดจะเล่าให้พวกเราฟังหน่อยเหรอ?”
“เจียงเสี่ยวปิง เธอทำแบบนี้ได้คิดหน้าคิดหลังก่อนรึเปล่า? แล้วก่อนไปแบบนี้ได้ทำเรื่องขอลาก่อนไหม? ในส่วนของหวังเฉียงอีกล่ะ? แถมเธอก็ดูซูบผอมลงนะ นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เธอก็หยุดเค้นถามอีกฝ่ายได้แล้ว ขอแค่ทั้งคู่ยังรักกันดี ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงเหรอจริงไหม? ทำไมต้องไปยุ่งเรื่องคนอื่นด้วย?”
ทันทีที่เห็นบรรดาเพื่อนร่วมงานเริ่มมีปากเสียงกัน เจียงเสี่ยวปิงไม่มีอารมณ์มานั่งอธิบายมากมายนัก จึงกล่าวขัดจังหวะขึ้นโดยตรง พร้อมกล่าวตอบไปส่งๆว่า
“ทุกคนเงียบเถอะ หวังเฉียนกับฉันไม่ได้มีอะไรทั้งนั้นแหละ คุยกันระหว่างทำงานแบบนี้ ถ้าฟางนี่รู้เข้าคงโดนหาว่าอู้งานแน่นอน รีบแยกย้ายกันไปได้แล้วน่า”
เจียงเสี่ยวปิงเห็นว่าจ้าวเฉียนยังไม่เข้าออฟฟิศ เธอจึงชิ่งกลับห้องเช่าไป และนั่งระดมความคิดหาวิธีหลอกล่อจ้าวเฉียนให้มาติดกับ
เวลาเกือบเที่ยง จ้าวเฉียนเดินทางมาทำงาน พนักงานจากแผนกพัฒนารีบรายงานกับเขาเกี่ยวกับ การทดสอบช่วงสุดท้ายก่อนที่เกมมือถือจะเปิดให้สาธารณะชนได้เล่นกัน
จ้าวเฉียนมีความสุขอย่างมากเมื่อได้ยิน ในที่สุดเวลาที่เขาจะเอาชนะเฟยอวี่ได้ก็มาถึงแล้ว เขารีบโทรหากัวหมิงต้าเพื่อให้ซิงหยวนส่งคนมาตรวจสอบโครงการ
เวลาประมาณบ่ายสาม จ้าวเฉียนเดินทางมาที่ออฟฟิศของแพลตฟอร์มเทียนซูว และนำตัวเกมเวอร์ชั่นล่าสุดมาให้หงซิ่ว ทั้งยังสั่งให้เธอไปบอกกับสตีมเมอร์ทุกคนให้ขยันฝึกฝนเล่นเกมนี้ให้คล่อง เวลาไลฟ์สตีม สิ่งนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจของคนดูได้เป็นอย่างมาก
ในฐานะค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่างบริษัทซิงหยวน ทันทีที่เริ่มเปิกตัวเกมสู่สาธารณะ การตลาดทุกรูปแบบมาเต็มชนิดที่ว่าครบวงจร ร้านค้าAPP ติดแบนเบอร์ขึ้นกลายเป็นเกมยอดนิยมที่สุด ณ เวลานี้
ใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ เกม “League of Honor” ก็ทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งแห่งทำเนียบเกมฮิต ตราบเท่าที่ผู้ใช้ทุกคนล็อคอินเข้าสู่ระบบร้านค้าAPP ทุกคนย่อมจะเห็นเกมนี้ติดชาร์ตหรือผ่านตาจนชิน
เกมแนวนี้เป็นขวัญใจมหาชนโดยทั่วกันอยู่แล้ว หลายต่อหลายคนโดยส่วนใหญ่มีพื้นฐาน ให้เวลากับมันเพียงไม่นานก็เข้าใจระบบกลไกจนซึมซับความสนุกของเกมได้ถึงขีดสุด มีเฉพาะบางกรณีที่ฮีโร่บางตัวไม่คุ้นตา ผู้เล่นเหล่านั้นจึงมีเล่นไม่เป็นบ้าง
ปัจจุบัน แพลตฟอร์มเทียนซูวได้ออกมาประกาศอีกครั้งว่า ผู้ที่จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเกมยอดฮิตนี้ก็คืออู๋ซิน เธอมีหน้าที่รีวิวฮีโร่แต่ละตัวว่ามีข้อดีข้อเสียยังไง เหมาะสำหรับเล่นตำแหน่งไหนในเกม และในไม่ช้าฐานผู้ชมในแพลตฟอร์มดังกล่าวก็เพิ่มสูงเป็นหลายทวีเท่า ภายในเวลาไม่ถึงเดือน สถิติผู้ชมบนแพลตฟอร์มเทียนซูวก็ตีตื้นจนสูสีกับเฟยอวี่ซึ่งเป็นถึงแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อันดับที่สี่ของประเทศ หากเทียนซูวยังมียอดผู้ขมเพิ่มขึ้นสูงแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้า จะต้องขึ้นมาแทนที่แพลตฟอร์มเฟยอวี่แน่นอน
ช่วงนี้กล่าวได้ว่าดุเดือดเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้งแพลตฟอร์มเฟยอวี่, หยงย่า, สวอนและอื่นๆที่ได้รับรู้เรื่องดังกล่าวในภายกลัง ก็แห่กันไปบริษัทซิงหยวนเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับการขอซื้อลิขสิทธิ์เกมดังกล่าว มาเผยแพร่ในแพลตฟอร์มตน
แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่แต่ละแห่งต่างส่งตัวแทนผู้รับผิดชอบมาที่แพลตฟอร์มเทียนซูวเช่นกัน หวังขออนุญาตหงซิ่วมาดูงานและศึกษาการตลาดของบริษัทเธอ รวมไปถึงสิทธิ์การถ่ายทอดเกมดังกล่าว แต่ภายใต้คำแนะนำของจ้าวเฉียน หงซิ่วได้ปฏิเสธความร่วมมือของพวกเขาทั้งหมดไป
นี่เป็นโอกาสทองสำหรับแพลตฟอร์มเทียนซูวที่จะขึ้นกลายเป็นจ้าวตลาดไลฟ์สตีมอันดับหนึ่ง ในเมื่อเป็นแบบนี้จะแบ่งผลประโยชน์แก่คู่แข่งทำไมให้โง่?
แต่ละแพลตฟอร์มเองก็มีจุดแข็งที่ไม่สามารถเผยแพร่หรือแบ่งให้ฝ่ายอื่นได้เช่นกัน กล่าวได้ว่าเป็นธุรกิจที่ต้องปิดตาข้างหนึ่ง อะไรพาแบ่งได้ก็แบ่ง อะไรพอพึ่งพากันได้ก็ช่วย เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมไลฟ์สตีมอยู่รอดต่อไป
จ้าวเฉียนคาดการณ์ในส่วนนี้มานานแล้วว่า หลังจากเกมดังกล่าวดังจนเป็นกระแส คนพวกนี้จะตามตื้อชนิดไม่ได้ไม่เลิกรา ดังนั้นเขาจึงสั่งการหงซิ่วก่อนล่วงหน้าแล้วว่า ถ้าใครไม่ยอมจากไปแต่โดยดีแล้วยังตามตื้อก่อปัญหา ก็เตรียมตัวไปเคลียร์กันต่อที่ศาลได้เลย
นี่เป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อนพอดี บรรดานักเรียนจึงกลายมาเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอัตราส่วนมากที่สุดในช่องไลฟ์สตีมต่างๆ แต่อย่างลืมไปเสีย ถ้าเด็กคนไหนอยากดูคอนเทนต์เกี่ยวกับเกม”League of Glory” พวกเขาสามารถดูได้แค่ช่องทางเดียวก็คือ แพลตฟอร์มเทียนซูว นี่จึงเป็นผลให้ยอดผู้ชมในแพลตฟอร์มเทียนซูวพุ่งทะลุกกราฟ แซงแพลตฟอร์มเฟยอวี่ได้ในอึดใจเดียว
หยางหมิงโมโหอย่างมากเมื่อได้อ่านรายงานของไตรมาตล่าสุด เขารีบเดินทางไปที่แพลตฟอร์มเทียนซูวเพื่อคุยกับหงซิ่วแบบตัวต่อตัว
หงซิ่วยิ้มทักทายหยางหมิงที่เป็นแขกมาหา และเอ่ยถามอย่างสุภาพขึ้นว่า
“จู่ๆนายน้อยหยางก็ให้เกียรติเดินทางมายังแพลตฟอร์มเล็กๆเป็นการส่วนตัว ทางเรารู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างมาก ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ทางเรารับใช้ค่ะ?”
หยางหมิงตอบน้ำเสียงเจือหงุดหงิดว่า
“หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว ถ้ารู้สึกปลาบปลื้มใจขนาดนั้นจริง แล้วทำไมไม่อนุญาตให้แพลตฟอร์มเฟยอวี่เผยแพร่เกมดังกล่าวด้วย?”
หงซิ่วส่ายหัวเล็กน้อย เธอตอบกลับไปว่า
“นายน้อยหยางพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะคะ เวลาที่เฟยอวี่ได้รับสิ่งดีๆ ทางแพลตฟอร์มของคุณเองก็ไม่เต๋มใจแบ่งปันให้คู่แข่งเหมือนกันใช่ไหมค่ะ? ก็ใจเขาใจเราแหละค่ะ”
ได้ฟังแบบนั้นหยางหมิงถึงกับพูดไม่ออก แต่ถึงยังไงเขาก็ยังหน้าด้านบุกมาหา เพื่อต่อรอจนกว่าหงซิ่วจะยอมอนุญาตให้เกมนี้ไปปรากฏบนแพลตฟอร์มเฟยอวี่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
หงซิ่วไม่ได้วนใจอีกฝ่ายเลย และเรียกรปภ.พาตัวอีกฝ่ายออกไปโดยตรง
หยางหมิงยิ่งเดือดจัด ระหว่างถูกพวกรปภ.หามออก เขาตะโกนทิ้งทวนเสียงดังลั่นว่า
“ประธานหง! คุณกำลังสร้างปัญหาให้ตัวคุณเองนะ! ผมเจอกับคนแบบคุณมาเยอะแล้ว แต่สุดท้ายก็จบไม่สวยสักรายจำไว้!”
หงซิ่วยกมือป้องปาก หัวเราะคิกคัก และตอบน้ำเสียงเย็นชากลับไปว่า
“แล้วนายน้อยหยางจะหาทางจัดการกับดิฉันอย่างไร? ส่งคนมาลอบสังหารเหรอค่ะ?”
“ฮ่าฮ่า…คนอย่างฉันไม่เคยฆ่าแกงใครอยู่แล้ว หน้าตาประธานฮงเองก็สวยไม่เบา คงมีผู้ชายหลายคนหมายปอง แต่อย่าเผลอละกัน! ฉันจะส่งผู้ชายไปสั่งสอนให้เข็ดหลาบเลย อยากรู้เสียจริงว่า ตอนที่ประธานฮงนอนแผ่อยู่บนเตียง มันจะเซ็กซี่แค่ไหน!?”
หงซิ่วได้ยินแบบนั้นก็ฉุนอย่างมาก เธอตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมตบหน้าฉะใหญ่ พร้อมตะคอกใส่ว่า
“ออกไป!”
หยางหมิงโมโหจัด จู่ๆหงซิ่วก็มาตบหน้าตนโดยไม่มีเหตุผล
“มึงกล้าตบหน้ากูเหรอ มึงคอยดู กูจะจ้างผู้ชายให้มารุมกินโต๊ะมึงจนเป็นโสเภณีเลยคอยดู!!”