ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์ - บทที่ 26 การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่อีกครั้ง
บทที่ 26 การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่อีกครั้ง
ชามใบเล็กบรรจุเศษปลาวางไว้กระจัดกระจายบนพื้น นอกจากมู่เฟิงแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันมีประโยชน์อย่างไร
พวกเขาต่างมองมู่เฟิง และมองไปที่ชามใบเล็กด้วยความสับสน
“เอาล่ะทุกคนไปซ่อนตัวเหมือนเมื่อวานรอให้ไก่หรือมังกรขนดอกปรากฏตัวแล้ว พวกเราล้อมรอบด้านถึงเวลานั้นก็ใช้ตาข่ายเถาวัลย์ในมือเหวี่ยงออกมาคุมพวกมัน ก็เพียงพอแล้ว!”
“แต่พวกมันวิ่งเร็วมาก พวกเราตามไม่ทัน !”บางคนยังคงสงสัย
“ว่างใจเถอะ เดียวพวกเจ้าจะจับมันได้อย่างแน่นอน!” มู่เฟิงกล่าวด้วยใบหน้าเรียบเฉย
คนเหล่านี้มีทั้งเสื้อและสงสัยแต่พวกเขาก็หาพุ่มไม้เพื่อซ่อน หลังจากนั้น ไม่นานฝูงไก่ก็มาถึงพื้นที่ที่มู่เฟิงโยนปลาเอาไว้
“ดูเหมือนว่าหมิงกวงจะคุ้นเคยกับนิสัยของสัตว์ป่าเป็นอย่างดี!” มู่เฟิงพยักหน้าอย่างลับๆ
หลังจากที่ไก่กลุ่มนี้ปรากฏตัวขึ้นทุกคนในเผ่าเองกําหมัดแน่นและอยากจะพุ่งออกไปอย่างตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกัน มู่เฟิงยิ่งตกใจยิ่งกว่าเดิม
“ให้ตายสิไก่พวกนี้มีคนเลี้ยงหรือไงทําไมถึงได้เยอะขนาดนี้?”
ในความทรงจําชาติที่แล้วของเขา ไก่ป่าไม่ค่อยอยู่รวมกันเป็นฝูง แต่ไก่ดึกดําบรรพ์กลุ่มนี้ดูหนาแน่นไม่น้อยกว่า 100-200 ตัว
“คราวนี้แหละรวยเละ!” มู่เฟิง รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเขาจ้องมองไปที่ ไกลดึกดําบรรพ์และพึมพําว่า “ของข้า มันต้องเป็นของข้า!”
ไก่พวกนี้ไม่แตกต่างจากไก่ในความทรงจําของ มู่เฟิง มากนักขนบน ร่างกายของมันมีสีสันสดใสและตัวใหญ่กว่าไก่รุ่นหลังเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนศีรษะของพวกมันหงอนไก่สีแดง แต่เป็นกระดูกที่นูนออกมาแทน!
สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือเมื่อมองอย่างใกล้ชิดพบว่าในปากของพวกมันมีฟัน เลื่อยสองแถวสลับกันในจงอยปากของพวกมัน
“ที่แท้ไก่ดึกดําบรรพ์ก็วิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์จริงๆ!” มู่เฟิงลอบถอนหายใจ เขาเป็นพยานในการรู้เห็นบรรพบุรุษของไก่ และทันใดนั้นเขาก็คิดถึงปัญหานึงและอีกหนึ่งคําถาม นั่นคือคําถามที่คนรุ่นหลังถกเถียงกันไม่หยุด หรือคําถามคิดถึงกันไม่หยุดหย่อนนั่นก็คือไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน!
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาได้ติดตามรากเหง้าของเรื่องนี้และคําตอบสําหรับ คําถามนี้ก็คือมีไก่ก่อน
มู่เฟิงยังคงคิดฟุ้งซ่านอยู่กับคําถาม ในขณะที่คนในเผ่ากําลังมองฉาก เบื้องหน้าด้วยความตกตะลึง
ไก่เข้ามายังพื้นที่ที่มู่เฟิงได้โรยปลาเอาไว้ไม่นานพวกมันก็พบกับชิ้น ปลาที่ร่วงหล่นอยู่ในพงหญ้าเห็นได้ชัดว่า จากนั้นมีไก่ตัวหนึ่งอีกโดนชิ้นเนื้อ ปลาและคาบอ้าปากกลืนไม่หยุด เนื้อปลาค่อยๆเลื่อนลงไปตามจะงอยปากทีละนิดๆ
มู่เฟิงเห็นฉากนี้และยิ้มกว้าง เขาเคยเลี้ยงไก่ตอนเด็กๆเขารู้ว่าใครชอบกินหนอน ปลา แมงป่องหรืออะไรทํานองนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อปลามีความน่าดึงดูดใจเป็นพิเศษสําหรับไก่
ในเวลานี้ไก่ตัวอื่นๆสังเกตเห็นความผิดปกติของไก่ตัวนี้พวกมันพากันขยับเข้าไปใกล้ๆ และจิกกินเนื้อปลาที่อยู่ในบริเวณนั้นพวกมันต่างรีบเร่งที่จะกินปลาอย่างรวดเร็วหรือก็คือนั่นคือพฤติกรรมที่ฝูงไก่ทั่วไปแย่งอาหาร
ไม่นานไก่ตัวอื่นๆที่อยู่โดยรอบก็พบกับปลาที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นและต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง
มีปลาอยู่บนพื้นรีบกินให้หมด!
คนเผ่าต้าเจียงที่แอบอยู่ไม่ไกลยังคงไม่เข้าใจ เมื่อพวกมันกินเสร็จพวกมันก็จะจากไปไม่ใช่หรอกเหรอ?
ตามที่คาดเอาไว้หลังจากที่ไก่ได้ลิ้มรสเนื้อปลาที่แสนอร่อยพวกมันเริ่มกระสับกระส่าย และเริ่มส่งเสียง “กุ๊กกุ๊ก”ไม่หยุดในเวลาเดียวกันปีกทั้งสองข้างก็กางออกเพื่อขยายอาณาเขตการหาอาหารของตนเอง และไม่นานพวกมันก็พบกับชามที่ใส่เนื้อปลาไว้ มันร้องตะโกนด้วยความดีใจ
“ถูกๆ!” “กุ๊กกุ๊ก”
ไก่รีบกินเนื้อปลาในชามมันจิกลงไป แต่ก่อนที่มันจะเจอเนื้อปลาข้างในหัวของมันติดกับต้นหนามที่อยู่ด้านในออกมา เนื้อปลาใกล้จะเข้าปากอยู่แล้ว แต่กลับถูกหยุดด้วยต้นหนาม พวกมันยังไม่ยอมคายออกมาเพราะกังวลว่าถ้ามันมัวแต่คายออกไก่ตัวอื่นจะมาแย่งอาหารของมัน
ไม่เพียงเท่านั้นการที่มีชามใบไม้วางอยู่เปรียบเสมือนการใส่หน้ากากอนามัยขนาดใหญ่ ไม่เพียงแต่ปิดปากเท่านั้นแต่ยังปิดตาของมันด้วย
เมื่อไก่ถูกปิดตามันก็หวั่นเกรงว่าไก่ตัวอื่นๆจะมาแย่งอาหารของมันมัน ทําได้เพียงรีบกินอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานไก่ก็หมุนซ้ายหมุนขวาเหมือนกับ คนเมาก่อนที่จะล้มลงกับพื้น และแม้ว่ามันจะล้มลงกับพื้นมันก็ไม่ยอมที่จะปล่อยปากจากชามใบไม้ ไม่นานไก่ตัวอื่นๆก็มีอาการเดียวกัน พวกมันพยายามกินปลาที่อยู่ในชามใบไม้แต่กลับไม่สามารถยกหัวออกได้เพราะติดต้นหนาม
เมื่อมันต้องการยกหัวชามใบไม้ก็ติดขึ้นมาด้วยทําให้มันมองไม่เห็น และเมื่อเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่สามารถหนีได้
เมื่อคนเผ่าต้าเจียงที่ซ่อนตัวอยู่เห็นฉากนี้พวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ และกําลังสงสัยว่ามู่เฟิงใช้คาถาเวทย์มนต์อันใด ทําไมไก่พวกนี้ถึงหมุนไปรอบๆราวกับคนเมา
มู่เฟิงไม่สนใจความคิดของคนในเผ่า เมื่อเห็นว่าไก่กําลังสับสนและวนเวียนนอนอยู่เต็มพื้นเขาก็หยิบตาข่ายเถาวัลย์ที่อยู่ด้านข้างออกมาแล้วพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับตะโกนว่า
“เร็วเข้าตอนนี้แหละ!”
คนในเผ่าต่างตกตะลึงเสียงตะโกนและตื่นเต้นพวกเขารีบคว้าตาข่ายเถาวัลย์ออกมาแล้วพุ่งเข้าหาไก่ที่กําลังกินอาหารอยู่ ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที มีไก่ 10 กว่าตัววิ่งหายออกไป ส่วนที่เหลือถูกจับจนหมด
เมื่อมู่เฟิงนับจํานวนพวกมันมีถึง 122 ตัว เขายิ้มจนแก้มปริ “เป็นการเก็บเกี่ยวที่ดี!”