ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์ - บทที่ 38 ขุดหน่อไม้
บทที่ 38 ขุดหน่อไม้
เมื่อได้ยินว่ามันกินได้ ไป๋หยา รู้สึกกระปรี้กระเป๋าขึ้นมาทันที
“งั้นข้าจะช่วยท่านหาหน่อไม้!” ไปหยาอาสา
“ดี!” มู่เฟิง พยักหน้า หยิบพลั่วขึ้นมาแล้วเริ่มพูดใบไผ่ที่ร่วงหล่นในป่าไผ่
“อะไรน่ะ หาหน่อไม้ต้องหาตรงพื้นหรอ?” ดวงตากลมโตของ ไป๋หยา เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
มู่เฟิง ยิ้มและพูดว่า “หน่อไม้คือต้นไผ่ที่เกิดขึ้นและพยายามที่จะแทรกดินขึ้นมา ดังนั้นเราจึงจะต้องมองหา ตามพื้น!”
มู่เฟิง ใช้พลั่วพูดใบไผ่ที่อยู่ด้านล่างพลางอธิบายไปด้วย
“ดูพื้นสิถ้ามีรอยแตกของดินแสดงว่ามีหน่อไม้อยู่ข้างล่างจากนั้นค่อยขุด!”
“แต่ป่าไผ่ใหญ่ขนาดนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าดินพองตัวอยู่ที่ไหน”
ไปหยา เอียงคอถาม หยิบไม้ไผ่ที่หักแล้วดึงซ้ายขวาไม่เห็นอะไรเลย
“ไม่ใช่อย่างนั้น เจ้าลองมองตามรากของต้นไผ่ที่อยู่รอบด้าน หน่อไม้ทั่วไปมักจะอยู่ไม่ห่างจากต้นไผ่นัก”
“ทําไมล่ะ?”
“เพราะหน่อไม้มักงอกอยู่บนรากไผ่ ก็เหมือนกับรากบัว!”มู่เฟิง อธิบายด้วยรอยยิ้ม
“รากบัว?” ใบหน้าของ ไป๋หยา เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“รากบัวคืออะไร?”
“เอิ่ม ..มันคือผักที่อร่อยมากและเติบโตอยู่ใต้น้ํา” หัวใจของมู่เฟิง สว่างวาบเมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ที่ตน เองจะค้นพบรากบัว
“ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิ รากบัวสามารถงอกใบจากใต้น้ําได้มันจะใหญ่ขนาดไหนกัน”
มู่เฟิง พูดด้วยความหวังเล็กน้อย “ในฤดูร้อนรากบัวจะบานสะพรั่งเกิดดอกสวยงามมีทั้งสีแดงสีขาว!”
“ข้าเหมือนเคยเห็นสิ่งที่ท่านพูดมาก่อน” ไป๋หยา ขมวดคิ้วตกอยู่ในความครุ่นคิด
“แต่ข้านึกไม่ออกไว้กลับไปถามพี่ข้าเถอะ!”
“ไม่ได้!”มู่เฟิง รีบพยักหน้าและรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ดูเหมือนว่ามาถูกจังหวะพอดีแค่คิดจะนอนหมอนก็มาหนุนหัวเรียบร้อย ถ้าเราอยากได้แต้มความสําเร็จคง จะต้องไปตามหามันสักหน่อย!”
ทั้งสองช่วยกันกวาดใบไผ่ออกไปเพียงไม่กี่นาที่มู่เฟิง ก็เป็นคนเห็นรอยแตกพองของดินที่ยกตัวขึ้น
“ฮ่าๆๆ!”มู่เฟิง หัวเราะเสียงดัง
“ข้าพบมันแล้ว!”
ไปหยา เดินเข้ามาหาเขาด้วยความประหลาดใจ
“ขอดูหน่อย!”
ถ้ายังไม่ขุดออกมามันจะมีลักษณะเช่นนี้ ดินจะพองตัวขึ้นแสดงให้เห็นว่ามันกําลังจะ
มู่เฟิง พยักหน้า “ดู งอกออกมา!”
เมื่อพูดเช่นนั้นฟูเฟิง ก็ย่อตัวลงหยิบพวกขึ้นมาและขุดมัน
“เราต้องเริ่มขุดตรงนี้…อย่าขุดลึก พยายามขุดรอบๆ ตําแหน่งของหน่อไม้แล้วก็ขุดแบบนี้..!”
มู่เฟิง ขุดดินลงไปพลางอธิบาย ไป๋หยา อย่างละเอียด อย่างไรเสียการขุดหน่อไม้ต่อจากนี้เขาจะให้คนใน เผ่าเป็นคนขุด
“เจ้าจําเอาไว้แล้วข้าจะให้คนของเผ่ามาขุดหน่อไม้ เจ้าช่วยข้าบอกคนอื่นๆในเผ่า ได้ไหมว่าขุดหน่อไม้อย่าง ไร!”
เมื่อ ไป๋หยา ได้ยินเช่นนี้สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ใบหน้าเล็กๆของนางแดงระเรื่อและเต็มไปด้วย ความจริงจัง
“รับทราบ อุกะอุกะ!”
มู่เฟิง ยังคงขุดดินลงไปรอบๆและพบปลายหน่อไม่โผล่ขึ้นมาประมาณหัวนิ้วแม่มือ
“ฮ่าๆๆ!” มู่เฟิง หัวเราะเสียงดัง
เมื่อยืนยันตําแหน่งหน่อไม่ได้แล้วความเร็วในการขุดของเขาก็เร็วขึ้นมาก เพียงใช้พลั่วขุดลงไปแล้วงัดขึ้น มาหน่อไม้ก็พลอยออกมาทั้งหมด หน่อไม้ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร หนาเท่าน่องของมู่เฟิง ถูกขุดขึ้นมาอย่าง สมบูรณ์
“อ้า ใต้ดินมีหน่อไม้จริงๆด้วย!” ไป๋หยา กล่าวด้วยความยินดี
มู่เฟิง ถือหน่อไม้ขนาดใหญ่ไว้ในมือ
“ตอนเย็นจะต้มซุปแล้วใส่มันลงไป!”
“ใช้มันต้มซุปอย่างนั้นหรอ?” เห็นได้ชัดว่าไปหยาไม่รู้ว่าซุปคืออะไร
“เดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เอง รสชาติของน้ําซุปที่ใส่หน่อไม้ดีกว่าเนื้อย่างมาก!” มู่เฟิง มองไปท้องฟ้าและกล่าวว่า
“ตอนนี้ท้องฟ้ายังไม่มีดพวกเราขุดกันต่อซักสองสามหัว คืนนี้เรียกท่านพ่อของเจ้า ลุง หมิงกวง และค นอื่นๆมาข้าจะต้มน้ําซุปให้พวกเขาได้ชิม!”
“เยี่ยมไปเลย!” ไป๋หยา โห่ร้องด้วยความยินดี ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
ทั้ง 2 ขุดหน่อไม้อีกครั้งและไม่นานก็พบหน่อไม้อีก 2 -3 หน่อ
มู่เฟิง วางหน่อไม่ไว้ในตะกร้าหวาย แล้วไปที่กรงไก่อีกรอบจับไก่ตัวใหญ่ 2 ตัวกลับมา ตอนนี้กรงไก่ถูก หมิ งกวง ส่งคนมาดูแลเป็นพิเศษหลักๆก็คือป้องกันไก่นี้ออกไป ส่วนการป้องกันคนนั้นไม่จําเป็น ด้วยคําสั่งขอ งมู่เฟิง ไม่มีใครกล้ขโมยไก่อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นไป๋หยาก็กลับเข้าไปในถ้ําแล้วเรียกพ่อพี่ชายทั้ง 2 หมิงกวง ชั้วเฟิง และ คนอื่นๆไปยังทําขอ งมู่เฟิง ตามคําสั่งของมู่เฟิง
มู่เฟิง คิดในใจว่า การกระทําเช่นนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเลี้ยงข้าวในชาติที่แล้ว
เมื่อมาถึงถ้ําของมู่เฟิง พวกเขาต่างรู้สึกประหม่าและไม่รู้ว่ามู่เฟิง กําลังทําอะไร มู่เฟิง ให้ไป๋หยาจัดการ เกี่ยวกับไก่แล้วล้างให้สะอาด เอาปลาออกมาอีก 2-3 ตัว ฆ่าแกะ 1 ตัว ให้คน 2-3 คนช่วยกันย่างเนื้อ
จากนั้นเขาก็เริ่มจัดการเกี่ยวกับหน่อไม้ ต้นหอม เห็ดดอกไม้และผักชีฝรั่ง
เดิมที่เขาตั้งใจที่จะผัดผักชีฝรั่ง แต่พบว่าไม่มีน้ํามันเขาจึงเปลี่ยนเป็นการย่าแทน
ก่อนอื่นต้มน้ําด้วยโถหิน ล้างผักชีฝรั่งให้สะอาดแล้วนําไปต้มในน้ํา จากนั้นตักออกมารอให้สะเด็ดน้ําเติมเก ลือและต้นหอมป่าลงไปเล็กน้อยแค่นี้ก็ถือว่าอร่อยแล้ว
ไม่มีน้ํามันงากระเทียมบด ดังนั้นแค่นี้ก็ถือว่าเลิศหรู
ถึงกระนั้น เมื่อเห็นผักป่าที่คลุมอยู่ในชามหิน ก็ทําให้คนทั้งหลายมองซ้ายมองขวาและมองหน้ากันไปมา พวกเขาไม่รู้ว่ามูเฟิง กําลังทําอะไรอยู่
“หัวหน้าเผ่า สิ่งนี้…กินได้งั้นหรือ?”หลี่หอดถามไม่ได้
“แน่นอนสิกินได้!”มู่เฟิง พยักหน้า
“แต่ต้องรอก่อนยังมีสิ่งอื่นที่จะต้องทํา!” พูดจบเขาก็หันหลังไปท่าซุปไก่ต่อ