ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 106 บอสกู้ คุณไว้ใจฉันมากเกินไป
ตอนที่ 106 บอสกู้ คุณไว้ใจฉันมากเกินไป
ตอนที่ 106 บอสกู้ คุณไว้ใจฉันมากเกินไป
ซูเถาแทบสำลักกับคำถาม เธอเงียบเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “บอสกู้จะมาร่วมประสมโรงเหรอ?”
กู้หมิงฉือกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าวันนี้คงมีคนถามคำถามนี้มากมาย ผมจะไม่โยกโย้อีกต่อไป ผมต้องการเข้าร่วมและจองห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง คุณอย่ารีบปฏิเสธผม ผมมีสิ่งที่คนอื่นให้คุณไม่ได้มาแลกเปลี่ยน”
ซูเถามีสีหน้าประหลาดใจกับคำพูดของเขา เขาพูดอย่างมั่นใจถึงการใช้เส้นสายและติดสินบน
เธอถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณจองให้ใคร ให้ตัวเองเหรอ? ฉันไม่ต้อนรับคุณหรอกนะ”
ฟังไม่ออกว่าน้ำเสียงของกู้หมิงฉือมีความยินดียินร้ายอย่างไร
“ผมไม่จำเป็นต้องไปที่ถิ่นของคุณเพื่อซ่อนตัวจากภัยพิบัติและเอาชีวิตรอด ผมจองให้คุณตาของผม ช่วงนี้ที่เขตตะวันออกถูกโจมตีหลายครั้ง มันเกิดเหตุการณ์ปั่นป่วนและอันตรายเกินไป คุณตาของผมอายุมากแล้ว ผมไม่อยากให้เขาอยู่กับผมในสถานที่ที่วุ่นวายแบบนี้”
ซูเถาตกตะลึงกับคำพูดเหล่านี้ เธอนึกไม่ถึงว่าคนอย่างกู้หมิงฉือจะมีความกตัญญูแบบนี้
“บอสกู้ คุณไว้ใจฉันมากเกินไป เราเป็นแค่หุ้นส่วนกัน คุณเอาคนสำคัญในชีวิตมาให้ฉันดูแล คุณไม่กลัวว่าฉันจะใช้สิ่งนี้เพื่อข่มขู่คุณและนำมันมาเป็นจุดอ่อนของคุณ เหรอ?”
อีกฝ่ายเงียบไปสองวินาทีและพูดอย่างหนักแน่น
“คนอื่นอาจจะทำ แต่คุณคือซูเถา คุณไม่มีทางทำแบบนั้น”
ซูเถาหัวเราะด้วยความโกรธ “อะไรกัน คุณคิดว่าฉันใจดีมีเมตตาขนาดนั้นเลยเหรอ ในยุคนี้ความเมตตาไม่ใช่คำพูดที่ดี อย่าคิดว่าฉันจะไม่ทำ”
กู้หมิงฉือกล่าวว่า “อย่าตีความหมายของผมผิด พวกเรากลับไปที่สาระสำคัญของเรื่องนี้ดีกว่า เรามาเจรจาธุรกิจกัน คุณช่วยผมจองห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นหนึ่งห้อง แล้วคุณก็เลือกสิ่งที่ผมจะเสนอได้สองข้อ”
“ข้อแรก ผมได้เลี้ยงดูกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มีพลังวิเศษ ผมจะมอบรายชื่อให้กับคุณ แล้วคุณเลือกคนใดคนหนึ่ง ผมรับประกันความภักดีอย่างแน่นอน”
“ข้อที่สอง ผมจะให้ผลึกนิวเคลียสของซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการแล้วแก่คุณห้าชิ้น”
แม้ว่าซูเถาจะหูผึ่งตั้งแต่ได้ยินข้อแรก แต่เธอก็ยังรักษาท่าที คนที่มีพลังความสามารถเธอค่อย ๆ หาก็ได้
แต่เมื่อได้ยินข้อเสนอที่สอง ตาของเธอก็ลุกวาว
อ่า… 5 ชิ้นก็เยอะเหมือนกันนะ
“คุณลองคิดดูก่อนนะ หรือจะต่อรองกับผมเหมือนเมื่อก่อนก็ได้ แต่ผมจะบอกอะไรให้คุณอีกอย่าง คุณสามารถเพิ่มสิ่งอื่นเข้าไปในเงื่อนไขที่สองได้ จริง ๆ แล้วผมมีผลึกนิวเคลียสเพียงห้าชิ้น ห้าชิ้นเท่านั้นที่ผมมี ผมต้องแลกมันมากับชีวิตของพี่น้องนับ ร้อย”
ซูเถาลูบหน้า “คุณตาของคุณเข้ากับคนง่ายไหม?”
กู้หมิงฉือหยุดชั่วคราวและพูดว่า “เขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ มักจำคนผิด ๆ ถูก ๆ เขาชอบร้องเพลง และเขาร้องเพลงซ้ำอยู่เพลงเดียวนั่นแหละ คุณสามารถตัดสินใจได้เองว่าคุณจะเข้ากันได้ดีหรือเปล่า”
ซูเถาอ้าปากค้าง “…ถ้ามาจะมีพยาบาลมาด้วยใช่ไหม ฉันไม่มีบุคลากรที่จะมีเวลามาช่วยคุณดูแล”
“มี จะมีพยาบาลเป็นคนดูแลรับผิดชอบ ผมคัดมาอย่างดีแล้ว จะไม่สร้างปัญหาให้ คุณ”
ซูเถาเกาหัว “ฉันขอคิดดูก่อน แล้วเดี๋ยวจะส่งข้อความกลับไปหาคุณ”
หลังจากวางสาย ซูเถาบอกจวงหว่านและเฉียนหรงหรงเกี่ยวกับเรื่องนี้
จวงหว่านกล่าวว่า “ฉันไม่ชอบกู้หมิงฉือ แต่ฉันมาคิด ๆ เรื่องนี้ดูแล้ว ฉันมองว่าห้องเช่าก็มีไว้ให้คนเช่า การให้คนชรามาอยู่มันก็คือการเช่า ตราบใดที่กู้หมิงฉือไม่สร้างปัญหา ฉันก็มองว่ามันไม่มีอะไร”
ซูเถาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอสามารถรับผลึกนิวเคลียสมา 5 ชิ้นโดยที่ไม่ต้องเสียอะไร เมื่อบวกผลึกนิวเคลียสเข้ากับของเดิม เธอจะมีผลึกนิวเคลียส 6 ชิ้น และเมื่อเธอสะสมครบ 10 ชิ้น เธอก็จะออกจากเถาหยาง เพื่อคิดหาวิธีขยายดินแดน
พื้นที่เพาะปลูกเอยอะไรเอย เธออยากจะมีมันก่อนที่อู๋เจิ้นจะย้ายมา
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว ซูเถาก็ส่งข้อความถึงกู้หมิงฉือทันที
“ฉันจะเลือกข้อสอง คุณให้คนพาเขามาที่นี่ภายในสามวัน ฉันจะจัดห้องให้ล่วงหน้า คุณต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือนให้ตรงเวลา ฉันจะขอให้จวงหว่านส่งสัญญาเช่าให้คุณ แล้วคุณควรทำความเข้าใจกับพยาบาลล่วงหน้าด้วย”
หลังจากนั้นไม่นานกู้หมิงฉือก็ตอบกลับเธอ
“ตกลง ขอให้ความร่วมมือนี้ราบรื่นนะเถ้าแก่ซู ผมจะส่งไปพร้อมกับผลึกนิวเคลียสทั้งห้า”
กวานจือหนิงซึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เมื่อเธอรู้ข่าว เธอก็รู้สึกประหลาดใจ
“มองไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าคนแซ่กู้เป็นคนที่กตัญญูมาก เขายอมแลกแม้กระทั่งผลึกนิวเคลียสที่มีราคาสูงเสียดฟ้า”
จวงหว่านกล่าวว่า “ไม่ว่าคนจะเลวแค่ไหน พวกเขาก็มีญาติพี่น้องและมีมุมอ่อนโยน ถ้าฉันเป็นกู้หมิงฉือ ฉันก็จะยอมทนทุกข์ข้างนอกและส่งครอบครัวมาที่เถาหยาง เพราะมีทั้งอาหารอร่อยและความปลอดภัยของชีวิต ไม่มีอะไรต้องกังวล”
เฉียนหรงหรงเชิดคางขึ้นและมองออกไปนอกหน้าต่าง มีเด็ก ๆ ผู้เช่าที่กำลังเล่นกระโดดเชือกที่ชั้นล่างใต้อาคารสำนักงานที่เงียบสงบ
“ใช่ ตอนนี้มีสงครามเกิดขึ้นข้างนอก มีความอดอยากและขาดแคลนน้ำ แต่ว่าสถานการณ์ในที่นี้ยังเหมือนเดิม ไม่เหมือนโลกข้างนอกเลย”
หลายคนถอนหายใจพร้อม ๆ กัน โชคดีที่พวกเขาอาศัยอยู่ในเถาหยางและไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโลกภายนอก
ก่อนอาหารค่ำ เผยตงนำหมวกทหารและเถ้ากระดูกของเย่เซี่ยชิงกลับมา
เมื่อทุกคนเห็นหมวกทหารที่เปื้อนเลือดและกล่องเล็ก ๆ พวกเขาก็เบือนหน้าหนีและทนไม่ได้ที่จะมองไปที่มัน
ซูเถาหยิบที่ใส่เถ้ากระดูกและหมวกทหารแล้วเดินไปรอบ ๆ อาคารสำนักงาน เธอยืนนิ่งอยู่หน้าหน้าต่างแต่ละบานสักพัก
และสุดท้ายเธอก็คืนเถ้ากระดูกให้กับเผยตง และวางหมวกไว้บนชั้นวางหนังสือในพื้นที่จัดแสดงของสำนักงาน จากมุมนี้สามารถมองเห็นอาคารสำนักงานทั้งหมดได้
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดนี้ เผยตงก็หยุดนิ่งและทำความเคารพซูเถาและจวงหว่าน ด้วยการทำความเคารพทางทหาร
“ในนามของเซี่ยชิง ฉันขอขอบคุณที่ช่วยให้เธอบรรลุความปรารถนานี้”
ซูเถาและคนอื่น ๆ ไม่อยากให้มีพิธีแบบนี้เกิดขึ้นเลยสักนิด แต่ละคนก็ต่างลุกลี้ลุกลนไม่รู้จะทำอย่างไร
เผยตงแจ้งว่าจะมีงานศพรวมกันในสัปดาห์หน้า เธอจะมารับทุกคนเพื่อไปส่งเซี่ยชิงและทหารคนอื่น ๆ ไปสู่การเดินทางครั้งสุดท้ายของพวกเขา
ซูเถามองรถของเผยตงที่ขับออกไปข้างล่าง และทันใดนั้นก็คิดว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุดสักที
เธอถอนหายใจราวกับว่ามันเพิ่งเริ่มต้น
คืนนั้นซูเถานอนไม่หลับทั้งคืน เธอขึ้นลิฟต์ไปยังอาคารที่พักหมายเลขสอง และเปิดห้องชุดอีกสองห้อง เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น
เก็บหนึ่งห้องไว้ให้บอสกู้ อีกห้องก็ปล่อยเช่า
นอกเหนือจากนี้เธอยังได้ทำการสรุปอีกด้วย ตอนนี้เถาหยางมีห้องพักทั้งหมด 64 ห้อง และปัจจุบันมีผู้เช่า 97 คน
ส่วนที่ภูเขาผานหลิวก็มีห้องพักทั้งหมด 50 ห้อง สามารถรองรับคนได้ 65 คนในเวลาเดียวกัน
จำนวนผู้พักอาศัยนี้สามารถนับรวมกันได้ตามข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับการอัปเกรดของเธอ
ซูเถาคำนวณว่าหากที่ภูเขาผานหลิวมีการเข้าพักเต็มทุกห้อง รายได้ค่าเช่าจะอยู่ที่ 28,000 เหลียนปังต่อวัน
หนึ่งเดือนคือ 840,000 เหลียนปัง!
นี่ยังไม่รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าน้ำมัน หรือกำไรอื่น ๆ!
ภูเขาผานหลิวเป็นที่กอบโกยกำไรของเธอ
เลือดของซูเถาเดือดพล่านด้วยความกระตือรือร้น เธอหวังว่าเธอจะสามารถเปิดธุรกิจได้ในเร็ววัน
เธอพาหลินฟางจือกับพวกแมวน้อยและสุนัขไปที่ภูเขาผานหลิว
คราวที่แล้วเงินไม่พอ และยังมีห้องซักรีดที่ยังไม่สร้าง
หลังจากเปิดทำการ ต้องทำความสะอาดเครื่องนอนให้ทันเวลาหลังจากผู้เช่าทำการคืนห้องทุกวัน และรักษาความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะ
ซูเถาสร้างห้องซักรีดขึ้นในพื้นที่ส่วนกลางของหอพักพนักงานชั้น 2 มีเครื่องซักผ้า 3 เครื่องและเครื่องอบผ้า 3 เครื่อง พร้อมกับชั้นสำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์
ห้องซักรีดใช้งบประมาณในการสร้างเกือบ 10,000 เหลียนปัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า
ซูเถาเดินไปรอบ ๆ โรงแรมและซ่อมแซมสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งดูเพลินตามากขึ้น และเธอก็เฝ้ารอวันที่จะเปิดให้บริการ
เฮยจือหม่าอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งใหม่ ๆ เช่นเคย มันเข้าไปในห้องซักผ้าเพื่อมองไปรอบ ๆ เหมือนทหารลาดตระเวน
ซูเถาคิดว่ามันตลกดี และมองมันกระโดดขึ้นไปบนเครื่องซักผ้า
ทันใดนั้น ดวงตาของเธอเป็นประกาย การมองเห็นของเธอกลายเป็นการมองเห็นของเฮยจือหม่า
เฮยจือหม่ากระโดดจากเครื่องซักผ้าลงบนอ่างล้างมือ
เธอมองเห็นการกระโดดครั้งใหญ่ ทำให้เธอตกใจมาก จนเท้าของเธอพลิกและล้มลงกับพื้น