ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 110 ความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง
ตอนที่ 110 ความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง
ตอนที่ 110 ความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง
จวงหว่านพยักหน้าเห็นด้วยและพูดเสริมว่า
“เป็นไปได้ว่าที่หลันหลิงหลิงหนีมาที่เถาหยางกับคนอื่น ทำให้เขารู้สึกว่าศักดิ์ศรีของผู้ชายคนหนึ่งถูกดูถูก เขาจึงตอบโต้อย่างมุ่งร้ายเพื่อกู้ศักดิ์ศรีให้ตัวเอง”
ซูเถาโบกมือ “ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ยิ่งฉันฟังฉันก็ยิ่งขยะแขยง ฉันมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคนประเภทนี้จริง ๆ เหรอ…ช่วงนี้คอยตามข่าวของอู๋เฟยฉือด้วยนะคะ แล้วก็หมั่นไปเยี่ยมหลันหลิงหลิงบ่อย ๆ เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็คือผู้เช่าของพวกเรา”
เช้าวันรุ่งขึ้น โรงพยาบาลแจ้งข่าวมาว่าหลันหลิงหลิงฟื้นแล้ว
ซูเถาต้องไปรับคุณตาของกู้หมิงฉือ เธอจึงไหว้วานให้จวงหว่านขับรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามอาการของหลิงหลิง
ชายชรายังดูแข็งแรงมาก ตอนที่เขาลงจากรถเขาไม่ต้องการให้พยาบาลช่วยประคองด้วยซ้ำ เขาใช้ไม้เท้าค้ำลงมาเอง
เมื่อเขาเห็นเถาหยางปรากฏอยู่ตรงหน้า ชายชราก็ดันแว่นอ่านหนังสือขึ้น และพูดบางอย่างที่ทำให้ซูเถาตกตะลึง
“บ้านพักคนชรานี้ไม่เลวเลยจริง ๆ แต่ทำไมยังมีเด็กสาวกับชายหนุ่มอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?”
พยาบาลที่อยู่ข้าง ๆ บอกกับเขาว่า “พวกคนหนุ่มสาวพวกนี้มาดูสภาพแวดล้อมให้พ่อแม่ของพวกเขาน่ะ ไม่แน่นะ คุณอาจได้เจอเพื่อนเก่าที่นี่ก็ได้”
ในขณะที่พยาบาลกำลังพูด เธอก็หันไปหยิบกล่องจากในรถมาแล้วมอบให้ซูเถา
“เถ้าแก่ซู บอสกู้ให้ฉันนำสิ่งนี้มามอบให้คุณ”
ซูเถารู้ว่าด้านในกล่องเต็มไปด้วยผลึกนิวเคลียส ดังนั้นจึงไม่สามารถซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้าได้
“ค่ะ เดี๋ยวตามฉันมาทางนี้นะคะ ฉันเตรียมห้องเอาไว้ให้พร้อมแล้ว”
ระหว่างทางชายชราพูดไม่หยุด และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่าเขาเคยมาที่นี่ เขามีบ้านพักตากอากาศที่นี่ และมีสมาชิกในครอบครัวสิบกว่าคน
หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าเขาเคยเห็นซูเถา และถามว่าซูเถาอายุเท่าไหร่ รู้จักลูกเขยของเขาไหม เคยเจอหลานชายของเขาหรือเปล่า เขาบอกว่าเขาไม่ได้เจอหลานชายมาหลายปีแล้ว เขาบอกว่าหลานชายของเขาอกตัญญูและเป็นสัตว์ร้ายตัวน้อย
พยาบาลไม่แปลกใจที่เขาเป็นแบบนี้ เธอกระซิบบอกซูเถา
“ชายชรามักคิดว่าเขายังอยู่ในช่วงก่อนวันสิ้นโลก ครอบครัวกู้เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย พวกเขาอาศัยอยู่ในวิลล่าและมีสภาพแวดล้อมโดยรอบดีมาก เมื่อเขาเห็นเถาหยาง เขาก็คิดว่าเขาได้กลับบ้าน”
“เขาเองก็ไม่รู้จักบอสกู้เหมือนกัน เขายังคงคิดว่าหลานชายของเขาไปเรียนหนังสือแล้วไม่ยอมกลับมาหาเขา ดังนั้นเขาจึงมักดุด่าบอสกู้อยู่เสมอ”
ทันทีที่เขาพูดจบ ชายชรากู้ก็ดุหลานชายของเขาอีกครั้ง ทำให้ซูเถายิ้มอย่างมีความสุขตลอดทาง
เมื่อมาถึงที่ห้องพัก ชายชราพึงพอใจเป็นอย่างมาก พยาบาลที่ดูแลก็เหมือนจะเคยชินกับนิสัยของเขาแล้ว จึงรีบย้ายเก้าอี้ไปที่หน้าต่างทันที
ชายชราไปหาที่เอนกายพักผ่อนและร้องเพลงสบาย ๆ
“ใน…หมู่บ้านบนเขาอันห่างไกล เสี่ยวยาเสี่ยวซานชุน แม่สุดที่รักของฉัน อี่ไป๋ฟ่า ปิ้น ปิ้น..”
เมื่อเขาร้องจบเขาก็วนกลับมาร้องใหม่อีกครั้ง
พยาบาลถือโอกาสนี้ขึ้นไปชั้นบนและชั้นล่างเพื่อทักทายทั้งยังมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับผู้เช่าทุกคน โดยบอกว่าผู้สูงอายุที่บ้านจะหยุดร้องเพลงในเวลามืดค่ำ และจะไม่รบกวนการพักผ่อนของทุกคน
จนกระทั่งซูเถาทำงานเสร็จ ทานอาหารเย็นเสร็จ ระหว่างที่ยืนอยู่ชั้นล่างก็ได้ยินเสียงชายชราร้องเพลง
จวงหว่านที่รีบกลับจากโรงพยาบาลก็ได้ยินเช่นกัน และพูดอย่างเป็นห่วง
“เขาไม่กระหายน้ำเหรอ เสียงเขาไม่แหบเหรอ เฮ้อ คนเราก็เหมือนเด็กจริง ๆ ตอนลูกฉันเพิ่งหัดพูด เขาก็ร้องเพลงเฮฮาแบบนี้แหละ ชีวิตก็เหมือนวัฏจักรเนอะ”
ขณะที่ท้องฟ้ากำลังจะมืด เสียงร้องเพลงก็หยุดลง
ผู้เช่าอาคารหมายเลขสองทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในตอนกลางวัน เขาสามารถร้องเพลงอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ แต่ต้องไม่ใช่ในตอนกลางคืน
เวลานั้น ซูเถาได้รับโทรศัพท์จากกู้หมิงฉือ
“เถ้าแก่ซู ได้รับผลึกนิวเคลียสแล้วใช่ไหม?”
ซูเถาขอให้หลินฟางจือเก็บมันเอาไว้แล้ว “ได้รับแล้ว ตอนนี้ชายชราน่าจะหลับไปแล้ว เขาปรับตัวได้ดีทีเดียว”
กู้หมิงฉือมีน้ำเสียงที่เจือไปด้วยรอยยิ้ม
“เขาอาจจะคิดว่าเขากลับมาบ้าน ตั้งแต่ที่เขาป่วย เขาก็คิดว่าผมลักพาตัวเขามาและทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานในเขตตะวันออก”
ซูเถาถามว่า “หมายความว่าเขาไม่รู้จักคุณเลย และมองว่าคุณเป็นโจรลักพาตัวเขามาโดยตลอด?”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
ซูเถาเงียบไปครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณไม่เศร้าเหรอ? ถ้าญาติสนิทของฉันไม่เพียงไม่รู้จักฉัน แต่ยังเกลียดฉันด้วย ฉันแน่ใจว่าฉันรับไม่ได้”
กู้หมิงฉือพูดโดยไม่ลังเล
“ไม่ อย่างน้อยในความทรงจำของเขา วันสิ้นโลกไม่เคยมาถึง ไม่มีความทุกข์ทรมาน การนองเลือด หรือการเข่นฆ่า แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว”
ซูเถาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลองคิด ๆ ดู ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ อย่างน้อยก็ถือเป็นความสุขได้อีกแบบหนึ่ง
ทันทีที่เธอวางสาย จวงหว่านก็มาหาเธอและบอกเธอเกี่ยวกับการไปหาหลันหลิงหลิงในระหว่างวัน
“ตอนที่ฉันไปถึง หลันหลิงหลิงก็กำลังร้องไห้จนแทบขาดใจ เธอคิดฆ่าตัวตาย แพทย์ พยาบาล และตำรวจหลายชีวิตกำลังช่วยเธอ หลังจากสอบสวนเธอพบว่า คือซูเจิ้งชิงที่เป็นคนทำ นอกจากนี้ยังมีคนที่ไม่คุ้นเคยอีก รวมเป็นห้าคนที่พาเธอไป…”
“เธอบอกว่าซูเจิ้งชิงและพวกลักพาตัวอู๋เฟยฉือไป เขาถูกซ้อมเกือบชั่วโมง เขาอาจถูกทำร้ายจนตายและถูกโยนทิ้ง อีกอย่าง…หลันหลิงหลิง ขอให้ฉันบอกคุณบางอย่าง ความแค้นที่คนมีต่อเถาหยางนั้นแข็งแกร่งมาก และเขาก็เป็นปฏิปักษ์เช่นเดียวกัน มีคนเคยบอกว่าเถาหยางจะถูกเผาในยุควันสิ้นโลกนี้ ไม่ว่าใครก็อย่าได้มีชีวิตอย่างมีความสุข”
เหงื่อออกเต็มใบหน้าของซูเถา “ถ้าพวกเขาอยากมีเรื่องก็มา แต่อย่าให้ฉันจับได้ มิฉะนั้น ฉันจะบอกให้พวกเขารู้ว่าใครกันแน่ที่จะไม่มีความสุข”
จวงหว่านก็รู้สึกว่ามันอุกอาจ “ไม่ว่ายังไงพวกเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ฉันจะขอให้ป้าชีใส่ใจผู้คนที่เข้าออกให้มากขึ้น”
ในคืนนั้น ซูเถาซื้อเครื่องตรวจจับควันไฟ 20 ตัวที่ร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันและสิ่งก่อสร้าง เธอติดตั้งไว้ที่โรงอาหารชั้นละ 1 ตัว
โชคดีที่ในตอนบ่ายจวงหว่านให้ผู้เช่าใหม่ทั้งหมดเข้าลงทะเบียน ทำให้เธอมีรายได้ 280,000 เหลียนปัง
หากไม่รวมการซื้อสัญญาณเตือนภัยก่อนหน้านี้ เธอจะมีสินทรัพย์รวม 300,000 เหลียนปัง มีเงินอยู่ในมือ ถือว่าร่ำรวย เธอได้เพิ่มลิฟต์สองตัวที่อาคารหมายเลขหนึ่ง
อาคารหนึ่งมีถึง 7 ชั้นถ้าไม่ติดตั้งลิฟต์ ผู้เช่าคงหมดแรงก่อน
หลังจากติดตั้งลิฟต์แล้ว เธอเปิดห้องเดี่ยวเพิ่มอีก 5 ห้องและห้องคู่อีก 6 ห้อง และวางแผนที่จะปล่อยเช่าในเดือนหน้า
ส่วนที่เหลืออีกกว่า 200,000 เหลียนปัง ซูเถาวางแผนที่จะเก็บเอาไว้ก่อน เธอไม่สามารถใช้มันได้ทุกครั้งที่มีเงินอยู่ในมือ เธอจำเป็นต้องประหยัดเงินสำหรับการอัปเกรด
นอกจากนี้เมื่อกลุ่มทางเสือดาวถึงฐานโส่วอัน เธอต้องจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งตันให้พวกเขา
ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องจ่ายน้ำมันนั้นไม่สูง แต่มันไม่เพียงพอต่อปริมาณที่เหลยสิงต้องการ และน้ำมันเชื้อเพลิงครึ่งตันนี้จะมีมูลค่าอยู่ที่ 100,000 เหลียนปัง
ค่าใช้จ่ายก้อนโต…
ก่อนเข้านอน ซูเถาตรวจสอบดูกล้องวงจรปิด เมื่อพบว่าไม่มีบุคคลน่าสงสัยหรือซอมบี้ที่ไม่น่าดูก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เคียวโลหิตอีกสองตัว ถ้ามันถูกเธอยิงเข้าที่ศีรษะ เธอจะสามารถเก็บผลึกนิวเคลียสได้อีกสองสามอัน
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เป้าหมายที่จะเก็บผลึกนิวเคลียส 10 อันจะสำเร็จ
ในเวลานี้ เฮยจือหม่ากระโดดขึ้นไปบนหมอนของเธอ มันนั่งอยู่ข้าง ๆ และเอาแต่จ้องมองมาที่เธอ ซูเถาคิดว่ามันต้องการแบ่งปันมุมมองกับตนเองอีกครั้ง และในวินาทีถัดมา แผนที่ 3 มิติดูเหมือนจะถูกเปิดเผยต่อหน้าต่อตาซูเถา
มันคือห้องของเธอนั่นเอง!
เธอนอนอยู่บนเตียง เธอไม่เพียง ‘เห็น’ หยดน้ำบนอ่างล้างหน้าในห้องน้ำเท่านั้น แต่ยัง ‘เห็น’ ฝุ่นใต้โซฟาในห้องนั่งเล่นอีกด้วย และยัง ‘เห็น’ เนื้อกระป๋องของโปรดของไป๋จือหม่าสามกระป๋องอย่างชัดเจนอีกด้วย มันถูกซ่อนอยู่ใต้เตียง
ไม่แปลกใจเลย ครั้งก่อนเธอรู้สึกว่าอาหารกระป๋องของแมวหายไป 2-3 กระป๋อง ที่แท้ก็มีคนขโมยไปไว้ใต้เตียง
ความรู้สึกนี้น่าทึ่งมาก ดูเหมือนว่า…ตราบใดที่เป็นสถานที่ที่เฮยจือหม่าลาดตระเวน เธอก็สามารถ ‘ตรวจสอบ’ ซ้ำ ๆ ได้
มันพลังอะไรกันเนี่ย? มันเหมือนกับสายลับเข้าไปในฐานลับของศัตรู และทำการสำรวจแผนที่ที่ซับซ้อน