ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 123 ทำไมคุณถึงอยากตาย ชีวิตเป็นของคุณหรือเปล่า
- Home
- ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก
- ตอนที่ 123 ทำไมคุณถึงอยากตาย ชีวิตเป็นของคุณหรือเปล่า
ตอนที่ 123 ทำไมคุณถึงอยากตาย ชีวิตเป็นของคุณหรือเปล่า?
ตอนที่ 123 ทำไมคุณถึงอยากตาย ชีวิตเป็นของคุณหรือเปล่า?
การยิงของซูเถา ทำให้ความประทับใจของเหลยสิงที่มีต่อเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“…เถ้าแก่ซู คุณเป็นผู้หญิงที่สุดยอดจริง ๆ ผมเหลยสิง เคยตัดสินคุณผิดมาก่อน”
ซูเถาชำเลืองมองอีกฝ่าย “ก่อนหน้านี้คุณคิดยังไงกับฉัน”
เหลยสิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “ผมตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตา และมีอคติทางเพศ เถ้าแก่ซูยังเด็กและหน้าตาดีมาก ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะแข็งแกร่งแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่จะจัดการเถาหยางได้ดี”
ซูเถาส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ใช่คุณงามความดีของฉันคนเดียวหรอก เถาหยางของพวกเรามีผู้หญิงที่มีความสามารถมากมาย ผู้จัดการจวงที่ฉันเพิ่งแนะนำให้คุณรู้จัก หากไม่มีเธอ เถาหยางคงไม่เป็นระเบียบเหมือนตอนนี้ นอกจากนี้ยังมีผู้จัดการเฉียนผู้ดูแลพื้นที่เพาะปลูก ผักสดที่คุณกินล้วนปลูกโดยเธอ และหรงหรง ผู้ดูแลคนสุดท้องของเราก็เป็นมือดีในการจัดการด้านการเงิน”
ในตอนท้าย เธอพูดกึ่งติดตลกว่า “กัปตันเหลย อย่าดูถูกผู้หญิง ป้าหัวหน้าคนงานทำความสะอาดของเราเป็นก็เป็นคนจัดการดูแลความสะอาดเรียบร้อยทั้งหมด หากไม่มีเธอ ที่เถาหยางคงไม่มีสภาพแวดล้อมที่สะอาดและสะดวกสบายแบบนี้”
ทันใดนั้นเหลยสิงก็มองเห็นแสงสว่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนจากเธอ มันเป็นรัศมีและบรรยากาศที่ผู้ชายที่แข็งแกร่งหลายคนไม่มี มันมีแรงดึงดูดที่ที่อันตรายถึงชีวิต
เขาแสดงฟันเขี้ยวสองซี่ “เถ้าแก่ซู เราต้องการพักหนึ่งเดือน พวกเราต้องการห้องคู่เจ็ดห้อง ได้ไหม”
“พรุ่งนี้มาหาจวงหว่านที่เถาหยาง เพื่อทำการลงทะเบียนเข้าพัก แล้วก็ให้หั่วเสอมาหาหมอจงที่คลินิกตอนหกโมงเย็น”
หั่วเสอตื่นเต้นมากจนพูดไม่ออก
พี่น้องคนอื่น ๆ มาขอบคุณพวกเขาด้วยเสียงหัวเราะแล้วรีบไปที่น้ำพุเพื่อเล่นน้ำ
เมื่อเห็นพวกเขาวิ่งเล่นเหมือนเด็ก ๆ จวงหว่านจึงพูดกับซูเถา
“ตอนเช้าเฉินหยางบอกฉันว่าเขาอยากเป็นนักรบอิสระ ฉันถามเขาว่าทำไม เขาบอกว่าเขาจะได้ขี่มอเตอร์ไซค์ที่เท่มาก มันทำให้ฉันมองเขาอย่างมีเลศนัยทันที”
ทันทีที่ซูเถาพูดจบ เธอเห็นเฉินหยางที่กำลังตื่นเต้นวิ่งไปเล่นกับเหลยสิงและกลุ่มของเขา
จวงหว่านก่ายหน้าผากของเธอ “ลืมมันไปเถอะ กลุ่มเป้าถูนี้ดูเหมือนจะมีฐานะดีทีเดียว อีกทั้งเฉินหยางก็สามารถเรียนรู้วิธีการเป็นผู้ชายได้อีกด้วย”
ซูเถาถามว่า “เฉินซีอยู่ที่ไหน ไปหาหมอจงอีกแล้วเหรอ”
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของจวงหว่าน “ใช่ เธอทำงานเป็นผู้ช่วยตัวจิ๋วข้างหมอจง เธอเพิ่งเรียนรู้วิธีใช้เครื่องวัดความดันโลหิต ตอนสายเวลามีคนมาพบแพทย์ตรวจโรค เธอก็สามารถประเมินได้คร่าว ๆ แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนหมอจงก็อยู่ข้าง ๆ เธอ คอยออกใบสั่งยา”
ซูเถารู้สึกประหลาดใจ จากนั้นยิ้มและพูดว่า “พรสวรรค์ของเฉินซีนั้นน่าทึ่งมาก ไม่น่าแปลกใจที่หมอจงจะชอบเธอมาก ในอนาคตเธอน่าจะเป็นคุณหมออัจฉริยะตัวน้อยในเถาหยาง”
จวงหว่านรู้สึกเขินอาย “คุณก็พูดเกินจริงเกินไป ฉันคิดว่าในอนาคต เธอจะช่วยทำให้ผู้เช่าปวดหัวมากกว่า คงจะดีหากเธอสามารถดูแลขั้นพื้นฐานของคลินิกได้เมื่อหมอจงไม่อยู่”
ซูเถาเต็มไปด้วยความคาดหวัง “เฉินซีจะมีอนาคตที่ดี คุณหมอจงเป็นครูที่ดีจริง ๆ”
จวงหว่านพยักหน้า “เขายังเป็นทั้งพ่อและสามีที่ดีด้วย เขามีภรรยาและลูกมาก่อน แต่พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิตด้วยโรคเพราะไม่มียารักษา เขาทำได้เพียงเฝ้าดูคนที่รักจากไป นี่ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว คุณหมอก็ยังคงคิดถึงพวกเขาอยู่”
ซูเถาตกตะลึง
มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ
เขาเป็นนักศึกษาแพทย์และมีความสามารถในการสร้างแขนขาที่ขาดให้งอกขึ้นมาใหม่ได้ แต่เมื่อเผชิญกับโรคที่ไม่มียารักษา และไม่อยู่ในขอบเขตความสามารถของเขา หมอจงคงรู้สึกถึงความไร้พลังและความสิ้นหวัง
ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ แต่จู่ ๆ หลิวพ่านพ่านก็วิ่งเข้ามาแล้วพูดด้วยความลำบากใจ
“เถ้าแก่ซู อู๋เจิ้นพยายามฆ่าตัวตายอีกแล้ว แต่เขาเพิ่งได้รับการช่วยเหลือ นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว…ผู้อาวุโสเหม่ยกลัวจนแทบจะเป็นลม ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเขาหัวใจสลาย กินอะไรไม่ได้ นอนก็ไม่ค่อยหลับ เขาเครียดตลอดและสลบไปสองวัน ฉันจึงมาคุยกับคุณโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้อาวุโส คุณช่วยเกลี้ยกล่อมให้เขาไม่ต้องสนใจเรื่องของอู๋เจิ้นได้ไหม…”
“ถ้าสิ่งที่ฉันพูดผิดไป ได้โปรดอย่าถือสากันเลยนะ ฉันเป็นห่วงผู้อาวุโสเหม่ยจริง ๆ สุขภาพของเขาดีขึ้นมากตั้งแต่หมอจงมาช่วยตรวจโรคที่นี่ แต่ตอนนี้…”
ซูเถาขมวดคิ้ว “ผู้อาวุโสเหม่ยคุยกับเขาก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเหรอ หรือเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่?”
หลิวพ่านพ่านพยักหน้าอย่างเป็นกังวล “ดูเหมือนเขาจะสูญเสียจิตวิญญาณไป ผู้อาวุโสพูดกับเขา แต่ก็เหมือนว่าไม่มีอะไรเข้าหูเขาเลย เอาแต่คิดอยู่กับตัวเอง”
จวงหว่านถอนหายใจและพูดว่า “เขาเพิ่งสูญเสียภรรยาและลูกไป ผู้อาวุโสเหม่ยก็ได้ลองพยายามแล้ว ทำไมเราไม่ลองให้เขาแยกห้อง และหาคนอื่นมาเฝ้าดูแลเขา”
ซูเถาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นส่ายหัวแล้วพูดว่า “พาฉันไปดูก่อน”
ทันทีที่เธอเข้าไปในห้อง ซูเถาเห็นอู๋เจิ้นถูกมัดอยู่บนโซฟา ผมและตัวของเขาเปียกโชก เขานั่งอย่างโอนเอน ไม่รู้ว่าเขาเป็นลมไปหรือเปล่า
ผู้อาวุโสเหม่ยนั่งอยู่บนรถเข็นโดยเปิดหน้าต่างไว้ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยน้ำตาและซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด เบ้าตาของเขาก็ลึกลงเช่นเดียวกัน
จวงหว่านตกใจเมื่อเห็นสภาพของทั้งสอง
หลิวพ่านพ่านรู้สึกว่าเธอดูแลผู้อาวุโสเหม่ยได้ไม่ดี เธอตำหนิตัวเองและกล่าวอย่างตัดพ้อ
“อู๋เจิ้นฉวยโอกาสเข้าห้องน้ำและพยายามฆ่าตัวตายในอ่างอาบน้ำ เมื่อฉันรู้เข้า ฉันกลัวแทบตาย ตกใจจนแทบหมดลมหายใจ ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านสองสามคนที่ช่วยปฐมพยาบาล ตอนนี้เขาสบายดี แค่หมดสติไป ฉันกลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาและหาหนทางเพื่อฆ่าตัวตายอีก ฉันจึงมัดเขาไว้”
ซูเถาบอกหลินฟางจือว่า “เข้าไปข้างในแล้วเอาน้ำมาให้ฉันหนึ่งกะละมัง”
หลินฟางจือถือกะละมังใส่น้ำขนาดใหญ่แล้วกลับมา
ซูเถาพูดอย่างเย็นชา “สาดน้ำใส่เขา”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้อาวุโสเหม่ยอยากจะหยุดเธอ “หนูเถา เขาเพิ่งสำลักน้ำมา”
ซูเถากล่าวว่า “คุณรักเขามาก แต่เขาไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของเขาเอง แล้วทำไมคุณต้องทำสนใจด้วย ฉันจะสาดน้ำใส่เขาจนกว่าเขาจะตื่น”
หลินฟางจือไม่เกรงใจ เขาสาดน้ำในกะละมังขนาดใหญ่ลงบนหัวของอู๋เจิ้น เขาไออย่างรุนแรงและตื่นขึ้นมา เขาลืมตาด้วยความงุนงง เมื่อเห็นซูเถา เขาก็ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง
ซูเถา “ทำไม จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ”
“ซู แค่กแค่ก คุณ..”
ซูเถา “ยังจำฉันได้นี่ คุณยังอยากตายอยู่หรือเปล่า”
อู๋เจิ้นก้มหน้าลง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ราวกับว่าได้สูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว
ซูเถาโกรธมากและวางเท้าบนเข่าของเขา อู๋เจิ้นขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ตอบสนองอะไรมากนัก
ซูเถาคว้าคอเสื้อ มองตรงไปที่เขาแล้วถามอย่างเย็นชา
“ทำไมคุณถึงอยากตาย ชีวิตเป็นของคุณหรือเปล่า และอย่าลืมสิ่งที่คุณสัญญากับฉันตอนที่ยังอยู่ในโส่วอัน”
คุณซู ถ้าผมมีชีวิตรอด ผมจะอุทิศทั้งชีวิตให้กับเถาหยาง
อู๋เจิ้นรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกผิดว่า “คุณซู…ผมขอโทษ”
“ขอโทษแล้วมันมีประโยชน์ไหม ฉันเสียความพยายามไปมากเพื่อช่วยคุณออกมา และผู้อาวุโสเหม่ยก็เป็นห่วงคุณมาตลอด เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ดูแลคุณเหมือนลูกชายของเขาเอง คุณรู้ไหมว่าเขาอายุมากแล้ว และไม่สามารถทนต่อสิ่งเร้าและความหวาดกลัวเหล่านี้ได้ ฉันว่าหัวใจของคุณมันโตมาอย่างเปล่าประโยชน์จริง ๆ!”
“พี่พ่าน แก้มัดผ้าที่มัดเขาไว้ออก ถ้าเขาอยากตายก็ให้เขาตายไป”
หลิวพ่านพ่านมองไปที่ซูเถา จากนั้นมองไปยังผู้อาวุโสเหม่ยที่กำลังส่ายหัวอย่างเศร้าสร้อย ในที่สุดเธอก็กัดฟันและฟังเถ้าแก่ซู!
เธอรีบแก้มัดอู๋เจิ้นและนำเครื่องมือที่ใช้ในการฆ่าตัวตายครั้งก่อน เช่น มีดปอกผลไม้และเศษกระจกมาให้เขา พร้อมกับเปิดประตูห้องน้ำ อ่างอาบน้ำก็ยังเต็มไปด้วยน้ำที่อู๋เจิ้นเติมลงไปเมื่อครู่
ทุกอย่างพร้อม
แต่อู๋เจิ้นกลับไม่เคลื่อนไหว
ซูเถา “ไปสิ ฉันจะทำเหมือนว่าฉันยุ่งแล้วกัน เถาหยางของฉันไม่ต้อนรับคนที่ขี้ขลาดและมองหาแต่ความตาย ในสายตาของคุณ บุญคุณหรือความฝันมันไม่สามารถเทียบได้กับความเจ็บปวดของคุณอยู่แล้ว”