ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 135 การขยายตัวของเถาหยางและความผิดปกติของหลินฟางจือ
- Home
- ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก
- ตอนที่ 135 การขยายตัวของเถาหยางและความผิดปกติของหลินฟางจือ
ตอนที่ 135 การขยายตัวของเถาหยางและความผิดปกติของหลินฟางจือ
ตอนที่ 135 การขยายตัวของเถาหยางและความผิดปกติของหลินฟางจือ
ช้าก่อน อย่าเพิ่งใจร้อน เธอต้องใจเย็น ๆ และก้าวไปทีละก้าว
ซูเถาพยายามสงบสติอารมณ์ เมื่อเธอเปิดร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ก็เห็นสัญลักษณ์ ‘แผนที่’ กะพริบอยู่ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ระบบเคยแจ้งเตือนไว้ว่า หลังจากอัปเกรดเป็นเลเวล 5 แล้วจะสามารถขยายพื้นที่เดิมได้
หัวใจของเธอเต้นรัว รีบปิดร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร และจิ้มไปตรงคำที่ขึ้นว่าแผนที่
แผนที่ของเถาหยางถูกกางออกต่อหน้าเธอ พื้นที่สีเขียวแสดงถึงดินแดนที่ได้รับอำนาจในการจัดการ และมีพื้นที่สีแดงที่มีรูปร่างและขนาดต่าง ๆ รอบ ๆ เถาหยางที่กะพริบอยู่ตลอดเวลา
ซูเถาเลือกพื้นที่สีแดงเล็ก ๆ ใกล้ทางฝั่งตะวันออกของเถาหยาง เธอจิ้มมันไปหนึ่งทีแล้วกล่องโต้ตอบก็เด้งขึ้นมา
[พื้นที่นี้ครอบคลุมพื้นที่ 500 ตารางเมตร ต้องใช้ผลึกนิวเคลียสเลเวลหนึ่ง 5 ชิ้นเพื่อรับสิทธิ์ในการจัดการ]
เธอเปลี่ยนพื้นที่สีแดงอีกแห่งเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และจิ้มเพื่อดู
[พื้นที่นี้ครอบคลุมพื้นที่ 800 ตารางเมตร ต้องใช้ผลึกนิวเคลียสเลเวลหนึ่ง 8 ชิ้นเพื่อรับสิทธิ์ในการจัดการ]
หลังจากจิ้มดูพื้นที่สีแดงสี่หรือห้าติดต่อกัน ซูเถาก็ได้ข้อสรุป อัตราส่วนของพื้นที่ดินต่อผลึกนิวเคลียสที่ต้องหารคือ 100:1 การเปิดพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ต้องใช้ผลึกนิวเคลียส ซึ่งจะถูกเรียกใช้โดยภารกิจที่ซ่อนอยู่
เธอยังจำได้ดีว่าภูเขาผานหลิวมีพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร และใช้ผลึกนิวเคลียสเพียง 5 ชิ้นเท่านั้น
แน่นอนว่าการทำภารกิจนั้นคุ้มค่ากว่า
ซูเถามองไปที่พื้นที่สีแดงรอบ ๆ เถาหยางอย่างอิจฉา มันจะดีมากถ้าเป็นของเธอทั้งหมด
พื้นที่สีแดงบางส่วนทับซ้อนกับบางส่วนของตงหยาง หมายความว่าถ้าเถาหยางขยายตัวอย่างต่อเนื่องอาจจะได้รวมเข้ากับตงหยาง
ซูเถากะพริบตาอย่างรอคอยมัน
ไม่ใช่ว่าเธอต้องการต่อสู้เพื่ออำนาจและผลกำไร เธอแค่รู้สึกว่าหากรวมกับตงหยางได้ จะไม่เพียงลดการบาดเจ็บล้มตายของทหารลงอย่างมาก แต่ยังช่วยให้ตงหยางพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วย
หลังจากฝันกลางวันอยู่พักหนึ่ง ซูเถาก็ถอนหายใจเบา ๆ ไม่ต้องพูดถึงตงหยาง ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอเพียงพอที่จะซื้อที่ดินที่มีพื้นที่ขั้นต่ำ 500 ตารางเมตรเท่านั้น
แต่ 500 ตารางเมตรก็เพียงพอสำหรับเธอที่จะเปลี่ยนห้องเรือนกระจกบนชั้นสาม
ห้องเรือนกระจกมีพื้นที่ทั้งหมดเพียง 100 ตารางเมตร เฉียนหลินบอกเธอมานานแล้วว่ามีพื้นที่ไม่เพียงพอ
เดิมทีซูเถาต้องการพื้นที่ 500 ตารางเมตรในคืนนี้ แต่เมื่อเห็นว่าหลินฟางจือนอนขดตัวอยู่บนโซฟาและกำลังหลับสนิท เธอก็ทนไม่ได้ที่จะปลุกเขาขึ้นมาเพื่อขอผลึกนิวเคลียส
พื้นที่ของฟางจือนั้นดี แต่ก็ยังไม่สะดวกอยู่บ้างในบางช่วงเวลา
คืนนั้นเธอผล็อยหลับไปด้วยความตื่นเต้น และก่อนรุ่งสางเมื่อเธอได้ยินเสียงฮัมเพลงของหลินฟางจือ ซูเถาก็รีบลุกขึ้นไปหาเขา
อาการเมาค้างทำให้หลินฟางจือปวดหัว เมื่อได้ยินคำพูดของซูเถา มือของเขาก็เร็วกว่าสมองหนึ่งก้าว เขารีบมอบผลึกนิวเคลียสทั้งห้าให้เธอ
[ตรวจพบผลึกนิวเคลียสเลเวล 1 จำนวน 5 ชิ้น กำลังดำเนินการรวบรวมพลังงาน… ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับสิทธิ์ในการจัดการที่ดินนี้ โปรดตรวจสอบและยอมรับ]
ซูเถาเปิดแผนที่ทันที และพื้นที่สีแดงเล็ก ๆ ตอนแรกก็กะพริบเปลี่ยนเป็นสีเขียว ผสมผสานกับสีเขียวของเถาหยางทั้งหมด
เธอกำลังจะลงไปชั้นล่างเพื่อไปดูด้วยตาตัวเอง ทันใดนั้นหลินฟางจือซึ่งมีสติมากกว่าเล็กน้อยก็คว้าตัวเธอไว้
“ผลึกนิวเคลียสล่ะ?”
ซูเถาสงสัย “ใช้หมดแล้ว ไม่มีแล้ว ทำไมเหรอ?”
ฟลินฟางจือตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “เมื่อคืนพี่สัญญาว่าจะลองอีกครั้ง”
ซูเถาจำได้
เมื่อคืนนี้เด็กคนนี้บอกว่าผลึกนิวเคลียสร้อนมากและขอให้เธอจับมัน แต่เมื่อจับแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอจึงต้องเกลี้ยกล่อมให้เขาลองอีกครั้งในตอนเช้า
มันวิเศษมากที่เขาจำสิ่งเหล่านี้ได้หลังจากดื่มมากเกินไป
ซูเถารีบนั่งข้างเขาและกล่าวขอโทษ
“ฉันใจร้อนเกินไป ฉันจะลองใหม่อีกครั้งเมื่อพบผลึกนิวเคลียสในครั้งต่อไปตกลงไหม?”
หลินฟางจือรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยอมพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เขารีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว และไปที่ชั้นเรียนตอนเช้าของอาจารย์เสี่ยวเซิ่ง
เมื่อเห็นว่าเขาแสดงท่าทีผิดหวัง ซูเถาจึงคิดจะโทรหาเผยตง
“พี่เผย ฉันอยากถามว่าพี่จัดการกับผลึกนิวเคลียสที่ตงหยางรวบรวมมายังไง”
เผยตงกล่าวว่า “ส่วนเล็ก ๆ จะถูกใช้เพื่อการวิจัย อีกส่วนจะใช้สำหรับพัฒนาอาวุธที่มาจากผลึกนิวเคลียส ส่วนที่เหลือก็จะเก็บรักษาเอาไว้”
“ตอนนี้ในตงหยางมีผลึกนิวเคลียสกี่ชิ้น”
“ไม่ถึง 10 ชิ้น เธอจะเอาเหรอ”
ซูเถาพูดอย่างเขินอาย “ใช่ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะซื้อสักสองสามชิ้น”
เผยตงเงียบไปนานและถามว่า “ผลผลิตผักในเถาหยางเป็นยังไงบ้าง? ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอสามารถจัดหาได้เพียงพอสำหรับคนภายใน แล้วพอมีเหลือบ้างหรือเปล่า?”
ซูเถาตอบ “มี เพราะอาทิตย์หนึ่งเราจะมีผลผลิตถึง 60-80 จิน และคิดว่าผลผลิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก”
“ตกลงฉันจะคุยกับอดีตผู้นำกองทัพในภายหลังเพื่อดูว่าฉันสามารถซื้อผักกับเธอได้หรือเปล่า เนื่องจากไร่ในตงหยางถูกเผามอดไปจนหมด จึงต้องซื้อผักมาจากฐานอื่นทำให้มีราคาสูงมาก อดีตผู้นำกองทัพเคยไปต่อรองราคาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล” เผยตงกล่าว
ซูเถาพยักหน้า “ฉันได้ยินมาว่าฐานที่สามารถปลูกพืชจากดินมีราคาสูงอย่างน่าขัน พี่เผยฉันรบกวนพี่หน่อยนะ ช่วยดูว่ามันจะสามารถทดแทนกันในอัตราส่วนเท่าไหร่”
เผยตงกล่าวว่า “ฉันไม่เอาเปรียบเธอแน่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันวางสายก่อน ช่วงนี้ซอมบี้ที่มีวิวัฒนาการเริ่มปรากฏตัวขึ้นบ่อยอีกครั้ง ฉันต้องคอยระวังตลอด 24 ชั่วโมง”
ซูเถารีบพูดว่า “เดี๋ยวก่อน ฉันมีอีกคำถาม จู่ ๆ ผลึกนิวเคลียสสามารถร้อนขึ้นได้ไหม”
เผยตงส่ายหัว “ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้นะ เธอถามทำไมเหรอ”
ซูเถาอธิบายว่า “เด็กหนุ่มข้างตัวฉันหลินฟางจือ คนที่มีพลังห้วงมิติน่ะ สองวันนี้เขาบอกฉันว่าผลึกนิวเคลียสร้อน แต่ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ฉันสงสัยว่าหรือจะเป็นคนที่มีพลังวิเศษเท่านั้นที่รู้สึกได้ ฉันเลยมาถามพี่”
เผยตงคิดอย่างรอบคอบและกล่าวว่า “สถาบันวิจัยยังไม่ได้ให้ข้อสรุปที่เกี่ยวข้อง เดี๋ยวไว้ฉันจะโทรหาพวกเขาเพื่อสอบถามถึงเรื่องนี้อย่างละเอียด”
หลังจากวางสาย ซูเถาก็วิ่งไปยังพื้นที่ใหม่ทันที
ที่ดินผืนเล็ก ๆ ขนาด 500 ตารางเมตรนี้อยู่ติดกับอาคารหมายเลข 2 เพียงแค่ข้ามรั้วไป ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า
เธอสร้างกำแพงทันทีและรวมที่ดินผืนเล็ก ๆ นี้เข้ากับอาณาเขตของเถาหยางโดยสมบูรณ์
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เปิดร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร สินค้ามีไม่มาก แต่ใช้งานได้จริงทั้งหมด
สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของเธอคือเรือนกระจก
ตามคำอธิบายผลิตภัณฑ์ เรือนกระจกนี้สามารถรักษาอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืชส่วนใหญ่ การส่องผ่านของแสงยังสูงมาก และมีความทนทานต่อลม ดังนั้นจึงไม่กลัวลมแรงและฝนตกหนัก
และรูปลักษณ์ยังสวยงามมาก ห้องกระจกโปร่งใสนั้นยากที่จะได้รับผลกระทบจากการควบแน่นและไอน้ำที่จะส่งผลต่อการส่องผ่านของแสง
ขนาดของเรือนกระจกสามารถปรับได้ตามต้องการ แม้ว่าจะสร้างเรือนกระจกบนระเบียงห้องก็ตาม
แต่พื้นที่ใหญ่ ราคาก็ยิ่งแพง ราคาหน่วยต่อตารางเมตรคือ 3,000 เหลียนปัง
ราคายูนิตนี้ไม่ถูกจริง ๆ พื้นที่ 500 ตารางเมตร ถ้าสร้างเต็มพื้นที่ก็ 1.5 ล้านเหลียนปัง
ซูเถาแทบสำลักหลังจากคำนวณเสร็จ
นับตั้งแต่การอัปเกรด ในคลังเล็ก ๆ ของเธอมีเงินเหลือเพียง 60,000 เหลียนปัง
แต่ก็ยังมีเงินจำนวนมากในบัญชีกลาง ไร่เถาหยางและภูเขาผานหลิวทำเงินได้มากมายในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ประมาณคร่าว ๆ น่าจะมีหกถึงเจ็ดแสนเหลียนปัง แต่เธอต้องถามเฉียนหรงหรงสำหรับจำนวนเงินที่แน่ชัด
แต่ซูเถากลับลังเลที่จะแตะต้องเงิน เธอต้องการเก็บไว้สำหรับการอัปเกรดครั้งต่อไป