ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 167 จากนี้ไปผมจะเป็นเงาของคุณ
ตอนที่ 167 จากนี้ไปผมจะเป็นเงาของคุณ
ตอนที่ 167 จากนี้ไปผมจะเป็นเงาของคุณ
เผยตงชี้ไปที่ข้อมูลของเซิ่งอวี๋ชิงและพูดว่า
“เด็กคนนี้ค่อนข้างนิสัยดี ฉลาดเฉียบแหลม ความสามารถที่เธอเพิ่งปลุกได้ไม่นานเรียกว่าการควบคุม เธอสามารถควบคุมคนที่ไม่ได้มีพลังทางจิตได้ 1-2 คนในช่วงเวลาสั้น ๆ”
ซูเถาโบกมือ “ไม่ แม้ว่าฉันจะไม่เข้าใจกลยุทธ์ต่าง ๆ ในสนามรบ แต่ฉันก็เข้าใจด้วยความสามารถของเซิ่งอวี๋ชิง หากสามารถควบคุมผู้นำของศัตรูในการต่อสู้ขนาดใหญ่ ทำการควบคุมอย่างสมบูรณ์ ก็อาจจะได้รับชัยชนะ”
เผยตงพยักหน้า “เธอพูดถูก ถ้าความสามารถของเด็กคนนี้สามารถพัฒนาได้ อาจจะไม่ใช่แค่ควบคุมมนุษย์ แต่อาจจะรวมไปถึงการควบคุมซอมบี้ด้วย”
ซูเถาตกใจมาก “ถ้าอย่างนั้นพี่ก็สามารถอนุมัติใบสมัครของเธอ คงน่าเสียดายมากถ้าเธอไม่ได้เข้าไปอยู่ในเขตทหาร
เผยตงกล่าวว่า “เป็นเพราะเธอมีศักยภาพเพียงพอ ฉันเลยรับพิจารณา เธอคิดว่าฉันจะยอมให้ผู้ที่ไม่มีพลังเหนือธรรมชาติและไร้ความสามารถมาอยู่เคียงข้างเธอเหรอ อีกอย่าง เด็กคนนั้นต้องการติดตามเธอจริง ๆ”
ซูเถาปฏิเสธอย่างหนักแน่นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“พี่เผย ฉันไม่ได้ก้าวออกจากพื้นที่การจัดการของฉันบ่อยนัก ปกติสำหรับฉันแล้วมันถือว่าปลอดภัยมาก ผู้คนในตงหยางต้องการผู้ที่ทรงพลังและมีศักยภาพเหนือธรรมชาติมากกว่า เถาหยางยังสามารถยืนหยัดได้ สามารถรักษาความสงบในปัจจุบัน ฉันไม่สามารถเห็นแก่ตัวได้”
เผยตงเงียบไปสองวินาทีแล้วพยักหน้า
“งั้นเธอลองอ่านประวัติของคนอื่น ๆ ไปก่อน เดี๋ยวฉันจะกลับไปคุยกับเซิ่งอวี๋ชิง”
ซูเถาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอลดศีรษะลงและพลิกดูข้อมูลที่อยู่ในมือ สุดท้ายเธอก็เลือกผู้ที่มีพลังวิเศษมาสองสามคน เป็นผู้หญิงสองคนและผู้ชายหนึ่งคน ทุกคนอายุไม่เกินยี่สิบปี และความสามารถพิเศษของพวกเขาล้วนเป็นการป้องกัน
“พวกเขาทั้งสามคนมีจุดมุ่งหมายต่อเถาหยางยังไงบ้างคะ” ซูเถาถาม
เผยตงมองพวกเขาทีละคนแล้วพูดว่า
“ทุกรายชื่อที่มอบให้คุณล้วนเต็มใจที่จะอยู่ในเถาหยาง ผู้หญิงสองคนที่เธอเลือกมีความตั้งใจสูง อย่างไรก็ตามพลังของพวกเธอล้วนเป็นความสามารถทางด้านกำลังเสริม และเดิมทีก็ไม่ต้องการไปสนามรบอยู่แล้ว การให้พวกเธออยู่ที่เถาหยางถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด”
“สำหรับเด็กคนนี้ เขาก็มีความตั้งใจเช่นกัน แต่มีเงื่อนไขเล็กน้อย”
“เงื่อนไขอะไร”
เผยตงพูดช้า ๆ
“น้องสาวของเขาถูกลักพาตัวไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลยนับตั้งแต่นั้นมา เงื่อนไขของเขาที่จะเข้ามาอยู่ในเถาหยาง คือเขาต้องการให้ช่วยตามหาน้องสาวของเขา”
ซูเถาตัดสินใจทันที แต่เธอยังต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทั้งสามคน ดังนั้นเธอจึงถามว่า
“คุณสมบัติของเขาล่ะคะ”
เผยตงเรียกอาจารย์ของทั้งสามคนมา เพื่อให้ซูเถาได้สอบถาม
หลังจากถามเสร็จก็เรียกเจ้าตัวมา
เด็กผู้หญิงสองคน คนหนึ่งสูงและอีกคนเตี้ย คนตัวสูงชื่อเป้ยเจียว มีผิวขาวและตาโต เป็นสาวงามที่มีบุคลิกที่มีชีวิตชีวา เมื่อเธอเห็นซูเถา ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่เธอทันทีด้วยรอยยิ้ม
“เถ้าแก่ซูยังเด็กอยู่เลย ดูเด็กกว่าฉันเสียอีก ดีจัง ฉันยังกังวลว่าเถ้าแก่ของเถาหยาจะเป็นหญิงชรา มันคงจะอึดอัดเกินไปถ้าเราคุยกันไม่ได้”
ส่วนคนที่ตัวเตี้ยกว่าชื่อถงฉี เธอเม้มริมฝีปากและกระซิบเสียงแผ่ว
“ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะเลือกเธอหรือเปล่า”
เผยตงขมวดคิ้ว
ซูเถาไม่ถือสา และถามพวกเธอด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมถึงอยากอยู่ในเถาหยาง”
เป้ยเจียวกลัวว่าใครจะแย่งพูด ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างรวดเร็ว
“ตอนนี้มีใครไม่อยากอยู่ในเถาหยางบ้าง มีอาหารดี ๆ มีที่อยู่อาศัยที่ดี และไม่ต้องไปสนามรบ พ่อแม่ของฉันบอกว่าถ้าฉันได้อยู่ในเถาหยาง ชีวิตที่เหลือของฉันจะปลอดภัย”
ถงฉีไม่ได้พูดอะไรแต่เธอก็พยักหน้าเห็นด้วย
ซูเถาเปลี่ยนเรื่องและถามว่า “แล้วถ้าเถาหยางไม่มั่นคงอีกต่อไปหรือถูกบุกรุกโจมตีล่ะ”
เป้ยเจียวหัวเราะเบา ๆ “มันจะเป็นไปได้ยังไง”
รอยยิ้มของซูเถายังคงไม่เปลี่ยนแปลง “แล้วถ้ามันมีวันนั้นจริง ๆ ล่ะ”
เมื่อเป้ยเจียวได้ยินดังนั้น จึงหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง พยายามกลั้นยิ้มและไม่พูดอะไร
ซูเถามองไปที่ถงฉีอีกครั้ง
ถงฉีก็หลบสายตาและนิ่งเงียบ
ทั้งคู่รู้อยู่ในใจว่าถ้าเถาหยางไม่ต่างจากตงหยาง หรือแย่กว่าตงหยาง จะอยู่ต่อไปเพื่ออะไร
ในเวลานี้เด็กหนุ่มคนเดียวที่เงียบมาตลอดก็พูดด้วยเสียงทุ้ม
“ตราบใดที่คุณช่วยผมตามหาน้องสาว ผมก็จะไม่ไปไหน”
ซูเถามองดูเขา เขาเป็นชายหนุ่มอายุ 20 ต้น ๆ ชื่อเจียงอวี่ แม้ว่าหน้าตาของเขาจะดูธรรมดาแต่เขามีความเด็ดเดี่ยว
อาจเป็นเพราะความสามารถของเขาที่เรียกว่าเงา ร่างกายของเขาสามารถกลมกลืนกับสถานที่ที่มีร่มเงาได้ และเขาสามารถเคลื่อนที่ไปในเงาได้อย่างอิสระโดยไม่มีใครพบเจอ แม้แต่เครื่องมือต่าง ๆ ก็ไม่สามารถตรวจจับการปรากฏตัวของเขาได้
ซูเถาจำคำพูดของเผยตงได้ ความสามารถเหนือธรรมชาติของเจียงอวี่สามารถซ่อนอยู่ในเงาของเธอได้เสมอ คอยเป็นเงาที่ตามปกป้องเธอ
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เธอหยุดชั่วคราวและถามว่า “แม้ว่าคุณอาจจะต้องตายน่ะเหรอ”
การแสดงออกของ เจียงอวี่ไม่เปลี่ยนไปเลย “แน่นอน นี่คือหน้าที่ของผม”
ซูเถาหัวเราะ จากนั้นหันไปหาเผยตงแล้วพูดว่า “ฉันเลือกเขา”
……
หลังจากที่ทั้งสามคนจากไป เผยตงก็ถามว่า “เธอแน่ใจแล้วเหรอ ไม่เลือกต่อเหรอ”
ซูเถาพยักหน้า “ไม่ล่ะ ฉันไม่เลือกแล้ว”
ความจริงแล้วความสามารถของสองสาวไม่มีปัญหาอะไร และเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะแสวงหาข้อดีและหลีกเลี่ยงข้อเสีย ไม่มีใครต้องการจ่าย เพื่อแลกกับชีวิตที่ดีขึ้น
ซูเถาว่ามันจะไม่มั่นคง ถ้าพวกเธอไม่มีจิตใจที่แน่วแน่
หากมีสถานที่ที่ดีกว่าเถาหยาง พวกเธอก็จะจากไปโดยไม่ลังเล
แต่สำหรับเจียงอวี่ เขาหนักแน่นและชัดเจน ตราบใดที่เธอช่วยเขาตามหาญาติ เขาก็สามารถทำทุกอย่างได้
และเข้าใจว่าการทำความดีใด ๆ นั้นมันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนและมันมีราคาที่ต้องจ่าย
เธอทำให้เขามีชีวิตที่ดีและมีความหวังที่จะได้พบญาติพี่น้อง เขาก็เลยยอมทุ่มสุดตัว
เผยตงกล่าวว่า “ฉันเกรงว่าจะเป็นการยากที่จะตามหาน้องสาวของเขา เธอหายไป 6 ปีแล้ว เราพยายามช่วยเขาตามหา แต่ผู้คนในวันสิ้นโลกล้วนมีแต่ความวุ่นวาย และให้เบาะแสน้อยเกินไป ฉันจำได้แค่ว่าคนที่จับน้องสาวเขาไป มีรอยสักรูปกากบาทอยู่ที่หลังมือ”
ซูเถากตอบกลับว่า “ฉันจะหาทาง”
บ่ายวันนั้น เจียงอวี่เดินตามเธอไปพร้อมกับกระเป๋าเป้ที่ขาดรุ่งริ่ง
เป้ยเจียวขวางพวกเขาเอาไว้ก่อนที่จะจากไป และถามซูเถาอย่างไม่มั่นใจ
“ฉันสู้เขาไม่ได้ตรงไหน ฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าที่พลตรีฉือรับมา เพราะฉันไม่มีภูมิหลังคุณก็เลยไม่กล้ารับไว้ใช่ไหม พ่อแม่ของฉันทั้งคู่เป็นคนตงหยาง รู้ตื้นลึกหนาบาง อีกอย่างฉันก็มีพลังเหนือธรรมชาติ ไม่ด้อยไปกว่าเขาเลย แต่ทำไมถึงไม่เป็นฉัน!”
เผยตงตะโกนเสียงดัง “เป้ยเจียว! มีมารยาทด้วย!”
เป้ยเจียวยังคงกลัวเธอ ท่าทีของเธออ่อนลงทันที และพูดด้วยดวงตาสีแดง
“รองเผย ฉันแค่ต้องการคำอธิบาย”
ซูเถาพูดเบา ๆ “เขาสามารถตายเพื่อฉันได้ คุณทำได้ไหม สิ่งที่ฉันอยากได้คือโล่ ไม่ใช่การหาเพื่อน”
ใบหน้าของเป้ยเจียวเปลี่ยนไปทันที “นี่คุณถามจริง ๆ หรือถามเล่น ๆ คุณเป็นใคร ทำไมถึงต้องการให้ฉันตายเพื่อคุณ”
เผยตงโกรธมาก เธอระงับความโกรธและส่งซูเถากลับไปที่รถและสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาส่งเธอกลับไปที่เถาหยางอย่างปลอดภัย
ซูเถาเข้าไปในรถ และหันกลับไปมองเห็นเป้ยเจียวแสดงท่าทีไม่พอใจ
เมื่อเธอหันกลับมาได้ยินเจียงอวี่พูดว่า
“ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องคุณ แล้วคุณจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยผมตามหาน้องสาวหรือเปล่า”
ซูเถากล่าวว่า “แน่นอน นี่คือสิ่งที่ฉันจะสัญญากับคุณ”
เจียงอวี่แสดงรอยยิ้มจาง ๆ แต่มันก็หายวับไป จากนั้นร่างของเขาก็ค่อย ๆ หายไป และในที่สุดก็ละลายเข้าไปในเงามืดที่อยู่รอบ ๆ
ซูเถาได้ยินเสียงของเขาจากรอบ ๆ ตัวเธอ
“จากวันนี้ไป ผมจะเป็นเงาของคุณ คุณกับผมจะเผชิญความเป็นความตายไปด้วยกัน”