ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 176 พวกเราอยู่ที่ภูเขาผานหลิวกันเถอะ
ตอนที่ 176 พวกเราอยู่ที่ภูเขาผานหลิวกันเถอะ
ตอนที่ 176 พวกเราอยู่ที่ภูเขาผานหลิวกันเถอะ
“ขอแค่พ่อของคุณจริงใจ และไม่เสแสร้งกับฉัน”
เมิ่งเชียนกำลังจะร้องไห้ด้วยความดีใจ
“ไม่เป็นอย่างนั้นแน่นอน พ่อของฉันเป็นคนซื่อตรงเสมอ และถ้าเขาสัญญาเขาจะไม่มีวันหลอกลวงคุณ”
ซูเถามองดูเธอ และนึกถึงคำพูดของหม่าต้าเพ่าอีกครั้ง ไม่ว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่
ทั้งสองพ่อลูกยืนหยัด
มี๋อู้ถูกขังอยู่ในห้องน้ำของพนักงาน การกิน ดื่ม และเข้าห้องน้ำทั้งหมดจะทำในห้องเล็ก ๆ นี้
เปรียบเสมือนนักโทษที่ไม่สามารถได้รับการปฏิบัติอย่างดี
ส่วนหั่วเสอก็เหนื่อยหน่อย
ซูเถาขอให้เขาพามี๋อู้ไปที่ห้องพักพนักงานที่เมิ่งเชียนอยู่ แต่มี๋อู้ไม่เต็มใจที่จะย้ายไป ใบหน้าของเขาแสดงความมุ่งมั่น
“ฉันจะไม่ยอมไปไหน ฆ่าฉันให้ตายดีกว่าให้ฉันเปิดปากพูดอะไรออกมา”
หั่วเสอโกรธจัด เขาเปิดปากพูดว่า
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงถูกถานหย่งทิ้ง คุณทั้งดื้อและโง่ ก็สมควรแล้ว!”
ใบหน้าของมี๋อู้ซีดลงทันที
เป็นเพราะเขาทำได้ไม่ดีหรือเปล่าถึงได้ลงเอยแบบนี้?
หั่วเสอหมดความอดทน จับคอเสื้อและลากเขาขึ้นไปชั้นบน
ใบหน้าของมี๋อู้หมองคล้ำ
เมื่อเมิ่งเชียนเห็นเขา เธอก็รีบพุ่งเข้าไปทันทีโดยไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดบนร่างกายของเธอ “พ่อ!”
รูม่านตาของมี๋อู้เบิกขึ้นทันที “เชียนเชียน? ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่”
ทันใดนั้น ราวกับนึกอะไรบางอย่างออก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “แกจับลูกสาวของฉันมาเหรอ?!”
ซูเถากลอกตาโดยไม่พูดอะไร
หั่วเสออยากจะทุบตีเขาจริง ๆ
ความทุกข์ใจของเมิ่งเชียนกลายเป็นความโกรธทันที
“พ่อ! ระวังคำพูดหน่อย! เถ้าแก่ซูแห่งภูเขาผานหลิวเป็นคนช่วยฉันไว้ ไม่เช่นนั้นฉันจะได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพ่อแบบนี้เหรอ?”
มี๋อู้มึนงงเล็กน้อย และเห็นว่าแม้ลูกสาวของเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่เธอก็มีผ้าพันแผลอย่างดี เสื้อผ้าของเธอสะอาดสะอ้าน และไม่มีเชือกพันธนาการเธอไว้
ดูไม่เหมือนว่าถูกลักพาตัวมาจริง ๆ…
เมิ่งเชียนทำให้เสียงของเธอเบาลง “พ่อ ถ้าไม่ใช่เพราะการช่วยเหลือของเถ้าแก่ซู วันนี้พ่อคงไม่ได้เห็นหน้าฉัน เธอพาหมอมารักษาบาดแผลให้ฉัน เธอทำให้ฉันกับพ่อได้เจอกัน พ่อลองคิดดูสิ ถ้าเธอต้องการฆ่าพ่อจริง ๆ ทำไมต้องรอจนถึงตอนนี้”
“พ่อ เถ้าแก่ซูไม่เหมือนถานหย่งหรอกนะ ไม่ต้องพูดถึงศัตรูหรอก เขาใจร้ายแม้กระทั่งคนของเขาเอง กลับกันถ้าพ่อตกอยู่ในเงื้อมมือของเขา วันนี้พ่อจะยังปลอดภัยและอยู่รอดแบบนี้ไหม?”
มี๋อู๋พึมพำและไม่พูดอะไร
เมิ่งเชียนกอดเขาอย่างอ่อนโยน
“พ่อ ฟังลูกสาวอย่างฉันนะ ถานหย่งทอดทิ้งพ่อไปนานแล้ว แล้วยังพูดเรื่องโง่ ๆ เช่นจะช่วยชีวิตและช่วยเรื่องเงินทองของพ่ออีก พ่อยังจำที่เขาสัญญากับพ่อในตอนแรกได้ไหมว่าจะทำให้พวกพี่ ๆ น้อง ๆ ในทีมได้อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตในวันสิ้นโลกอย่างปลอดภัยและสงบสุขเหมือนก่อนวันสิ้นโลก อีกทั้งจะช่วยดูแลภรรยาและลูกของพ่อให้ดี”
“แล้วเขาทำได้อย่างที่พูดไหม? แม้ว่าฉันจะมาที่ภูเขาผานหลิวเพื่อเสี่ยงดวง แต่เขาก็ไม่เคยดูดำดูดี และไม่แม้แต้จะสนใจว่าฉันจะอยู่หรือตาย”
เมื่อมี๋อู้ได้ยินประโยคสุดท้ายก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้
เมิ่งเชียนกัดฟันและกล่าวต่อ
“พ่อ แม้ว่าพ่ออยากจะกลับไป ถานหย่งก็ต้องรู้สึกว่าพ่อหักหลังเขา และเขาจะฆ่าพ่อในไม่ช้าหลังจากที่เจอตัว! หากพ่อยืนกรานที่จะกลับไป ฉันก็จะไม่ห้าม แต่ฉันจะอยู่ที่ภูเขาผานหลิว และเมื่อถึงเวลานั้นเราสองคนก็คงต้องต่างคนต่างเดิน”
มี๋อู้คร่ำครวญและทันใดนั้นก็ล้มลงกับพื้น เขาร้องไห้อย่างเงียบๆ พร้อมกับปิดปากของเขา
เมื่อความภักดีและศรัทธาถูกเหยียบย่ำ มีคนพูดความจริงออกมาอย่างโหดร้าย ต่อหน้าต่อตาเขา การทำงานหนักนับสิบปีกลายเป็นผลเสีย และกลายเป็นมีดคมที่ทิ่มแทงหัวใจนับพัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เมิ่งเชียนรู้สึกเป็นทุกข์อย่างมากจนเธออดไม่ได้ที่จะร้องไห้
“พ่อ พวกเราอยู่ที่ภูเขาผานหลิวกันเถอะ เราจะมีชีวิตที่ดี…”
…
“อารมณ์ของมี๋อู้ยังไม่คงที่ ก่อนอื่นช่วยจัดการให้เขาอยู่กับเมิ่งเชียนที่ภูเขาผานหลิวสักสองสามวัน หลังจากขาหายดีแล้ว จัดให้อยู่ในแผนกรักษาความปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลของคุณ”
ชีอวิ๋นหลันตอบและถามอีกครั้ง “เมิ่งเชียนล่ะ ฉันชอบสาวน้อยคนนี้มาก ทำไมคุณไม่ให้เธอมาอยู่กับฉันด้วย”
จวงหว่านแอบไม่พอใจ เธอออกมาพูดว่า
“เถ้าแก่ ทั้งพ่อและลูก คุณมอบหมายทั้งคู่ให้ฉันเถอะ ฝ่ายบริหารของเรายังต้องการผู้จัดการ ฉันถามเมิ่งเชียนแล้ว เธอเคยเรียนหนังสือ”
ชีอวิ๋นหลันพูดอย่างเงียบ ๆ “คุณถูกชะตาเธอมานานแล้วนี่เอง และยังสอบถามเธอแล้วด้วย”
จวงหว่านตอบอย่างลังเล “ก็ต้องรีบฉวยเอาไว้ก่อน”
ซูเถาปฏิเสธข้อเสนอของทั้งคู่
“ผู้อาวุโสเหม่ยยังขาดนักเรียน ไว้อีกสองสามวันฉันจะถามเธออีกที ให้เธอเป็นคนเลือก”
ตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีความคิดเห็น
แต่จวงหว่านคิดมากกว่านั้น เธอเดินตามซูเถาไปและบ่นว่า
“เถ้าแก่ ฉันตามหาคนมาเดือนสองเดือนแล้ว แต่ยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลย ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในที่สุดฉันก็ตกหลุมรักคน ๆ หนึ่ง ถึงเวลาคุณต้องคว้าตัวน้องเมิ่งเชียนไว้นะ ฝ่ายบริหารมีห้องทำงานส่วนตัว มีคนคอยสอนงาน เนื้อหางานไม่เป็นอันตราย ทันทีที่มา ก็จะเป็นผู้จัดการ…”
ซูเถา “ผู้อาวุโสเหม่ยก็มีห้องทำงานแยกต่างหากให้นั่งด้วย เขาเป็นอดีตอาจารย์ เขาสอนนักเรียนแบบตัวต่อตัว พูดได้ว่าเขาเป็นผู้วางแผนหลักของเถาหยาง”
จวงหว่านสำลัก
ซูเถาตบมือเธอ “ถึงเวลาก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วค่ะ ให้เธอได้เป็นคนเลือก”
ในอีกสองวันต่อมา ซูเถาศึกษาการเปลี่ยนแปลงของตัวเองในขณะที่สร้างและขยายอาคารเถาฮวา
สิ่งที่สือจื่อจิ้นบอกเธอคือสัญญาณของการปลุกพลัง แปลว่าเธอมีโอกาสที่จะปลุกพลังขึ้นมาได้จริง ๆ
แต่สิ่งที่แน่นอนในปัจจุบันคือความสามารถของเธอน่าจะเป็นพลังทางจิต แต่ความสามารถเฉพาะนั้นยังไม่ถูกค้นพบ
ซูเถาคิดไม่ตก
เธอมีความสุขในใจ ในที่สุดความสามารถเหนือธรรมชาติที่เธอโลภมานานก็ปรากฏขึ้น ทั้งยังช่วยดูแลเธอ และพลังนี้ก็ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่แปลก
เธอพอใจมาก!
สำหรับการก่อสร้างอาคารเถาฮวา สองวันก็เพียงพอแล้วสำหรับเธอที่จะปรับปรุงไปถึงชั้นสอง แต่เฮยจือหม่าแอบหนีไปอีกมันไปยังบ้านของครอบครัวหนึ่งในตงหยาง ทำให้เธอและเจียงอวี่ค้นหามันเป็นเวลานาน
สองครั้งติดต่อกันแล้ว ซูเถาตระหนักว่าเฮยจือหม่ากำลังได้รับผลกระทบจากความสามารถของมัน แม้ว่ามันจะถูกสยงไท่ลักพาตัวไปครั้งล่าสุด แต่มันก็ไม่ได้อยู่กับความทรงจำนั้นเป็นเวลานาน และเหมือนว่าแผลภายในจิตใจและบนร่างกายของมันจะหายเป็นปกติ”
ความโหยหาอิสรภาพและการสำรวจสิ่งที่ไม่รู้จักนั้นตราตรึงอยู่ในกระดูกของมัน
ซูเถาเปิดอาหารกระป๋องให้ไป๋จือหม่ากิน และแสดงให้พี่ชายของมันดูโดยหวังว่าลูกเนรคุณจะเปลี่ยนใจ
แต่ดูไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่
แต่มันทำให้ไป๋จือมาคาดหวังว่าพี่ชายของมันจะหนีออกจากบ้านทุกวัน
เจียงอวี่ถาม “ทำไมคุณไม่ขังมันไว้ในกรงล่ะ”
ซูเถาพูดด้วยความปวดหัว “ฉันเคยขังไว้ มันร้องเหมือนแมวถูกเชือด ทั้งยังดึงกรงอย่างแรงแล้วใช้เล็บข่วน ฉันเลยบาดเจ็บแบบนี้ เมื่อฉันปล่อยมันออกมามันก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกเลย”
เจียงอวี่หยุดพูด
ซูเถากังวลมากจนนอนไม่หลับ เธอต่อสู้กับตัวเธอเองในใจ
เธอต้องพบกับคนจากฐานเหอคังเพื่อแลกกับผลึกนิวเคลียสในมือ
ก่อนการประชุม จู่ ๆ เมิ่งเชียนก็มาหาเธอและส่งรายการเอกสารให้เธอ
“เถ้าแก่ซู นี่คือสิ่งที่พ่อของฉันขอให้ฉันมอบให้คุณ มันคือรายชื่อผู้จัดการและผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติทั้งหมดภายใต้การดูแลของถานหย่ง และแผนผังของสถานีเก่า”
ซูเถาผงะและเริ่มตรวจสอบอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าเธอเห็นว่าแต่ละชื่อมีคำแนะนำโดยละเอียด ตำแหน่งผู้จัดการคืออะไร มีสิทธิ์อะไร ความสามารถหรือพลังวิเศษคืออะไร และแม้แต่จุดอ่อนของพวกเขา ชัดเจนทุกตัวอักษร
เธอยังเห็นรายละเอียดส่วนตัวเกี่ยวกับถานหย่ง
ถ่านหย่งอายุ 38 ปี มีพลังที่เรียกว่า ‘ฉนวน’ ซึ่งสามารถต้านทานการบุกรุกและการโจมตีของพลังทางจิตได้ทั้งหมดได้
จุดอ่อนของความสามารถ ยังไม่มี จุดอ่อนหรือข้อด้อยของเขาก็น่าจะเป็นเรื่องผู้หญิงนี่แหละ
จู่ๆเสียงของระบบดังขึ้นในหัวของเธอ
[ตรวจพบว่าโฮสต์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเป้าหมายโดยละเอียด และภารกิจลับก็เริ่มต้นขึ้น : สังหารถานหย่งและนำผลึกนิวเคลียสของเขาออกมา]
[ปลดล็อกพื้นที่ใหม่หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น และอัปเกรดร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันและสิ่งก่อสร้าง]