ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 187 กับดัก
ตอนที่ 187 กับดัก
“คุณกลับไปเถอะ เดี๋ยวฉันเข้าไปเอง”
เหลียนซาหยิบกระเป๋าเดินทางของเธอและกดกริ่งที่ประตูเถาหยาง ระหว่างรอ ก็เงยหน้ามองไปที่กำแพงและรั้วลวดหนามสูงรอบตัวเธอ และรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเธอเคยเห็นรูปภาพของภูเขาผานหลิวบนโต๊ะทำงานของถานหย่ง นอกจากนี้ยังเป็นตารางกำแพงสูงแบบนี้ซึ่งดูแข็งแกร่งและผ่านเข้าไม่ได้
เถาหยางกับผานหลิวมีความเกี่ยวข้องกันเหรอ?
ความสงสัยเกิดขึ้นในใจของเหลียนซา เมื่อประตูเปิดออก ก็พบชายหญิงคู่หนึ่งก็มายืนต้อนรับเธอ
ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าให้เธอและพูดอย่างสุภาพ
“คุณเหลียนใช่ไหมคะ ฉันชื่อจวงหว่าน ฉันเป็นคนโทรหาคุณเมื่อวานนี้เพื่อแจ้งให้คุณเข้าเช็คอิน เชิญเข้ามาด้านในค่ะ”
เหลียนซาพยักหน้า คิดว่าเหลียงเช่อตัวอ้วนข้าง ๆ เขาเป็นน้องชายของเธอ ดังนั้นจึงมอบกระเป๋าเดินทางให้เขาอย่างสบาย ๆ และเดินเข้าไปเสมือนเป็นคุณนาย เธอสวมรองเท้าหัวแหลมส้นเตี้ยขนาดเล็ก
สีหน้าของจวงหว่านแสดงความไม่พอใจเล็กน้อย เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เหลียงเช่อยิ้มและส่ายหัวให้เธอ แสดงออกว่าไม่เป็นไร
จวงหว่านอดทน มองแผ่นหลังอันสง่างามของเหลียนซา เธอไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เลยจริง ๆ
เหลียนซาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่เธอเดินก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ยิ่งเธอมองก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น
“พวกคุณมีน้ำพุขนาดเล็กที่นี่ด้วยเหรอ”
มิน่าล่ะ ทันทีที่เธอเข้ามาเธอก็รู้สึกว่าอุณหภูมิลดลงหลายองศาทันที
จวงหว่านถามด้วยรอยยิ้มครึ่ง ๆ “สถานที่ที่คุณเคยอาศัยอยู่ไม่มีแบบนี้เหรอคะ”
พื้นที่เล็ก ๆ ของเรายังมีน้ำพุ เธอเคยอยู่ในสถานที่ใหญ่โตไม่มีน้ำพุหรือไง?
เหลียนซาสะอึกเมื่อได้ยินเธอถามแบบนั้น
จวงหว่านกล่าวต่อ
“การก่อสร้างจะดีหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของที่ดิน น้ำพุที่นี่ไม่มีอะไรเลย โรงพยาบาล ร้านอาหาร อาคารสำนักงาน และสวนผลไม้ล้วนเป็นอาคารธรรมดา ผู้คนก่อนวันสิ้นโลกสามารถใช้และกินดื่มได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เถาหยาง”
แม้แต่ใบหน้าของเหลียนซาก็เปลี่ยนไป เธอรู้สึกว่าจวงหว่านพูดเกินจริงเพื่อเสียดสีความไม่รู้ของเธอ
“นี่คือวิธีที่เถาหยางปฏิบัติต่อลูกค้าของคุณใช่ไหม โชคดีที่หลินฟางจือบอกฉันว่าเถาหยางของคุณดีแค่ไหน ฉันก็เลยรับรู้มาก่อนหน้านี้แล้ว”
จวงหว่านตำหนิเธออย่างเลือดเย็นในใจ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“คุณเหลียนเข้าใจผิด ตรงนี้อากาศร้อนมาก พวกเราขึ้นไปข้างบนกันก่อนเถอะ”
เมื่อมาถึงที่ชั้นล่าง เหลียนซาเห็นป้าแก่ ๆ สองคนสวมผ้ากันเปื้อน มือข้างหนึ่งถือเครื่องดูดฝุ่นและอีกข้างหนึ่งถือขวดเครื่องดื่มเย็น ๆ หนึ่งขวด พวกเธอดื่มขณะเดิน พูดคุย และหัวเราะกัน จากนั้นก็เข้าไปในห้องเล็ก ๆ ข้างอาคารสำนักงาน
โดยหน้าห้องนั้นมีป้ายติดอยู่ว่า ‘ห้องพักแม่บ้าน’
เหลียนซามึนงงเล็กน้อย
แม่บ้านทำความสะอาดสองคนไม่เพียงมีเครื่องดูดฝุ่น แต่ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ได้ด้วย? ที่สถานีเก่า แม้แต่พี่คนดูแลประจำของถานหย่งในวิลล่าที่สร้างขึ้น ก็ไม่สามารถดื่มน้ำสะอาดได้ทุกวัน นับประสาอะไรกับเครื่องดื่มบรรจุขวดที่แช่เย็นทำเหมือนกับว่าหาดื่มได้บ่อย ๆ อย่างนั้นแหละ
นอกจากนี้เถาหยาง ยังจัดห้องพักผ่อนพิเศษสำหรับคนหล่านี้ที่ควรจะถูกกำจัดในวันสิ้นโลก?
เธอมองผ่านหน้าต่างบานเลื่อนบานเล็กและพบว่าภายในนั้นค่อนข้างดี มีทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ และแม้กระทั่งห้องเล็ก ๆ ด้านใน ซึ่งมองเห็นโซฟาและตู้กดน้ำได้ลาง ๆ!
ทันใดนั้น เหลียนซาก็ตระหนักถึงความไม่เต็มใจ และความอิจฉาชวีจิ้งอวิ๋น เมื่อเธอเห็นภาพภูเขาผานหลิว
ความสะอาด อาหาร และที่อยู่อาศัยดีกว่าเธอ…
เหลียนซากลั้นหายใจและเข้าไปในอาคารเถาหลี่
คิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่ประตูเปิดออก เครื่องปรับอากาศที่พัดมาทางใบหน้าของเธอทำให้เธอตกตะลึง ณ จุดนั้น เธอลืมไปว่ากำลังโกรธอยู่และมองไปรอบ ๆ ด้วยจิตใต้สำนึก เพื่อมองหาอะไรบางอย่าง เช่นเครื่องปรับอากาศ
รอยยิ้มของจวงหว่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “เครื่องปรับอากาศฝังเพดาน คุณต้องเงยหน้าขึ้นมอง”
เหลียนซารู้สึกว่าตัวเองเสียหน้า และสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
จวงหว่านพาเธอไปนั่งอย่างเงียบ ๆ ในบริเวณด้านขวาของแผนกต้อนรับ โซฟาสีฟ้าน้ำทะเล โต๊ะกาแฟกระจกสุดอาร์ต และกระดาษเช็ดมือที่ตั้งไว้บนโต๊ะ ราวกับว่าพวกเขาไม่สนใจว่าใครจะใช้เท่าไหร่
หลังจากฟังคำแนะนำของจวงหว่านในการเข้าพักและลงนามในสัญญาเช่าแล้ว เหลียนซาก็ไม่อยากลุกจากโซฟานุ่ม ๆ
นอกเหนือจากท่าทางที่ไม่สุภาพของจวงหว่านที่มีต่อเธอแล้ว สภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกในเถาหยางนั้นดีมาก
ไม่แปลกใจเลยที่สือจื่อจิ้นมาอาศัยอยู่ที่นี่
ในเวลานี้ชายชราผมขาวบนรถเข็นถูกเข็นออกมาจากลิฟต์ ยามเคลื่อนผ่านประตูหมุน เมื่อเห็นจวงหว่าน เขาก็ตะโกนขึ้น “หวานหว่าน เรื่องนักเรียนของฉันเป็นยังไงบ้าง มีคนที่เหมาะสมหรือยัง”
จวงหว่านที่กำลังพยายามตกปลาในน่านน้ำที่มีปัญหาตอบว่า
“ยังค่ะ ถ้ามีคนที่เหมาะสมจะแจ้งให้ทราบนะคะ ตอนนี้ฉันติดผู้เช่าใหม่ ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
ผู้อาวุโสเหม่ยไม่อยากจะปล่อยเธอไป แต่ก็พูดออกมาพร้อมถอนหายใจ
“ฉันแก่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เงื่อนไขก็ไม่เลว 10,000 เหลียนปังต่อเดือน รวมค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าสวัสดิการต่าง ๆ มัน เกือบ 30,000 เหลียนปัง เป็นไปได้ไหมว่าฉันไม่ได้ออกไปไหนนานและตอนนี้โลกก็ดีขึ้นและเปลี่ยนไปแล้ว เงื่อนไขนี้ไม่สามารถแข่งขันได้อีกต่อไป”
ดวงตาของเหลียนซาเบิกกว้างเมื่อเธอได้ยินคำพวกนี้
อาหารที่พัก แล้วยังให้เงินอีก? งานอะไร?
เถาหยางทำงานการกุศลเหรอ?
ทำไมถึงเหมือนกับที่ภูเขาผานหลิว?
ตอนที่เธออยู่ที่สถานีเก่า เธอช่วยถานหย่งไว้มาก และแต่ละเดือนเขาให้เงินค่าขนมเธอ 20,000 เหลียนปังเท่านั้น
ส่วนอื่น ๆ เธอก็ต้องใช้เวทใช้พลังในการร้องเพลงสะกด
การเปรียบเทียบแบบนี้ทำให้หายใจไม่ออกเมื่อนึกถึงมัน…
จวงหว่านกลัวมากที่สุดที่จะได้ยินสิ่งที่ผู้อาวุโสเหม่ยพูด ดังนั้นเธอจึงร้องขอด้วยความเมตตาทันที
“ไม่ ไม่ มันแค่ยังไม่มีคนที่เหมาะสม ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาคนที่ห่วงใยและฉลาดให้คุณโดยเร็ว!”
สิ่งที่ผู้อาวุโสเหม่ยต้องการเสมอคือคำพูดนี้ของเธอ เขาพยักหน้าและพูดว่า
“ขอบคุณที่ทำงานหนักนะ ตอนที่เธอรับสมัคร เธอต้องทำให้ผู้คนเห็นอย่างชัดเจนว่าไม่เพียงแต่จะมีห้องให้อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีห้องทำงานส่วนตัวอีกด้วย แล้วฉันก็จะสอนแบบตัวต่อตัว ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์อะไร ใคร ๆ ก็ทำได้”
เหลียนซาอดไม่ได้ที่จะถามเธอว่าเหมาะสมหรือไม่
……
หลังจากผ่านกระบวนการลงทะเบียบเข้าพักเสร็จสิ้น เหลียนซาได้เป็นห้องเช่าแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นเป็นประตูแบบใส่รหัส เมื่อใส่รหัสถูกต้องก็สามารถเปิดเข้าไปได้เลย
ขณะที่เธอเอากระเป๋าเดินทางเข้าไป เธอก็พึมพำว่ามันยังเป็นประตูรหัสผ่าน ซึ่งเป็นประตูระดับสูง เมื่อเห็นการตกแต่งที่สวยงามและใหม่เอี่ยมในห้อง เหลียนซาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป และพูดกับตัวเองอย่างขมขื่น
“เมื่อก่อนฉันมัวแต่ทำบ้าอะไรอยู่! ฉันควรจะมาอยู่นี่ตั้งนานแล้ว!”
มันแปลกจริง ๆ ตงหยางเป็นฐานที่กำลังพัฒนา แต่มีสวรรค์ซ่อนอยู่จริง ๆ
เธออยู่ทางใต้มากว่าครึ่งปีแล้ว และไม่เคยได้ยินว่ามีสถานที่ดี ๆ เช่นนี้มาก่อน ถ้าเธอรู้ก่อนหน้านี้ ก็คงรีบมาที่นี่ตั้งแต่ในคืนนั้นและรีบจัดการกับเถ้าแก่นั้น และถึงเวลานั้นเธอก็จะเป็นคนควบคุมทุกอย่าง!
แล้วตกลงใครเป็นเถ้าแก่ที่นี่?
เธอพบว่าเธอไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเถาหยางเลย ซึ่งไม่ค่อยดีนัก เหลียนซาลุกขึ้นจากโซฟาและพบข้อมูลการติดต่อที่หลินฟางจือและเมิ่งเสี่ยวป๋อทิ้งไว้ให้เธอ
เธอต้องเรียกทั้งสองคนเข้าไปในห้องเพื่อซักถาม แต่ทว่าเธอโทรหาทั้งสองไม่ติด ทันใดนั้นก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดี เธอต้องการที่จะลงไปชั้นล่างเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสองคนนี้ แต่คิดไม่ถึงว่าประตูรหัสผ่านขั้นสูงและสะดวกสบายนี้ไม่สามารถเปิดได้!