ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก - ตอนที่ 19 อัปเกรด 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น
ตอนที่ 19 อัปเกรด 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น
ตอนที่ 19 อัปเกรด 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น
จวงหู่อุทิศตนให้กับมนุษยชาติ เขาเข้าร่วมกองทัพตั้งแต่อายุ 18 ปีและตอนนี้เขามีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น ยังไม่ได้แต่งงานและยังไม่มีลูก
แม้แต่ญาติที่มาร่วมงานศพก็มีแต่พี่สาวที่เป็นหญิงม่ายกับหลานสาวสองคน
จวงหว่านพี่สาวของจวงหู่เกือบจะเป็นลมจากการร้องไห้อย่างหนัก เธอคอยดึงสือจื่อจิ้นราวกับว่าจับฟางช่วยชีวิตเพื่อพยุงตัวเอง เธอถามซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าจะทำอย่างไรกับลูกทั้งสองของเธอเมื่อจวงหู่จากไป
จวงหู่ไม่มีครอบครัว ดังนั้นเงินทั้งหมดที่เขาแลกมาด้วยชีวิตถูกมอบให้กับจวงหว่าน เขาดูแลพี่สาวและหลานสองคนของเขาอย่างดี
เฉินเทียนเจียวและคนอื่น ๆ รีบไปประคองเธอและคอยปลอบโยนอีกฝ่าย
“ฐานทัพจะมอบเงินช่วยเหลือและแสดงความเสียใจให้พี่ทุกเดือน ซึ่งจะเป็นหลักประกันในชีวิตของพี่อย่างแน่นอน พี่วางใจได้ว่าฐานทัพไม่เคยทอดทิ้งทหารที่เสียชีวิตแล้วนับประสาอะไรกับคนในครอบครัวของพวกเขา”
ไม่รู้ว่าจวงหว่านได้ฟังหรือไม่ แต่เธอยังคงร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก
เมื่อซูเถามองดูก็รู้สึกว่าเธอร้องไห้คร่ำครวญเพราะกลัวว่าจะสูญเสียการสนับสนุนมากกว่าคร่ำครวญถึงการจากไปของน้องชาย
ซูเถาถอนหายใจ ไม่รู้ว่าควรจะเกลียดหรือว่าสงสารคนแบบนี้ดี
ระหว่างทางกลับเถาหยาง ซูเถาจึงเอ่ยถามบางอย่างกับสือจื่อจิ้น
“เมื่อก่อนจวงหว่านอาศัยอยู่ที่ไหนเหรอ ทำไมจู่ ๆ เธอถึงไม่อยู่ที่นั่นต่อแล้ว และมองหาที่อยู่อาศัยใหม่”
สือจื่อจิ้นกล่าวว่า “เคยอาศัยอยู่ในบ้านเช่าราคาถูกที่สร้างโดยรัฐบาล จริง ๆ แล้วมันก็ค่อนข้างดีนะ แต่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้อยู่อาศัยคนอื่น เธอไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่จึงอยากเปลี่ยน เธอเห็นว่าหู่จืออาศัยอยู่ในเถาหยางและมีสภาพแวดล้อมที่ดีก็เลยมาเอ่ยปากกับพวกเรา”
ซูเถาเข้าใจเป็นอย่างดี
พี่จวงหู่จากไปแล้ว พี่สาวคนเดียวของเขาก็ต้องการย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ แล้วพวกสือจื่อจิ้นจะไม่ให้ความช่วยเหลือได้อย่างไร จะอยู่น่ะก็อยู่ได้นะ แค่จ่ายค่าเช่าและไม่สร้างความเดือดร้อนก็เป็นพอ
ซูเถาคิดไม่ถึงว่าจวงหว่านที่ร้องไห้ฟูมฟายแทบเสียสติในตอนสาย ในตอนบ่ายของวันเดียวกัน เธอก็เก็บของแล้วมาหาตนเองที่เถาหยาง
แม้ว่าจวงหว่านจะมีลูกแล้ว แต่เธอก็มีรูปร่างหน้าตาดี มีเสน่ห์แบบหญิงสาว พูดจาเสียงอ่อนหวาน เวลาร้องไห้ก็ดูบอบบางและน่าสงสาร
เธอไม่ได้พาเด็กทั้งสองมาที่นี่ เมื่อมาถึงเธอก็จับมือซูเถาและพูดทันทีว่า
“เถ้าแก่ซู ฉันได้ยินจากน้องชายของฉันว่าคุณทั้งใจดีและมีความสามารถ คุณสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับทุกคน ฉันขอบคุณแทนน้องชายของฉันด้วย”
ซูเถาโบกมือ “ไม่หรอกค่ะ ไม่หรอก พลตรีสือเล่าเรื่องของพี่ให้ฉันฟังแล้วค่ะ ถ้ามีห้องว่างฉันจะแจ้งไปอีกที แต่ว่าตอนนี้ยังไม่มีห้องที่เหมาะสมกับพวกคุณเลยค่ะ”
จวงหว่านได้รับคำตอบยืนยันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วเช็ดน้ำตา “เถ้าแก่ซูอย่าหาว่าฉันบุ่มบ่ามนะ แต่เพราะฉันได้ยินคนพูดว่าห้องที่นี่จองยากมาก อีกอย่างฉันกับลูกก็ไม่มีคนให้พึ่งพา ถ้าฉันต้องไปอยู่ข้างนอกฉันก็จะมีแต่ความกังวล หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ”
“เข้าใจค่ะ ในเมื่อสัญญาไว้แล้วก็จะไม่คืนคำ ฉันยังมีสิ่งที่ต้องไปทำ เดี๋ยวฉันคงต้องขอตัวก่อน พี่ลองทำความคุ้นเคยกับที่นี่ดูก่อนได้ค่ะ”
หลังจากพูดจบซูเถาก็เดินออกไปทันที เนื่องจากยังมีกลุ่มผู้เช่าใหม่รอรายงานตัวอยู่
กลุ่มนี้มีทั้งหมดหกคน ซูเถาแจกจ่ายสัญญาเช่าและแจ้งกฎการเข้าพัก จากนั้นพาทุกคนไปเยี่ยมชมรอบ ๆ และคอยตอบคำถามเหมือนไกด์นำเที่ยว ในขณะที่พูดซูเถาคิดกับตัวเองว่า ตัวเองเหนื่อยเกินไปแล้ว อยากที่จะจ้างผู้ช่วยให้ตัวเองเพื่อรองรับผู้เช่าใหม่ในภายหลัง
ในที่สุดกระบวนการทั้งหมดก็เสร็จสิ้น ซูเถาได้รับค่าเช่าจากผู้เช่ากลุ่มนี้เป็นจำนวนเงินรวม 55,000 เหลียนปัง
เมื่อนับจำนวนที่เหลือแล้ว ทรัพย์สินทั้งหมดมีถึง 103,000 เหลียนปัง!
มีเงินฝากถึง 100,000 เหลียนปังเป็นครั้งแรก
ซูเถาหมุนตัวไปรอบ ๆ ห้องอย่างตื่นเต้น เธอนับเลขศูนย์วนไปมาหลายครั้ง หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอไม่กล้าจินตนาการว่าตัวเองจะสามารถสร้างรายได้ถึง 100,000 เหลียนปังภายในหนึ่งวัน
หลังจากชื่นชมมันสักพัก ซูเถากัดฟันและเลือกที่จะอัปเกรด
ใช้เงินไปทั้งหมดกับการอัปเกรดครั้งนี้ 50,000 เหลียนปัง
[ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ระบบเจ้าของอสังหาฯ ได้รับการอัปเกรดขึ้นอีกหนึ่งระดับเป็นเลเวล 3 ได้รับห้องชุด 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และปลดล็อกที่เก็บของใช้ประจำวันแล้ว โปรดตรวจสอบและยอมรับ]
พื้นใต้เท้าของเธอสั่นไหวเล็กน้อย ซูเถาทำให้เกิดการสั่นเช่นนี้คงไม่ไปกระทบกับผู้เช่าหรอกนะ และเป็นไปดังคาด เธอคิดมากเกินไป กลางดึกแบบนี้ทางเดินนั้นเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีใครสังเกตเห็นถึงการเคลื่อนไหว
ซูเถามาถึงห้องชุดหมายเลข 001 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ทั้งหมด 55 ตารางเมตร เมื่อเข้าประตูไปมีห้องนั่งเล่นขนาดเล็กที่ขนาด 20 ตารางเมตร ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างใหญ่แล้ว
ซูเถาค้นหารูปภาพการออกแบบภายในทางอินเทอร์เน็ตก่อนวันสิ้นโลก เธอเพิ่มไอเดียของเธอเอง วางตู้เก็บของไว้ที่ด้านขวามือของทางเข้าห้องนั่งเล่น ด้านบนแขวนเสื้อผ้า กระเป๋า ส่วนด้านล่างก็วางพวกรองเท้าและของจิปาถะ
ฝั่งตรงข้ามมีโซฟาแบบเรียบง่าย โต๊ะกาแฟและพรมผืนเล็ก ถัดไปทางขวาเป็นครัวแบบเปิดที่มีตู้เย็น เตา อ่างล้างจาน เครื่องดูดควันและอื่น ๆ
หันไปทางซ้ายมือเป็นห้องนอนขนาดประมาณ 15 ตารางเมตร เมื่อพิจารณาว่าจวงหว่านมีลูกถึงสองคน ซูเถาจึงแบ่งห้องนอนออกเป็นสองส่วน
ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่สำหรับเด็กซึ่งมีเตียงสองชั้นสำหรับเด็กสองคน และถัดไปทางขวาเป็นโต๊ะคู่ขนาดเล็กชิดผนัง
ส่วนฝั่งด้านขวาเป็นเตียงเดี่ยวสำหรับผู้ใหญ่ มีตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ วางไว้ที่หัวเตียงเพื่อให้เพียงพอต่อการจัดเก็บเสื้อผ้าสำหรับผู้ใหญ่ มีฉากกั้นเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของเด็กและผู้ปกครอง
ทางด้านขวาของห้องนอนมีระเบียงขนาดใหญ่พร้อมประตูบานเลื่อน มีเครื่องซักผ้าและราวตากผ้าแยกเป็นสัดส่วน
ด้านในสุดเป็นห้องน้ำที่แยกเป็นสัดส่วน มีอ่างอาบน้ำ ฝักบัว และโถสุขภัณฑ์
หลังจากการตกแต่งทั้งหมดเสร็จสิ้น ราคาทั้งหมดคือ 8,500 เหลียนปังซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลเมื่อเทียบกับห้องอื่น ๆ
ซูเถาดูโหมดค่าเช่ารายเดือน เป็นการดีกว่าที่จะจ่ายค่าเช่ารายไตรมาสทุก 3 เดือนหรือเช่ารายปี ราคาถึงจะไม่สูงมาก ยิ่งระยะเวลาเช่านานเท่าใด ส่วนลดก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ถึงเวลาของการตั้งค่าค่าเช่าแล้ว
[ห้องชุดหมายเลข 001 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นเปิดให้เช่าเป็นรายไตรมาส ตามระบบการตกแต่งภายใน ค่าเช่ารายไตรมาสอยู่ที่ 60,000 เหลียนปัง หากคุณต้องการเพิ่มค่าเช่า ขอให้โฮสต์ซื้อของตกแต่งบ้านคุณภาพสูงขึ้น]
ค่าเช่าตกอยู่ที่ 20,000 เหลียนปังต่อเดือน ราคาห้องคู่ก็ตกเดือนละ 15,000 เหลียนปังไปแล้ว ได้ราคานี้ถือว่าคุ้มมาก
ซูเถาเดินไปรอบ ๆ อย่างพอใจจนไม่อยากที่จะเดินออกจากห้อง
นี่เป็นห้องที่น่าพึงพอใจที่สุดเท่าที่เธอเคยตกแต่งมา มันใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของผู้คนก่อนวันสิ้นโลกที่เธอรู้จัก
มีห้องครัวเล็ก ๆ มันไม่เลวเลยจริง ๆ ไว้เธอต้องหาให้ตัวเองสักหนึ่งห้อง แม้ว่าเธอจะทำอาหารไม่เก่ง แต่เธอก็อยากที่จะมีห้องครัวเป็นของตัวเอง
การดูแลที่ระบบมอบให้เธอเป็นพิเศษนั้นไม่เลวเลย เธอไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มหากเธออาศัยอยู่ในห้องด้วยตัวเธอเอง
ซูเถาเพิ่งเพิ่มห้องชุดใหม่ 1 ห้องและห้องนั่งเล่น 1 ห้องโดยอิงจากของเดิม
ด้วยวิธีนี้ทำให้เธอมีห้องนั่งเล่น ห้องนอนสองห้อง ระเบียงสองห้องและห้องน้ำสองห้อง
เธอปรับปรุงห้องนอนห้องหนึ่งให้เป็นห้องครัว โดยเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น เป็นครัวแบบเปิดสำหรับแขก
นอกจากนี้ยังมีทีวีบนผนังห้องนั่งเล่น ดังนั้นในอนาคตเธอจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเปลี่ยนช่องไปได้เรื่อย ๆ คนเดียว
ระเบียงของห้องนอนเดิมไม่ได้ถูกย้าย เธอเปลี่ยนเตียงนอนให้ตัวเองเป็นเตียงใหญ่ขนาด 6 ฟุตและยังสามารถนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างสบาย
นอกจากนี้ยังได้จัดทำระเบียงด้านหนึ่งไว้เป็นห้องทำงาน
แสงจันทร์ส่องผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามายังโต๊ะทำงานของเธอได้ การเอนกายบนเก้าอี้อ่านหนังสือในตอนกลางคืนใต้แสงจันทร์และชื่นชมแสงจันทร์นั้นช่างแสนสบาย